วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เรื่องเซ็กส์ของเด็กร่าน บทที่ 76 เรื่องวุ่นๆ ในหอชาย (1)

พอขึ้นปีสองอะไรๆ ก็เริ่มจะเข้าที่เข้าทาง และมีความคุ้นเคยกันมากขึ้น
ทั้งเรื่องการเรียนที่แม้จะหนักกว่าปี1 แต่ผมก็ไม่ได้เดือดร้อนใจเหมือนตอนอยู่ปี 1
นั่นก็คงเพราะการที่ผมมีเพื่อนเก่งๆและพึ่งพาได้อย่างพวกไอ้นิว ไอ้โด้ ไอ้นาย และไอ้ท็อป
เพราะทั้งกลุ่มมีผมคนเดียวที่หัวไม่ค่อยดี (เอ็นท์ติดเข้ามาได้นี่ก็บุญแล้ว 5555)
ส่วนเรื่องมิตรภาพของเพื่อนๆนี่ไม่ต้องพูดถึงครับเพราะมีเพื่อนเยอะกว่าตอนอยู่ปี 1 ซะอีก
อย่างแต่ก่อนเวลาไปไหนมาไหนก็จะไปกันแต่พวกเรา5 คน
แต่พอขึ้นปี2 กลุ่มเพื่อนๆ ของพวกเราก็เยอะแยะกว่าตอนอยู่ปี 1 หลายเท่า
ก็เป็นเพื่อนของเพื่อนซะมากหรือไม่ก็เป็นเพื่อนร่วมหอ ที่อยู่กันมานานจนเริ่มจะซี้ๆ กัน
อย่างเพื่อนๆของไอ้อี้ ไอ้จอม และไอ้โหน่งนี่ก็มีแต่เป็นผู้ชายแท้ๆ ทั้งนั้น
เพราะไอ้จอมมันไม่ชอบคนที่แสดงออก(แต่ชอบเอาตูด 5555)
ก๊กนี้คนที่ผมชอบๆอยู่ก็หลายคนนะ เพราะอย่างที่บอกมันคบแต่เพื่อนแมนๆ อ่ะ
หลายคนเลยดูเถื่อนๆถ่อยๆ พูดจาก็ตรงๆ ดูแล้วแมนๆ ดี
ซึ่งนั่นแค่มองจากภายนอกแต่ถ้าได้คลุกคลีแบบประชิดตัวแล้ว
จะรู้เลยว่าเพื่อนของไอ้อี้ก๊กนี้เขานิสัยดีกันเกือบทุกคน
ซึ่งผมว่านิสัยดีกว่าพวกที่ดูดีแต่เปลือกนอกบางจำพวกซะอีก
แล้วก็เพื่อนที่เป็นนักบาสของไอ้ท็อปอีกหลายคนแต่ละคนก็ หล่อๆ สูงๆ และล่ำๆ กันทั้งนั้น
ผิวเนี่ยอย่าให้เซ้ดอ่ะ เพราะพวกนักบาสเนี่ยเขาจะผิวสวยกันทุกคนเลยครับ
คงจะเป็นผลจากการที่เล่นกีฬาทุกวันเลยทำให้เหงื่อออกทางผิวเลยทำให้เนียนมั๊ง
จนผมอยากจะเก็บไว้ทำกิ๊กซักคนเหมือนกันนะเนี่ย5555
ส่วนเพื่อนของไอ้นายที่เป็นหนอนหนังสือเหมือนมัน
กรุ๊ปเนี้ยทีแรกเหมือนม้านอกสายตาอย่าได้คิดเชียวนะครับ ว่าเพื่อนๆ หมอหน้าตาจะแย่
เพราะหลายๆคนอาจจะจินตนาการว่า คงจะหน้าจืดๆ ใส่แว่นหนาเตอะ
ทำตัวเชยๆอะไรประมาณนี้ แต่ผิดถนัดครับ!
เพราะมีอยู่หลายคนที่หน้าตาเข้าขั้นหล่อเริ่ดมาดแมนเอามากๆเลยอ่ะ
แถมยังเป็นตัวตั้งตัวตีคอยชักชวนเพื่อนๆทำกิจกรรมต่างๆ อยู่เสมอๆ
อย่างกิจกรรมออกค่ายอาสาพัฒนาอะไรพวกนี้ ก็เพื่อนๆ ของไอ้นายมันล่ะ
ส่วนเพื่อนของไอ้นิวเนี่ยไม่มีหรอกครับเพราะนิสัยมันก็รู้ๆกันอยู่ว่าคบคนยาก
เพราะมันจะติดหนึบอยู่กับพวกผมไปไหนก็ไปกันตลอด
ยิ่งขึ้นปีสองเนี่ยผมกับมันตัวแทบจะติดกันเลยก็ว่าได้ซึ่งในบรรดาเพื่อน 5 คน
ผมกับมันถึงได้ซี้กันมากๆ
ก็คนนึงไม่ค่อยแคร์หรือใส่ใจใครอยู่ในโลกส่วนตัวเกือบสุดโต่งอย่างไอ้นิว
กับผมที่คอยใส่ใจเพื่อนรอบข้างเสมือนเป็นเรื่องของตัวเองอย่างผม เราสองคนเลยซี้กันมาก
มันก็เลยทำให้ผมได้ไปค้างที่บ้านไอ้นิวอยู่บ่อยๆ
บ้านไอ้นิวมันค่อนข้างฐานะดีเพราะพ่อแม่มันมีเกสท์เฮ้าส์สวยๆให้ฝรั่งเช่า
และก็ร้านอาหารพ่อของไอ้นิวเป็นคนไทยเชื้อสายจีน แต่แม่เป็นคนเมืองแท้ๆ
มิน่าบ้านนี้เขาถึงค่อนไปทางผิวขาวเนียน
แต่หน้าตาไอ้นิวเหมือนแม่มากกว่าเลยไม่ได้ตี๋มากมายเหมือนอาตี๋ทั่วไป
คือตาตี่กำลังดีหุ่นสูงโปร่งดี ผิวก็ขาวใส เออ อะไรก็ดูดีไปหมดอ่ะครับ
ยกเว้นนิสัยมันที่ไม่ค่อยจะใส่ใจใคร
พ่อแม่มันก็ใจดีมากๆครับ พอเห็นผมเมื่อไหร่ก็จะหาอะไรมาให้กินทุกที
คงจะเห็นว่าไอ้นี่มันเพื่อนน้อยมั๊ง5555
ไอ้นิวมีพี่น้องสามคนเป็นผู้ชายทั้งบ้าน พี่ชายมันอายุมากกว่ามันสองสามปี
พอเรียนจบก็แต่งงานและไปอยู่บ้านเมียส่วนไอ้นิวเป็นคนกลาง
แล้วก็น้องชายที่กำลังอยู่ม.5 หน้าตาหนุ่มน้อยใสกิ๊ก และหล่อน่ารัก
นิสัยก็เข้ากับคนได้ง่ายกว่าพี่ชายราวหน้ามือเป็นหลังตีนน้องมันชื่อว่า “อาโน”
เจ้าอาโนเนี่ยเป็นนักบาสโรงเรียนหุ่นเลยสูงโย่งและโปร่ง
แต่หน้าตาพี่น้องคู่นี้จะไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไหร่
เพราะเจ้าอาโนจะกระเดียดไปทางตี๋ๆมากกว่าพี่ชายซะเยอะ ตาตี่ๆ แต่ดูอินเทรนด์ดี
และวันไหนที่ผมไปนอนค้างกับไอ้นิวอาโนมันก็จะชอบมาป้วนๆ เปี้ยนๆ
และคลุกคลีกับพวกเราตลอดผมว่าน้องมันก็น่ารักดีครับเห็นแล้วผมก็ปลื้มๆ น้องมันอยู่ไม่น้อย
ก็ออกจะน่ารักหน้าใส หุ่นดี ผิวใส ออกอย่างนี้ไม่คิดก็บ้าแล้วว่าป่ะ 5555
วันนึงที่โรงอาหารไอ้โด้ก็ชวนเพื่อนคนอื่นๆไปดูหนังที่ห้องมัน ซึ่งมันพักอยู่กับไอ้นาย
ก็เป็นหนังบู๊แอ็คชั่นที่มันชอบๆดู  
ซึ่งผมก็ไม่อยากบอกหรอกว่าผมน่ะแอบไปดูมากับเจ้าแจ็คมันตอนเข้าโรงแล้วอิอิอิ
ขืนบอกไปพวกมันก็ด่าผมตายหาว่าไม่ชวนพวกมัน
จำได้ว่าพอดูหนังเสร็จก็ไปป้าบๆกันต่อ ก็น้องมันยิ่งโตก็ยิ่งน่ารัก น่ากินนี่ครับ อิอิอิ
ยิ่งตอนนี้เจ้าแจ็คมันเข้ามาเรียนที่เทคนิคในตัวจังหวัดแล้วและอยู่หอกับเพื่อนเลยจัดให้ได้บ่อยๆ
“เนี่ยมันเพิ่งลงแผ่นกูเพิ่งได้จากไอ้พงษ์เพื่อนกูหนังบู๊ต้องไปดูกันหลายๆ คนโว้ย! มันถึงจะมัน”
ไอ้โด้ว่าซึ่งจริงๆ แล้วมันอยากหาเพื่อนดูมากกว่าผมว่า
“ว่างัยไอ้แมวเซาตกลงไปได้ป่าววะมึง”
ไอ้นิวถามผมเมื่อเห็นผมมีท่าทีเหมือนไม่อยากจะไปซึ่งแสดงออกมาทางสีหน้า
“ติดธุระที่ไหนเหรอมึง”
ไอ้ท็อบเงยหน้าขึ้นมาจากชามก๋วยเตี๋ยวถามย้ำเมื่อผมยิ่งทำหน้าเหมือนไม่แน่ใจ
“เวลาแค่นี้ให้เพื่อนไม่ได้นะมึง”
ไอ้โด้พูดประชดซะผมยิ้มไม่ออกเลยครับ
“ไปได้ๆแหมคิดนานไปหน่อยก็ตราหน้ากูเลยนะพวกมึง”
พอผมจำยอมไปกับพวกมันได้ไอ้สี่ตัวก็หัวเราะออกมาอย่างขำๆอ่ะครับ
และในกลุ่มฉายาที่พวกมันตั้งให้ผมก็คือ“แมวเซา” หรือแมวขี้เซานั่นแหละครับ
เพราะผมจะชอบทำอะไรช้าๆเอื่อยๆ คิดอะไรก็จะคิดนานๆ ฉายานี้จึงได้มาด้วยสาเหตุนี้
หอไอ้โด้กับไอ้นายอยู่ในเวียงก็อยู่ไม่ไกลจากแจ่งหัวรินหอนี้ผมก็มาบ่อย
ก็น่าอยู่ดีตามประสาคนมีฐานะอย่างไอ้โด้ส่วนไอ้ท็อบพักอยู่กับญาติมัน
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็จะมาค้างกับไอ้โด้กับไอ้นายออกบ่อยๆ
ไปถึงเราก็สั่งพิซซ่ามาสองถาดดูหนังกันไปกินพิซซ่ากันไปก็แฮปปี้ดีครับ
ตามประสาผู้ชายๆไม่ต้องคิดไรมาก ไอ้โด้ ไอ้นาย และไอ้ท็อบก็ถอดชุดนักศึกษาออก
เหลือแค่บ็อกเซ่อร์สบายๆคนละตัวโชว์อกแน่นๆ
โดยเฉพาะไอ้ท็อบเนี่ยหน้าท้องเป็นซิกแพ็คเลยครับอย่างน่าชมอ่ะ
ไอ้เจ้านี่มันดูดีครบสูตรอยู่แล้วอ่ะครับ
ทั้งหล่อหุ่นดีผิวพรรณดี เลยมีแมวมองมาเลียบๆ เคียงๆ ให้ไปเป็นเด็กในสังกัดอยู่บ่อยๆ
ส่วนไอ้โด้ถึงจะไม่เป็นซิกแพ็คแต่ก็แน่นและล่ำไปด้วยมัดกล้ามและผิวเข้มๆแบบหนุ่มใต้ของมัน
แต่หุ่นอย่างไอ้นายนี่ดิผมชอบนักล่ะคือมันออกอวบๆ ล่ำๆ เหมือนจะมีพุงนิดๆ แต่ก็ดูดีน่ากอด
ที่สำคัญรสชาติเห็ดโคนของมันเนี่ยก็อร่อยจนผมลืมแทบไม่ลงเลยล่ะ
ซึ่งครั้งหลังๆมานี่ผมก็จะแอบลักหลับมันเป็นช่วงๆ นะ แล้วแต่ว่าช่วงไหนจะมีโอกาส
เพราะไอ้นี่นอนหลับลึกโคดๆ เลยอ่ะ ส่วนไอ้นายกับผมก็แค่ปล่อยชายเสื้อสบายๆ
แล้วนอนเอกเขนกอยู่ข้างเตียงกันสองคนเนื้อตัวผมกับไอ้นิวแนบชิดกันแน่น
นั่งๆดูไปไอ้อี้ก็โทรเข้ามือถือ
“ตอนนี้มึงถึงหอยัง”
“ยังๆตอนนี้กูมาดูหนังที่ห้องเพื่อนกู”
“สาดเดี๋ยวนี้ไปไหนไม่บอกเลยนะมึง เกิดเป็นไรไปกูจะรู้มั๊ยเนี่ยว่ามึงอยู่ไหน”
ดูมันดิครับทำราวกับว่าผมเป็นเด็กน้อยไร้เดียงสางั้นแหละแต่ก็รู้สึกดีนะครับที่มันเป็นห่วงผม
“เชียงใหม่นี่มันบ้านแม่กูนะมึงคำนี้กูน่าจะถามมึงมากกว่ามั๊ยสาด”
พอไอ้อี้มันได้ยินมันก็หัวเราะขำๆมาตามสาย
“555เออๆๆ กูลืมไป ไม่ใช่ไรหรอกกูแค่จะโทรมาบอกว่าวันนี้กูไปกินเลี้ยงกับรุ่นพี่น่ะ
มึงไม่ต้องรอกูนะนอนก่อนเลย”
“โด่แล้วทำเป็นมาว่ากู”
ผมบ่นคืนมั่งแต่หลังๆ มานี่ไอ้นี่มันมักจะตัดบทก่อนที่จะโดนผมสวดยาว
“หยุดๆๆ! พอเลยมึงไม่ต้องบ่นเออๆๆ แค่นี้นะวิน รุ่นพี่เขาเรียกแล้ว แล้วเจอกัน...ตู๊ดๆๆๆ”
นี่แหละไอ้อี้ครับหลังๆ มานี่มันกลับมาเป็นไอ้อี้คนเดิมแบบเต็มๆ ตัวอ่ะ
เพราะกลับมาใช้ชีวิตลัลล้าเต็มที่โดยเฉพาะกับเพื่อนซี้ๆของมัน
ก็ดีครับผมจะได้ไม่ต้องห่วงมันเรื่อง“ทอมแฮ้งค์” และทำอะไรต่ออะไรเท่าที่ผมอยากทำ
ระหว่างที่ดูหนังไปเราก็สวาปามพิซซ่าที่สั่งมาจนหมดไปถาดครึ่งแล้ว
ไอ้ผมน่ะกินได้แค่ชิ้นเดียวก็อิ่มแล้วครับ
ไม่เหมือนคนตัวใหญ่ๆอย่างพวกเพื่อนผมที่กินได้ไม่หยุดปาก
ทีแรกผมก็ไม่ได้คิดไรมากหรอกครับแต่นั่งๆ ดูไป ถึงได้เริ่มรู้สึกตัว
ว่าตอนนี้แขนไอ้นิวมันเหมือนจะมากอดที่คอผมแบบหลวมๆ
ส่วนผมก็นอนเอียงๆไปที่ไหล่มันจนเหมือนกับว่าผมไปซบอยู่ที่ไหล่มันเลยอ่ะครับ อ่ะจึ๋ย!
ผมแอบเหล่มองด้านข้างก็เห็นมันไม่ได้สนใจมาที่ผมซักนิด
เพราะตอนนี้สองตามันจ้องอยู่ที่หนังแบบสนอกสนใจสุดๆ
เหมือนกับที่มันสนใจหนังสือกาตูนเล่มโปรดของมันนั่นแหละ
ดูดีๆถึงได้เห็นว่ามันนั่งกางแขนทั้ง ซ้าย-ขวา วางราบไปตามปลายเตียง
ไม่ได้โอบผมอย่างที่ผมเข้าใจอย่างในตอนแรกเฮ้อ! ตูก็นึกว่ามันคิดอะไรกับตู 5555
ก็ไม่อยากคิดไรไม่ดีกับมันหรอกครับเพราะตอนนี้มันก็เป็นเพื่อนซี้ของผม
ไม่อยากให้ซ้ำรอยไอ้อี้มันอ่ะครับถึงมันจะหล่อน่ารัก น่ากินแค่ไหนก็ตามเหอะ
ผมอยากให้มันเป็นแค่ความรู้สึกดีๆระหว่างเพื่อนมากกว่า
แต่อ่ะนะใจผมจะทนทานความหล่อน่ารักของไอ้นิวไปได้นานแค่ไหนก็คอยดูกันไปครับ
ดูหนังจบเรื่องก็เกือบสองทุ่มไอ้สามตัวก็ชวนผมกับไอ้นิวนอนค้างกับพวกมันเลย
แต่ผมกับไอ้นิวขอกลับดีกว่าพวกมันก็ไม่ว่าอะไร ไอ้นิวก็ไปส่งผมที่หอ
ระหว่างทางไฟตามเสาไฟสว่างไสวสวยงามร้านรวงต่างก็เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว
ซึ่งก็มีทั้งชาวไทยและต่างชาติปนๆกันไป แต่หน้าฝนอย่างนี้ค่อนข้างบางตาเหลือเกิน
จะบูมหน่อยก็ปลายๆปีจนถึงหน้าร้อนโน่นแหละครับ
มองขึ้นไปบนดอยสุเทพแสงไฟจากวัดก็ดูวิบๆ วับๆ จะลับมิลับเหล่
เพราะเหมือนจะใกล้ๆแต่ก็ไม่ได้ใกล้อย่างที่คิด
ระหว่างทางที่ซ้อนมอไซค์ไปกับไอ้นิวนั้นมันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกอ่ะครับ
“อยู่หอนี่ก่อดีแต๊ๆเนาะไค่จะยะอะหยังก่อได้ บ่มีไผว่า”
อยู่ดีๆไอ้นิวก็พูดเปรยๆ ขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
“อยู่หอก่อดีก๊าแต่เลือกได้ก่ออยากอยู่กับอีป้ออีแม่มากกว่า”
“แล้วยะหยังมึงถึงมาเฮียนไก๋ขนาดอย่างเจียงใหม่”
“ก้อนี่บ้านแม่กูอยู่ตี้ไหนก็เหมือนอยู่กับแม่ กูรู้เท่านี้แหละ”
ผมพูดเหมือนคนที่กำลังรำพึงรำพันอ่ะครับ
“เออๆกูก็ลืมไปว่าบ้านแม่ บ้านน้ามึงก็อยู่เจียงใหม่”
เราคุยเรื่อยเปื่อยอ่ะครับหลังๆ มานี่ไม่รู้ทำมัย
เวลาผมอยู่กับไอ้นิวผมถึงได้เกิดความรู้สึกโรแมนติกจัง
หลายๆครั้งที่หาคำตอบก็หาไม่ได้ซักทีว่าเป็นเพราะอะไร
เมื่อหาคำตอบไม่ได้ผมเลยต้องหยุดความคิดไว้เพียงเท่านั้นไม่อยากคิดอะไรอีก
พอมาถึงหอผมก็รีบอาบน้ำอาบท่าจะได้เข้านอนซักทีส่วนไอ้อี้ก็ไม่รู้ว่าจะกลับตอนไหน
ระหว่างที่เดินไปห้องน้ำก็ผ่านรุ่นพี่รุ่นน้องหุ่นดีๆที่น่ากินตั้งหลายคน
เพราะแต่ละคนไปอาบน้ำก็จะสบายๆนุ่งแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวอกล่ำๆ ผิวขาวมั่งเข้มมั่งสลับกันไป
เห็นแล้วอยากจะลากเข้าห้องแล้วจัดการซะทุกคนเลยครับพับผ่าดิ 5555
อาบน้ำเสร็จได้ไม่นานก็มีเสียงคนเคาะประตูพอเปิดประตูก็เป็นไอ้จอมนั่นเอง
มาในสภาพปล่อยชายเสื้อนักศึกษาหัวยุ่งๆ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังน่ามองอ่ะ
“อ้าวไอ้จอมกูนึกว่าไอ้อี้ซะอีก แล้วนี่ไอ้อี้ไม่กลับมาพร้อมมึงเหรอ”
“ยังว่ะไอ้อี้กับไอ้โหน่งมันอยู่กินกับรุ่นพี่ต่อ แต่พอดีกูมีธุระทำนิดหน่อย”
มันพูดยิ้มๆหน้าตามันวันนี้ดูแปลกๆ มีแววยั่วยวนยังงัยก็ไม่รู้
มันเดินเข้ามาในห้องก็นอนหงายลงไปที่เตียงผมกับไอ้อี้แบบคุ้นเคย
ผมก็เช็ดผมไปคุยกับมันไป
“แล้วเนี่ยไปกินกันที่ไหนวะ”
“ก็ร้านหมูกระทะนั่นแหละรุ่นพี่ที่คณะชวนเลยขัดไม่ได้”
“จะดูโทรทัศน์ก็เปิดเองนะโว้ย”
ผมลุกไปหยิบรีโมทแล้วยื่นให้ไอ้จอมหุ่นล่ำหน้าแมน
มันก็รับไว้แต่กลับวางลงข้างๆตัว ไม่ได้เปิดโทรทัศน์อย่างที่ผมตั้งใจ
“ตอนนี้กูอยากทำอย่างอื่นมากกว่าว่ะว่าแต่มึงช่วยกูหน่อยได้ป่าววะ”
มันพูดไปมือก็กำๆลูบๆ ที่เป้ากางเกงนักศึกษาของมัน ผมมองแล้วก็ถึงกับใจสั่นเลยครับ
เพราะเป็นลำเป็นดุ้นๆเลยครับพี่น้อง เพราะขนาดของไอ้นี่ไม่ใช่เล็กๆ นี่ครับ
หลังจากที่โดนมันเย็ดคืนนั้นผมก็จดจำลีลาอันล้ำเลิศกับอาวุธดุ้นใหญ่ของมันไว้ในสมองไม่ลืม
แต่ด้วยความที่โอกาสไม่อำนวยบวกกับปฏิกิริยาของมันที่นิ่งๆ เวลาอยู่กันครบคน
ดูแล้วไม่ได้รู้สึกว่ามันอยากจะเย็ดตูดผมรอบสองซักกะนิด
ผมก็เลยคิดไปว่าคืนนั้นมันก็แค่เมาพอรู้สึกตัวก็เจ๊าๆ กันไปอะไรประมาณนั้น
ที่ไหนได้ใครจะรู้ว่ามันเองก็ยังถวิลหารสลิ้นและร่องตูดผมอยู่เหมือนกัน5555
เมื่อวันนี้มันอยากผมรึจะใจดำไม่สนองความต้องอารมณ์เปลี่ยวของผู้ชายอย่างมัน ว่าป่ะ
เพราะผมเองก็รอโอกาสนี้มานานแล้วเหมือนกันนี่ครับ หุหุหุหุ

วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เรื่องเซ็กส์ของเด็กร่าน บทที่ 75 ก่อนจากแฟนกับวันที่แสนสุข

วันสองวันก่อนเดินทางกลับผมก็พยามใช้เวลาที่เหลือเพียงน้อยนิด
ขลุกอยู่กับไอ้ตี๋อ้นทั้งวันทั้งคืนเลยก็ว่าได้ประมาณว่าไปไหนไปด้วยอะไรประมาณนั้น
และประจวบเหมาะกับที่รถพ่อไอ้ตี๋เสียพ่อของอ้นเลยยืมรถไปใช้
อ้นมันก็ให้ยืมเพราะอยู่บ้านก็ไม่ได้ไปไหนอยู่แล้วจะได้ใช้ก็ต่อเมื่อกลับมาบ้านแล้วเท่านั้น
เพราะตอนเรียนที่กรุงเทพอ้นก็ไม่ได้เอาไปใช้เพราะตอนอยู่ปี1 อะไรๆ ยังไม่เข้าที่เข้าทาง
ทั้งๆที่หมอก็ขับรถยนต์เป็นมาตั้งแต่ อยู่ ม.5 - ม.6 แล้วอ่ะนะ
ผมก็ถามว่าทำมัยไม่เอาไปขับที่กรุงเทพจะได้สะดวก หมอก็บอกว่า
“ไม่เอาอ่ะยังไม่คุ้นทาง ขึ้นปี 2 ค่อยเอาไปใช้ดีกว่า”
หมอเลยเอามอไซค์คันเก่าที่หมอเคยขับสมัยตอนเรียน ม.ปลาย ออกมารับมาส่งผม
เห็นวันนี้ดูแล้วสภาพรถเก่าไปถนัดตาเพราะผ่านไปหลายปี
ไอ้ตี๋อ้นขับมอไซค์มารับผมถึงหน้าบ้านเห็นท่าที่อ้นนั่งอยู่บนมอไซค์คู่ใจแล้ว
ผมก็ถึงกับยิ้มกว้างอย่างดีใจเพราะไม่ได้เห็นอ้นขับมอไซค์มานานแล้ว
เลยอดนึกถึงสมัยที่ตามรับตามส่งผมไม่ได้คิดถึงเมื่อไหร่ก็ยิ้มให้กับตัวเองทุกที
ไอ้ตี๋ยักคิ้วยิกๆแบบกวนๆ ปนเท่ห์ให้ผม
“เป็นงัย...พอไหวป่าวมันอาจจะไม่เท่ห์เท่าไหร่หรอกนะ แต่จริงใจนะครับ”
พูดเสร็จหมอก็ยิ้มเท่ห์ๆไรหนวดอ่อนๆ ที่ผมปลื้มก็ยังเป็นเสน่ห์ที่ผมเห็นแล้ว
อยากดึงหน้าเข้ามาหอมเหลือเกินครับแฟนผมอ่ะ อิอิอิ นับวันก็ยิ่งเท่ห์อ่ะ
“ทำมัยจะไม่ได้วินเองก็ไม่ได้ไฮโซมาจากไหนซักหน่อย ปีสองปีก่อนก็ยังขับมอไซค์ตะลอนไปทั่ว”
“อ้นก็นึกว่าวินอาจจะเบื่อมอไซค์”
“เบื่อได้งัยมอไซค์คันนี้อุตส่าห์ขับไปรับไปส่งวินอยู่ตั้งหลายปีขับก็ดีไม่เคยเกิดอุบัติเหตุด้วย”
ผมพูดด้วยความรู้สึกอย่างนั้นจริงๆไม่ได้คิดเอาใจแฟนหรอกนะ
แต่พอไอ้ตี๋ได้ฟังก็ยิ้มกว้างท่าทางจะดีใจ เพราะถึงหมอจะได้รถเก๋ง
แต่มอไซค์คันนี้หมอก็รักมากพอรู้ว่าผมไม่ลืมมอไซค์คู่ใจของตัวเอง
อ้นเลยดีใจใหญ่ที่ผมเองก็รักมอไซค์ของหมอ

“จริงอ่ะ”
“จริงดิเออว่าแต่วันนี้ไม่ต้องช่วยงานที่ร้านเหรอ”
“ก็อีกไม่กี่วันก็ต้องกลับไปเรียนแล้วอ่ะเลยขอม้ารีแล็กซ์หน่อยอ่ะ ตั้งแต่ปิดเทอมมามีเวลาอยู่กับแฟนแค่นิดเดียวเอง”
คำท้ายๆไอ้ตี๋อ้นกระซิบกับผมแค่สองคน เล่นเอาผมหน้าแดงแจ๋!
“บ้า!”
“555ทำมัยต้องหน้าแดงด้วยอ่ะ”
“พอเลยๆเดี๋ยวก็ไม่ไปด้วยซะเลยคนเรา”
แต่อ่ะนะหมอก็ยังขำๆ อยู่อีกจนผมทำหน้าดุๆ แล้วนั่นแหละ หมอถึงได้เม้มปากแบบเกรงๆ
นี่แหละแฟนผมอ่ะอยู่ด้วยกันเมื่อไหร่ก็จะ ง๊องๆ แง๊งๆ กันตลอด และอารมณ์ดีได้ตลอด
ก็งอนกันไปกระเซ้าเย้าแหย่กันไปก็มีความสุขดีครับ
วันนี้ไอ้ดอมมันรู้ว่าอ้นจะมารับผมไปเที่ยว
มันเลยขับมอไซค์ของผมไปหาไอ้อี้ในเมืองตั้งแต่เช้าๆแล้ว
เพราะไม่อยากเป็นก้างขวางคอมันว่างั้น เออไอ้ญาติคนนี้มันรู้ความดีจริงๆ แฮะ
ผมก็ซ้อนมอไซค์อ้นไปทั่วไปกินส้มตำไก่ย่างร้านแถวๆ หน้าโรงบาลเจ้าเก่าที่เรามากินกันบ่อยๆ
ไปไหว้พระปล่อยปลา ที่วัดกัน ซึ่งวัดนี้บรรยากาศดีมากๆ อยู่ติดแม่น้ำ
มีศาลาริมน้ำที่สร้างอย่างสวยงาม และมีที่ให้อาหารปลาซึ่งจัดให้เป็นเขตอภัยทาน
บอกตามตรงว่าผมโคดชอบเลยอ่ะกับการได้มาซ้อนมอไซค์ไอ้ตี๋อ้นเหมือนตอนเรียน ม.ปลาย
มันรู้สึกดีมากกว่านั่งรถเก๋งโก้ๆอีกนะนั่น นั่นก็เพราะผมกับไอ้ตี๋ได้ใกล้ชิดกันมากกว่านั่งรถเก๋งมั๊ง
นั่งซ้อนมอไซค์แฟนเราน่ะดีจะตาย ได้กอดเอวแฟนเราไปตลอดทาง บางทีก็แอบหอมแก้ม
กระหนุงกระหนิงหยอกเย้ากันไป จะมีอะไรดีไปกว่านี้ผมว่าคงไม่มีอีกแล้วอ่ะผมว่า
แถมตอนนี้ไอ้ตี๋ก็เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วด้วยทั้งรูปร่างที่โตเต็มวัย
แต่ก่อนว่าอ้นเป็นผู้ชายมีกล้ามเนื้อน่ากอดแล้วนะแต่มาดูตอนนี้ดิน่ากอดกว่าเก่าอีกแน่ะอิอิอิ
ทั้งสมาร์ทและเท่ห์สุดๆนั่งซ้อนไปผมก็อมยิ้มด้วยความปลื้มและดีใจไปตลอดทาง
พอไอ้ตี๋เห็นหน้าผมในกระจกหมอก็หันมามองยิ้มๆ
“แอบยิ้มให้เขาอย่างนี้แอบรักเขาอ่ะดี๊”
หนอยๆๆดูคารมแฟนผมดิครับ ฟังแล้วทั้งขำทั้งเขินอ่ะ 5555
“บ้า!”
ผมทุบหลังอ้นดังตุ้บ! หนักๆ ไปทีนึง ไอ้ตี๋ก็ทำหน้าเหมือนจะจุกอ่ะครับ
ผมเห็นอย่างนั้นก็มารู้สึกตัวว่าทุบแรงไปหน่อย ไม่รู้เป็นงัยช่วงนี้ผมซาดิสม์ขึ้นทุกวัน
เลยรีบขอโทษขอโพยไอ้ตี๋ยกใหญ่
“ขอโทษนะมือหนักไปหน่อยอ่ะ ขอโทษนะๆๆ”
ผมรีบลูบหลังอ้นตรงจุดที่ทุบไปเมื่อกี้ด้วยความสำนึกผิด
“ไม่เป็นไรอ้นทนได้ถ้าเป็นวินนะ แรงกว่านี้อ้นก็ยอม”
พอพูดเสร็จไอ้ตี๋อ้นก็หัวเราะขำๆ
ผมเลยนึกขึ้นได้ว่าไอ้ตี๋มันชอบอำผมบ่อยๆอยู่แล้วและโดนผมทุบแค่นี้ผมว่าจิ๊บๆ  
เพราะสมัยก่อนเวลาลงสนามกระแทกกันไปมาแข้งขาแทบเดี้ยงก็ไม่เห็นเคยบ่น
“หนอย! นี่อำกันอีกแล้วใช้มั๊ย”
“5555ก็วินน่าโดนอำนี่นา เห็นหน้าวินตอนตกใจแล้วน่ารักดีอ่ะ”
“บ้าเอ๊ย! คนรึอุตส่าห์เป็นห่วง”
“ไม่เอาไม่พูดคำหยาบไม่ๆๆ”
ไอ้ตี๋ยกนิ้วทำท่าจุ๊ปากพร้อมกับทำหน้ายียวนกวนโอ๊ยอ่ะครับ
ซ้ำยังมีแววขำๆอยู่เต็มหน้าด้วยอ่ะ  ผมล่ะ โกรธๆๆๆ อ่ะ
“จำไว้เลยทีหลังจะไม่เป็นห่วงแล้ว”
ผมงอนจนลงจากรถเดินลิ่วๆ ไปตามทางแบบไม่สนใจหมอ
ไอ้ตี๋อ้นก็ขับตามมาติดๆพร้อมทำหน้าเหมือนสำนึกผิดอ่ะครับ
“ขอโทษนะคร้าบอ้นแค่แกล้งเล่นๆ เอง ขึ้นรถเหอะนะๆๆ”
“ไม่เอา”
ผมยังงอนไม่หาย
“นะครับๆอ่ะให้หอมแก้มทีนึงเป็นการขอโทษละกัน เอาป่าว”
ไอ้ตี๋พูดพร้อมกับชี้ที่แก้มตัวเอง
ผมเห็นมาดกวนๆปนน่ารักของหมอแล้วก็ใจอ่อน หายโกรธทันทีทันใดอ่ะครับ
“บ้า! อ้นอ่ะอะไรก็ไม่รู้”
“5555หายโกรธแล้วอ่ะดิ ไปเหอะอ้นจะพาไปกินไอติม”
“บ้านี่ยังอยู่ในเขตวัดอยู่นะพูดอะไรก็ระวังหน่อยดิ”
อ้นทำหน้างงแล้วก็เหมือนเข้าใจความหมายของผม
“นี่วินคิดอะไรอ่ะอ้นจะพาไปกินไอติมที่ห้างตะหากเล่า 5555”
ผมได้ฟังก็ถึงกับหน้าแตกอ่ะครับเกือบจะแยกเขี้ยวกระโดดเข้างับคอหมอซะแล้วนะ
ถ้าไม่ติดว่ายังอยู่ในเขตวัดซึ่งถูกเรียกว่า “เขตอภัยทาน” ไม่งั้นไอ้ตี๋โดนแน่!
แถมระหว่างทางไอ้ตี๋ก็ทำหน้าทำตาแบบสะใจอ่ะครับที่แกล้งอำผมได้หลายต่อหลายครั้ง
ผมก็หมั่นใส้เลยจับบีบซะหมอร้องโอ้ย! หน้าเขียวเลยครับ 5555 สะใจ!!!ๆๆๆ
“วินใจร้ายอ่ะเกิดอ้นพิการขึ้นมาทำงัยอ่ะ”
“ใครสน!”
ผมยังเจ็บใจที่โดนอำหลายครั้งในเวลาไล่เลี่ยกันเลยทำเป็นไม่สนใจหน้าตาเหมือนจะเจ็บจริงของหมอ
“โด่คนเราอ่ะเจ็บนะเนี่ย”
อ้นทำทีเป็นลูบๆกำๆ ที่เป้าตัวเองไปมา เห็นแล้วก็ทั้งขำทั้งสงสารอ่ะครับ
ก็ผมเล่นกำไปเต็มๆมือนี่นะ แล้วผมก็ใจอ่อนอีกจนได้ อ่ะง้อก็ได้วะ
ถึงจะโดนอำอีกทีก็ช่างเหอะถ้าหมอมีความสุข
“ขอโทษนะ”
ผมหอมแก้มอ้นทีนึงเป็นการขอโทษพร้อมซบหลังแกร่งๆของหมอบวกกับกอดแน่นๆ
ดีนะที่แถวนี้มีแต่ป่ารถก็ผ่านไปมาค่อนข้างน้อย ไอ้ตี๋อ้นเลยยิ้มออกมาได้
“ไม่เป็นไรจริงๆ ก็ไม่เจ็บเท่าไหร่หรอก”
“จริงอ่ะ”
ผมถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อสีหน้าหมอเหมือนจะยังไม่หายเจ็บ
ผมเลยลูบแก้มใสๆของอ้น แล้วหอมซ้ำอีกทีเป็นการเอาใจ
“ขอโทษนะไม่ได้ตั้งใจอ่ะ นะๆๆ”
“โด่...ไม่เป็นไรหรอกตอนนี้หายเจ็บแล้วล่ะ จะใช้งานตอนนี้ก็ยังได้นะจะบอกให้ อิอิอิ”
“บ้าแล้ว”
ผมยิ้มเขินๆถึงแม้ว่าจะอยากก็เหอะนะ แต่เอาไว้จัดการหมอตอนกลางคืนดีกว่า
เอาแบบว่าสองรอบสามรอบให้ตายกันไปข้างนึงเลยก็ยังได้5555 ส่วนกลางวัน ในวันที่อากาศดีๆ อย่างนี้
ไปเที่ยวกันให้สนุกดีกว่าครับอย่างน้อยจะได้คุ้มค่ากับการที่ไม่ได้เจอกันนานๆ
เราก็ไปขับรถกินลมชมวิวเล่นไปจนค่ำและพอกลางคืนผมกับอ้นก็กลับมานอนค้างที่บ้านผม
โดยที่ไอ้ดอมมันยอมหอบหมอนกับผ้าห่มลงมานอนที่ข้างล่างเป็นการเปิดทางให้กับผมเต็มที่
เออแฮะไอ้ญาติคนนี้ไม่เพียงรู้ความซ้ำยังรู้กาละเทศะอีกนะนั่น 5555
ตลอดวันสองวันนี้อ้นเลยขลุกอยู่กับผมตลอดขอบอกว่าผมมีความสุขสุดๆ ไปเลยครับ
พอวันที่เราต้องจากกันเลยเป็นไปอย่างจากอย่างปลื้มใจอ่ะครับ
ที่แฟนเราให้เวลากับเราได้ขนาดนี้
อ้นมาส่งผมขึ้นรถที่ขนส่งเพราะอ้นรู้ว่าผมไม่ชอบการที่เป็นคนส่งอ้น
เพราะผมเคยบอกว่าเศร้าที่เห็นอ้นจากไป
ไอ้ตี๋ก็จำได้เลยขอเป็นคนมาส่งผมเองเลยดีมั๊ยล่ะไอ้ตี๋อ้นแฟนผม 5555
ผมโบกมือลาอ้นน้ำตาซึมๆแต่พยายามหลบๆ อ่ะครับเพราะเดี๋ยวมีใครเห็น
โดยเฉพาะไอ้อี้กับไอ้ถึกเข้มแต่ก็ไม่พ้นสายตาไอ้ดอมไปได้หรอกครับ
เพราะมันนั่งข้างๆผม ส่วนไอ้อี้ก็นั่งกับไอ้ถึกเข้มอยู่เบาะถัดไป
ส่วนไอ้จอมกับโหน่งกลับบ้านพวกมันตั้งแต่หลังสงกรานต์แล้วและป่านนี้คงไปถึงเชียงใหม่ก่อนพวกผมแล้วด้วย
อ้นกับไอ้ซันและเพื่อนคนอื่นๆ ก็โบกมือไหวๆ เป็นการลา
อีกเมื่อไหร่น้อจะได้เจอกันอีกผมคิด
แต่ถึงจะเศร้าก็เศร้าปนสุขอ่ะครับเพราะไอ้ตี๋บอกเองว่า
“เอาไว้วันหยุดอ้นจะขับรถไปหาที่เชียงใหม่นะ”
ฟังแล้วก็ยิ้มออกมาได้อ่ะครับแล้วอย่างนี้ผมควรจะเศร้าทำมัย จริงป่าวครับ

วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เรื่องเซ็กส์ของเด็กร่าน บทที่ 74 ไอ้เบิ้ม หนุ่มบ้านๆ

กว่าจะกลับบ้านได้ตูดผมก็แทบบานแน่ะครับ เพราะดันไปติดอกติดใจดุ้นใหม่ๆ
อย่างของบักมอด และบักไซ เข้าให้ เลยกินซะเต็มปากเต็มตูด กันไปข้างนึงว่างั้น

การไปฝั่งลาวครั้งนี้ถึงจะแค่วันสองวันแต่เมื่อยทั้งปาก
เมื่อยทั้งตูดดีชิบ!แต่พอกลับมามุกดาหารก็ใช่ว่าจะอดอ่ะนะ

เพราะก่อนกลับบ้านผมก็ยังโดนพี่เรย์เย็ดตูดส่งท้ายอีกตั้งหลายดอก
ก็ว่าไม่ได้นี่นะก็พี่แกเพิ่งจะได้เย็ดตูดเป็นครั้งแรก ความฟิต ความกระชับ แบบนี้เลยติดซะ 5555

พอตอนกลับบ้านผมก็แวะไปหาไอ้ต้อยตามที่ได้สัญญากับมันไว้
ทั้งๆที่ใจน่ะอยากรีบแจ้นไปหาไอ้ตี๋อ้นแฟนผมจะตาย
เพราะนี่ก็ใกล้จะเปิดเทอมเข้าไปทุกทีแล้ว
แทนที่จะมีเวลากุ๊กกิ๊กกับแฟนตัวเองแต่ผมดั๊น! มาเล่นเกมส์วิ่งไม้อยู่ได้ตั้งนาน

อาจจะฟังดูเหมือนเป็นคนเลวที่รู้สำนึกนะแต่ก็อย่างนั้นจริงๆ อ่ะครับ
เพราะธุรกิจมันรัดตัวซะเหลือเกินนี่ครับไม่อย่างนั้นก็ไม่ดอดมาไกลถึงฝั่งลาวหรอกครับ
เพราะลำพังอยู่บ้านเฉยๆก็มีของอร่อยๆ กินไม่ได้ขาด 5555

แต่สัญญาต้องเป็นสัญญาเดี๋ยวไอ้ต้อยมันโกรธเอา ผมก็แย่ดิ
เพราะไอ้นี่มันก็ดีกับผมเอามากๆเป็นญาติอีกคนที่ผมพึ่งพาและไว้วางใจได้
เกิดมันงอนผมขึ้นมาผมก็อดดิว่าป่าวครับ แหะๆๆๆ

ไอ้ต้อยมันก็ขับมอไซค์มารอรับผมที่ศาลาทางเข้าหมู่บ้านอยู่ก่อนแล้ว
กำลังคุยอยู่กับผู้ชายหน้าตาคุ้นๆเหมือนจะเคยเห็นที่ไหน

ซึ่งตามธรรมดาของวัยรุ่นต่างจังหวัดอย่างนี้ที่พบปะพูดคุยกันก็หาได้ไม่เยอะหรอก
ร้านเน็ตก็ไม่ค่อยมีผับบาร์ในอำเภอปลายสุดของจังหวัดอย่างนี้ก็ไม่ค่อยมี
ตามศาลาริมถนนเกือบทุกแห่งจึงเป็นที่สะดวกในการพบปะพูดคุยกัน

ผมจึงเดาไม่ออกว่าไอ้ต้อยมันคุยกับเพื่อนคนไหนอีก แต่พอเดินเข้าไปใกล้ๆ ผมก็ดีใจจนเนื้อเต้น
เพราะที่แท้ก็เป็น “นายเบิ้ม” เพื่อนหุ่นน่ากิน หน้าตาเข้าทีของไอ้ต้อยมันน่ะเอง
พอผมเข้าไปในศาลาก็ยิ่งเนื้อเต้นระริกๆ(เพราะอยากแอ้มเพื่อนไอ้ต้อย 5555)

วันนี้เบิ้มมันใส่เสื้อยืดสีดำกับกางเกงบอลดูสบายๆเสื้อสีดำขับผิวที่ค่อนข้างขาวของหมอ
หน้าตาเบิ้มยิ่งมองก็ยิ่งได้ใจน่าเย็ดอ่ะหุๆๆๆ

ก็แม่งหน้าตาเอ็กส์และแมนแบบบ้านๆตาออกจะตี่นิดๆ
คิ้วเข้มจมูกโด่ง ปากหนาได้รูป ผิวพรรณก็ดูสะอาดสะอ้านดี

โดยเฉพาะกล้ามแขนกล้ามขาของหมอเนี่ยอย่างแน่นปั๊ก!อ่ะ
ต้นขาหมออย่างแน่นซ้ำผิวใต้ร่มผ้ายังขาวและนวลๆ น่าลูบโคดๆ อ่ะ
อาๆๆๆ!!! ไอ้วินชักจะเคลิ้มอีกแล้วอ่ะครับพี่น้อง 5555

นี่ถ้าไอ้ต้อยไม่หยอดไว้ก่อนไปมุกดาหารว่าเวลาหมอเมาแล้วเงี่ยน!
จัดการง่ายล่ะก็ผมก็คงไม่จินตนาการและมีความหวังอย่างนี้หรอกครับ

“มาแล้วเหรอมึงไปเที่ยวฝั่งลาวซะคล้ำเลยสาด”

ไอ้ต้อยทักผมก็จริงของมันครับ แต่ออกแดงๆ มากกว่าครับ ทั้งหน้าและแขนขา
ก็เล่นน้ำคลองเล่นน้ำโขงตากแดดทุกวันนี่ครับ ไม่แดงก็แปลกล่ะ

“เออว่าแต่มึงเหอะวันนี้ไม่ไปซ้อมมวยเหรอวะไอ้ต้อย”
“ซ้อมแค่ตอนเช้าว่ะก็กูต้องมารอรับมึงนี่ไง”
“เออๆๆรู้หน้าที่แสนรู้อย่างนี้ดีแล้ว เอ้าขอขาหน้าหน่อย!”
ผมตบหัวมันแปะๆแบบแกล้งแหย่มันเล่นอ่ะครับ

“สาดวิน!นี่มึงหลอกด่ากู!”
“ป้าบ!”
ผมเลยโดนมันตบหัวคืนทีนึงครับผมก็ลูบๆ หัวไปมา แต่ก็ยังอดหน้าเป็นไม่ได้

“ถ้ามึงกวนกูอีกกูจะไม่ช่วยมึง”
มันทำหน้าดุๆใส่ผม แล้วหันไปคุยกับเบิ้มต่อ

“ว่างัยมึงถ้าวันนี้ไม่ได้ไปไหน เดี๋ยวกูเลี้ยงเหล้า”
“เนื่องในโอกาสอะไรวะสาด”
เบิ้มถามไอ้ต้อยด้วยสีหน้างงๆ

“คนอย่างมึงต้องมีโอกาสด้วยเหรอวะ
...ทีตอนเลิกเรียนเพื่อนลากมึงไปไหนขอให้แดกเหล้ามึงก็ไม่เคยขัดนี่หว่า”

“เออมันก็ใช่ 5555”
เบิ้มทำหน้าเก้อๆถึงแม้เขาจะดูแมนๆ แต่เวลาเขินๆ ก็น่าดูไปอีกแบบ

“ซึ่งจริงๆแล้วก็ฉลองที่ญาติกูแต่งงานนั่นแหละ
...เพราะตอนไปงานแต่งกูกับไอ้วินก็ช่วยงานไม่ได้หยุดมือเลยไม่มีเวลาฉลองกัน”
เบิ้มมันก็ผงกหัวหงึกๆอย่างเข้าใจ

“งั้นก็ได้ว่ะแต่เดี๋ยวกูขอไปตามไอ้นวยกับไอ้ดอนก่อนได้มั๊ยวะ จะได้มีเพื่อนกินหลายๆ คน”
พอฟังปุ้บ!ผมก็ถึงกับใจแป้วเลยครับ นี่ถ้ามีเพื่อนเพิ่มมาอีก 2 คน โอกาสจัดการก็ยากอ่ะดิ

เพราะหนุ่มบ้านๆ บางจำพวก ไม่ชอบพวกเกย์ เอามากๆ ก็มี
ไอ้ต้อยก็หันมายิ้มกับผมแววตาเหมือนกับว่าเชื่อมั่นตัวเองนักหนา

“ได้ๆๆถ้าหามันสองตัวเจอมึงก็ตามกูไปที่บ้านแล้วกัน”
“โอเคเลยเพื่อน”

พอเบิ้มตกลงเราสามคนก็ขับมอไซค์เข้าหมู่บ้านที่เป็นถนนลูกรัง
ผ่านป่าและทุ่งนาที่เริ่มจะมีการหว่านดำกันบ้างแล้ว

ตลอดทางไอ้ต้อยกับเบิ้มก็พูดแหย่พูดแซวกันมั่งตามประสาเพื่อนเรียนด้วยกัน
ระหว่างที่ขับมอไซค์ไปเวลาลมพัดทีกางเกงบอลของเบิ้มก็เลิกขึ้นอยู่ทุกที
ผมเลยได้เห็นกระเปาะกลมๆของเบิ้มมันอยู่หลายที ว้าว! ได้ใจไอ้วินอีกล่ะ 5555
พอถึงหมู่บ้านเราก็แยกกันผมกับไอ้ต้อยไปซ้ายส่วนบ้านเบิ้มจะไปอีกทาง

“ไม่นานเพื่อนเดี๋ยวกูตามไป”
“เออ เร็วๆนะโว้ยช้าอดสนุก!”

ไอ้ต้อยพูดเป็นนัยๆอีกล่ะ แต่เบิ้มมันไม่ได้ฟังมั๊งเลยขับออกไป
พอเบิ้มไปผมก็มองตามตามประสาของถูกใจ

“ไม่ต้องมองมากนักก็ได้เดี๋ยวมึงก็ได้เองแหละ”
ไอ้ต้อยแซวผมจนผมเขินเลยเผลอทุบมันที่หลังดังตุ้บ!

“โอ้ย!...กูแซวแค่นี้ถึงกับทำร้ายร่างกายกันเลยเหรอสาด 5555”
“ไม่ต้องพูดมากเลยมึง!”
“เขินๆๆ!!! 5555”

มันยังคงแหย่ผมเล่นอ่ะครับแต่ก็จริงของมันอ่ะครับ
ก็ไม่รู้เหตุผลเหมือนกันทีแต่ก่อนก็ไม่เห็นจะเขินขนาดนี้
แต่ตอนนี้คงเป็นเพราะว่าเป็นผู้ใหญ่กันมากขึ้นความอายเลยมากตามไปด้วย
ไม่เหมือนตอนเป็นวัยรุ่น 16 -17

อีกอย่างผมก็ไม่อยากออกตัวให้มากอ่ะครับเพราะยังงัยมันก็เป็นทั้งญาติ
และคู่ขาที่ยอดเยี่ยมและรู้ใจของผมขืนแสดงท่าทีออกไปมากๆ ก็ไม่ดีจริงป่ะ
เลยทำตัวนิ่งๆเสียมากกว่า แต่คนอย่างไอ้ต้อยมันฉลาดอ่ะครับ
และรู้นิสัยผมดีว่าผมน่ะเป็นคนยังงัย

ผู้ชายหน้าตาประมาณไหนหุ่นยังงัย อะไรประมาณนี้
นี่แหละญาติผมล่ะผมกับมันถึงได้เอากันมันและรู้ใจกันมาถึงปัจจุบันนี่ไงครับ
แต่ตอนนี้ที่ผมเป็นกังวลก็ตรงที่เบิ้มมันจะตามเพื่อนมากินเหล้าด้วยอีกตั้งสอง! นี่ดิ

เฮ้อ! ตูล่ะเซ็ง!
แต่เอาน่า ผมเชื่อใจไอ้ต้อยมันครับว่ามันต้องมีทางของมันแหละน่า
ไม่งั้นหน้าตามันคงไม่ดูมั่นใจเหลือเต็มประดาอย่างนี้แน่นอน

พอเอาข้าวของไปเก็บที่บ้านป้าเสร็จผมก็อาบน้ำแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าลำลองสบายๆ
หวีผมยังไม่เสร็จดีเบิ้มก็ตามเพื่อนมาได้หนึ่งคนหน้าตาผมไม่คุ้นเลยอ่ะ
คงจะเป็นคนที่ชื่อดอนแน่ๆหน้าตาคมๆ แบบบ้านๆ ดี หน่วยก้านก็ใช้ได้เลยอ่ะ

“อ้าวแล้วไหนไอ้นวยล่ะวะพวกมึง”
“มันไปบ้านเด็กมันยังไม่กลับเลยส่วนไอ้ดอนกูไปเจอมันที่บ้านพี่ศักดิ์”

“เออๆๆ งั้นไปกันเลย”
ไอ้ต้อยตะโกนบอกเพื่อนมันลงไปแล้วก็ลากผมลงไปข้างล่าง

“อ้าวนี่ตกลงจะไปไหนเนี่ย”
“ก็ไปกินเหล้าที่สวนกูงัยมึงปลอดคนดี”
ไอ้ต้อยกระซิบบอกผมแล้วทำหน้ายิ้มๆแบบเจ้าเล่ห์ เออมันช่างคิดแฮะไอ้นี่มันร้าย 5555

พอเจอหน้ายายมันก็บอกยายมันเสร็จสรรพว่าไปไหน ยายมันก็ไม่ได้ว่าอะไร
เพราะมันอายุมัน 20 แล้วโตพอสำหรับเรื่องสังสรรค์แล้ว

แล้วพวกเราสี่คนก็ซ้อนมอไซค์กันออกไปที่ร้านขายของชำก็ได้เหล้ามาสองกลมและมิกเซ่อร์พร้อม
ถึงแม้จะอยู่บ้านนอกแต่ไอ้ต้อยมันก็รสนิยมดีใช้ได้เลยอ่ะไม่ใช่กินแค่เหล้าขาว 40 ดีกรี

เราซ้อนกันไปตามทางที่ไปสวนของป้าตอนนี้ก็บ่ายสองโมง
อากาศตอนบ่ายของหน้าฝนก็ไม่อบอ้าวซักเท่าไหร่

พอไปถึงก็ได้เสื่อเก่าๆที่เก็บไว้ในกระศาลา เราได้ที่ใต้ต้นมะม่วง ข้างๆ สระน้ำ
ก็ที่ๆผมกับไอ้ต้อยมาเอากันประจำนั่นแหละครับ
เพราะความที่ทำเลมันดีถ้ามองจากถนนมาจะไม่เห็นเพราะขอบสระจะสูง

แต่ถ้ามองจากจุดที่นั่งออกไปข้างนอกบรรยากาศและวิวด้านหลังก็ดีทีเดียว
เพราะเห็นวิวภูเขาที่อยไกลลิบๆในระยะกำลังดี

“เอาเลยเพื่อนวันนี้กูเลี้ยงฉลองให้กับญาติกูที่ได้เมีย 5555”

ไอ้ต้อยว่าแล้วเทเหล้าใส่แก้วพลาสติกที่เตรียมมาจากร้านชำ
แล้วชงแจกจ่ายให้คนอื่นๆ หน้าตาชื่นมื่นกันทุกคน
ส่วนผมก็แกะขนมเพื่อเป็นกับแกล้ม
แต่ในสมองน้อยๆ ก็คิดตลอดอ่ะ ว่าไอ้ต้อยมันจะจัดการยังงัย

“เอ...หรือว่ามันจะจัดให้ทีสองดุ้นเลย!”  ผมนึกขำๆ 555
                                                                        
เราก็นั่งกินกันไปคุยกันอ่ะครับบรรยากาศก็ดูเป็นกันเองดี
เพราะเบิ้มกับดอนก็นิสัยแบบหนุ่มบ้านๆทั่วไปคือพูดแล้วฟังง่ายๆ ตรงๆ และซื่อๆ
ตามแบบฉบับหนุ่มบ้านนอกทั่วไป

ผมนั่งติดกับเบิ้มมันเลยทำให้เหล่หมอได้ทุกอิริยาบถก็ว่าได้ ว่าน่ากินไปทั้งตัวแค่ไหน
ทั้งหุ่นที่ดูเป็นคนเนื้อแน่นอกแน่น ไหล่ กล้ามแขน ต้นขา แน่นเปรี้ยะ!
ผิวที่ต้นขาก็เนียนดีแบบคนผิวสะอาดสะอ้าน

หน้าตาเบิ้มไม่ใช่คนหล่อลากใส้แต่เอ็กส์อ่ะคือตาตี่นิดๆ แบบกำลังเป็นที่นิยมกัน
ปากจมูกได้รูปไม่บี้แบนผิวหน้าใสดี ยิ่งได้มานั่งใกล้ๆ อย่างนี้กลิ่นหนุ่มก็โชยมาเตะจมูก
สร้างความกระชุ่มกระชวยได้ดีชิบ

ไอ้ต้อยก็อมยิ้มแบบรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอ่ะครับก็มันนั่นแหละตัวตั้งตัวตี
จะไม่รู้ได้งัยว่าป่ะครับส่วนดอนก็ไม่ได้ขี้เหล่อะไร
หุ่นและหน่วยก้านก็ถือว่าน่าเอาเลยทีเดียวครับ

แต่ตอนนี้ผมนั้นเพ่งความสนใจไปที่เบิ้มซะเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์อ่ะ
เลยไม่ค่อยได้ใส่ใจดอนซักเท่าไหร่

“มึงเรียนที่โน่นแล้วมึงพักอยู่กับญาติหรือว่าอยู่หอพักวะ”
เบิ้มถามผมด้วยความสนใจทำเอาผมดีใจมิใช่น้อยที่เขาสนใจความเป็นไปของผม

“เราเหรอพักอยู่หอกับเพื่อนน่ะ”
“แต่จะว่าไปกูก็อยากไปเที่ยวซักทีเหมือนกันนะเชียงใหม่น่ะ”
“อยากไปเที่ยวก็ไปดิเดี๋ยวเราพาเที่ยวเอง เออ...เนี่ยไอ้ต้อยมันก็ยังไม่เคยไป ชวนมันไปดิ”
ไอ้ต้อยฟังแล้วก็ยกมือบายแบบไม่ค่อยใส่ใจ

เพราะนิสัยมันผมก็รู้อยู่ว่าไม่ค่อยชอบเที่ยวอย่างผม
เพราะทั้งปีมันก็ออกตระเวนเดินสายอยู่บ่อยๆ อยู่แล้ว

“ไม่ล่ะกูขอบาย”
“รีบปฏิเสธเลยนะมึงสาวเหนือน่ารักนะโว้ย!”

เบิ้มอ้อล้อเอาเรื่องหญิงมาล่อแต่ไอ้ต้อยก็ไม่ได้เออออด้วย
เพราะยังงัยมันก็ไม่ใช่คนเดือดร้อนเรื่องนี้ซักเท่าไหร่
เพราะแค่นี้มันก็เลือกไม่ถูกแล้วว่าจะเอาใครทำแฟน

เพราะตอนมันลงจากเวทีมวยก็มีสาวๆสวยๆ มารอให้กำลังใจมันไม่ได้ขาด
ยิ่งเย็นบรรยาการก็ยิ่งดีลมพัดมาเอื่อยๆ สบายๆ

ชีวิตคนต่างจังหวัดก็อย่างนี้แหละไม่ต้องรีบร้อนอะไรมีเงินน้อยก็ใช้น้อย
ขอแค่มีพอกินพอใช้มีบ้าน มีครอบครัว มีเพื่อนที่พูดคุยกันแล้วเข้าใจง่ายๆ
ก็คงไม่หวังอะไรไปมากกกว่านี้แล้วอ่ะนะ

สำหรับเบิ้มกับดอนนั้นตอนนี้ก็เรียนอยู่ ปวส.2 ที่วิทยาลัยการอาชีพที่อยู่ในตัวอำเภอกับไอ้ต้อย
ตอนเด็กๆ ทั้งสองคนก็เคยไปฝึกต่อยมวยกับครูมวยกับไอ้ต้อยและเสก
แต่พอเข้าสู่วัยรุ่นก็เลิกซะดื้อๆ

ผมว่าก็แค่เห่อไปตามเพื่อนๆ สมัยนั้นมากกว่า คงไม่ได้มีใจรักจริงจังอย่างไอ้ต้อยกับเสก
เพราะสองคนหลังนี่เขาจะโตมากับอาชีพนี้นี้จริงๆ

แตตอนนี้เสกก็อำลาวงการเพื่อไปเป็นหนุ่มช่างฯในโรงงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่ผมก็ดีใจนะที่เสกเลือกอาชีพที่ไม่เสี่ยงต่อการเจ็บตัวอย่างนี้นะ
ดีไม่ดีต่อยๆ ไปประสาทและเส้นเอ็นเสียก็หมดหล่อกันพอดี

ส่วนไอ้ต้อยผมว่ามันคงจะทำอาชีพนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะเก็บเงินเก็บทองสร้างเนื้อสร้างตัว
เพื่อเปิดอู่ซ่อมรถของมันได้นั่นแหละ
เพราะเห็นมันอย่างนี้ก็เหอะตอนนี้มันก็มีเงินเก็บไม่น้อยเลยอ่ะครับ

(ผมแอบดูสมุดเงินฝากมันมา5555) ผมเลยโคดนับถือมันเลยอ่ะครับ
ทั้งสามหนุ่มพอกินไปก็พูดกันถึงชีวิตวัยรุ่นในช่วงที่ผ่านมาทั้งเรื่องตลกโปกฮาทะลึ่งตึงตัง
และเรื่องขำๆมีโลดโผนบ้าง ฟังดูสุ่มเสี่ยงบ้างก็ว่ากันไป

เรื่องราวของไอ้ต้อยนั้นผมก็รับรู้มาโดยตลอดนับตั้งแต่ได้เสียกับมันนั่นแหละ
เพราะโทรหากันตลอดโดยเฉพาะ “เรื่องเงิน” 5555 เพราะมันมีเงินมากกว่าผมนี่นา

ก็เด็กมหาลัยฯ อย่างผมน่ะใช้เงินเยอะจะตาย ลำพังเงินที่พ่อแม่ส่งให้กับเงินที่กู้ยืมมา
ก็ไม่ค่อยจะพอใช้นักหรอกหลายๆ ครั้งเลยต้องหยิบยืมไอ้ต้อยมั่ง พี่ชาติมั่งอยู่บ่อยๆ
นั่งๆกรึ๊บๆ กันไปเบิ้มก็มักจะโดนไอ้ต้อย กับดอนแซวอยู่บ่อยๆ

เรื่องที่เมาแล้วไม่ค่อยรู้เนื้อรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป
โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่ค่อยหวงเนื้อหวงตัวล้วงๆควักๆ ควย!ออกมาให้เพื่อนๆ
ได้เห็นกันเป็นประจำเบิ้มมันก็จะเถียงตลอดว่า

“สาด!...พวกมึงอย่ามาอำกูคนบ้าอะไรว้า! จะเมาจนไม่รู้ตัวขนาดนั้น”

ต้อยกับดอนก็พยักเพยิดกันด้วยความขำๆ แต่ไม่ได้ต่อล้อต่อเถียงกับเบิ้มได้นาน
ซึ่งผมก็ไม่รู้จะเชื่อใครดีเพราะก็ไม่ได้รู้จักมักจี่กันมาก่อน

แต่ใช่ไม่ใช่ยังงัยซะวันนี้เดี๋ยวก็ได้รู้กันว่าคำที่ไอ้ต้อยกับดอนพูดจะเป็นจริงซักแค่ไหน
ผ่านไปไม่ถึงสองชั่วโมงเหล้ากลมแรกก็หมดไปด้วยน้ำมือสามหนุ่ม

และตอนนี้ทั้งเบิ้มและดอนก็เมากันเต็มที่แล้วต่างก็ร้องเพลงผสานกกับการเคาะขวดกันเสียงดัง
เคร้งคร้าง! ดูแล้วก็ครึกครื้นดีครับ

และวินาทีที่ผมจำติดตาก็มาถึง! เมื่ออยู่ดีๆเบิ้มมันก็ลุกขึ้นแล้วถอดกางเกงบอลลง
แล้วควยทั้งดุ้นก็ออกมาแข็งโด่เด่ต่อหน้าต่อตาผมกับพวกไอ้ต้อย
สองคนนั่นเห็นแล้วก็ขำๆหัวเราะก๊ากๆ อย่างคนเมาอ่ะครับ
แต่ผมนี่ดิถึงกับตะลึง! ตะลึงๆๆๆๆ!!! กันไปข้างนึงเลยครับ!

ไม่คิดว่าคำที่ไอ้ต้อยกับดอนพูดจะเป็นจริงได้ โหๆๆๆ!!!
แถมดุ้นควยของเบิ้มก็งามสมตัวเอามากๆ อ่ะครับ ขนาดน่าจะซัก 6.5 นิ้ว! ได้

ขนาดกำลังใช้การได้ดีเลยทีเดียว หัวบานสวยสีสดลำสีสะอาดเพราะเจ้าตัวเป็นคนผิวค่อนข้างขาว
ไข่สองใบก็ใหญ่ยานขนหะ-มอย ก็ดกดำกำลังงามไม่รกมาก

แต่ผมชอบใจหน้าท้องของเบิ้มเอามากๆเลยครับเพราะมันทั้งเซ็กซี่และน่าดมมากๆ
ขนหน้าท้องแม่งก็อย่างเซ็กส์ แต่ที่เด่นสะดุดตาตอนนี้ก็เป็นควยดุ้นสวย
ที่เจ้าตัวแกว่งไปมาต่อหน้าต่อตาผมนี่แหละ 5555

“ดูนี่ควยกูๆ 5555”

บัดนี้เบิ้มเหมือนจะเป็นคนอีกคนนึงที่ทำอะไรลงไปแบบคนไร้สติ
ไอ้ต้อยกับดอนก็ตบมือแปะๆอย่างฮาๆ พร้อมกับเชียร์เหย็งๆ อ่ะครับ

“ไอ้เบิ้มโชว์ควยไอ้เบิ้มโชว์ควย 5555”

ไอ้ผมคนที่นั่งอยู่ติดกับเบิ้มนี่ดิเล่นเอากลืนน้ำลายลงคอแทบไม่ทัน หูยยยย น่ากินมากๆ อ่ะ
หัวงี้สดน่าลงลิ้นสุดๆอ่ะ เห็นแล้วน่ากินมากๆ อ่า

กำลังตะลึงๆอยู่ ไอ้ต้อยมันก็จับหัวผมเข้าไปหาควยเบิ้มจังเบ้อเร่อ!
โอมายก้อด! เต็มๆหน้าเลยครับพี่น้อง ทั้งแข็ง ทั้งหอม ทั้งคันๆๆ ด้วยขนหะมอย
ซ้ำไอ้ต้อยมันยังกดไว้ไม่ยอมปล่อยซะด้วยดิครับแม่งกวนโอ้ยสุดๆอ่ะ

“โอ้ยเชี่ยต้อยปล่อยกูๆ”
ปากพูดไปแต่จมูกปากทั้งคลุกทั้งเคล้าด้วยความตื่นเต้นโคดๆอ่ะ

“5555พอแล้วมึงไอ้ต้อย เดี๋ยวไอ้วินมันก็หายใจไม่ออกตายกันพอดี”

เบิ้มมันเหมือนคนไม่รู้ตัวว่าทำอะไรอ่ะครับเล่นทั้งเด้งทั้งเด้าปากผมเป็นว่าเล่นเลยอ่ะ
ซ้ำยังหัวเราะร่าตามประสาคนเมา

“ควยยยยกูหอมมั๊ยมึง นี่ๆๆ 5555”

แต่เดี๋ยวผิดสังเกตอ่ะครับเลยต้องเอาหน้าออกก่อนทั้งๆ ที่แสนจะเสียดายอ่ะครับ
พอหน้าผมเป็นอิสระผมก็ทำทีเป็นโกรธไอ้ต้อยมันอ่ะครับ

“เชี่ยต้อยมึงเล่นอะไรวะห่านี่”
ผมด่ามันไปแบบไม่จริงจังนักไอ้ตัวดีก็หัวร่อฮิฮะ ปากก็ต่อปากกกับผม

“เป็นงัยมึงเต็มปากเต็มหน้าเลยมั๊ย 5555”
“ไอ้เลว!”

ผมด่ามันไปอีกทีแต่ก็อดขำๆกับสิ่งที่มันทำไม่ได้เพราะมันได้ทำให้ผมได้สัมผัสกับควยดุ้นแข็งๆ  
ของเบิ้มแบบแนบชิดซะขนาดนั้น

เบิ้มมันยืนโชว์ควยและเด้งหน้าเด้งหลังอยู่อย่างนั้นอีกพักก็เก็บควยแล้วนั่งที่เดิม
แต่ไม่วายล้วงมือเข้าไปกำๆถอกๆ ควยตัวเองในกางเกง ถอกควยไปๆ มาๆ
ดูแล้วโคดได้อารมณ์สุดๆอ่ะ เห็นแล้วอยากเข้าไปช่วยซะเหลือเกินอ่ะ

“5555 เงี่ยนแล้วล่ะซิมึง!...สาดเบิ้ม!”
“มึงก็เห็นๆ อยู่ ไอ้นี่มันเมาแล้วเงี่ยนกีรู้ ยังจะไปถามมันอีก” ดอนว่า
เบิ้มมันก็ไม่ได้พูดอะไรเอาแต่กำๆถอกๆ ควยมันไปพร้อมกับทำหน้าปรือๆ แบบคนเมาปนเงี่ยน!

แล้วไอ้ต้อยก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้

“เออน้ำแข็งหมดพอดีเดี๋ยวกูกับไอ้ดอนไปซื้อน้ำแข็งดีกว่า ไปไอ้ดอนลุก”
“ทำมายยยต้องเป็นกูด้วยว้า! กูขี้เกียดด”
“ลุกเลยมึงลุกๆ!!!”

ดอนมันทำท่าขี้เกียจแต่ก็ต้องโดนไอ้ต้อยลากไปจนได้
ก่อนที่จะเดินไปไอ้ต้อยมันก็หันมาขยิมตาให้กับผม

“จัดการตามสบายเลยมึง”

มันว่าก่อนที่จะเดินไปที่รถพอมันสองคนขับมอไซค์ออกไปผมก็หันมามองเบิ้มด้วยสายตาหื่นๆ
ดูหน้าหมอตอนนี้ดิถ้าใครมาจับมาถอกให้ก็คงไม่บ่ายเบี่ยงแน่นอน
คิดได้อย่างนั้นผมเลยตั้งใจจะจัดให้ซักดอกใหญ่ๆ5555

“มันควยมั๊ยเบิ้ม”
“อือออเสียวๆ ดีว่ะ”

เบิ้มพูดไปมือก็คลำๆถอกๆ อยู่ในกางเกง
ผมกลั้นใจนับ1-2-3 แล้วทำใจดีสู้เสือล้วงมือเข้าไปในกางเกงบอลของเบิ้มทันที

“เราดูดให้เอาป่าว”
ตอนนี้มือผมกำที่ควยเบิ้มแทนแบบเต็มๆมือแล้วครับ

“แล้วแต่มึงดิถ้าจะดูดก็รีบๆ เลยมึง กูกำลังเงี่ยน”
“ได้เดี๋ยวเราจัดให้”

ว่าแล้วผมก็ล้วงควยดุ้น 6.5 นิ้ว! ของเบิ้มอออกมานอกกางเกงรอบที่สอง
ตอนเย็นๆอย่างนี้ทั้งแสงและเงาช่วยได้จริงๆ ครับ เพราะควยเบิ้มสีสวยจนผมตะลึง!
ผมว่าคงไม่ทันใจเบิ้มมั๊งเพราะเบิ้มมันดึงหน้าผมเข้าไปหาควยมันซะก่อน

วันนั้นเลยเป็นครั้งที่สองที่ผมได้ดมควยเบิ้มแบบไม่ทันตั้งตัว
เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วผมเลยต้องเลยตามเลยอ้าปากอมเข้าไปแบบเต็มๆปาก

อื้อหือ!เต็มปากเลยครับ ตอนนี้ผมเลยเร่งโม๊คกันสนุกปากกันไปเลยครับ
ตอนนี้เบิ้มเองก็ซี้ดดังๆพร้อมกับกดหัวผมขึ้นๆ ลงๆ ที่ควยตัวเอง

“ดีๆๆ!!!...ดูดลึกๆ!!!...อืออออ!!!...แม่งดูดควยเก่งจังโว้ย!!!
...โอววว!!!...ดีๆๆ!!!...เสียววว!!!”

ผมเร่งปากดูดอย่างเมามันเพราะในตอนนี้สมใจปากผมแล้วนี่ครับ
ดูดควยเบิ้มมันๆ  จนผมอยากทำอะไรแรงๆมากกว่านี้เลยให้เบิ้มนั่งพิงต้นมะม่วง
มันก็ทำตามอย่างว่าง่ายเพราะทั้งเมาทั้งเงี่ยนแล้วนี่ครับ

ควยดุ้น 6.5 นิ้วของเบิ้มตั้งเด่รอการจัดการจากผม
กางเกงบอลที่ถูกรั้งลงไปแค่ต้นขาไม่ได้ถูกถอดออกจนหมด ยิ่งทำให้ดูเอ็กส์ไปอีกแบบ

ผมเห็นอย่างนั้นเลยถอดกางเกงออกแล้วขึ้นไปนั่งตักของเบิ้มสองแขนกอดรอบคอเบิ้ม
ส่วนเบิ้มมันก็เป็นงานจับควยมันจ่อตั้งตรงผมก็ค่อยๆ กดตูดให้ตรงควยเบิ้มจนมันเข้ามาได้เรื่อยๆ

“อือออ!!!...เสียวควยดีว่ะ!!!...มึงเคยโดนเย็ดมาก่อนอ่ะดิ!!! 555”
เบิ้มพูดแบบคนเมาๆหน้าตาโคดเอ็กส์อ่ะ ตัวผมเองก็เสียวสุดขีดเลยครับ

“กดตูดมึงลงมาเร็วๆ เลย!...อืออออ!...ดีว่ะ!...คับเหี้ยอ่ะ!!!”
เบิ้มพูดดังๆแบบคนเมา ส่วนผมก็กำลังร่านเลยกดทีเดียว

พรืดดดด!!!!!

“อืออออ”

เราสองคนกอดกันกลมด้วยความเสียวเบิ้มก็ไซ้ที่คอผมตามประสาคนกำลังมัน
โอยยยบอกได้คำเดียวว่าเสียวและมันมากๆ อ่ะครับ
ผมเลยไซ้เบิ้มตอบมั่งก็ออกจะเอ็กส์และแมนขนาดนี้นี่ครับ

“โอ้ยยยย!!!...เสียววๆๆ!!!”

เบิ้มร้องครางลั่นอ้าปากหวอผมเลยฉกิลิ้นเข้าไปทันที
ทีนี้ทั้งดูดปากทั้งขย่มตูดใส่ควยเบิ้มแบบเมามันเลยครับ
เบิ้มเองก็คงทั้งมันทั้งเสียวพอกันเลยเด้งควยใส่ตูดผมซะเองเลยครับ

“อือออ!!!...ดีจังเลยอ่ะเบิ้ม!!!...อ๊ะๆๆๆ!!!”

ผมกอดคอเบิ้มแน่นปากก็จัดการไซ้ตามซอกคอตามหน้าตามจมูกปากของเบิ้มอย่างหื่นกระหาย
เบิ้มไม่เพียงเด้งควยใส่ตูดผมด้วยความไวยิกๆๆๆ!!! เท่านั้น
มือไม้ก็ล้วงเข้าไปบี้บีบตามอกตามตัวผมบอกได้คำเดียวว่าเสียวสะใจกันไปข้างนึงเลยครับ!

ผมกำลังมันเลยดูดปากกับเบิ้มอีกรอบจ๊วบๆอาสุดยอดอ่ะครับ มันได้ใจสุดๆ อ่ะ
เซ็กส์ครั้งนี้จึงต้องยกความดีความชอบให้ไอ้ต้อยตัวดีไป

“เอาท่านี้ดีกว่า”

ว่าแล้วเบิ้มมันจับผมลงจากตักแล้วให้ผมอยู่ในท่าคลานสี่ขาแล้วเย็ดผมในท่าหมาอย่างเมามัน
แต่กางเกงบอลที่ยังถอดไม่หมดคงจะทำให้มันไม่ถนัดมั๊งเบิ้มเลยถอดกางเกงออกหมด
แล้วล่อตูดผมใหม่โอวว สุดยอดอ่ะครับ ผมครวญครางซะเสียงดังเลยครับเมื่อโดนเบิ้มเย็ดอย่างถึงใจอย่างนี้

“อือออน้ำจะแตกแล้วๆ!!!!!”
มันกดไหล่ผมแน่นแล้วเร่งกระแทกป้าบๆๆๆอีกนับสิบ เอวรัวเร็ว

“แตกแล้วๆๆๆ!!!!!!...อ๊ะๆๆๆ!!!!!....อ๊าาาาา!!!!!!”

เบิ้มกระแทกควยเข้าตูดผมครั้งสุดท้ายจนสะเด็ดน้ำ
เล่นเอาผมเข่าอ่อนทรุดฮวบลงไปนอนกับเสื่ออย่างหมดแรง

เบิ้มนอนซบอยู่กับหลังผมอย่างหมดแรงสองแขนยังคงกอดผมแน่นและแนบสนิท
โคดรู้สึกดีอ่ะครับควยแข็งๆ ยังคงคาอยู่ที่ตูดอกล่ำๆ ยังคงแนบสนิทอุ่นจนร้อนอ่ะ
พักเดียวเบิ้มมันก็กระซิบเสียงกระเส่าๆข้างหูผม

“ถ้ากูเอามึงอีกรอบมึงไหวมั๊ยวะ!”
“แล้วแต่นายดิถ้าไหวรอบสามก็ยังได้!”

ผมหันไปจ้องหน้ากับเบิ้มตาจ้องตาแล้วผลักให้เบิ้มนอนหงาย ควยเบิ้มยังแข็งไม่ยอมอ่อน
ผมเลยจัดการนั่งเทียนให้หมออีกรอบเอากันซะมันกันไปข้างนึงเลยครับ!!!

ไอ้ต้อยก็เข้าใจหัวอกผมและเพื่อนขี้เงี่ยนมันเหลือเกิน
เพราะผ่านไปเกือบสามชั่วโมงมันกับดอนก็ไม่กลับมาผมเลยจัดให้เบิ้มไปถึงสามยก!
แต่ยกที่สามนี่เป็นผมซะเองที่พูดออกมาว่าไม่ไหว 5555

แต่คนมันกำลังทั้งเมาทั้งเงี่ยนอย่างเบิ้มเลยเย็ดไปจนน้ำแตกเป็นรอบที่สาม! จนได้
ก็ต้องเข้าใจไม่เคยเจอก็ต้องเจอครับงานนี้ แต่อยากจะบอกว่า “สุโค่ย” ไปเลยครับ

พอไอ้ต้อยกับดอนกลับมาก็ค่ำแล้วครับ และกลายเป็นว่าผมหมดแรงจนต้องนั่งพิงต้นมะม่วง
ดูหนุ่มๆก๊งเหล้ากันต่อ ส่วนเบิ้มมันยังกลับไปก๊งเหล้าต่อได้อีกอ่ะครับ โห!โคดอึดอ่ะ
พอตอนกลับที่แยกกันกับเบิ้มและดอนไอ้ต้อยก็กระซิบถามผมด้วยความอยากรู้ปนทะลึ่ง

“เป็นงัยมึงไอ้เบิ้มเย็ดมันมั๊ย 555”
“แม่งกูไม่เคยเจออย่างนี้มาก่อนแม่งพอเมาแล้วเย็ดอึดชิบหาย!”

“โดนใจมึงอ่ะดิมึง 5555”
ไอ้ต้อยแซวอย่างมันปากผมเลยกำควยมันแล้วบีบเบาๆ

“ปากดีนักนะมึงเดี๋ยวก็บีบให้สูญพันธ์เลยนี่!”
“ยอมแล้วๆ อย่านะโว้ยกูยังยังอยากเย็ดอยู่นะมึง ขืนควยกูเป็นอะไรไปเดี๋ยวมึงก็อดมันหรอกสาด!”

“เออยอมให้ก็ได้!...แต่ห้ามแซวอีกนะมึงไม่งั้นโดน!”
ผมขู่มันไอ้ต้อยก็หัวเราะด้วยความฮา แล้วเราก็ขับมอไซค์กลับบ้าน

คืนนั้นผมก็ไม่ได้ให้ไอ้ต้อยเย็ดอีกหรอกครับมันก็เข้าใจ
แต่ตอนเช้าก่อนที่ผมจะกลับนี่ดิโดนเต็มๆ!! 1 ดอกใหญ่ๆ เลยครับ

เย็ดกันจนบ้านสะเทือนดีนะที่ป้าไปตลาดไม่งั้นแกก็คงจะนึกว่าแผ่นดินไหว 5555
ก็ไอ้นี่มันเรี่ยวแรงยังกะควาย! นี่ครับ

พอสายๆมันก็ขับมอไซค์ไปส่งผมถึงในตัวเมืองเลยครับ
ส่วนกับเบิ้มหลังจากครั้งนั้นผมก็ไม่ได้เย็ดกับหมออีก เพราะมาเยี่ยมป้าเมื่อไหร่ก็ไม่เจอหมอซักที
ถามไอ้ต้อยก็บอกว่าพอเบิ้มมันเรียนจบ ก็เข้าไปทำงานกรุงเทพแล้วครับ(ตามสูตร)