วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เรื่องเซ็กส์ของเด็กร่าน บทที่ 56 กรุงเทพ-เชียงใหม่ ใจเดียวกัน

หลายวันก่อนที่จะถึงช่วงวันหยุดติดต่อกันยาวๆ ผมก็หน้าบานเป็นจานดาวเทียมก็ว่าได้
วันๆ ก็เอาแต่นับวันรอด้วยใจที่อิ่มเอม เพราะอะไรน่ะเหรอครับ
ก็จะไม่ให้ผมดีใจได้ไงอ่ะ ก็ไอ้ตี๋สัญญาว่าจะมาหาผมที่เชียงใหม่อ่ะดิครับ เย้ๆๆ ดีใจโคดๆ อ่ะ

ด้วยอาการดีใจจนออกนอกหน้าจนไอ้อี้ และพวกไอ้นิว ไอ้ท็อป
เพื่อนๆผมน่ะมองผมแปลกๆ และหาว่าผมน่ะบ้า! เอ้อ! บ้าก็บ้ารักแหละว้า! 5555

จะไม่ให้ผมดีใจและมีความสุขได้ไงล่ะครับก็แฟนที่จากกันนานหลายเดือนจะมาหาทั้งทีนี่นะ
ผมเลยมีความเบิกบานใจเป็นที่สุด มันเป็นความรู้สึกที่ดีทำอะไรก็ดีไปหมด
แม้ว่าจะโดนไอ้อี้ปากหมามันแขวะ มันด่า หรือกัดผมแค่ไหน
ผมก็จะยิ้มรับแบบไม่ได้โกรธมันแม้แต่น้อย จนมันนึกว่าผมน่ะผิดปกติไปซะแล้ว 5555

ตลอดเวลาอาการจะประมาณนั่งก็นึก นอนก็คิดถึงแต่หน้าหล่อๆ ของไอ้ตี๋อ้นแฟนผมไป
คิดถึงคิ้วเข้มๆ กับตาตี่ที่สุดแสนจะมีเสน่ห์ คิดถึงจมูกโด่งสวย กับปากได้รูปสีสดแบบคนสุขภาพดี
คิดถึงรอยยิ้มยั่วๆ เวลาที่แก้ลงหรืออำผมเป็นผลสำเร็จและทุกครั้งอ้นจะยิ้มอย่างน่าน่าหยิก

หน้าตาที่ดูเหมือนคนอารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลา ที่ดูเหมือนคนไม่มีเรื่องทุกข์ร้อนอะไร
คิดถึงไรหนวดอ่อนริมฝีปากที่มีอยู่นิดหน่อย แต่ผมน่ะหลงแบบไม่รืมหูรืมตา
คิดถึงบ่าไหล่กว้างๆ อ้อมกอดที่อบอุ่น เสียงที่นุ่มทุ้มแบบผู้ชายๆ
สำเนียงเสียงพูดคุยแบบคนขี้อ้อนออเซาะคำที่จำได้ติดหูก็จะมีคำนี้

“น้าคร้าบๆ”

กับคำที่มักพูดติดปากบ่อยๆเวลาไม่ได้ดั่งใจ

“จำไว้เลยคนเรา”

และทุกครั้งผมก็จะใจอ่อนยวบยอมตามใจหมอเสียทุกทีไป

เฮ้อ! คิดถึงจัง!!!

ครั้งสุดท้ายที่คุยกันผ่านมือถือผมยังการสนทนาของผมกะอ้นได้ดี

“ถ้าอ้นมาถึงเชียงใหม่กะว่าจะพาไปเที่ยวให้ทั่วเมืองเลยรู้ป่าว”

“คร้าบผม! อ้นก็อยากไปเที่ยวกับวินเหมือนกันอยากให้ถึงวันนั้นใจจะขาดอยู่แล้ว
คิดถึงแฟนอ้นอ่ะ ป่านนี้ไม่รู้ว่ายังทำตัวน่ารักดีอยู่รึป่าว”

พอหมอพูดขึ้นมาปุ้บผมก็ถึงกับสะอึกเลยครับ 5555

“ก็ๆ แหม...ก็ต้องทำตัวดีสิ... ก็สำนึกเสมอนี่นาว่ามีแฟนแล้ว ใครจะเหมือนหนุ่ม ม.ดัง ที่ กทม. ล่ะครับ... ได้ยินว่าสาวๆ ติดตรึมเลยนี่”
(ป้าดๆๆ! ฉลาดนะเนี่ย รีบเปลี่ยนเรื่องได้เร็วทันใจจริงๆ5555)

“เอ...คนที่พูดถึงน่ะใช่คนที่หน้าตาหล่อๆ นิสัยดีๆ เรียนเก่งๆ แล้วก้อมีแฟนชื่อวินช่ายป่ะ...
แต่เท่าที่เห็นเขาก็ไม่ได้ทำตัวไม่ดีซะหน่อย ใครมาสนเขาๆ ก็เฉยรู้สยายใจได้ๆ อิอิอิ”

“แหมๆๆๆ ช่างกล้าเนาะคนเรา หน้าไม่อาย!”
ผมหมั่นใส้เสียเต็มประดาช่างหลงตัวเองซะจริงเลยนะพ่อ

“ก้อ... มันจริงอ่ะ...ก้ออ้นมีแฟนคนเดียว และอ้นก้อรักของอ้นมากๆ ด้วยเชื่อป่าว”

“จริงเร้อ! ไม่อยากจะเชื่อเลยอ่ะ ก็ออกจะโด่งดังถึงขนาดมีคนมาชวนไปถ่ายแบบนี่นะ”

“5555 เรื่องนั้นน่ะเหรอไอ้ซันเล่าให้ฟังอ่ะดิ 5555 ตลกแระๆ คนอย่างอ้นอ่ะทำเรื่องพรรณนั้นไม่เป็นร้อก! เป็นได้เบื่อตายเยย”

“ให้มันจริงๆ”

ผมเท้าความเก่าเรื่องที่ไอ้ซันมันเล่าให้ผมฟังอ่ะครับ ว่าตัวมันกับอ้นน่ะโดนแมวมองมาทาบทามให้ไปถ่ายแบบเสื้อผ้าอะไรประมาณนั้น
ตอนที่ไปเดินสยามกันกับเพื่อนๆ ได้ยินว่าคุยกันอยู่นานสองนานเพราะพี่คนนั้นก็ตื้อเก่งมากๆ
แต่ท้ายที่สุดมันกับอ้นก็ปฏิเสธไปอย่างละมุนละม่อมอ่ะครับ เพราะไม่ค่อยชอบงานด้านนี้

ผมค่อยหายใจหายคอโล่งหน่อยเพราะถ้าเกิดแฟนผมโด่งดังขึ้นมาล่ะแย่เลย
ไม่ช้าไอ้ตี๋คงจะทิ้งผมเข้าซักวันด้วยสาเหตุ

“รักแท้แพ้ใกล้ชิด” 5555

“ให้มันจริงเถ๊อะ! ไม่อยากจะเชื่อ”
ผมทำเสียงหมั่นใส้จนได้ยินชัดเจนจนได้ยินไอ้ตี๋หัวเราะอย่างขำๆ  

“จริงดิคร้าบเชื่อใจได้เลย แต่ถ้าวันไหนอยากจะถ่ายแบบขึ้นมาอ้นก็จะขออนุญาตแฟนอ้นก่อนดีป่าว อิอิอิอิ”
“เอ๊ะๆๆ พูดจาอ้อนๆแบบนี้ ยังงัยๆ อยู่นา หรือว่าทำอะไรผิด รีบบอกมาเลยคนเรา”

ผมหาเรื่องเรื่อยเปื่อยอ่ะครับ จริงๆ แล้วก็ไม่ได้คิดมากอย่างที่พูดๆ ไปหรอกครับ
แต่คนเราเวลาที่พูดคุยกับแฟนมันก็ประมาณนี้อ่ะนะ
ประมาณง๊องๆ แง๊งๆ งอนกัน บ้าๆ บอๆ  แหย่กัน มีกัดเล็กๆ อำกันน้อยๆ พอให้หายคิดถึง

“555 บ้าแว้ว! ไม่เชื่อถามไอ้ซันมันดูดิ เจอมันทุกวันอ้นทำอะไร มัยมันจะไม่รู้”
“ให้มันจริงๆ คนเรา อย่าให้จับได้ก็แล้วกั๊น! ไม่งั้น...ตาย!”

ผมลงท้ายด้วยเสียงเหี้ยมๆอ่ะครับ ก็ได้ยินแต่เสียงของไอ้ตี๋หัวเราะกั่กๆ อย่างขำๆ ของไอ้ตี๋อ่ะครับ คงจะคิดว่า
ไรวะแฟนกูไม่เจอกันหลายเดือนดุขึ้นเยอะเลย น่าจะประมาณนั้น

แต่ก็ต้องยอมเชื่ออ่ะครับเมื่อไอ้ตี๋เอ่ยชื่อเพื่อนซี้แสนดีอย่างไอ้ซันขึ้นมา
เพราะไอ้ซันนี่ผมถือว่าเป็นเพื่อนที่น่าเชื่อถือที่สุดก็ว่าได้ เออจะว่าไปก็คิดถึงไอ้ซันมันเหมือนกันแต่จากที่ได้คุยกับอ้นบ่อยๆ
ก็พอรู้เรื่องราวความเป็นไปของมันพอๆกับที่รู้ความเป็นไปของไอ้ตี๋จากปากไอ้ซันนั่นแหละครับ 5555

จะว่าไปมีเพื่อนซี้เรียนที่เดียวกันกับแฟนเรามันก็ดีเหมือนกันเนอะ 5555
หยุดงอนได้พักนึงไอ้ตี๋ก็เกิดจะทำซึ้งขึ้นมาซะเฉยๆ

“คิดถึงวินจังอ่ะ เวลาดูท้องฟ้าแล้วมักจะคิดถึงวินทุกทีเชื่อป่ะ”
(สีฟ้าคือสีโปรดของผมและท้องฟ้าก็เป็นอะไรที่ผมชอบมาก หรือประมาณว่าชอบที่สูงว่างั้น อันนี้อ้นจะรู้ดีทีสุด)

“จริงอ่ะ...เอาอย่างนั้นเลยอ่ะนะ.....(เขินๆๆๆ 5555)”
“จริงดิ ...ฮั่นแน่ๆ  เงียบไปแบบนี้ แสดงว่ากำลังเขินอยู่อ่ะดี๊ 5555”
“บ้าแล้ว!...ใครเขินกัน แค่เบื่อจะคุยเท่านั้นเอง”

ผมทำเป็นขึ้นเสียงดุทำปากแข็งไปเหอะมึง

“แล้วตกลงว่าจะมาแน่ๆ มั๊ยเนี่ย”
พยายามพูดเลี่ยงไปทางอื่นเพื่อแก้ความเขิน

“แน่ดิครับ ก็อ้นคิดถึงแฟนอ้นนี่นา...อยากไปหาใจจะขาด”
แหมพูดแบบนี้เล่นเอาผมเก้อเลยครับ

“พูดบ่อยๆ แบบนี้ไม่อยากจะเชื่อเล้ย!”
“ไมอ่ะ...คิดถึงแฟนตัวเองไม่ได้ไงคร้าบ”
“ ก็...ไม่ได้ว่าไรนิ...”

รู้สึกหน้าร้อนๆปากคอเริ่มสั่นๆ อ่ะครับ มือไม้มันหยิบจับอะไรเรื่อยเปื่อยเหมือนคนบ้าเลยครับ 555
นี่ถ้าหมอเห็นอาการผมในตอนนี้คงจะขำตายเลย

“ถามจริง...ไม่คิดถึงอ้นมั่งเหรอ”
“ก็...ก็คิดถึงแล้วให้ทำไงเล่า”
ผมโอดครวญด้วยความกระดากอ่ะครับ

“ก็บอกว่ารักหน่อยจิ...เพราะอ้นน่ะคิดถึงวินมากนะและอ้นก็อยากจะกอดวินเอาไว้แน่นๆ ให้หายใจไม่ออกเลยดีป่ะ”
“5555 จ้างก็ไม่กลัว...กลัวแต่ไม่กล้านั่นแหละ อิอิอิอิ”

“5555 ก็แน่อยู่แล้ว ใครล่ะจะกล้าทำร้ายแฟนน่ารักๆ ของตัวเองได้ลงคอ แต่ถ้าทำอย่างอื่นก็ไม่แน่ หึๆๆๆ”
ไอ้ตี๋ทำเหมือนหื่นๆอ่ะครับ ฟังดูอ้อล้อแต่ก็น่ารักดีอ่ะครับ

“บ้าแล้ว! ใครจะยอมให้ทำกัน”
ผมทำเป็นลีลาพอให้น่ารักน่าหยิกอ่ะครับ

“นะๆๆๆ ยอมนี้ดนึงนะครับ เนี่ยตั้งหลายเดือนแล้ว ไม่ได้เย็ดตูดแฟนเลยได้แต่ช่วยตัวเองเบื่อจะแย่”
“5555 สมน้ำหน้าเอ...จะว่าไปไม่ต้องมาก็ดีเหมือนกันเนอะ จะได้ไม่เจ็บตัว หุๆๆๆ”

“โด่...จำไว้เลยคนเราอย่าให้เจอแล้วกั๊น!เจอเมื่อไหร่เป็นโดนดีแน่ๆ ฮึ่ม!”
ไอ้ตี๋คำรามด้วยความอาฆาตอ่ะครับแต่ผมกลัวเรอะก็ป่าว

แต่ตรงกันข้ามพอได้ยินแล้วก็ยิ่งของขึ้นอ่ะครับเพราะไม่ได้โดนอ้นเย็ดตูดมานานเต็มทีเหมือนอย่างที่ไอ้ตี๋ว่า
คิดถึงบทจูบที่อ่อนหวานปนเร่าร้อนของไอ้ตี๋ขึ้นมาขนมันก็ลุกแล้วครับก็แฟนผมน่ะน่าเอาจะตาย 5555

ไอ้เรื่องบทเย็ดน่ะยิ่งไม่ต้องพูดถึงแม้ว่าไอ้ตี๋จะไม่ได้เก่งกาจในเรื่องอย่างว่ามากซักเท่าไหร่
เพราะส่วนใหญ่ผมจะเป็นฝ่ายคุมเกมเองเสียมากกว่าแต่นี่ก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างที่ผมลืมแฟนของผมไม่ลง

ตัวผมตอนนี้ได้เย็ดกี่ครั้งก็แทบจะนับครั้งได้ เพราะนอกจากไอ้ดอมแล้วก็ครั้งที่เย็ดกับเพื่อนมันสามคนในคืนนั้นเท่านั้นแหละครับ
แล้วครั้งหลังสุดก็ตอนไปหาไอ้ถึกเข้มแล้วก็แอบลักหลับนั่งเทียนมันนั่นไง ที่ยังพอให้ผมเอามาจินตนาการเวลาชักว่าว 5555

และเซ็กส์ครั้งนั้นก็นานร่วมเดือนแล้วด้วยไอ้ดอมมันก็มีแฟนแล้ว
เลยไม่อยากใช้บริการมันบ่อยๆ เดี๋ยวจะกลายพันธ์ซะป่าวๆ 5555

ส่วนเจ้าแจ็คที่ผมเคยปิดท้ายไว้ครั้งนั้นช่วงเวลาที่ผมจะได้สานสัมพันธ์กับมันต่อก็ยังมาไม่ถึง
เพราะกว่าที่ผมกับมันจะได้มาป้าบๆ กันอีกทีก็เว้นช่วงนานจนถึงปิดเทอมโน่น
ก็เป็นตอนที่ผมไปพักที่บ้านน้าแก้วอีกทีเหตุก็เกิดจากบรรดาเพื่อนๆไอ้ดอมมาหามันที่บ้าน
รวมถึงเจ้าแจ็คด้วยวัวเคยขาม้าเคยขี่ป้าบๆๆๆ แบบนั้น

แล้วมีเหรอว่าผมจะปล่อยให้พลาดจริงมั๊ยครับ นั่นแหละครับผมกับเจ้าแจ็คจึงได้เริ่มสานใยเซ็กส์กันอีกที
และช่วงนั้นก็ถือว่าเป็นช่วงที่ผมขาดผู้ชายได้ยาวนานที่สุดก็ว่าได้
เพราะก่อนหน้าที่จะมาเรียนมหาลัยฯนั้นก็มีอ้น เสก ไอ้ต้อย พี่ชาติ ไอ้หยกมั่ง

หรือไม่ก็พวกไอ้เข้บรรดาเพื่อนๆ ของเสกมั่ง
จึงนับได้ว่าอยู่แถวบ้านน่ะหา(ผู้ชาย)กินง่ายกว่าที่นี่ซะอีกว่างั้น 5555

แต่พอมาอยู่ไกลๆอย่างนี้ก็เกิดจะขัดสนเรื่องผู้ชายขึ้นมาดื้อๆ
จนอดคิดถึงพวกไอ้ซอไอ้ต้า และเพื่อนคนอื่นๆ ของไอ้ดอมไม่ได้
ว่าป่านนี้ไม่รู้ไปอยู่ไหนกันครั้งที่แล้วที่ไปนอนบ้านน้าแก้วก็ไม่เจอ

เพราะดันไปเมายากับพวกเพื่อนทีมฟุตบอลของไอ้ดอมมันซะนี่ เฮ้อ!คิดขึ้นมาแล้วเงี่ยน
โดยเฉพาะไอ้ซอด้วยแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้มันจะตัวโตกว่าเดิมซักแค่ไหน อิอิอิอิ

ฉะนั้นในช่วงเวลานี้ผมจึงเหมือนคนที่ไม่ค่อยมีสติอ่ะครับเพราะไม่ได้เย็ดมานาน 5555
ยิ่งไอ้อี้ด้วยแล้วแทนที่มันจะทำให้ผมหายเครียดแต่มันนั่นแหละที่ยิ่งทำให้ผมต้องเครียดหนักเข้าไปอีก
ก็อย่างที่เคยบ่นๆ ให้ฟังอ่ะครับ ว่าเวลามันอยู่หอน่ะมันทำตัวสบายๆ
จะตายใส่แค่บ็อกเซ่อร์ตัวเดียวเดินแกว่งไปมาทั่วห้อง ควยตุงๆ เป็นดุ้นๆ นี่ครับ
แล้วจะไม่ให้ผมคิดมากได้ไง ใช่ป่าว

“อ้ะๆๆ ยอมก็ได้ อยากได้กี่ทีก็ยอมอ่ะ”
“เย้ๆๆ ดีใจจังเยยคร้าบ ก็แฟนอ้นน่ารักอย่างนี้ไงอ้นถึงได้รักตายเลย”

“ไม่ต้องพูดดีเลย มาให้ถึงเชียงใหม่ก่อนเหอะคนเรา... เออแล้วไอ้ซันล่ะ มันไม่มาด้วยเหรอ”
“ซันมันบอกว่าจะไปทำงานพิเศษน่ะ... อยากเก็บตังค์ซื้อคอมพ์ มันบอกว่าไม่อยากรบกวนทางบ้าน ว่างั้น”

“ไอ้บ้าเอ๊ย! รวยจะตายอยู่แล้วยังงกอยู่ได้ ไม่คิดถึงเพื่อนฝูงมั่งเลย”
ผมบ่นให้ไอ้ตี๋ฟังเจ้าตัวก็หัวเราะกั่กๆ อย่างคนอารมณ์ดีตามนิสัยแฟนผมอ่ะครับ

เพราะไอ้ตี๋มันคนอารมณ์ดีตลอดทั้งวันไม่ค่อยมีเรื่องให้เครียดเท่าไหร่
แม้บ้านมันไม่รวยมากแต่ก็ฐานะดีและมีกิจการเป็นของตัวเอง พ่อก็เป็นตำรวจชั้นรองผู้กำกับ
ก็คงจะมีเรื่องเดียวอ่ะครับที่น่าเครียดสำหรับไอ้ตี๋ คือเรื่องบ้านเล็กบ้านน้อยของพ่อหมอ

อันนี้จริงๆ ก็ไม่อยากจะเอาเรื่องครอบครัวไอ้ตี๋มาขายหรอกนะครับ
แต่ถ้าไม่รู้ข้อมูลก็อาจจะไม่ซึ้งกินใจจริงมั๊ยครับ งั้นเล่าซักนิดละกันนะ

เรื่องก็มีอยู่ว่าพ่อของไอ้ตี๋น่ะหลังจากได้ย้ายไปอยู่ที่ จ.อุบลราชธานี แล้ว ก็มีเมียน้อยครับ
แถมยังมีลูกกับเมียน้อยด้วย อายุห่างจากไอ้ตี๋แค่สี่ห้าปีเอง
กว่าที่ทางบ้านอ้นจะรู้เรื่องก็ล่วงเลยมาเป็นสิบๆ ปี จนไอ้ตี๋เข้าเรียน ม.ต้น อ่ะครับ

อย่างช่วงที่ผมกับอ้นกลับมาคบหากันใหม่ๆ บางทีผมก็รู้สึกได้ว่า
ไอ้ตี๋น่ะดูมีความในใจแม้ปากจะบอกไม่มีอะไรแต่ใจก็ดูไม่ค่อยมีความสุข
ช่วงนั้นไอ้ตี๋เลยหาทางออกโดยไปมาหาสู่กับผมมากกว่าเพื่อนคนอื่นๆ

แต่ไอ้ตี๋มันเป็นคนไม่ชอบพูดเรื่องครอบครัวเท่าไหร่อ่ะครับ
ซึ่งนี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมอดน้อยใจไม่ได้เหมือนกันเลยงอนไปพักนึง
จนอ้นมันคงกลัวว่าผมจะโกรธอ่ะนะถึงได้ยอมปริปากบอกความในใจเรื่องไม่สบายใจให้ผมฟัง

พอฟังทีแรกผมก็อึ้งไปเหมือนกันครับ เพราะจะว่าไปพ่อของไอ้ตี๋กับพ่อของผมก็คบหากันแบบพี่น้องมานาน
โดยเฉพาะในช่วงที่พ่อของอ้นยังเป็นตำรวจอยู่ในตัวจังหวัดก็ไปมาหาสู่กันเป็นประจำ
แต่พอพ่อของอ้นก็ได้ย้ายไปอยู่อุบลฯ

จึงทำให้ครอบครัวเราสองคนไม่ค่อยสนิทสนมกันเหมือนเก่า แต่ก็ยังไปมาหาสู่กันอยู่นะ
แต่ผมก็เคยเห็นพ่อของอ้นในตอนเด็กๆ ยังจำได้ว่าแกเป็นผู้ชายหน้าตาคมสันรูปร่างสูงบึกบึนและดูสมาร์ทมากๆ
แม้แต่ตอนนี้ก็เถอะครับแกก็ยังดูไม่ค่อยแก่เท่าไหร่เลย ทั้งๆ ที่อายุก็สี่สิบกว่าๆ แล้ว

“อยากเจออ่ะอยากไปเที่ยวด้วยกัน”

ผมเริ่มเสียงเครือน้ำตาเหมือนจะใหลเลยครับ เมื่อรู้สึกว่าหัวตามันร้อนๆ ขึ้นมาแบบกะทันหัน
ยิ่งคิดถึงวันวานที่ผ่านมาในวันเวลาที่เราสองคนได้ทำอะไรหลายๆ อย่างร่วมกัน
เริ่มตั้งแต่เข้าเรียน ป.1  จนจบ ป.6 ก็ห่างกันไปร่วมสามปี แล้วก็ค่อยมาเจอกันอีกทีตอนเรียน ม.4

“อ้นก้อคิดถึงวินมากเหมือนกันนะครับ...แค่มีวินอยู่ด้วยอ้นก็มีความสุขมากแล้วรู้ป่าว”
ผมฟังเสียงที่ดูจริงใจของไอ้ตี๋แล้วก็รู้สึกปลื้มใจเป็นที่สุดอ่ะครับ

เกิดมีกำลังใจขึ้นมามากมายก่ายกองเลยครับเหมือนได้กินยาวิเศษยังงัยยังงั้นเลยครับ
ไม่อยากเชื่อจริงๆว่าคนเราแค่ได้คุยกันผ่านโทรศัพท์ก็ทำให้มีความสุข และอิ่มเอิบใจได้มากมายขนาดนี้

และมือถือ NOKIA เครื่องที่ผมใช้อยู่นี่ก็เป็นของไอ้ตี๋ที่ส่งมาให้ใช้
เห็นมือถือเครื่องนี้ทีไรก็อดอมยิ้มไม่ได้เสียทุกทีเพราะคิดถึงหน้าเจ้าของที่ให้

“รออ้นหน่อยนะ อ้นจะไปหาแน่ๆ”
“อื้อ! จะรอครับ”

เกิดจะน่ารักขึ้นมาผมก็ทำได้ดีแบบไม่มีที่ติแฮะ 5555

แต่พอถึงวันจริงๆผมก็ต้องรอเก้ออ่ะครับ เพราะพอวันที่ไอ้ตี๋จะมาจริงๆ ทางบ้านไอ้ตี๋ดันมีปัญหากันซะงั้น
อ้นก็เลยต้องกลับบ้าน ไปแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เหตุเกิดก็เพราะเมียน้อยของพ่ออ้นน่ะดิครับโทรไปราวีแม่ของอ้น
หาว่าแม่ของอ้นน่ะเป็นใจให้พ่อของอ้นมีเมียน้อยอีกคน

ซึ่งจริงๆ แล้วผู้หญิงคนที่ว่านี้ พ่อของอ้นก็แค่เล่นๆ อ่ะครับ ไม่ถึงกับว่าจะยกให้เป็นเมียอะไรหรอก
แต่เมียน้อยพ่ออ้นดันร้อนตัวโทรมาด่าแม่อ้นว่าเป็นต้นเหตุ
แม่ของอ้นก็ทนไม่ไหวเลยขอจะฟ้องหย่ากับพ่ออ้นให้รู้แล้วรู้รอด

แต่พ่อของอ้นไม่ยอมหย่าอ่ะครับเลยมีปัญหาปากเสียงกัน
ใจผมก็ห่วงอ้นมากๆ นะ ห่วงไอ้ตี๋มันกลัวว่ามันจะคิดมาก

เมื่อเกิดเรื่องแย่ๆ อย่างนี้ อย่างน้อยผมน่าจะได้อยู่ใกล้ๆ ไอ้ตี๋ในช่วงที่หมอกำลังมีปัญหา
แต่นี่ผมอยู่ไกลถึงเชียงใหม่ อย่างมากก็คงช่วยได้แค่โทรไปให้กำลังใจหมอเท่านั้น

แม้ว่าอีกใจจะรู้สึกเหมือนคนโดนลอยแพกลางอากาศยังงัยยังงั้นที่อ้นมาหาผมไม่ได้
แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่โทษไอ้ตี๋มันหรอกครับ เพราะขอแค่ให้เรื่องราวต่างๆ จบลงด้วยดี ถึงไอ้ตี๋มาหาผมก็ยอมล่ะ

แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อเกิดอาการ “เซ็งรับประทาน!” แล้วก็หายยากอ่ะครับ
ก็พอดีกับที่ไอ้โดโด้มันชวนพวกผมไปเที่ยวบ้านมันที่ จ.ระนอง ผมค่อยหายเซ็งขึ้นมาหน่อย
ไม่งั้นคงเซ็งตายเลย ก็อุตส่าห์นัดกันไว้เป็นดิบดีว่าจะไปเที่ยวไหนต่อไหนด้วยกันนี่ครับ
แต่ไม่เป็นไรผมหาทางออกที่ดีได้เสมอ โปรดตามมาครับ 555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น