วันจันทร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เรื่องเซ็กส์ของเด็กร่าน บทที่ 154 มิงกะลาบาเมียนม่า (1)

"มิงกะลาบา”  ขอสวัสดีเป็นภาษาพม่านะครับ เพื่อนๆ นักอ่านทุกคน


แล้ววันนึงผมก็มีโอกาสไปเที่ยวประเทศพม่า!
เมื่อหม่องลองกิ๊กพม่าของผมต้องกลับบ้านเกิดที่ประเทศพม่าหลายวัน
เพื่อไปรับน้องสาว น้องเขย ให้มาทำงานด้วย

ช่วงที่หม่องลองกลับพม่าตรงกับช่วงที่มีวันหยุดยาวหลายวันพอดี
หม่องก็เลยชวนผมให้ไปเที่ยวพม่าด้วย เพราะเคยได้ยินผมพูดถึงพม่าอยู่บ่อยๆ
แต่ผ่านมาแล้ว 4 ปีก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปเพราะติดปัญหาหลายอย่าง
แต่ครั้งนี้ที่ได้ไปเพราะผมก็รู้สึกว่าตัวเองโตมากพอที่จะได้ออกไปนอกประเทศบ้าง

การนำชาวต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศเริ่มมีมานับสิบๆ ปี
และภาคธุรกิจก็ยิ่งมีความต้องการมากขึ้นทุกๆ ปี เพราะแรงงานในประเทศไทยเริ่มจะไม่พอ

และคนต่างด้าว ต่างชาติ ก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดีปะปนกันไป
โดยเฉพาะข่าวหน้าหนึ่งมีให้เห็นอยู่บ่อยๆ ทั้งคนพม่า คนลาว คนเขมร

แต่ที่ผมกล้าตัดสินใจไปเที่ยวพม่า กับหม่องลองในครั้งนั้น ก็เพราะความสนิทสนมกันมาหลายปี
รู้นิสัยใจคอกันเป็นอย่างดี แม้กระทั่งเรื่องของครอบครัวเขา

ที่เกริ่นนำดูจริงจังไปหน่อยก็เพราะ อยากให้มองหลายๆ ด้าน ไว้ก่อนครับ
เพราะไม่ว่าจะคนไทย หรือคนต่างชาติ ก็ย่อมมีทั้งคนดี และคนไม่ดีปะปนกันไป
การจะเชื่อใจกันได้ บางทีแค่รู้สึกว่าดีอาจจะไม่พอ
คือต้องมองกันหลายๆ ด้านไม่อย่างนั้นก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาได้

คือที่เล่าเรื่องคนพม่าอย่างหม่องลองมาหลายตอน เพราะเขาเป็นคนที่คบจริงๆ ครับ
เพราะตอนนั้น จริงๆ ผมรู้จักหนุ่มพม่าอยู่หลายคนที่ยังไม่ถึงตอนเล่าก็มี ที่ผ่านมาก็มีแต่ไม่ได้เล่า
เพราะบางคนก็ไม่น่ารัก ไม่สร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นเลยก็มี
ที่ผมคบหาแต่หม่องลอง ก็เพราะรู้ว่าเขาเป็นคนน่าคบหาอย่างที่บอกนี่แหละครับ

นอกเรื่องนิดหน่อยนะครับ เพราะไม่อยากให้ชาวเกย์อย่างเรามีมุมเดียวคือมองโลกในแง่ดีเท่านั้น
อยากให้มองหลายๆ มุม หลายๆ ด้าน เพราะขนาดเหรียญยังมี 2 ด้านเลย จริงไหมครับ

ถามว่ากลัวไหมสำหรับารเดินทางไปประเทศที่ยังมีปัญหาการเมืองภายใน(ณตอนนั้น)
ก็ต้องพูดตรงๆว่ากลัวนะ เพราะตอนนั้นผมแค่เด็ก อายุ 22
นี่ถ้าพ่อแม่รู้เข้าว่าแอบไปเที่ยวพม่าโดยไม่บอกรับรองเป็นเรื่องแน่ๆ!!!

แต่ทำไงได้ล่ะครับก็คนมันอยากไปนี่ให้ยอมโกหกทุกคน ทั้งแฟน ทั้งเพื่อน ผมก็ยอมแหละ
(เป็นการกระทำที่ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะครับ)

แต่เพื่อให้หลายๆ คนไม่วิตกกันไปด้วยความตกอกตกใจ ขอบอกนะครับ
ว่าไม่มีความน่ากลัวหรือเกิดเหตุร้ายกับผมแน่นอนครับ เพราะมีแต่ความเสียวล่ะไม่ว่า 5555
รู้อย่างนี้แล้วไปอ่านกันเลยครับ

.............................................................................................

การเดินทางเข้าพม่าครั้งแรกของผมช่างเป็นประสบการณ์ที่น่าค้นหาและตื่นเต้นสุดๆ!
เพราะการได้มาเห็นผู้คนเห็นบ้านเมือง ประเพณี และสังคม ที่ดูแปลกออกไป

เมื่อหลายปีก่อนการเดินทางภายในประเทศพม่ายังไม่สะดวกสบายเหมือนอย่างในปัจจุบัน
เราเลยต้องนั่งรถไฟไปกันไป เพราะนอกจากราคาที่ถูกแล้ว ยังได้เห็นบ้านเมืองเขาอย่างลึกซื้งนั่นเอง

ทุกนาทีของการเดินทางของผมมีแต่ความน่าสนใจสนุกตื่นเต้นตลอดการเดินทาง
ผมเลยกดถ่ายรูปจนเพลินไปเลยครับ

พอได้เข้าสู่แผ่นดินพม่าก็ได้เห็นผู้คนบ้านเมืองพม่าอย่างเด่นชัด
คนพม่า ขยันขันแข็ง ผู้ชายผิวค่อนข้างคล้ำจัด โดยเฉพาะคนที่ทำงานตากแดดทั้งวัน
มิน่าหนุ่มพม่าจึงดูแข็งแรงและมีความ แข็งแรง อึด ทน ดีชะมัด อิอิอิอิ

สิ่งทีเห็นจนเป็นเอกลักษณ์ให้รู้ว่านี่คือพม่าก็คือ
ผู้ชายจะนุ่ง โสร่ง กันทุกคน เห็นพวกเขานุ่งแล้วเสียวแทนกลัวว่าจะหลุด
แต่ถึงอยากเห็นแค่ไหนก็อดครับ เพราะไม่ยักกะหลุดให้ได้เห็นของดีซักที 5555

ผู้หญิงนิยมไว้ผมยาวไม่นิยมตัดสั้นแล้วรวบมัดไว้
ทั้งเด็กและผู้ใหญ่นิยม “ทานาคา” ซึ่งเป็นแป้งพม่าแบบที่เราเห็นจากทีวีและภาพถ่าย
แต่ก็เห็นเด็กผู้ชาย และ หนุ่มๆ พม่าบางคนทากันอยู่ถมไป

ผู้หญิงพม่านิยมนุ่งผ้าถุงเหมือนตามต่างจังหวัดของบ้านเรา
ที่เด่นๆ จะเป็นผ้า “ลุนตยา” ซึ่งเป็นผ้าลายคลื่น บ้างก็เป็นลายดอกไม้ สีสันสดใสสวยงาม
แต่เนื่องจากราคาของผ้าลุนตยาราคาค่อนข้างแพง เหมือนๆ ผ้าไหมของไทยนั่นแหละครับ
ชาวบ้านธรรมดาจึงไม่ค่อยนำมาใส่กัน นอกซะจากเป็นเวลาไปวัด หรือใส่ในงานสำคัญๆ

การที่ได้หม่องลองพาเที่ยวพม่าในครั้งนี้จึงถือว่าสบายใจและปลอดภัยที่สุด
เพราะตลอดการเดินทางมีหม่องลองนี่อุ่นใจสุดแล้วครับ
เพราะปีที่ผมไปพม่ากำลังมีปัญหาหลายอย่างภายในประเทศมาตั้งแต่สมัยที่อังกฤษคืนเอกราชให้พม่า

พม่ามีคนหลายเผ่า หลายรัฐ ซึึ่งต่างก็เคยมีเอกราชในการปกครองตนเองมาก่อน
จนกระทั่งถูกอังกฤษเข้าปกครองจึงถูกรวมเข้ากับพม่า

ตาม "ความตกลงเวียงปางหลวง" ที่ทำขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2489
พม่าทำสัญญากับรัฐฉาน(ไทใหญ่)ให้รวมประเทศเข้ากับพม่า เพื่อเรียกร้องเอกราชจากอังกฤษ
แต่พออังกฤษคืนเอกราชให้ในปี พ.ศ. 2491
ทั้งรัฐฉาน และหลายๆ รัฐก็ยังไม่สามารถแยกออกปกครองตนเองได้ตามที่ได้ตกลงกันไว้

นั่นทำให้เกิดความไม่พอใจของรัฐต่างๆ จึงเกิดการต่อต้านรัฐบาลทหารพม่ามาโดยตลอด
ทั้งรัฐฉาน(ไทใหญ) รัฐชิน รัฐกะเหรี่ยง และอีกหลายๆ รัฐ ที่แวดล้อมอยู่รอบๆ โดยมีพม่าอยู่ตรงกลางประเทศ

ข่าวที่ได้ยินทำให้พม่าดูเหมือนจะน่ากลัวเหมือนกับว่าเป็นประเทศที่ไม่น่าไว้วางใจ
แต่ในความเป็นจริงประเทศนี้กลับซ่อนความน่าสนใจ ความสวยงาม เอาไว้อย่างมากมาย
ด้วยพม่าเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่และมีอารยอย่างยาวนาน
เลยมีสถานที่ เช่น โบราณสถาน ผู้คน บ้านเมือง ศิลปะ วัฒนธรรม ป่าไม้
รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งที่ยังไม่ได้ถูกรบกวน และทรัพยากรมีค่าอีกมากมาย

เมื่อหลายปีก่อนตอนที่ยังเป็นนักศึกษาการจะทำแบบนั้นได้นั้น ขอบอกว่าค่อนข้างยาก
ผมถึงได้ยกความดีความชอบให้กิ๊กพม่าของผมทำให้ไปเที่ยวด้วยความอุ่นใจจริงๆ

เรานั่งรถไฟผ่านถนนสายหลักจากตอนใต้ของประเทศมุ่งขึ้นเหนือ
ผ่านแต่ละเมืองที่ล้วนแต่เคยมีประวัติสำคัญ เพราะหลายๆ เมืองเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศมาก่อนทั้งนั้น

ตลอดเส้นทางที่ผ่านเป็นหมู่บ้าน เป็นเมือง เป็นทุ่งนา เป็นป่าเขา หุบเหวลึกๆ และมีแม่น้ำอยู่เป็นระยะๆ
พม่ายังมีความเป็นธรรมชาติอยู่มากจริงๆ ครับ ถ้าเทียบกับลาวแล้วเจริญกว่ากันเยอะ
เพราะเป็นอาณานิคมของประเทศอังกฤษและมีพื้นที่ติดทะเล
ตึกรามยุคอาณานิคมที่ดูเก่าแก่ทรงคุณค่ากำลังทรุดโทรมเพราะขาดการดูแล

จนกระทั่งรถไฟวิ่งเข้าสู่แถบตอนกลางประเทศแผ่นดินเป็นที่ราบและดูแห้งแล้ง
ดูไปก็ไม่ต่างจากแถบภาคอิสานในช่วงฤดูแล้งทั้งแล้งและร้อนจัด
ร้อนจนเหงื่อผมชุ่มไปทั้งตัวเพราะตอนกลางวันแดดร้อนเปรี้ยงทั้งที่เป็นช่วงหน้าหนาว

“ร้อนไหมครับ”
นั่งๆ ไปหม่องลองก็ถามด้วยความเป็นห่วง

“ร้อนครับ...แต่แค่นี้สบายๆ”
ผมตอบตรงๆเพราะเหงื่อออกเต็มหน้าขนาดนั้นแล้วไปบอกว่าไม่ร้อน
ก็คงจะเหมือนเป็นการโกหกหม่องลองมีสีหน้าห่วงๆ

“ลำบากหน่อยนะครับ...พม่าไม่สบายเหมือนประเทศไทย”
“มันก็ไม่ได้ลำบากอะไรขนาดนั้นหรอกครับ...ผมชอบ...ผมทนได้...ไม่ต้องห่วง”
ผมตอบแบบชิลๆ ถ้าได้เที่ยวนี่ให้ลำบากกว่านี้ก็ยอมล่ะ 555

หม่องเห็นหน้าผมดูมีความสุขก็ยิ้มตามเราก็นั่งพูดคุยกันไปด้วยภาษาไทยบ้าง
บางคำ ผมพอพูดได้ผมก็พูดพม่ากับเขาบ้าง แต่พูดไปหม่องลองก็ขำสำนวนของผม

คนพม่าที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ก็มองเราสองคนด้วยความสนใจ แต่มองแล้วเขาก็แค่ผ่านๆ ไป
เพราะคนพม่าไม่ชอบสนใจเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตัวเองทีแรกที่มองคงเห็นว่าพวกเราดูแปลกตามากกว่า

หม่องลองเองที่เป็นคนในประเทศพอเขามาทำงานที่ประเทศไทย
เขาไม่ค่อยได้เจอลมเจอแดดแรงๆ ผิวที่แท้จริงของเขาก็เลยยิ่งเด่นชัด
คือผิวหม่องลองค่อนข้างสะอาดไม่ได้ขาวมากแต่ดูนวลๆแบบหนุ่มผิวพรรณดี
การแต่งตัวที่ดูทันสมัยถึงแม้จะใส่เสื้อผ้าราคาถูกก็ตาม แต่คนมันดูดีถึงจะใส่เสื้อผ้าถูกๆ ก็ยังดูดีน่ามองครับ
นั่งรถกันเป็นวันๆ ในที่สุดก็ถึงที่หมายอย่างปลอดภัยครับ
บ้านของหม่องลองอยู่ในเขตของ “รัฐฉาน” หรือ รัฐไทใหญ่ ซึ่งรัฐนี้จะอยู่ทางภาคตะวันออกของพม่า

โดยมี "เมืองตองยี" เป็นเมืองหลวงของรัฐ
ซึ่งไทใหญ่มีความเกี่ยวข้องกับไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ

โดยเริ่มมีความเกี่ยวข้องกันมาตั้งแต่สมัย "พ่อขุนมังราย" ตีได้อาณาจักรไทใหญ่
จึงส่งพระโอรสองค์หนึ่งให้มาครอง “เมืองนาย” ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ในตอนนั้น
หลังจากนั้นไทใหญ่จึงเป็นเมืองลูกหลวงของล้านนานมาตลอด
จนกระทั่งเข้าสู่ยุคที่อาณาจักรล้านนาอ่อนแอ(ยุคบุเรงนอง)ตั้งแต่นั้นไทใหญ่ก็ถูกพม่าเข้าปกครองแทน

จนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เจ้าฝ่ายเหนือของล้านนาก็มีความสัมพันธ์แบบเครือญาติ กับเจ้าเชียงตุง
ถึงกับมีการแต่งงานกันขึ้นของ เจ้าหญิงลำปาง กับ เจ้าชายเชียงตุง และก็ เจ้าชายเชียงใหม่ กับ เจ้าหญิงเชียงตุง

ซึ่งแต่ก่อนเมืองเชียงตุงเป็นเมืองใหญ่ เป็นเมืองหลวงของรัฐไทใหญ่
แต่รัฐบาลพม่าเห็นว่าเชียงตุงเอาใจฝักใฝ่ประเทศไทยมากเกินไป
จึงถูกพม่ายกเมืองตองยีที่อยู่ใกล้เมืองมัณฑะเลย ยกขึ้นเป็นเมืองหลวงของรัฐแทนซะเลย

และนอกจากนี้ประเทศไทยยังได้ปกครองรัฐไทใหญ่ในช่วงสงครามโลก
ในยุคที่ญี่ปุ่นกำลังมีอำนาจไปทั่วเอเชีย
แต่พอญี่ปุ่นแพ้สงคราม ไทยจึงต้องคืนรัฐไทใหญ่ให้กับสหประชาชาติไป
นั่นคือความเกี่ยวพันกันของ ประเทศไทย กับ รัฐไทใหญ่ ตามที่กล่าวมาข้างต้นครับ

ประชากรที่รัฐไทใหญ่มีหลายเผ่า โดยที่คนไต หรือ ไทใหญ่ มีประชากรมากที่สุด
รองลงมาคือ คนพม่า คนจีน กะฉิ่น คนพม่าเชื้อสายอินเดีย ชาวดะนุ ชาวอินทา
ชาวปะหล่อง ชาวปะโอ ไทลื้อ ไทเขิน คำตี่และไทดอย

หมู่บ้านของหม่องลองอยู่ในเขตรัฐไทใหญ่ก็จริงแต่อยู่จนเกือบสุดเขตไทใหญ่
และพ่อของหม่องก็เป็นคนพม่าแท้ๆ แต่แม่ของหม่องลองเป็นชาวอินทา ที่อยู่แถวทะเลสาบอินเล

เนื่องจากพื้นที่นี้เป็นเขตติดต่อกันของ 2 รัฐ คือรัฐมัณฑะเลย์ที่เป็นพม่าแท้ๆ
และรัฐนี้ก็เป็นที่ตั้งของเมืองหลวงเก่าแก่ ยิ่งใหญ่ อยู่หลายเมือง
ทั้งอาณาจักรพุกาม เมืองอังวะ เมืองอมระปุระ และ เมืองมัณฑะเลย์

รัฐไทใหญ่เป็นรัฐทางทิศตะวันออกของประเทศ เป็นอาณาจักรของคนไต
มีพื้นที่ติดกับ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงรายระยะทางหลายกิโลเมตร
คนเหนือ จะชอบเรียกไทใหญ่ ว่า "เงี้ยว" ถ้าทำตัวไม่ดี เพราะถือว่าเป็นคำที่ไม่สุภาพ
คล้ายๆ กับที่เรียกคนจีน ว่า "เจ๊ก" หรือเรียกชาวม้ง ว่า "แม้ว" นั่นแหละครับ

อาณาจักรไทใหญ่ในอดีตเป็นอิสระมีเอกราชในการปกครองตนเองมานับพันปี
โดยแต่ละเมืองจะมีการปกครองด้วยระบบ “เจ้าฟ้า” เหมือนทางภาคเหนือของไทยที่เรียก "เจ้าหลวง"

ไปถึงบ้านของหม่องลอง พ่อ-แม่น้องชาย น้องสาว และน้องเขย ก็มารอหม่องลองกันอย่างดีใจ
เพราะไม่ได้เจอหน้ากันเป็นปีๆ ชาวบ้านที่เป็นเพื่อนบ้าน
ต่างก็เดินมาทักทายหม่องลองกันเต็มหน้าบ้านไปหมดจนฟังไม่รู้เรื่อง

เสียงพูดคุยกันของคนในครอบครัวเห็นแล้วมีความสุขมากๆ ครับ
แม่กับน้องสาวของหม่องลองถึงกับน้ำตาไหลกันเลยทีเดียวเห็นแล้วก็เป็นปลื้มตามไปด้วย

พ่อของหม่องลองอายุเกือบ 50 ผิวเข้ม หุ่นแข็งแรง และนิยมนุ่งโสล่ง
แม่ของม่องลองอายุ 40 ต้นๆ ผิวขาวเนียนเหมือนคนจีนไม่ได้คล้ำเหมือนคนพม่า
สังเกตดูหม่องลองดูเหมือนแม่มากทั้งตาที่ดูอ่อนโยน จมูกสวย และผิวที่สะอาด

หม่องลองมีพี่น้อง 5 คน เขาเป็นลูกชายคนโต
มีน้องสาว 2 คน และน้องชาย 2 คน
น้องสาวคนแรกแต่งงานมีสามี และลูกแล้ว ตอนนี้ย้ายออกไปอยู่ที่บ้านสามี
วันนี้พาลูกพาผัว มารับพี่ชายโดยเฉพาะ

น้องสาวคนรอง ชื่อ “นุนุ” อายุ 20 พึ่งจะแต่งงานได้ไม่นาน
และน้องสาวคนนี้แหละที่หม่องลองจะพาไปทำงานด้วยที่เชียงใหม่

น้องชายคนที่ 4 ชื่อ "หม่องมีน" อายุ 17 ปี ใกล้จะจบเทียบเท่า ม.6 ของไทยแล้ว
โดยที่หม่องลองคอยส่งเสียให้เรียน หม่องมีนหน้าตาดูละอ่อน ใสๆ คล้ายๆ หม่องลอง
แต่มีผิวที่เข้มกว่าเยอะเพราะต้องใช้ชีวิตตากแดดตากลมตลอด
แต่ถึงอย่างนั้นก็มีหุ่นที่ดูแน่นล่ำแข็งแรง เห็นเขานุ่งโสล่งสีเข้มๆ ดูแล้วเซ็กซี่ น่าชม

น้องชายคนสุดท้องของหม่องลองอายุ 14 ตอนนี้บวชเณรอยู่ที่วัด
วันนี้ออกจากวัดเพื่อมารอรับพี่ชายโดยเฉพาะ
หน้าตาของเณรน่ารักใสๆ ตามประสาเด็กกำลังโต
อยากบอกว่าบ้านนี้หน้าตาดีกันทั้งบ้านจริงๆ ครับ

เห็นพ่อแม่พี่น้องของหม่องลองที่ดูมีความสุขผมก็รู้สึกดีตามไปด้วย
จนพอมาเห็นน้องเขยของหม่องลองที่ชื่อ “หม่องเท” (ผัวของนุนุ)เท่านั้นแหละ!
ก็ทำเอาผมถึงกับชอบใจมองตามตาเป็นมันไปเลยครับ!

หม่องเท อายุ 23 เป็นชาวอินทา ผิวแดงเข้ม หน้าตาคมคาย
คือหน้าตาโดนใจผมสุดๆไปเลยครับ ปิ๊งเลย!
เขามีคิ้วที่เข้มแววตาอ่อนๆ จมูกโด่ง ปากหนาเซ็กส์ๆ

และมีบุคลิคมาดแมนสมชายเห็นแล้วชอบใจจริงๆครับ ผู้ชายคนนี้
หุ่นหม่องเทดูบึกบึนแข็งแรง ไปทั้งตัว คือหุ่นแข็งแรงสวยแบบธรรมชาติจริงๆ ครับ สุดยอดมากๆ!!!
คงเพราะออกกำลังกายทำงานหนักๆ กันตลอดเลยหุ่นล่ำแข็งแรงมากๆ

หม่องเทไม่ได้นุ่งโสร่งเหมือนคนอื่น เพราะเป็นครอบครัวเป็นชาวอินทา
แต่ใส่กางเกงขาก๊วยแบบที่นิยมของภาคเหนือของไทย
เพราะล้านนากับไทใหญ่มีวัฒนธรรมเหมือนกันหลายอย่าง

ผมเห็นหุ่นของเขาแล้ว บอกเลยว่าเขาใส่อะไรก็ดูน่าชมสุดๆ ครับ!
ก็คนมันหล่อ มันแมน นี่นะ ใส่อะไรก็น่ามองไปหมด
พอเห็นหุ่นเห็นหน้าตาของหม่องเทอยากบอกว่าอิจฉานุนุน้องสาวของหม่องลองสุดๆ
ที่นางได้ผัวหล่อคม แมนๆ น่าเย็ดโคดๆ! อย่าให้เผลอนะพี่จะขอแย่ง อิอิอิ (แร่ดมาก!!!)

พอ พ่อแม่-ลูก และ พี่-น้อง ต่างพูดคุยกันอย่างยินดีในการกลับบ้านของหม่องเสร็จ
หม่องก็แนะนำผมให้รู้จักกับครอบครัวของหม่องผมก็ยกมือไหว้พ่อแม่หม่องไป
พ่อแม่ของหม่องก็ยิ้มๆ อย่างใจดีแล้วชวนผมเข้าบ้าน

(มารู้ทีหลังว่าหม่องลองเล่าเรื่องของผมให้ครอบครัวฟังอยู่บ่อยๆ
ว่าตอนทำงานอยู่ที่ประเทศไทยมีผมที่เป็นเพื่อนคนไทยและคบกันมาหลายปี)

บ้านของหม่องลองเป็นบ้านสองชั้น
อยากจะบอกอีกว่าไม่ต่างจากแถวต่างจังหวัดของไทยเลยซักนิดครับ
แต่ผนังบ้านเป็นไม้ไผ่ขัดแตะสานอย่างแน่นหนา

คงเพราะไม้ในประเทศนี้มีราคาแพงมากๆ แพงแม้กระทั่งไม้ไผ่
การที่จะสร้างเป็นบ้านไม้ทั้งหลังจึงมีเฉพาะคนที่ฐานะดีเท่านั้น

ตอนเข้าไปนั่งในบ้านก็พูดคุยกันไปอย่างมีความสุข เสียงพูดคุยกันเป็นภาษาพม่าที่เร็วรัวจนผมฟังไม่ทัน
แต่ก็พอจับความได้ว่าเป็นการถามสารทุกข์สุขกดิบกัน
ครอบครัวหม่องพูดคุยกันไปผมก็นั่งฟังไปยิ้มๆ จนน้องสาวของหม่องเอาน้ำมาให้

“ทานน้ำค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
“คุณพูดภาษาพม่าได้ด้วยเหรอคะเก่งจังเลย”

นุนุ น้องสาวหม่องลองก็ยิ้มๆ หน้าตานางใสๆ น่ารัก คล้ายๆ ผู้หญิงทางภาคเหนือของไทย
มากกว่าที่จะเป็นพม่าครับ

ระหว่างที่หม่องลองกำลังโดนน้องๆ รุมขอของฝาก ไม่เว้นกระทั่งน้องเณรที่กำลังเป็นหนุ่ม
แม่ของหม่องลองก็หันมาคุยกับผมเหมือนอยากขอบคุณที่ช่วยดูแลลูกชายให้

“ขอบคุณมากๆ นะคะที่ช่วยดูแลลองให้พวกเรา”

แกพูดยาวจนผมเข้าใจแค่คำว่า “ขอบคุณ” คำง่ายๆ คำเดียว
หม่องลองได้ยินก็แปลให้ผมผมเลยพูดเป็นภาษาไทยตอบไปครับ
เพราะถ้ายาวๆ ก็คงไม่ไหวเหมือนกัน 555

“หม่องลองเป็นคนดี...อะไรที่ผมพอช่วยได้ก็อยากช่วยครับ”

หม่องลองได้ยินผมพูดก็มองผมยิ้มๆ หน้าตาหล่อเลยอ่ะกิ๊กผม อิอิอิ
แล้วแปลให้พ่อกับแม่ตัวเองฟังไปพ่อกับแม่ของหม่องก็ยิ้มๆ หน้าตาดูมีความสุข

กว่าจะพูดคุยกันเสร็จก็เล่นเอาเหงื่อแตกไปเหมือนกันนะ
แต่สนุกดีครับรู้สึกว่าครอบครัวนี้รักกันมากทั้งพ่อแม่ พี่น้อง เขาใส่ใจกัน นั่งคุยกัน
บอกเลยว่าไม่ได้ต่างจากครอบครัวคนไทยจริงๆ ครับ

นั่งคุยกันไปจนผมมีโอกาสได้คุยกับ "หม่องเท" น้องเขยของหม่องลองก็หลายครั้ง
ส่วนผัวของน้องสาวคนที่สองอยู่คุยแป้บๆ แล้วก็กลับบ้านไป

หม่องเทจะไปทำงานกับพี่เมีย และพอรู้ว่าผมเป็นคนไทย ก็คงอยากมาสร้างสัมพันธ์ด้วย
เขาเป็นคนฮา นิสัยตลก และคุยเก่ง เห็นพูดไปก็ขำไปแบบคะนองๆ

มีคำนึงหม่องเทถามผมเป็นภาษาพม่าพร้อมทำหน้าตากรุ้มกริ่มแต่ผมดันฟังไม่เข้าใจ
แต่พอห่องเทถามเสร็จทุกคนก็หัวเราะเป็นที่สนุกสนาน
นุนุเมียของหม่องเลยตีเพี้ยะเข้าให้แล้วทำงอนๆ  

หม่องลองหัวเราะขำๆ แล้วพูดว่า...

“ไอ้เทมันถามวินว่า...ที่เขาพูดกันว่าสาวไทยทั้งขาวทั้งสวยน่ะจริงไหม 5555”
“อ้อ 55555”

ผมถึงได้ร้องอ้อออกไปแล้วหัวเราะขำๆ ในอารมณ์เฮฮาของหม่องเทเขาล่ะครับ
ถ้าเรื่องนั้นก็ต้องลองมาดูที่ประเทศไทยแล้วล่ะหม่องเท 555
ทุกคนเป็นที่สนุกสนานกันไป 
พูดคุยกันจนเย็น หม่องลองก็ชวนผมให้ไปส่งน้องเณรที่วัด
เพื่อให้ผมได้ชมทิวทัศน์ในตามทะเลสาบไปด้วย

ตอนพายเรือไปส่งเณรน้องชายหม่องลองก็ทำให้ผมประทับใจมากๆ
ูรู้สึกทึ่งกับลุ๊คแบบหนุ่มพม่าของหม่องลองในวันนี้มากๆ ครับ
เพราะตอนนี้เขาเปลี่ยนมานุ่งโสร่งแทนกางเกงยีนส์

คือเป็นลุ๊คที่มีทั้งความเซ็กซี่ ความแมน ความน่าหลงใหล ผมเห็นแล้วโคดชอบอ่ะ ชอบมากๆ

หนำซ้ำหม่องลองยังพายเรือด้วยเท้าข้างเดียวอีกตะหาก!!!

โห!!! สุดยอดดด!!!

ผมเห็นแล้วผมก็มองอย่างอึ้ง! และ ทึ่ง! ไปเลย!!!
ไม่คิดว่าหนุ่มพม่าที่เย็ดกับผมมาเกือบ 4 ปี จะทำแบบนี้ได้ด้วย ไม่ทึ่ง ไม่รู้จะพูดไงแล้วนะครับ!
มานั่งคิดๆ ดู ที่คิดว่าผมรู้จักหม่องเกือบทุกเรื่องนั้น
คงต้องคิดใหม่ทำใหม่ซะแล้ว เริ่มจากคืนนี้ซะเลยเป็นไง 5555

ตอนนี้บรรยากาศยามเย็นช่างสวยงาม ด้วยวิวทิวทัศน์สวยงาม สบายตา อากาศเย็นสดชื่น คือน่าอยู่มากๆ ครับ
ตลอดทางหม่องลองก็พายเรือด้วยเท้าไปข้างเดียวไป ปากก็พูดคุยกับน้องเณรไปจนกระทั่งถึงวัด
พี่ชายกับน้องชายพูดคุยกันด้วยความคิดถึง ผมเห็นแล้วยิ่งนึกชอบหม่องลองมากเข้าไปอีก
เพราะเขาเป็นพี่ชายที่น่ารักมากๆเลยครับ

คุยกับเณรน้องชายพักนึงเราก็พายเรือกลับ

“อากาศดีมากๆ เลยครับ”

ผมพูดอย่างจริงใจหม่องก็ได้แต่ยิ้มๆ วิวทิวทัศน์ในทะเลสาบสวยงามชุ่มเย็นเหลือเกิน
พอพายเรือกลับมาถึงท่าน้ำ ก็เห็นน้องเขยและน้องชายของหม่องลองกำลังอาบน้ำกันอยู่

ว้าว!!!

ตอนนั้นตาผมจ้องตามจนแทบจะกระเด็นออกมาจากเบ้าเลยครับ!
ตอนนี้หนุ่มหุ่นที่แน่นล่ำร่างกายที่บึกบึน ถึง 2 คน กำลังอาบน้ำอวดสายตาอยู่ริมน้ำ!
หำที่ห้อยหัวตุงโด่แกว่งไปมาโสร่งที่เปียกน้ำ ช่างเป็นภาพที่ชวนมองเป็นบ้า!

ตอนนี้พระอาทิตย์กำลังตก แสงสีส้มทาบทอที่หุ่นแข็งแรงของหนุ่มๆ ทั้ง 2 คน
ถือว่าเป็นภาพที่สวยงาม ลานตา ที่สุดของความประทับใจจริงๆ ครับ

หม่องลองเห็นน้องๆ อาบน้ำก็ชวนผมไปอาบด้วย
เขาไม่รอผมให้เสียเวลาถอดเสื้อออกแล้วตักน้ำราดตัวแล้วถูสบู่ไป
ตอนนี้ภาพก็ยิ่งงามจนผมตาเบลอ พร่ามัวไปหมด!

หม่องลอง-อวดทรวดทรงที่ลำแน่นดูเซ็กซี่น่าชม โดยเฉพาะโสร่งที่เขาใส่มันช่างโคดจะแมน!
หน้าตาหม่องลองที่หล่อละอ่อน ผู้ชายที่มีแววตาสวยปนเหงา ดูอ่อนโยน และดูน่าค้นหา
หุ่นล่ำแน่นของเขาและผิวที่เนียนสะอาดดูมีเนื้อมีหนังบ่งบอกว่าอยู่ดีกินดี

อกแน่นๆ หัวนมเป็นกระจุก น่าดูดเลียเหลือเกิน!
หน้าท้องของหม่องลองที่แบนราบ มีไรขนเซ็กส์แพลมออกมาอวดสายตา
แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นผู้ชายที่มีขนดกและเซ็กซี่สุดๆ

โสร่งที่เปียกน้ำทำให้เห็นควยของหม่องแกว่งไปมาตามใต้โสร่งตามอิริยาบทยามถูตัวอาบน้ำ
วันนี้ความหล่อเป็นธรรมชาติของหม่องทำเอาหัวใจผมปลื้มจริงๆ ครับ

หม่องเท-ที่เป็นน้องเขยนี่ก็ช่างเซ็กซี่สุดๆ! แมนสุดๆ เกินที่ผมจะห้ามใจ มองปุ้บก็ควยแข็งทันที!
ด้วยรูปหน้าหล่อ คมคาย จมูกโด่ง คิ้วเข้ม แววตาอ่อน ปากถึงคล้ำดำแต่ดูโคดเซ็กส์น่าจูบ
หุ่นของหม่องเทสูงแน่น ดูแข็งแรง แบบคนใช้แรงงาน หุ่นช่างงามน่าเลียสุดๆ!

หน้าท้องของหนุ่มอินทาแบนราบ แสนจะเซ็กซี่ ตอนอาบน้ำเปลี่ยนมานุ่งโสร่ง
พอเปียกน้ำจึงทำให้ได้เห็นเป้านูนๆ ของเค้ากระดุกกระดิกดิ้นไปมา
ช่วงลำตัวที่เพรียวแต่ต้นขากลับใหญ่ และแข็งแรงน่าลูบไล้สุดๆ!
ตรงเป้านูนๆ นั้นช่างล่อตา ซะเหลือเกินพ่อคุณ!

ผมขอทายว่าต้องเป็นควยที่ใหญ่ชัวร์ๆ!!!

หม่องมีน-น้องชายของหม่องลองดูน่าสนใจไม่น้อย ด้วยหน้าตาที่ดูละอ่อน หล่อและน่ารัก
หม่องมีน อายุแค่ 17 แต่กลับมีหุ่นที่แน่นล่ำ แข็งแรง ดูแกร่งงาม น่าชมไปทั้งตัว
ถึงผิวของหม่องมีนจะดูเข้มคล้ำกว่าหม่องลองแต่ความละอ่อนดูอ่อนวัยก็ทำให้มีนมีเสน่ห์น่าชมสุดๆ

ไรขนหน้าท้องของน้องมันก็เริ่มขึ้นสวยแสนจะเซ็กซี่เกินห้ามใจ
เพราะตอนนั้นหม่องลองก็หน้าตาละอ่อนใสๆแบบนี้แหละครับ

ผมมองหนุ่มๆ เจ้าของชาติทั้ง 3 คนอาบน้ำไปด้วยใจที่สั่นระรัว!
ผมมองทุกคนตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความสนใจสุดประทับใจ
ด้วยหน้าตา ผิวพรรณ หุ่นล่ำงามแข็งแรง สีผิวต่างกันแต่น่ากินทุกคนจริงๆ
ยิ่งมานุ่งโสร่งอาบน้ำล่อตาผมแบบนี้ ใจจะละลายจริงๆ ครับ

หม่องลองเห็นผมเงียบไปก็เรียกให้ไปอาบน้ำ

“วินมาอาบน้ำเร็ว...ยิ่งค่ำยิ่งหนาวนะ”

ผมได้ยินเขาบอกก็ได้สติรีบถอดเสื้อผ้าออกใส่แต่กางเกงบอล
ผมเห็นหม่องเทกับหม่องมีน มองยิ้มๆ ด้วยความแปลกตา แต่ก็ไม่พูดอะไร
พอโดนน้ำซักพักอากาศก็ยิ่งหนาวจริงๆ ครับ อาบไปก็ชักปากสั่น บรื๋อ!!!

พออาบน้ำเสร็จตอนนี้ฟ้ามืดตึ๊ดตื๋อซะแล้ว! แล้วพวกเราก็รีบจ้ำอ้าวเดินกลับบ้าน
ที่ห่างออกไปประมาณ 200 เมตร หม่องเท กับหม่องมีน เดินไปได้ไกลแล้ว
แต่หม่องลองเดินช้าๆ เหมือนคอยเดินเป็นเพื่อนผม

ผมเห็นหุ่นเขาตอนนุ่งโสร่งแล้วรู้สึกชอบ เพราะมันดูมาดแมนดูแข็งแรง เซ็กซี่ น่าชมสุดๆ
ตอนนั้นผมก็เกิดอารมณ์บางอย่างขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้เลยเข้าไปจับแขนหม่องไว้

“มีอะไรครับ”
“ยังไม่อยากกลับเข้าบ้านเลยพาผมเดินเล่นแถวนี้ก่อนได้ไหม”

หม่องลองก็พยักหน้าอย่างรู้ใจผม แล้วพาผมนั่งเรือเล่นริมๆ ทะเลสาบ
พายไปพวกเราก็คุยกันไปคราวนี้หม่องลองพายด้วยมือแทนเท้าครับ
ผมก็นั่งใกล้ๆมือก็จับเข่าของหม่องไปด้วย

ยามมืดมิดดวงดาวเริ่มกระพริบวิบวาวสว่างกระจ่างเต็มฟ้า สะท้อนเงาลงในทะเลสาบอย่างสวยงาม
เห็นแล้วยิ่งสวยงามจับใจ ลมโชยพัดมาอย่างเย็นสบายผมสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดอย่างมีความสุข
หม่องลองพายมาจนถึงริมตลิ่งก็เอาเชือกมัดกิ่งไม้ไว้แล้วเราก็นั่งมองดาวคุยกัน

“อา...สบายจังเลย!...ผมชอบบ้านนายมากๆ เลย”
หม่องลองก็ยิ้มๆ แล้วพูดว่า...

“ดีใจนะที่นายชอบ...ถ้าผมกลับบ้านคราวหน้านายก็มาเทียวกับผมอีกสิ”
“มาแน่ๆ ถ้ามีไกด์หล่อๆ ขนาดนี้ 555”

หม่องลองก็หัวเราะตามคำชมของผม หน้าตาเขาตอนนี้ช่างดูหล่อเหลาคมคายน่ามอง
บรรยากาศก็โคดดีทำให้ผมรู้สึกว่าร่างกายวาบหวิวมีความต้องการขึ้นมาอย่างมากมายเหลือเกิน!
หม่องนั่งอ้าขาเอนหลังไปกับท้ายเรือ ผมก็ขยับเข้าไปใกล้ๆ ลอง

เขาไม่ได้ถอยหนี ผมรีบเข้าไปกอดหุ่นแน่นล่ำแสนอบอุ่นของหม่องตามนิสัยที่เคยชิน
แล้วเริ่มเอาหน้าไปซบดมที่โสร่งของเขาอย่างกระหายหิว!
กลิ่นผ้าฝ้ายหอมๆ บวกกับกลิ่นควยหนุ่มพม่าของเขาที่แสนจะหอมสะอาด

เพราะลองไปอยู่ไทยหลายปีเลยติดนิสัยการรักษาความสะอาดตามไปด้วย
ทำให้ผมดอมดมอย่างมีอารมณ์คึก!

“คิดถึงจังครับ”

ผมพูดเบาๆมือเริ่มล้วงเข้าไปใต้โสล่งของกิ๊กหม่องสุดหล่อของผม
จนหม่องลองตัวสะดุ้งเบาๆ ตามอารมณ์เสียวที่ผมเริ่มปลุกปั่น
แล้วผมก็ขยับตัวขึ้นไปกอดรัดตัวหม่องอย่างเร่าร้อน!
หม่องลองหลับตาพริ้ม แต่อ้าปากให้ลิ้นผมฉกเข้าไปแลกลิ้นกันจ๊วบๆๆๆ!!!

สองแขนของหม่องกอดรัดตัวผมและบีบคลำไปมาจนผมมีอารมณ์ที่คึกมากขึ้น!
ผมดูดปากกับเขาไปมือก็ล้วงทั้งกำเข้าไปใต้โสล่งของเขาอย่างใจร้อน!

ตอนนี้ควยของหม่องลองแข็งจัด! ตั้งเด่งอยู่กลางดงหมอยดกๆ สากๆ แล้วครับ
มือผมทั้งจับชักทั้งถอก หนับๆๆๆๆ!!! จนหม่องโดนผมดูดปากไปก็ครางไปเบาๆ

“อา!!!...ซี้ดดด!!!...อืมมม!”
“อืมมมม!!!...อา!...จ๊วบๆๆๆ!!!”

เราต่างคนต่างส่งเสียงครวญครางออกมาอย่างมีความสุข!
ด้วยบรรยากาศที่พาไปยิ่งช่วยกระตุ้นอารมณ์ให้กับผมหนักกว่าเดิม

เกือบ 4 ปีมานี้เรามีเซ็กส์กันแต่ในห้องมาโดยตลอด
แต่วันนี้เรากำลังจะมีเซ็กส์กันในเรือที่ทะเลสาบกลางแผ่นดินพม่า!
สำหรับผมจึงเสียวซ่าน ตื่นเต้น เต็มไปด้วยความสนุก รุนแรงกว่าครั้งไหนๆ!!!

ผมรีบแหวกโสล่งของหม่องให้อ้ากว้างด้วยอาการหื่นๆ
ทันใดนั้นควยของหม่องก็เด้งดึ๋ง!ผงกหัวหงึกๆๆๆ!!! เป็นเสากระโดงเรือ!

“คิดถึงจังเลยครับ...อ้ำ!!!...จ๊วบๆๆๆ!!!”

ผมไม่รอเวลาให้เสียเวลาจัดการก้มหน้าดูดอย่างเอาเป็นเอาตายเลยครับตอนนี้!
ชอบจริงๆตอนที่เขานุ่งโสร่งแล้วแหกขาให้ผมดูดเนี่ย มันช่างได้อารมณ์เป็นธรรมชาติสุดๆ
ช่างเสียวซ่านสะใจผมเป็นที่สุด!

“ซี้ดดดด!!!...อา!!!...เสียวครับ!!!”

หม่องครางกระเส่าสองแขนพิงตัวเองไว้ไม่ให้ล้ม
สองขาแกร่งอ้ากว้างให้ผมได้กลืนกินอาวุธประจำกายของเขาไปอย่างเสียวซ่าน
ปากผมดูดเลียควยดุ้นงามได้ลักษณะของหม่องลองอย่างมันปาก!

ความอร่อยนั้นกี่ครั้งก็ยังเด็ดมันสะใจผมสุดๆครับ ด้วยขนาด 7.5 นิ้ว! ดุ้นใหญ่ยาวหัวบานสวย!
ดงหมอยดกดำ หยิกหยอย หน้าท้องไรขนเซ็กส์ๆ ช่างสร้างความมาดแมนสมชายให้กับเขาอย่างมากมาย!
ผมดูดไปจนน้ำเงี่ยนของหม่องไหลเยิ้ม! บ่งบอกว่าเสียวสุดๆ และพร้อมสำหรับการเย็ดแน่แล้ว

นาทีนี้ผมเงี่ยน และร่านสุดๆ จนยากจะทนต่อไป!!!

“เดี๋ยวผมทำให้นะ!!!”

ผมบอกเขา หม่องลองก็พยักหน้าหงึกๆ ตาปรือๆ โคดแมน โคดเซ็กส์!

แล้วผมก็ถอดกางเกงขาสั้นออกแล้วขึ้นไปนั่งควยที่ตั้งเด่ของเขาทันที!
หม่องลองก็จับควยตั้งรอตูดผมอย่างดีสองแขนผมกอดรอบคอหม่องแน่น
แล้วกดตูดกลืนควยหม่องลงไปช้าๆช้าๆ ช้าๆ!!!

“อ๊า!!!...ซี้ดดดด!!!”
“อุยยย!!!”

ผมกับหม่องลองกอดกันแน่นแล้วส่งเสียงครางด้วยความเสียวตูดมันควย!
เมื่อความยาวความใหญ่มุดเข้ารูผมจนมิดลำ! ผมก็รู้สึกได้ถึงความคับแน่นเสียวซ่านร่านตูด!
นี่ถ้าผมยังใหม่ๆ ซิงๆ คงไม่อาจทนทาบรับขนาด 7.5 นิ้ว! ทั้งใหญ่ ทั้งยาว ทั้งแข็งของพม่าหนุ่มได้แน่ๆ
ต้องขอขอบคุณประสบการณ์หลายครั้งที่ผ่านมาทำให้ผมควบควยของหม่องลองพม่าหน้าหล่อดัง...

พั่บๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!
ไปอย่างมันตูด เร้าอารมณ์สุดๆ ไปเลย!!!!

ไม่ได้กลัวเลยว่าเรือจะล่มเพราะตอนนี้ความมันกำลังทำให้เราลืมทุกสิ่ง
นี่ถ้าคนมาแอบดูก็คงไม่รู้แน่ๆครับเพราะเรามัดเรือไว้ไม่ไกลจากท่ำน้ำซักเท่าไหร่

“อ๊า!!!...อ้ะๆๆๆ!!!”

ผมทั้งควบทั้งนั่งควยหม่องลองไปโดยที่หม่องลองทำได้แค่อ้าปากครางพร้อทำตาปรือๆ
โสล่งถูกเปิดให้ไปกองอยู่ที่อกของหม่องโดยไม่ได้ถอดยิ่งทำให้อารมณ์ผมช่างเสียวกระเจิงไปเลย!

“อู้!...อ๊า!!!...ซี้ดดดดดด!!!”

ผมเป็นฝ่ายที่ครางอย่งรุนแรงและมีความเสียวสุขสุดๆครับ
จนหม่องลองใกล้จะทะลักนั่นแหละเขาจึงจับผมแอ่นตูดหันหลังให้เขา
แต่กว่าจะเปลี่ยนท่าได้ก็เล่นเอายากเหมือนกันเพราะเรือลำเล็ก

“อ้ะๆๆๆๆ!!!”

แต่พอหม่องลองกระแทกในท่าหมาเย็ดกันบนลำเรือปุ้บเขาก็กระทุ้งกระทั้นอย่างผู้มันๆ!
ความมันนั้นมากมายจนผมทนความมันอีกต่อไปไม่ไหวน้ำแตกเข้าเต็มเรือ!

“อ้ะ!...ซี้ดดดดดดด!!!!!!”

ตอนนี้หม่องลองรู้แล้วว่าผมเสร็จสมอารมณ์หมายไปแล้วเลยเร่งเด้า

ตั้บๆๆๆๆๆๆ!!!!!

ลีลาการเด้าของหม่องหนักหน่วงเด้ามัน โดยไม่กลัวว่าเรือจะล่มตามน้ำหนักเย็ดของเขา
ลีลาตอนใกล้จะน้ำแตกของหม่องช่างรุนแรง สะจิต สะใจ คนอย่างผมเป็นที่สุด!
สองมือเขากอดรัดไหล่และเอวผมไว้อย่างแน่นหนา!
พร้อมระดมยิงควยเข้ารูผมอย่างเมามันกระแทกอย่างหนักหน่วง!

ในที่สุดหม่องพม่าหน้ามนสุดปลื้มของผมก็ทนความมันไม่ได้เมื่อเขาร้องดังๆ!!!

“จะแตกแล้วครับๆ!!!...อ้ะๆๆๆ!!!...ซี้ดดดดด!!!”
ตัวหม่องลองกระตุกกึกๆๆๆๆ!!! อยู่หลายที แล้วควยของหม่องก็ฉีดน้ำรักเข้ามาในรูผมจนอุ่นวาบ!

“แฮ่กๆๆๆ!!!...”
หม่องลองกอดผมจนตัวเราฟุ้บลงไปกองกอดกันกราบเรือ

“ลองเย็ดมันจังเลยครับ!...แฮ่กๆๆ!!!”
ผมกระซิบบอกกิ๊กพม่าคนเก่ง เขาก็หัวเราะยิ้มๆ

“เดี๋ยวคืนนี้จะให้อีกทีนึงนะครับ!”
“จริงๆ นะครับ”

ผมถามหม่องลองอย่างดีใจที่เขาชอบทำการบ้านได้บ่อยนี่แหละครับ
หม่องก็หัวเราะแล้วกอดผมแน่นๆ

กว่าเราสองคนจะอี๋อ๋อกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันในลำเรือก็ผ่านไปเกือบชั่วโมง!
แต่ขอบอกว่ามันมากๆ เลยครับ ติดใจอ่ะอยากโดนเอาอีก
แต่หม่องลองบอกพ่อแม่คงรอกินข้าวแล้ว เลยต้องพายเรือกลับท่า

..................................................................................

พอเดินขึ้นไปบนท่าน้ำหม่องเทที่ออกมาตามหายืนรออยู่ก่อน
พอเห็นพวกเรากลับมาก็ถาม

“ไปไหนกันมาเนี่ยแม่ทำกับข้าวรอตั้งนานแล้ว”
หม่องเทถามหน้าตายิ้มระรื่น

“กูพาวินไปนั่งเรือเล่น”
“นั่งเรือเล่นเฉยๆ เหรอพี่ลอง 5555”

หม่องเทมันพูดยิ้มๆ ตามนิสัยเฮฮาแบบหนุ่มอารมณ์ดีไม่ได้ดูเครียดในชีวิต
หน้าตาหม่องเทตอนโดนแสงจากคบไฟเห็นแล้วรู้สึกแปลกๆ

แต่ยิ่งมองผมรู้สึกว่ามันทั้งหล่อทั้งแมน และเซ็กซี่สัดๆ
แต่พอหม่องลองทำหน้าขรึมใส่ทีเดียวหม่องเทก็เลยไม่กล้าเล่นหัวอีกเราก็กลับเข้าบ้านกัน

…………………………………………………

ตอนค่ำก็กินข้าวกันครับแม่กับน้องสาวของหม่องก็ทำอาหารพม่าให้กิน
หน้าตาดูๆ ไปก็คล้ายๆ กับอาหารบ้านเรามีข้าวสวย ต้มปลา ผักสด
และอาหารพวกแกง แต่แกงแบบพม่าใส่เครื่องเทศเยอะกลิ่นแรงเหมือนพวกแขก

จนกินข้าวเสร็จก็ค่ำแล้วตอนนี้อากาศเริ่มหนาวเย็นยะเยือกแล้วครับ
จากตอนกลางวันที่ร้อนระอุแตะ 40 องศา ตอนนี้ดันลดต่ำลงเหลือไม่ถึง 20 องศา

หลังทานข้าวเสร็จพ่อของหม่องลองก็เล่าเรื่องราวของครอบครัวให้ฟัง
ว่าแกเป็นคนในเมืองมัณฑะเลย์มาก่อน พร้อมเอารูปเก่าๆ ที่ถ่ายไว้พร้อมครอบครัวมาให้ดู
พ่อของหม่องลองตอนเป็นวัยรุ่นเอ๊าะๆ ด้วยวัย 17-18 อยู่ในชุดประเพณีนิยมของพม่า
ภาพของพ่อหม่องตอนเป็นหนุ่มโคดหล่อ โคดคม มากๆ ครับ

แต่ชีวิตก็เปลี่ยนไปเมื่อหนีมาแต่งงานกับแม่ของหม่องลองที่เป็น "ชาวอินทา"
พวกปู่ย่าและญาติพี่น้องที่มัณฑะเลย์เลยไม่นับญาติกันอีกเลย
เพราะพม่าแท้ๆ ไม่นิยมแต่งงานข้ามกับคนเผ่าอื่น คงจะมองว่าพม่าสูงว่าเผ่าอื่น

แต่เหตุการณ์ก็ดีขึ้น เมื่อปู่กับย่ารู้ว่าได้หลานชายคนแรก แล้วปู่กับย่าจึงรับหม่องลองไปเรียนที่เมืองมัณฑะเลย์
ฟังพ่อของหม่องเล่าถึงตอนนี้ ผมถึงได้คลายสงสัยว่าทำไมหม่องลองถึงพูดภาษาอังกฤษได้ดี
ทั้งที่การศึกษาก็ไม่สูงนักและก็เรื่องหน้าตา ผิวพรรณ บุคลิก ก็อีก
รู้สึกมาตั้งแต่แรกแล้ว ว่าเขามีความสุภาพ และดูมีอารยธรรมมากกว่าคนพม่าที่เห็นทั่วๆ ไป

เพราะบางอย่างหม่องลองก็ไม่ได้เล่าให้ผมฟัง อย่างเรื่องการเป็นครึ่งพม่า ครึ่งอินทา
แล้วก็เรื่องที่เขาเคยเรียนในเมืองใหญ่ๆ อย่างมัณฑะเลย์นี่ก็พึ่งจะรู้

ชีวิตของหม่องลองน่าจะดีกว่านี้ถ้าเรียนสูงกว่านี้
แต่น่าเสียดาย! เพราะยังไม่ทันจะเรียนจบชั้นเทียบเท่า ม.6 ของไทย
ปู่กับย่าของหม่องลองก็เสียซะก่อน ทางญาติคนอื่นๆ ก็ไม่ยอมส่งเสียให้เรียนต่อ
เพราะไม่ชอบแม่ของหม่องที่เป็นชาวอินทา

ด้วยฐานะยากจนมากๆ น้องก็หลายคน หม่องลองจึงตามคนรู้จักไปทำงานที่ระนอง
ที่โรงงานของไอ้โดโด้นั่นแหละครับ
(หาอ่านได้ใน บทที่ 58 คนงานพม่าทั้งเถื่อนทั้งแกร่ง)

มิน่าตอนที่ผู้ชายคนไทยมาหาเรื่องเขาและมาด่าพ่อแม่ถึงที่หอพัก
หม่องลองถึงได้อารมณ์เดืดดจนลงไม้ลงมือทำร้ายจนถูกจับ
เพราะใครๆก็รักพ่อแม่ใครมาว่าด่าถึกลากเหง้าคงยอมกันไม่ได้

นั่งฟังไปหม่องลองก็แปลให้ฟังไปดูสีหน้าแล้วเหมือนไม่อยากจะแปลด้วยซ้ำ
คงเป็นเรื่องที่สะเทือนใจของหม่องลองมั้งครับ ผมคิดเองนะ

รู้จักเขามานานหม่องลองนิสัยสุภาพ ขยันทำงาน และไม่ชอบมีเรื่องกับใคร
(ส่วนความเจ้าชู้นั่นก็เป็นนิสัยปกติของผู้ชายหน้าตาดี และมีผู้หญิงมาเสนอ)
ผมก็ยิ้มให้กำลังใจเขาหม่องลองก็ก้มหน้าเหมือนไม่อยากให้รื้อฟื้น

คืนแรกของการนอนในแผ่นดินพม่ารู้สึกแปลกประหลาดไม่คิดว่าจะมีโอกาสในชีวิตได้ทำแบบนี้
ความมืดมิดปกคลุมบริเวณหมู่บ้าน เพราะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ อยู่ใกล้ๆ ทะเลสาบอินเล

เมื่อทุกคนเข้านอนกันหมด บ้านนี้มี 3 ห้องนอน
พ่อแม่ของหม่องลองนอนห้องนึง นุนุกับผัวสุดแมนนอนห้องนึง
ผมกับหม่องลองนอนรวมกันในห้องของหม่องมีน
ถึงจะเหนื่อยมาทั้งวัน แต่ผมก็นอนไม่หลับ คงแปลกถิ่นแปลกทาง เลยลุกขึ้นนั่งคิดๆ อะไรไป

“นอนไม่หลับเหรอครับ”
หม่องถามผม แล้วจับแขนผม มือเขาอุ่นจนผมต้องนอนลงข้างๆ แล้วเข้าไปกอดหุ่นแข็งแรงของเขา
              
“แปลกที่มั๊งครับ...แต่เดี๋ยวก็คงหลับ”
“นอนเถอะครับ...เดี๋ยวพรุ่งนี้จะพาไปเที่ยว”
“ไปเที่ยวที่ไหนครับ”
ผมถามด้วยความอยากรู้และรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที!

“บากานครับ(พุกาม)...เห็นนายอยากมาที่นี่มานานแล้วนี่...ใช่ไหม”
“จริงเหรอครับ!!!...โห!...ดีอ่ะ!...อยากไปมากๆ เลยครับลอง...ขอบคุณมากๆ นะครับ”

ผมพูดด้วยความดีใจสุดๆ หม่องลองก็ยิ้มๆ ผมก็นอนกอดหม่องแน่นๆ
แล้วมือก็ล้วงเข้าไปใต้ผ้าห่มกำควยแขาเล่นๆ หม่องลองก็หันไปมองน้องชายว่าหลับชัวร์แน่ๆ แล้ว
ก็ยินยอมให้ผมทำตามความพึงพอใจปล่อยให้เล่นปล่อยให้กำจนแข็งทั้งดุ้น!

ใจจริงอยากทำอะไรมากกว่านี้นะ แต่กลัวจะเพลียครับ
เพราะเดินทางมาทั้งวัน นั่งรถไฟ แล้วต่อรถอีกหลายต่อจนเหนื่อย
คืนนี้เลยนอนไวเพราะพรุ่งนี้ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการไปเที่ยว “เมืองพุกาม” กันครับ!!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น