“โด่...เป็นนักกีฬาซะป่าวบันไดแค่ไม่กี่ขั้นทำครวญซะแล้วมึง”
“ก็มึงดูเด่ะ สูงลิบๆเลยว่ะ กูไม่ขึ้นไปได้ป่าววะ”
ไอ้อี้โอดครวญเป็นเด็กๆพร้อมกับนั่งแหมะลงกับพื้นบันได
“ไม่ได้! มาถึงดอยสุเทพแล้วไม่ไปไหว้ได้ไง บาปตายเลยมึง!...แน้!ยังอีกกูบอกให้ลุก!”
ผมใช้กำลังข่มขู่มันดันคนตัวล่ำๆ อย่างมันจนลุกขึ้นแล้วเดินขึ้นบันไดนาคจนได้
ตอนเดินขึ้นไปมันก็มองหน้าผมยิ้มๆ
“มึงนี่มันบ้าเที่ยวดีว่ะสาดวินแต่เป็นอย่างมึงก็ดี ไม่ต้องคิดอะไรมาก”
“ช่าย เป็นกูน่ะดีมีเรื่องทำเยอะแยะ โอ้! โลกจ๋าไอ้วินจะไปหาให้ทั่วเล้ย!”
ผมทำท่าอ้าแขนซะกว้างแล้วหลับตาสูดลมหายใจเข้าปอดพร้อมร้องออกมาจากปากดังๆ
พอรืมตาขึ้นไอ้อี้ก็หัวเราะกั่กๆอย่างขำสุดตีน
พอผมมองดูรอบๆก็เห็นทั้งฝรั่งทั้งคนไทยมองมาทางผมยิ้มๆ
เหมือนเห็นตัวตลกยังงัยยังงั้นเลยครับผมหน้าแดงเพราะความอายเลยวิ่งไล่ไอ้อี้จนขึ้นมาถึงบริเวณพระธาตุพอผมจับคอเสื้อมันได้ มันก็หันมาจุ๊ปากกับผม
“จุ๊ๆๆๆ เบาๆ ดิวะสาดเดี๋ยวบาปตายมึง อิอิอิอิ”
พอได้ยินอย่างนั้นผมก็ทั้งกลัวบาปทั้งเจ็บใจโคดๆที่ทำอะไรมันไม่ได้อย่างใจนึก
ไหนจะมาถูกมันยอกย้อนเข้าอีกฮึ่มๆๆ เจ็บใจๆ
“จำไว้เลยมึงลงจากดอยเมื่อไหร่มึงโดนดีแน่!”
ผมขู่ฟ่อๆมันก็ทำหน้าเป็นพร้อมยักไหล่แบบไม่ยี่หระแบบกวนโทสะอ่ะ
พอเข้ามาถึงบริเวณพระธาตุผมก็พบกับความงดงามของสถาปัตยกรรมแบบล้านนา
ที่งดงามเรืองรองเป็นสีทองไปทั้งองค์ของพระธาตุ
ซึ่งพระธาตุดอยสุเทพถือได้ว่ามีความสำคัญมากอีกแห่งของประเทศไทย
ทั้งในเรื่องของตำนานการสร้างที่น่าสนใจประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน
และในด้านศิลปะที่งดงามอย่างหาที่ติไม่ได้
เราไหว้รอบๆองค์พระธาติจนครบสี่ทิศพร้อมตั้งจิตอธิษฐานขอให้เจอแต่สิ่งดีๆ ในชีวิต
พร้อมกันนั้นผมก็ขอให้องค์พระธาตุช่วยปกป้องคุ้มครองพ่อ แม่ พี่ๆ ของผม รวมไปจนถึงน้าแก้วและครอบครัวให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข
ที่ขาดไม่ได้ก็คือขอให้ไอ้ตี๋อ้นแฟนผมรักผมไปนานๆ อิอิอิอิ
และบรรดาเพื่อนๆผม และคนที่ผมรู้สึกดีทุกๆ คน
ขอให้มีแต่เรื่องดีๆเข้ามาในชีวิต มีแต่ความสุข
และตอนนี้ที่ผมอยากได้ที่สุด ก็คือขอให้ไอ้อี้เพื่อนผมคนนี้เป็นไอ้อี้คนเดิม
ที่มีกำลังใจดี...แค่นี้ผมก็ดีใจแล้ว
(แค่นี้บ้าดิเล่นขอซะยาวเหยียดเลยนะมึง 5555)
“มึงขออะไรวะสาดขอนานชิบ”
มันถามผมหน้าตาปนสงสัยคิ้วเข้มๆขมวดเป็นเลขเก้าแต่แมนดีครับ
“บอกไปก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์ดิสาด”
“เออ จำไว้ ทีกูยังกล้าบอกเลยโด่แค่นี้ทำเป็นมาปิดบัง”
มันทำท่าเหมือนไม่อยากสนแต่ผมรู้นิสัยอย่างมันน่ะ รอไม่เกินห้านาทีร็อก
เดี๋ยวก็ถามขึ้นมาอีกแน่ๆและก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
“เฮ้ย! สาดวินบอกหน่อยดิว่ามึงขออะไรบอกหน่อยน่า นะๆๆ กูอยากรู้”
ผมก็ยิ้มขำๆกับอาการมัน
“ก็ไม่มีอะไรกูก็แค่ขอให้พ่อแม่พี่น้อง เพื่อนๆ และ...(แฟน)...ของกู
มีความสุขกันทุกคนก็แค่นั้น”
“รวมกูด้วยป่าววะ”
มันถามเหมือนอยากจะรู้เสียเต็มแก่ดูทำหน้าเข้า ดูลุ้นเหมือนเด็กๆ เลยอ่ะครับ 5555
“อ้าว! ก็แน่เซะ ก็มึงเป็นเพื่อนกูนิ”
มันก็มองหน้าผมนิ่งจนผมหันไปเห็นมันยังจ้องหน้าผมนิ่งอยู่เลยเขินๆซะเอง
“ขอบใจมึงมากนะ”
“โอ้ย! วันนี้กูฟังมึงพูดคำนี้มากี่รอบแล้ววะเนี่ยน่าเบื่อจะตาย”
“ก็กูรู้สึกอย่างที่พูดอย่างนั้นจริงๆนี่หว่า”
“เออๆๆ กูก็รู้แล้วงัย”
“ฮั่นแน่...มึงอายกูช่ายมั๊ยล่า”
มันเข้ามากอดคอผมแน่นแล้วทำเป็นกอดผมแน่นจนผมอายหน้าแดง
“บ้าแล้ว! กูจะอายมึงทำเหี้ยอะไรปล่อยเลยเดี๋ยวคนเขาก็หาว่ามึงกะกูเป็นอะไรกันหรอก”
“ถ้าเป็นอะไรกับมึงกูก็ยอม ก็มึงดีขนาดนี้นี่”
ตอนที่มันพูดเสร็จมันก็มองหน้าผมนิ่งเล่นเอาผมขนลุกซู่เลยครับ
นี่มันพูดด้วยสาเหตุอะไรวะแต่ที่แน่ๆ เล่นเอาผมเขินยิ่งกว่าเดิมอีกครับ
เลยรีบวิ่งจ้ำๆลงไปตามบันไดนาคที่สูงชัน พร้อมกับบ่นให้มันในใจ
สาดเอ๊ย! จะพูดขึ้นมาให้ได้ไรวะ ผมด่ามันในใจ
ผมรู้สึกแค่ว่ามันเดินตามผมมาเงียบๆจนมาถึงมอไซค์มันก็แย่งเป้จากผมไปถือไว้
“เอามาไว้หน้ารถก็ได้เป้หนักๆปวดหลังแย่”
“ไม่เป็นไรกูถือได้”
ผมพยายามแย่งมันคืนมาแต่มันดื้อยิ่งกว่าผมซะอีกเอาไปไว้หน้ารถเฉยเลย
“อย่าดื้อน่า เร็วๆ เข้ารีบขึ้นรถเลยเดี๋ยวก็ไปถึงน้ำตกห้วยแก้ว ค่ำกันพอดี”
เอมันเป็นไรของมันอ่ะ ผมชักงงๆ นี่มันเล่นอะไรของมันวะเนี่ย ???
เพราะตามปกติดมันไม่เห็นจะอยากทำดีกับผมซักกะนิด
ทั้งที่ผมอยากให้มันบริการผมจะตายแต่คิดๆ ไปในแง่ดี จะดีกว่า
ว่ามันคงจะอยากตอบแทนผมมั๊งที่คอยดูแลมันเมื่อยามยาก
แต่ไม่เป็นไรครับตอนนี้ขอให้มันรู้สึกดี มันจะทำอะไรก็ช่างมันเหอะว่าป่ะ
แล้วหลังจากนั้นผมกับมันก็ขับรถลงไปตามทางเดิมเพื่อชมน้ำตกเล็กๆ ที่อยู่เชิงดอย
ที่ชื่อว่าน้ำตกห้วยแก้วในบริเวณสวนรุกชาติห้วยแก้วก็จะมี ผาเงิบและวังบัวบานรวมอยู่ด้วย ซึ่งวังบัวบานนี้มีชื่อทีเดียวเพราะเป็นสุสานแห่งความรัก
ของสาวเหนือคนงามที่ชื่อบัวบาน ผู้ยึดถือความรักเป็นยิ่งกว่าชีวิต
เราได้ที่หลังน้ำตกที่มีป่าไม้รายรอบและลมเย็นๆ โชยมาเอื่อยๆ เป็นที่นั่งเล่น
ไอ้อี้ถือน้ำกับของกินเดินมาแต่ไกล
มองๆดูก็รู้สึกว่าไอ้อี้มันอารมณ์แจ่มใสขึ้นมาก ผมก็ค่อยเบาใจหน่อย
มันนั่งแหมะลงข้างๆผมพร้อมกับยื่นโค๊กให้กระป๋องนึง
“เอ้า! ดื่มเย็นๆ จะได้สดชื่น”
ผมเห็นท่าทางมันแล้วก็อดขำไม่ได้แล้วพาลคิดถึงตอนไปเที่ยวภูกระดึงเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
“ตอนนี้ไม่รู้พวกไอ้ซันกับคนอื่นๆ จะเป็นงัยบ้างก็ไม่รู้เนอะ”
“นั่นดิ เลยเหลือแต่กูกับมึงสองคน”
“สองคนที่ไหนไอ้ถึกเข้มอีกคนไงสาด”
“ถึงงั้นก็เหอะแม่งกว่าจะมาทีก็ตั้งนาน”
“สาดทีตอนมันมามึงก็อารมณ์บ่จอย”
ผมด่ามันอย่างเคยปากมันก็แลบลิ้นอย่างรู้สึกผิด
พักนึงมันก็ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างอ่ะครับ
ผมนึกว่ามันอยากจะเล่าเรื่องน้องป็อบเพื่อระบายความในใจเลยโพล่งออกไปซะก่อน
“ไม่สบายใจเรื่องอะไรก็พูดมา”
“โอ้ย! ถ้าเรื่องน้องป็อบล่ะก็ ไม่มีไรแล้วจิ๊บๆ 5555”
“แน่นะมึง”
“เออ ตอนนี้ทางใครก็ทางมันลางเนื้อชอบลางยาโว้ยว่ากันไม่ได้ แต่ที่กูอยากจะพูดก็คือ เอ่อ...กูอยากจะถามมึงว่า”
ดูทำท่าเข้าแล้วมึงจะอายกูทำมัยวะสาด ผมด่ามันในใจ ในกิริยาเก้อๆ ของมัน
“นี่มึงเป็นไรมากมายมั๊ยเนี่ยสาด”
“ป่ะ ป่าวๆๆ ไม่มีไร”
มันเกาหัวแกรกๆเหมือนเขินๆ ผมอ่ะครับ สาด ร้อยวันพันปีไม่เห็นเขินกู
ตอนนี้ดันมาทำเป็นเขินตอนนั้นผมกำลังชื่นชมกับธรรมชาติที่ร่มรื่น
เลยไม่ได้ใส่ใจมันมาก
แต่หารู้ไม่ว่านับจากนี้ความสัมพันธ์ของเราสองคน กำลังจะเปลี่ยนไป....
ช่วงเดือนกันยายนปีนั้นอากาศก็ค่อนข้างดีทีเดียว เพราะเข้าสู่ปลายฝน
แตถึงอย่างนั้นฝนก็ยังตกลงมาได้เรื่อยๆแต่ใครไม่ชอบไม่รู้นะ
แต่สำหรับผมนั้นฝนกลับเป็นเหมือนเพื่อนเก่าที่เจอกันเมื่อไหร่ก็ดีใจได้ทุกทีไป
อย่างตอนเรียนๆอยู่ หรือตอนที่นอนอยู่ที่ห้อง ขอให้ฝนตกเหอะผมจะรู้สึกดีมากๆ
ยิ่งตอนกลางคืนแล้วฝนเกิดตกขึ้นมาด้วยนี่ ผมจะชอบมากๆ โคดได้บรรยากาศสุดๆ
พาลคิดไปถึงเรื่องเสียวๆที่ผ่านมาของผม อิอิอิ
คิดขึ้นมาแล้วก็ของขึ้นทุกทีไปครับ 5555
เฮ้อ! เสียดายที่อยู่ห่างๆ กันทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นไอ้ตี๋อ้น
หรือเสกไม่งั้นก็คงจะสะกิดให้มาทำกิจกรรมเข้าจังหวะแล้วล่ะครับ
สำหรับเสกนั้นพอเรียนจบก็ไปทำงานที่โรงงานแถวๆระยองกับพวกไอ้เข้
แต่เราก็ยังโทรหากันเรื่อยๆเดือนละครั้ง หรือสองครั้ง ได้ข่าวว่าสาวติดตรึม!
ก็หล่อล่ำแถมยังเป็นนักมวยขนาดนั้นหญิงคนไหนก็อยากฟัดว่าป่ะ 5555
ส่วนอ้นน่ะไม่ต้องให้โทรหาหรอกครับเพราะไอ้ตี๋จะโทรหาผมก่อนตลอด
บางวันโทรหาตั้งสองสามทีถ้าช่วงไหนยุ่งๆ นานหน่อยก็สองวัน
โทรแล้วก็คิดถึงอยากเห็นหน้าอยากกอดอยากทำเรื่องอย่างว่าแบบสุดๆเลยอ่ะครับ
แต่ทำไงได้อยู่ใกลกันซะขนาดนี้
แต่ไม่เป็นไรหรอกครับแค่เราเข้าใจกัน ก็คงพอมั๊งผมว่า
ส่วนทางด้านไอ้อี้พอผ่านไปเกือบเดือนมันก็ดูจะหายจากอาการแฮ้งค์แล้วล่ะครับ
ปากก็กลับมาดีเหมือนเก่าคือต่อปากต่อคำได้เหมือนเคย
แต่เชื่อมั๊ยครับว่าตัวตนแบบนี้นี่แหละที่ผมอยากให้มันเป็นที่สุดล่ะ 5555
แต่ก็มีหลายครั้งเหมือนกันที่มันทำท่ามีพิรุธเหมือนๆ จะพูดอะไรกับผมซักอย่าง
แต่เหมือนไม่กล้าอะไรประมาณนั้นช่วงนั้นผมก็มีทั้งเรื่องเรียน
เรื่องกิจกรรมที่คณะและอะไรต่อมิอะไรอีกร้อยแปด เลยไม่ค่อยมีเวลามานั่งคิด
..........................................................................
จนวันนึงผมก็ต้องแปลกใจสุดๆที่มันมารอผมที่หน้าคณะ
“เฮ้ยวินนั่นใช่เพื่อนมึงที่ชื่ออี้ป่าววะ”
ไอ้นิวชี้ให้ผมดูคนที่นั่งทำเท่ห์อยู่บนรถมอไซค์คันเก่งแล้วโปรยเสน่ห์ให้สาวไปทั่ว
แม่งเต๊ะท่าทำเท่ห์อวดสาวอีกแล้วนะมึง! ผมด่าในใจ 5555
มองๆดูก็เห็นสาวๆ นักศึกษาที่เดินผ่านไปมามองมันแล้วก็ยิ้มๆ หัวเราะคิกๆ กัน
ก็ว่าไม่ได้เนอะก็ไอ้นี่มันหล่อน่ากินอย่างร้ายกาจนี่ครับ หุ่นแม่งก็ดูแบบหนุ่มสปอร์ตแมน สูงล่ำน่าจัดการที่สุด
“เอองั้นกูกลับก่อนนะพวกมึง”
ผมโบกมือลาพวกไอ้นิวและบรรดาเพื่อนๆ ของผมพวกมันก็พยักหน้าแล้วแยกย้ายกันกลับมั่ง
ในบรรดาเพื่อนๆผม ไอ้โดโด้เช่าห้องอยู่แถวๆ มหาลัย
ไอ้นายกับไอ้ท็อปพักอยู่กับญาติแถวในเมือง แต่เร็วๆ นี้ได้ยินว่าจะย้ายไปอยู่กับไอ้โดโด้
เพราะไม่ค่อยเป็นส่วนตัวตามประสาชายโสด
ส่วนไอ้นิวเพื่อนสุดหล่อของผมก็กลับบ้านมันซึ่งเป็นคนเดียวที่มีบ้านอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่
ผมก้าวยาวๆไปหาไอ้อี้ ก็พอดีกับที่มันหันมาเห็นผม
“กว่าจะออกมาได้นะมึง...กูก็นึกว่าจะนอนที่นี่ซะแล้ว”
“นอนบ้านมึงเด่ะสาดมาถึงก็ปากดีเลย...ว่าแต่วันนี้ผีเข้าป่าววะเนี่ยมาหากูถึงคณะ”
“ถึงเป็นผีก็เป็นผีหล่อโว้ย!”
พูดไปก็ทำหน้าทำตายียวนอ่ะครับแม่งเอ๊ย กวนตีนชิบแต่ดูๆไปยังงัยมันก็หล่ออ่ะนะ 5555
“ขึ้นรถๆ มัวแต่พูดอยู่นั่นแหละสาด...เดี๋ยวฝนก็ตกลงมาพอดี ดูดิฟ้ายิ่งคลึ้มๆ อยู่ด้วย”
“ตกลงมาสิดีจะได้นอนสบายๆ กูชอบ!”
“โอ้ย!มึงนี่มันชอบไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่องเขาเลยนะสาด...ฝนตกมาก็เฉอะแฉะไปไหนมาไหนลำบากน่าเบื่อจะตาย”
มันพูดไปตีนก็สตาร์ทรถไป
“ก็คนมันชอบนี่สาด...ทีมึงยังชอบหน้าร้อนเลย...กูล่ะโคดเกลียด... แม่งไปไหนก็ร้อนโคดๆ เหงื่อแตกซิกๆ”
เราสองคนลับฝีปากกันพอหอมปากหอมคอครับแล้วสุดท้ายมันก็จะลงปิดท้ายด้วยการคล้อยตามผมเสียทุกทีไป
“เออๆๆ ชอบก็ชอบวะ แต่จะว่าไปถ้าตกตอนกลางคืนได้ก็ดีเหมือนกันเนอะมึงว่ามั๊ย
ยิ่งถ้าได้อยู่กับสาวๆ สองต่อสองยิ่งดีใหญ่ ว้าวๆๆ”
พูดไปมันก็ทำเสียงจิ๊กๆจั๊กๆไปตามประสามันอ่ะครับเฮ้อ!หายดีได้ไม่ทันไร เอาอีกแล้วนะมึง
ช่วงที่เราขับรถผ่านร้านเช่าซีดีผมก็นึกอยากดูหนังขึ้นมาเลยบอกให้มันจอด
“นึกยังงัยขึ้นมาวะสาดถึงอยากดูหนัง”
“เออช่างกูเหอะน่า... กูแค่อารมณ์คลึ้มๆ อยากดูก็เท่านั้นแหละ”
ผมไม่สนคนปากมากอย่างมันแล้วครับเดินไปที่มุมหนังใหม่ ซึ่งมีหนังใหม่ๆ เข้ามาหลายเรื่อง
ระหว่างที่ผมเลือกหนังอยู่นั้นไอ้อี้มันก็เดินไปทางหมวดหนังสยองขวัญครับ
ว่าแต่กูมึงก็เหมือนกันนั่นแหละ ชอบหนังอะไรไม่ชอบ เสือกชอบหนังสยองขวัญสั่นประสาทหรือไม่ก็บู๊ล้างผลาญ
พอออกมาจากร้านเช่าซีดี ผมก็ได้หนังสองเรื่อง สำหรับแนวที่ผมชอบก็แนว
ย้อนยุคหรืออิงประวัติศาสตร์อ่ะครับไม่ว่าจะเป็นของไทย จีน ฝรั่ง เกาหลี ญี่ปุ่น อียิปต์ ผมชอบหมด
หรือไม่ก็แนวไซไฟแนวบู๊แอ็คชั่น แนววิทยาศาสตร์ แฟนซีหรือกาตูนผมก็ชอบถ้าทำออกมาดีๆ นะ
ส่วนไอ้อี้มันได้หนังผีมาเรื่องนึงจำได้ว่าชื่อเรื่อง “เปิดประตูหลอน” อะไรนี่แหละครับ
ยี้! แค่ชื่อเรื่องก็ชวนขนหัวรุก! แล้วอ่ะครับ
เราหาซื้อข้าวไปกินกันที่ห้องเพราะฝนเริ่มจะตกปรอยๆลงมาบ้างแล้ว
ถึงแม้ว่าจะตกไม่หนักก็เหอะก็ไอ้อี้นั่นดิครับเอาแต่บ่นๆๆ ของมันไปว่ากลัวเปียก
สาดเอ๊ย! อยู่ใต้ฟ้าแต่กลัวฝน 5555
พอถึงห้องปุ๊บก็เปิดหนังดูกันไปกินข้าวกันไป ก็เปิดดูหนังที่ผมเช่ามาก่อน
จนถึงตอนที่มันเปิดหนังผีผมก็ขอตัวไปนอนครับ
“เฮ้ยสาด! มาดูเป็นเพื่อนกูเลยมึง”
“โอ้ย! ไม่เอาหรอก มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบหนังผี”
“โด่ที่แท้ก็ตาขาวนี่เองสาด 5555”
มันหัวเราะเยาะเหมือนท้าทายผมครับหนอยๆๆๆ คนอย่างไอ้วินฆ่าได้หยามไม่ได้โว้ย!
ดูหนังผีก็ไม่ได้ทำให้ตายซะหน่อยนี่หว่าคิดได้ดังนั้นผมเลยอยากลบคำสบประมาทของมัน
“เออๆๆก็ได้วะสาด... งั้นกูขอไปเยี่ยวก่อน”
ผมพูดขึ้นมาด้วยความยั๊วะสุดๆทั้งๆ ที่ทุกครั้งที่ดูหนังผีผมจะฝันร้ายเสียทุกคืน
แต่คราวนี้ไม่ได้แล้วเพราะมีคนมาหยามกันแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด ตายเป็นตาย!
พอผมออกมาจากห้องน้ำมันก็ตบแปะๆที่ข้างๆ ตัวมัน
ซึ่งนั่งที่อยู่ข้างล่างเตียงเพื่อให้เอนหลังได้สบายๆ
“นั่งตรงนี้เลยมึงกันมึงหนีกูไปนอนก่อน”
“เชี่ยอี้เอาอย่างนี้เลยนะมึง”
“เออไม่อย่างนี้มึงเป็นหนีกูไปนอนก่อนอ่ะดิดูหนังผีคนเดียวมันจะสนุกที่ไหน ต้องดูหลายคนถึงจะดี”
พอหนังเริ่มดำเนินเรื่องมาได้หัวใจผมก็ยิ่งระรัวครับก็กลัวผีนี่ครับ 5555
แม่งหนังผีฝรั่งนี่ทำซะเหมือนและได้อารมณ์ขนหัวลุกมากๆ ครับ
จนกระทั่งมาถึงตอนกลางๆเรื่องฝนก็เทลงมาเหมือนฟ้ารั่ว แถมฟ้ายังผ่าอีกแน่ะ
มองออกไปข้างนอกหน้าต่างแสงฟ้าผ้าแล่บแปรบปราบวิ่งวาบไปทั่วฟ้า
แล้วทันใดนั้น!
“พรึ่บ!”
เมื่อไฟเกิดดับขึ้นมาอย่างกะทันหันโดยที่ผมสองคนก็ไม่ทันได้ตั้งตัว!!!
“บรื๋อ!”
“อึ๊ย!”
ไอ้อี้กับผมร้องขึ้นมาอย่างดังด้วยความสยองขวัญสุดๆ
แล้วเราสองคนก็ผวาเข้ากอดกันแบบอัตโนมัติโดยไม่ได้นัดกันไว้
มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ผมโดนมันทับอยู่ทั้งตัวในท่าคล่อมตัวผมไว้
ผมรู้สึกได้แค่ว่าตัวผมต้องรับน้ำหนักตัวที่เกือบ 70 กิโลของมันไว้
หน้าแนบหน้าจนรู้สึกร้อนผะผ่าวเป้านูนๆ ของมันดันที่หน้าท้องผมจนรู้สึกได้
ในขณะที่สองมือของมันก็กอดผมไว้แน่นด้วยความตกใจ!
ตอนนี้อารมณ์ตกใจหายใจแต่กลายเป็นรู้สึกอย่างอื่นขึ้นมาแทนซะแล้วดิครับ
ตาวาวๆ ของเราสองคนส่องประกายเพ่งมองกันในความมืดแล้วไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่อไอ้อี้โน้มหน้ามาประกบปากกับผม ด้วยสถานการณ์ที่พาไป ไม่รู้ว่าผมโดนมนต์สะกดหรืออะไรกันแน่!!!
แต่ที่แน่ๆ คือตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าได้สนองความต้องการที่เก็บกักเอาไว้มานาน
เลยดึงหน้ามันมาจูบปากอย่างลืมตัว
“อืมมม”
เสียงเราสองคนดูดปากกันซะร้องครางงึมๆ ออกมาจากลำคอ
แต่พอรู้ตัวผมก็รีบดันตัวมันออกด้วยความอายแล้วต่างก็มานั่งเขินกันไปมา
ก็พอดีกับที่ไฟกลับมาติดพอดีช่วงเวลาที่เกิดขึ้นมันเกิดเพียงเสี้ยวนาทีเท่านั้น
แต่กับผมมันช่างเนิ่นนานเสียเหลือเกินเพราะแค่ได้จูบปากกับไอ้อี้เพื่อนซี้หน้าหล่ออย่างมัน
แค่ได้จูบนิดเดียวผมก็รู้สึกว่ามันมีค่ามากๆ แล้วล่ะครับ แต่นี้แลกลิ้นกันซะน้ำลายยังคาปากอยู่เลย 5555
ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าอาการมันเป็นยังงัยแต่ที่แน่ๆ ผมน่ะโคดอายเลยว่ะ 5555
“มึงจะดูหนังต่อป่าววะ”
มันถามเสียงแปร่งๆ แหบพร่าน่าจะเกิดจากความอายเหมือนกัน
“ไม่อ่ะกูจะนอนแล้ว”
ตอบทั้งๆที่ยังหันหลังอยู่
“กูก็จะนอนเหมือนกัน”
ว่าแล้วมันก็เก็บหนังแล้วปิดไฟ แล้วเราก็ต่างก็แยกย้ายกันเข้านอน
ผมนั้นนอนหันหลังให้มันด้วยความอายโคดๆหัวใจยังไม่ทันหายเต้นดังๆ เลย
ไม่รู้ว่าผมกับมันจะเข้าหน้ากันติดอีกมั๊ยเนี่ยผมถอนหายใจออกมาดังๆ
ด้วยความรู้สึกผิดแต่ระหว่างที่ผมกำลังคิดๆ วนเวียนไปมาอยู่นั้น ไอ้อี้ก็ลุกจากเตียงมันแล้วขึ้นมาบนเตียงผม
“วินคืนนี้มันเย็นๆ ยังไงไม่รู้กูขอนอนด้วยได้ป่าววะ”
จึ๋ย! นี่มึงช่างกล้าเล่นกับไฟซะจริงๆเลยนะสาด ตอนนี้กูยิ่งคึกๆ อยู่ด้วย5555
ถ้าเกิดเรื่องอย่างว่าขึ้นอีกรอบนี้กูไม่มีกั๊กแล้วนะโว้ย 5555
“เตียงมึงก็มีทำไมไม่นอนวะสาดเตียงมันยิ่งเล็กๆ อยู่”
“เหอะน่าถอยไป!...ไม่ต้องพูดมากเลยมึง!... กูกลัวผี!!!”
“โด่!!!...ทีอย่างนี้ล่ะทำมาเป็นกลัว”
ถึงผมจะพูดอย่างนั้นก็เหอะแต่ก็ยังขยับให้มันมานอนด้วยอยู่ดี
นอนไปได้ซักพักมันก็ถามผมขึ้นมาเบาๆ
“สาดวินกูขอ...กูขอกอดมึงได้ป่าววะ”
แว๊ก! นี่มึงเป็นเหี้ยไรของมึงวะสาดผมคิดในใจดังๆ ด้วยใจระทึก
“อ่ะ...อะไรของมึงวะไอ้อี้!!!”
มันก็ทำหน้าเขินๆอ่ะครับ แต่ก็ไม่วายข่มขู่ผมอยู่ดี
“เหอะน่ามึงอยู่เฉยๆ ก็พอ”
“ไม่เอาโว้ยกูเขิน!!!”
“บ๊ะ! กูบอกให้อยู่เฉยๆ ไงสาด!!!... อย่าดิ้นดิ”
“ปล่อยกูๆ!!!...มึงเป็นเหี้ยไรเนี่ยสาด 5555”
ผมดิ้นไปมาด้วยความจั๊กกะจี้อ่ะครับ
แล้วมันก็กอดผมเป็นผลสำเร็จครับผมรู้สึกแค่ว่าตอนนี้หัวใจผมมันเต้นตึ่กตั่กๆ
เสียงดังเหมือนจะกระดอนออกมานอกปากเลยครับ
พอๆกับเสียงหัวใจของไอ้อี้ที่เต้นตุ่บๆๆๆๆ อยู่แนบกับหลังผม
แล้วมันก็พูดในสิ่งที่ผมไม่คิดว่ามันจะกล้าออกมาจากปาก
“วิน!!!...ถ้าเกิดกูจะทำอย่างว่ากะมึง...มึงจะว่างัย”
ผมถึงกับหูผึ่งเลยครับไม่คิดว่าคนอย่างไอ้อี้จะรู้สึกอย่างนี้กับผม
ด้วยความอายผมเลยนิ่งไปแต่ไอ้อี้กลับรุกหนักกว่าเดิม
มันกอดผมแน่นขึ้นไปอีกไม่กอดเปล่าด้วยดิ ซ้ำยังไซ้ที่ซอกคอผมจนผมเสียวจี้ดๆ ขึ้นมาตะหงิดๆ
“อย่าไอ้อี้!!!... มันไม่ดีนะโว้ย!”
ผมบอกมันไม่เต็มเสียงเท่าไหร่นักรู้สึกแค่ว่าเสียงที่พูดออกมามันเบาเสียจนแทบไม่ได้ยิน
และผมว่ามันก็คงจะรู้ว่าผมไม่คิดรังเกียจมันแม้แต่น้อย
มันไม่ได้ตอบผมแต่ดันตัวผมให้หันหน้ามาหามัน
แล้วทีนี้บทจูบของผมกับมันก็ไม่มีอะไรมาห้ามได้อีกต่อไป
เราสองคนดูดปากกันจ๊วบจ๊าบเหมือนคนตายอดตายอยากมานาน
สำหรับไอ้อี้ผมไม่รู้นะแต่สำหรับผมนั้นรสชาติของจูบ
และความเร่าร้อนของร่างกายมันเป็นสิ่งที่ผมเฝ้าคนึงหามานาน
เมื่อมันได้ปลดปล่อยออกมาความรุนแรงครั้งนี้เลยรุนแรงเสียจนผมสองคนแทบกระอัก
มันดันตัวผมให้นอนหงายแล้วเป็นฝ่ายรุกและไซ้ไปทั่วใบหน้าและลำตัวผม
สุดยอดอ่ะครับไอ้อี้ตอนนี้ยังกะม้าพยศที่กำลังวิ่งพล่านไปมา
มือไม้ของผมสะเปะสะปะลูบคลำไปตามหุ่นงามๆของไอ้อี้อย่างที่ใจปรารถนา
มันแน่นและเนียนน่าสัมผัสไปทั้งตัวแล้วผมก็รู้สึกว่ามือของผมมันไปกำที่เป้ากางเกงบ๊อกเซ่อร์ของมัน
ที่มีอาการแข็งจัดตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
รู้แต่ว่าแข็งชะมัดแถมใหญ่ยาวอย่างที่เคยๆ เห็นมาหลายต่อหลายครั้ง
แต่ทุกครั้งก็ไม่เคยกล้ามองนานๆ ซักที
และเมื่อมันมีโอกาสมือผมเลยทั้งกำทั้งถอกเล่นเอาไอ้อี้ครางกระเส่าเลยครับ
“อาๆๆๆ!!!...ซี้ดดดดด!!!”
เสียงครางอย่างได้อารมณ์ของมันดังกระหึ่มอยู่ข้างๆหูผมอย่างได้อารมณ์
กลิ่นตัวแมนๆของมันระเหยเข้าจมูกผมซะผมหน้ามืด แล้วมันก็กระซิบข้างๆหูผม อย่างมีอารมณ์
“มึงช่วยดูดควยให้กูหน่อยได้ป่ะ!!!”
ผมไม่ตอบแต่ดันตัวมันให้มาคล่อมที่หน้าผมแล้วดึงบ็อกเซ่อร์ออกไปทางปลายเท้า
แล้วควยดุ้นใหญ่ยาวสวยสมตัวมันก็เด้งดีดใส่หน้าผมดังปั๊ก!
ผมทั้งดมทั้งไซ้ตามดุ้นควยใหญ่ๆกลิ่นที่ชวนถวิลหาเป็นที่สุด
ผมดูดไข่เลียควยมันด้วยความเมามัน พอไอ้อี้เจอไม้นี้เข้าก็ถึงกับครางระงมอย่างกะไม่เคย
เอวก็เด้งควยเข้าหาปากผมผลุบๆๆๆอย่างใจร้อน
และครั้งนั้นนั่นแหละผมถึงได้รู้ว่าจุดอ่อนของมันอยู่ที่การโดนเลียควยกับดูดไข่
รสควยดุ้นสวยของไอ้อี้ช่างอร่อยจนผมลืมไม่ลงมาจนบัดนี้ทีเดียว
เพราะมันทั้งสะอาดและมีกลิ่นไอของความเป็นชายแท้ๆ
มันดันควยเข้าปากผมแต่ละทีเล่นเอาผมตาแทบเหลือกเพราะดันเข้ามาเกือบมิดด้าม
ก็ขนาดควยมันเล็กเสียที่ไหนตั้ง 7 นิ้ว!!! กว่าๆ ทั้งใหญ่ทั้งยาว!!!
แต่ด้วยอารมณ์ที่พาไปเลยตามน้ำครับไม่ได้ห้ามมันมันอยากจะทำยังงัยก็แล้วแต่มัน
มันถูกผมดูดควยจนมันพอใจมันแล้วมั๊งมันเลยจับผมนอนคว่ำหน้าแล้วยกก้นผมขึ้นจนโด่ง
“กูขอเย็ดตูดมึงนะ!!!”
มันขอผมเบาๆด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ปนหื่น เล่นเอาใจผมเต้นตึ่กตั่กๆ ขึ้นมาอีกรอบครับ
เมื่อรู้ว่าต้องโดนควย 7 นิ้วของไอ้อี้ทะลวงตูดชัวร์ๆ
ผมไม่พูดแอ่นตูดรอควยมันแล้วแต่ความต้องการของมัน
แล้วทีนี้มันก็ดันควยหัวบานๆเข้ามาในตูดผมช้าๆ แต่ว่าเรื่อยๆ
มันมุดเข้าถ้ำผมมาทุกทีระหว่างนั้น ทั้งผมทั้งมันต่างร้องครางอือๆ ออกมาด้วยความรัญจวนใจ
“อืออออ!!!...ซี้ดดดด!!!”
ผมมารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่มันเริ่มเด้าเอวช้าๆเนิบๆ กระแทกตูดผม
มือไม้ของมันก็บีบบี้ไปมาตามเนื้อตัวผมอย่างได้อารมณ์
กลิ่นตัวมันตอนนี้ช่างเร้าอารมณ์ผมจนแทบกระเจิง!!!
แล้วยังเสียงหอบกระเส่านั่นอีกล่ะที่ดังอยู่ข้างๆ หูผมฟังแล้วโดคไอ้อารมณ์!!!
“วิน!!!...กูเสียวควยว่ะ!!!...มึงมันเหมือนกูมั๊ย”
“อือออ!!!...ดีว่ะอี้ มึงช่วยเย็ดเร็วๆ ...กว่านี้ได้มั๊ยวะ!!!”
สันดานร่านของผมมันปะทุขึ้นมาแล้วก็ยากที่จะปิดได้อีกต่อไปครับ
เพราะอารมณ์อยากให้เป็นแบบไหนมันพูดออกมาซะหมดเปลือก
แถมไอ้อี้ยังชอบใจเสียด้วยสิพอผมบอกให้มันทำยังงัยมันก็ทำตามได้ถูกใจผมสุดๆ
จนความร่านมันบังตาสุดๆแล้ว ผมเลยผลักให้มันนอนหงายควยดุ้นใหญ่ยาวตั้งเด่
อย่างน่าดูชมนี่ขนาดว่าเห็นมันในความมืดแล้วนะ ยังรู้สึกได้เลยว่ามันเซ็กส์โคดๆ
ผมเลยรีบกระโดดขึ้นไปนั่งควยมันทันที
“อู้ว!”
มันร้องครางออมาจากปากเมื่อตูดผมครอบส่วนหัวที่บานๆของมันเข้าไปทั้งหัว
“ดีว่ะวิน!!!...ซี้ดดดด! ขย่มแรงๆ เลย อู้ววว!”
ผมได้ยินดังนั้นก็เร่งควบควยมันใหญ่ยิกๆๆๆสองมือก็บีบคลำกล้ามงามๆ ของมันอย่างเมามัน
พอๆ กับที่มันบีบนวดไปมาทั้งตัวผม
แล้วตอนที่น้ำมันจะแตกมันก็กดเอวผมไว้แน่นแล้วเร่งสวนควยเข้าหาตัวผมทั้งเร็วทั้งแรงแบบยิกๆๆๆ!!! เลยครับ
“จะออกแล้วๆ!!! น้ำกูจะออกแล้ว!!! ซี้ดดดด!!!”
ผมลงไปกอดรอบคอมันแน่นด้วยความเสียวสุดๆไม่แพ้มัน
“อ้าซ์!!!”
ตัวไอ้อี้กระตุกถี่ๆแล้วปลดปล่อยน้ำเงี่ยนของมันเข้ามาในตัวผมหลายชุด
พอมันเสร็จมันก็หอบหายใจฮั่กๆอย่างเหนื่อยอ่อน
หน้าตามันตอนน้ำแตกครั้งนั้นผมยังจำไม่ลืม ว่ามันเป็นผู้ชายที่หล่อและมีเสน่ห์น่าหลงไหลซักแค่ไหน
เราสองคนกอดกันกลมด้วยความเหนื่อยล้าแต่ว่าสุขอย่างที่สุด!
ผมลงไปนอนข้างๆ มัน ไอ้อี้ก็ดึงผมเข้าไปกอด แล้วหอมแก้มผมฟอดใหญ่
“มึงอย่าโกรธกูนะ”
ผมก็ส่ายหัวไปมาเป็นคำตอบว่าไม่โกรธ แล้วมันก็ไม่ลืมที่จะช่วยว่าวให้ผมน้ำแตกตามไปด้วย
บอกได้คำเดียวว่าเสียวมากๆ เลยครับ เพราะเป็นครั้งแรกด้วยที่ผมกับมันได้สัมผัสควยกัน
คืนนั้นเราสองคนก็นอนกอดก่ายกันไปจนถึงเช้า
พอเช้ามามันก็หน้าตาแจ่มใสยังกะเพิ่งผ่านคืนเข้าหอมาหมาดๆ ยังงัยยังงั้นเลย
ไม่ได้เป็นอีกอย่างที่ผมคิดซักนิดว่าจะเข้าหน้ากันไม่ติด ที่ไหนได้ซี้ปึ๊กกันกว่าเก่าซะอีกแฮะ 5555
“เมื่อคืนสุดยอดไปเลยว่ะสาดวิน!!!...ไม่ยักรู้ว่าลีลามึงจะเด็ดอย่างนี้!!!”
มันเข้ามากอดเอวผมแน่นแล้วเอาคางมาเกยที่ไหล่ผมแล้วคลอเคลียไปมา
คางที่เริ่มมีหนวดแข็งๆ ของมันทิ่มที่คอผมจนเริ่มเสียวขึ้นมาอีกรอบซะแล้วซิ
ก็ดีครับเมื่อมันไม่อาย แล้วผมจะอายทำมัยจริงป่าว 555
หลังจากนั้นเราก็ได้มาคุยกันอย่างเปิดอก ก็ทำให้ผมได้รู้ว่ามันน่ะรู้สึกดีกับผมมาตลอดตั้งแต่เรียนอยู่ ม.4 โน่นแหละ
ในทุกๆ ครั้งที่ผมทำดีกับมัน มันบอกว่ามันรู้สึกดีมากๆ จนมันเองก็รู้สึกแปลกๆ
ตอนแรกก็นึกว่าแค่เพราะความผูกพันฉันเพื่อน ไม่ได้คิดว่าจะชอบกันแบบนี้
แต่ความรู้สึกอย่างว่ามันก่อตัวรุนแรง ก็ตอนที่เหลือเราแค่สองคนก็ตอนที่มาอยู่หอด้วยกันนี่แหละ
ส่วนผมก็บอกมันไปตรงๆ ว่าผมก็ชอบมันเหมือนกัน
แต่เพราะผมกับมันเป็นเพื่อนกัน แถมยังเป็นผู้ชายด้วยกันอีก
ผมเลยไม่กล้าแสดงออกให้มันรู้ว่าผมน่ะชอบมันมากแค่ไหน
พอสารภาพกันไปเราก็หัวเราะขำ ๆ กันสองคน คิดไปคิดมาก็รู้สึกว่า “เส้นผมบังภูเขา” แท้ๆ
รักกันชอบกัันแต่ก็ไม่ยักรู้ว่าต่างฝ่ายต่างชอบกัน
หลังจากนั้นผมกับมันก็เย็ดกันเป็นประจำ ก็ว่าไม่ได้นี่ครับเพราะพวกเราก็อยู่ในวัยรุ่นวัยกำลังเย็ดทั้งคู่
ไหนจะมาอยู่ห้องเดียวกันอย่างนี้อีก พอเกิดคึกกันขึ้นมามันก็สะกิดให้ผมดูดควยให้ทุกที
บทเย็ดของไอ้อี้นั้นถือว่ายอดทีเดียวครับ! ก็อย่างว่าแหละมันก็มีประสบการณ์กับหญิงมาตั้งหลายคนนี่นะ
ก็รู้ๆ กันอยู่ว่ามันน่ะหน้าหม้อแค่ไหนแล้วคนหน้าหม้อถ้าเย็ดไม่เก่ง ก็จบ ว่ามั๊ยครับ
แต่ไอ้อี้มันเป็นผู้ชายประเภทมีความต้องการแบบจำกัดอ่ะครับ
คือไม่ได้บ้าเซ็กส์เหมือนผมที่เงี่ยนแม่งได้ทุกวัน 5555
แต่ผมก็จะกวนมันไม่บ่อยนักหรอกครับเพราะยังงัยมันก็ผู้ชาย
เกิดกวนมันบ่อยๆ มันเบื่อผมขึ้นมาล่ะก็เซ็งแย่
เคล็ดลับในเรื่องเซ็กส์อร่อยของผมกับมันก็คือไม่ให้มันเย็ดตูดบ่อยครับ
ส่วนมากจะโม๊คให้มันจนน้ำแตกเสียมากกว่า
คือได้บทเรียนมาจากพี่ชาติอ่ะครับเพราะตอนที่อยู่กับพี่ชาติ
โดนแกเย็ดทุกวันจนหลังๆ แกดูเฉื่อยๆ ไป พึ่งมารู้หลังๆ นี่เองว่าเกิดจากความซ้ำซาก
แต่พอห่างๆกันไป แล้วมาเจอกันที ก็เย็ดกันมันเพราะไม่ค่อยได้เจอบ่อยๆ งัย
และต่อมาไอ้อี้มันเป็นคนที่ผมทั้งรักทั้งหลงเลยก็ว่าได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น