เราออกเดินทางกันแต่ตี 5 เพราะจะต้องไปกันหลายที่
ว่าไปก็เหมือนเป็นการพาครอบครัวไปเที่ยวไปไหว้พระทำบุญเพราะไปกันทั้งบ้าน
แต่ไปกันเยอะๆ แบบนี้สนุกดี แถมยังอุ่นใจมากๆ ด้วย
โดยจ้างคนขับรถชาวพม่า ชื่อว่า “หม่องอู” ให้ขับรถนำเที่ยว
หม่องอูเป็นคนขับรถรับจ้างอยู่แถวนั้น ถึงแม้จะอายุเกือบ 40 แต่ยังดูหนุ่มแน่นมากๆ
เพราะหุ่นทั้งแข็งแรงแน่นล่ำ ดูบึกบึนไปทั้งตัว สีผิวเข้ม ตาคม มีเสน่ห์แบบผู้ชายพม่า
ผมแอบเห็นหลายครั้งว่าหม่องอูเป้าก็ใหญ่มากๆ แถมขนดกชิบหาย!
นุ่งโสร่งอวดช่วงล่างยิ่งน่าดูน่าชม เห็นแล้วก็นึกอยากนั่งข้างคนขับเลยครับ
โชคดีที่เป็นรถสองแถวที่มีเบาะและหลังคาเหมือนบ้านเรา
คนที่นั่งอยู่ด้านหลังจึงไม่ร้อนจนถูกแดดเผา ผมนั่งไปก็มองสองข้างทางไป ถ่ายรูปไป
พวกพี่ๆ น้องๆ ของหม่องก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
เพราะนานๆ ถึงจะได้มาเจอกันและออกมาเที่ยวไหว้พระทำบุญด้วยกันแบบนี้
ขับรถหลายชั่วโมงในที่สุดก็มาถึงพุกามซะทีครับ
พอรถเริ่มเข้าสู่บริเวณเมืองพุกาม ยอดเจดีย์ที่สูงเสียดฟ้าและจำนวนเจดีย์ที่มีมากมาย
ก็สร้างความตื่นเต้นประทับใจให้ผมอย่างมากมาย!
ยิ่งรถวิ่งเข้าใกล้มากเท่าไหร่ เจดีย์จากก็เริ่มเยอะมากขึ้นๆ ทั้งองค์เล็กๆ
และองค์ใหญ่ๆ เทียมภูเขาขนาดย่อมๆ ตอนนั้นความรู้สึกช่างสุดยอด!!! ดูแล้วมีมนต์ขลังจริงๆ ครับ!!!
…………………………………………………………………….....
"พุกามดินแดนแห่งเจดีย์สี่พันองค์"
พุกามอยู่ห่างจากเมืองมัณฑะเลย์ไปประมาณ 145 กิโลเมตร
ถูกสถาปนาขึ้นโดยพระเจ้านรธามังช่อตั้งแต่ปี พ.ศ. 1587
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของแม่น้ำอิระวดีแต่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองมัณฑะเลย์
สภาพส่วนใหญ่เป็นที่ราบแห้งแล้งในสมัยที่อาณาจักรพุกามเคยรุ่งเรืองถึงขีดสุด
กล่าวกันว่าจำนวนเจดีย์ที่แท้จริงนั้นมีมากกว่า 10,000 กว่าองค์เลยทีเดียว!
เมื่อปลายสมัย อาณาจักรพุกามก็ล่มสลายจากการบุกรุกโดยกองทัพมองโกล
ของกุบไล่ข่าน ประมาณ พ.ศ. 1830
คนพม่ามีความเชื่อที่ว่าการสร้างเจดีย์จะได้บุญมากกว่าการซ่อมแซม
เพราะการซ่อมแซมบูรณะเจดีย์ให้กับคนอื่นบุญก็จะได้ไม่เท่าการสร้าง
ในสมัยนั้นจึงนิยมสร้างเจดีย์ขึ้นใหม่เรื่อยๆ มากกว่าจะทำการซ่อมแซม
ในปัจจุบัน “พุกาม” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดโด่งดังของประเทศพม่า
เพราะทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาเยือนที่นี่มากมาย
ด้วยมีเวลาจำกัดและเจดีย์ที่เยอะทำให้พวกเราไปพระชมเจดีย์แห่งเมืองพุกาม
ได้เพียงไม่กี่แห่ง เน้นที่มีชื่อเสียงและทางรัฐบาลอนุญาตเท่านั้นอย่างเช่น...
มหาเจดีย์ชเวซิกอง, เจดีย์ชเวซันดอว์, วิหารธรรมยันจี,วิหารสุลามณี
,เจดีย์วิหารติโลมินโล, วัดอนันดาและที่สุดท้ายคือ วิหารสัพพัญญู
เพราะแค่ 7 แห่ง ก็ใช้เวลาหมดทั้งวันแล้วครับ ถึงแม้แต่ละที่จะอยู่ไม่ห่างกันมากก็ตาม
เจดีย์ที่ไปแต่ละแห่งนั้นใหญ่โตสวยงามมากๆ รู้สึกสมความตั้งใจที่ได้มาจริงๆ ครับ
-มหาเจดีย์ชเวซิกอง ถือเป็น1 ใน 5 มหาสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของประเทศพม่า
เจดีย์เป็นสีทองขนาดใหญ่เรืองรองสวยงาม ประดิษฐานพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้า
-เจดีย์ชเวซันดอว์ สร้างขึ้นโดยกษัตริย์พระองค์หนึ่งแห่งอาณาจักรพุกาม
ถือเป็นจุดชมวิวเจดีย์ที่สูงและสวยที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองพุกาม
ยิ่งขึ้นไปสูงมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมองเห็นวิวที่สวยงาม 180 องศา!
-เจดีย์ธรรมยันจี* วิหารขนาดใหญ่โตอลังการงานสร้างยังกะยกภูเขาขนาดย่อมๆมาไว้
และที่สำคัญสร้างได้อย่างประณีตสวยงามสุดๆ สร้างขึ้นโดยพระเจ้า นระธู เพื่อต้องการล้างบาป
ที่ได้ฆ่าพ่อและพี่ชายของตัวเอง เพื่อให้ได้ขึ้นครองราชย์
ที่ได้ฆ่าพ่อและพี่ชายของตัวเอง เพื่อให้ได้ขึ้นครองราชย์
มีเรื่องเล่ากันว่า การสร้างวิหารแห่งนี้อิฐทุกก้อนจะต้องแนบสนิทกันจนเข็มไม่สามารถสอดผ่านได้
ไม่อย่างนั้นจะโดนตัดนิ้วทั้งสองข้าง! ฟังแล้วสยองจริงๆ ครับ แต่ขอยอมรับว่างานเขาปราณีตจริงๆ ครับ
-วิหารสุลามณี วิหารนี้จุดเด่นอยู่ที่จิตรกรรมฝาผนังที่สวยงาม
และโครงสร้างวิหารด้านนอกอลังการด้วยฝีมือช่างชั้นสูง
การก่ออิฐที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในพุกาม
-เจดีย์วิหารติโลมินโล (กษัตริย์ฉัตรตั้ง)
เรื่องมีอยู่ว่า พระเจ้านรปติสิทธู มีโอรส 5 องค์ แต่ทรงไม่สามารถตัดสินใจได้
ว่าจะให้โอรสองค์ไหนขึ้นครองราชย์ เลยตั้งฉัตรแล้วให้โอรสทั้ง5 นั่งล้อมฉัตรไว้
ถ้าฉัตรล้มไปที่ใครโอรสองค์นั้นก็ได้ขึ้นครองราชย์(ติโลมินโล แปลว่า ฉัตรตั้ง)
ฉัตรนั้นได้ล้มไปทาง พระเจ้านันตางมยา และนี่คือสาเหตุที่พระองค์ได้นามใหม่ว่า "ติโลมินโล"
ฉัตรนั้นได้ล้มไปทาง พระเจ้านันตางมยา และนี่คือสาเหตุที่พระองค์ได้นามใหม่ว่า "ติโลมินโล"
-วัดอนันดาถือเป็นเพชรเม็ดงามแห่งสถาปัตย์พุกาม ตัววิหารทรงสี่เหลี่ยมใหญ่โตสวยงาม
ภายในวิหารมีพระพุทธรูปยืนแกะสลักด้วยไม้สักประดิษฐานอยู่ทั้งสี่ทิศ
วัดนี้ชอบมากพระพุทธรูปองค์ใหญ่สวยงามน่าเลื่อมใสมากๆ
จนเวลาบ่ายแก่ๆ พวกเราก็มาถึงที่สุดท้ายนั่นคือ...
-เจดีย์สัพพัญญู ซึ่งถือเป็นวิหารที่สูงเด่นยิ่งใหญ่สวยงามอีกที่หนึ่งครับ
เป็นที่เก็บรักษาพระไตรปิฎก เจดีย์แห่งนี้สูงที่สุดในพุกาม สูงถึง 61 เมตร
ถือเป็นแม่แบบของสถาปัตยกรรมแบบพม่า สร้างโดย พระเจ้าอลองซีตู
ต่อมา พระองค์ถูกพระเจ้านระตู พระโอรสทำการยึดอำนาจ
เพื่อให้ได้ขึ้นครองราชย์จนต้องทำการปิตุฆาต(ฆ่าพ่อ)
ซึ่งพระเจ้านระตูที่ว่านี้ก็คือผู้สร้างเจดีย์ธรรมยันจี* นั่นเองครับ
วันนั้นเที่ยวชมเจดีย์ ไหว้พระกันจนเย็น คนอื่นก็นั่งรถกลับบ้านกันไปก่อน
เพราะพรุ่งนี้ต้องเก็บพืชผักไปขายที่ตลาด เพราะถ้าไม่ทำก็ขาดรายได้
แต่หม่องลองตั้งใจจะพาผมเที่ยวที่มัณฑะเลย์ต่ออีก 1 วัน เราเลยพักโรงแรมเล็กๆ ตามงบที่มี
โดยหม่องมีนขอตามมาเที่ยวด้วยตามประสาเด็กวัยรุ่นที่ชอบเที่ยว
เมืองมัณฑะเลย์เป็นเมืองใหญ่และเจริญมากๆ รองจากย่างกุ้ง
เพราะมีทั้งสนามบิน ห้างสรรพสินค้า มหาวิทยาลัย โรงแรมดีๆ โรงเรียนใหญ่ๆ
ที่นี่จึงมีกลิ่นอายของความเป็นเมืองเก่า และเมืองเจริญ ผสมผสานกันไป
พออาบน้ำเสร็จเรา 3 คนก็ออกมาหาของกิน เห็นมีร้านขายของเยอะแยะ
นักท่องเที่ยวต่างชาติมากหน้าหลายตาเดินเตร่กันไปทั่ว
ดูแล้วก็ไม่ต่างจากบ้านเราเลยครับ นี่ขนาดช่วงนั้นบ้านเมืองยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางนะ
แล้วคืนนั้นก็เข้านอนกันด้วยความเหนื่อยและเพลียสุดๆไปเลยครับ
พอหัวถึงหมอนก็หลับยาวไปถึงเช้าเลย
.............................................................................................
ผมมารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่หม่องลองปลุกให้ตื่น
“วินตื่นเถอะเช้าแล้ว”
ผมก็งัวเงียตื่นด้วยความเคยชินก็จะเข้าไปกอดอีกฝ่าย
แต่หม่องลองจับแขนผมไว้แล้วบอกว่า…
“เดี๋ยวไอ้มีนเห็น!”
ผมเลยรู้สึกตัวว่าเมื่อคืนเรานอนกัน 3 คนนี่หว่า
“โทษทีๆ 555”
ผมขอโทษหม่องไปดีหน่อยที่ไอ้น้องชายอาบน้ำอยู่
“ไม่เป็นไรครับ”
หม่องลองพูดยิ้มๆ
“ไปอาบน้ำเถอะครับกินข้าวเช้าเสร็จจะพาไปไหว้พระมหามัยมุนี”
ผมได้ยินทริปของวันนีก็ยิ้มอย่างดีใจแล้วชมเปาะถึงเมืองพุกามที่ไปมาเมื่อวาน
หม่องลองก็ยิ้มๆ อย่างดีใจที่เห็นผมชอบซะนักหนา
พอดีหม่องมีนออกมาจากห้องน้ำพอดีผมเลยเข้าไปอาบน้ำอย่างรีบด่วน
เรากินข้าวเช้ารองท้องกันก่อนเที่ยวที่พม่ามีร้านอาหารไทยด้วยครับ
ผมเลยสั่งกระเพราไก่ไข่ดาวมากินอย่างอิ่มท้อง เพราะ 2 วันผ่านไปมีแต่อาหารพม่า
กินมื้อสองมื้อน่ะพอได้แต่นานกว่านี้ผมว่าผมคงแย่แน่ 555
วันนี้ตั้งใจไปกันแค่ไม่กี่ที่ครับ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวเขาเยอะจริงๆ
อย่างวัดพระมหามัยมุนี, พระราชวังมัณฑะเลย์, วัดชเวนันดอว์, และสะพานไม้อูเบ็ง
-วัดพระมหามัยมุนี พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของพม่า
ถือเป็นอีก 1 ใน 5 มหาสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของประเทศพม่า
พระมหามัยมุนีเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่ององค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์
เมืองหลวงเก่าของพม่า ราชวงศ์คองบอง
พระมหามัยมุนีเดิมทีเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของรัฐยะไข่ เมื่อพระเจ้าปดุงแห่งราชวงศ์คองบองตียะไข่ได้
จึงได้อัญเชิญพระมหามัยมุนีมาประดิษฐานที่มัณฑะเลย์นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
-พระราชวังมัณฑะเลย์ เป็นพระราชวังที่สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง
มีคูน้ำล้อมรอบพระราชวังตัวพระราชวังสร้างด้วยไม่สัก
พื้นที่ภายในพระราชวังกว้างใหญ่ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวชมกันค่อนข้างมาก
ตอนบ่ายหลังกินข้าวเที่ยงเสร็จก็ไปกันต่อที่...
-วัดชเวนันดอว์ วัดที่สร้างโดยพระเจ้ามินดงเป็นวัดที่สร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลัง
เป็นงานแกะสลักปิดทองอย่างวิจิตรบรรจงโดยพระเจ้ามินดงได้ทรงให้รื้อมาจากพระราชวังเก่า
วัดนี้จึงมีความสวยงามด้วยฝีมือช่างพม่าสวยงามปราณีตสุดๆ
ตอนบ่ายแก่ๆ ก็ไปเดินชิลๆ และถ่ายรูปสวยๆ กันที่…
-สะพานไม้อูเบ็ง เป็นสะพานที่ไม้ที่ยาวที่สุดในโลก! ฟังแล้วอลังการไหมล่ะครับ
เพราะมีความยาวถึง 2 กิโลเมตรตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองอมระปุระ(เมืองหลวงเก่า)
สร้างจากไม้สักที่รื้อมาจากกรุงรัตนปุระอังวะ(เมืองหลวงเก่าอีกเมือง)
เมื่อครั้งย้ายเมืองหลวงจากอังวะ มายังอมระปุระจำนวน 1,208 ต้น
เพื่อใช้ทำเป็นเสาสะพาน สะพานอูเบ็ง มีอายุเก่าแก่ถึง 200 ปี!
สร้างทอดข้ามทะเลสาบตองตะมานไปยังอีกฟากของทะเลสาบ
กว่าจะออกจากโซนนี้ได้ก็กินเวลานานที่สุดเพราะอากาศดีมาก
ลมเย็นๆ พัดมาที รู้สึกฟินสุดๆ และถ่ายภาพสนุกจนแทบไม่อยากกลับบ้านเลยครับ
ตอนผมถ่ายรูปให้พี่หม่องกับน้องหม่องก็มองด้วยความปรีดา
พี่ก็หล่อหุ่นดีผิวพรรณเนียนน้องก็ละอ่อนผิวเข้มหุ่นแน่นๆ
เห็นแล้วชักไม่อยากกลับเมืองไทยซะแล้วสิ 5555
อยากอยู่อีกซักคืนก็ไม่กล้าครับเพราะตั้งสองปีแล้วที่หม่องลองไม่ได้กลับบ้าน
เขาก็คงอยากจะอยู่กับครอบครัวเหมือนกันเราเลยต้องกลับ
ตลอดทางก็พูดคุยกันถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจสู่กันฟังไปตลอดทาง
จนค่ำๆก็ถึงบ้านของหม่องลองด้วยความประทับใจ
มาถึงวันนี้ใครที่บอกว่าเมืองพม่าป่าเถื่อนไร้อารยธรรมคงไม่ใช่แล้วครับ
เพราะสถานที่แต่ละแห่งนั้น สวยงาม ยิ่งใหญ่ อลังการมากๆ
แล้วคืนนั้นก็เป็นอีกคืนที่ผมหลับอย่างเป็นสุขด้วยความอ่อนเพลีย.....
…………………………………………………..
เช้าวันนี้ผมรู้สึกเพลียๆ หลังจากการเดินทางตากแดดตากลมถึง 2 วัน
หม่องลองเลยให้นอนพักอยู่บ้าน
ส่วนเขาและคนอื่นไปเก็บผักที่สวนเพื่อเอาไปขายที่ตลาดตั้งแต่เช้า
ได้ยินว่า “สวนผัก” ควรจะอยู่บนดินจริงไหมครับ แต่นี่กลับเป็นสวนที่อยู่กลางทะเลสาบครับ
ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับเพราะแถวบ้านหม่องลองอยู่ในพื้นที่ทะเลสาบอินเล
สถานที่เที่ยวที่มีชื่อเสียงของรัฐฉานมีชื่อเสียงในเรื่องของการพายเรือด้วยเท้าข้างเดียว
และปลูกผักกลางน้ำในทะเลสาบซึ่งมีที่เดียวในโลก
ชาวอินทามีชีวิตอยู่กับทะเลสาบอินเลโดยตั้งเสาและสร้างบ้านอยู่ในน้ำ (หลังๆ ก็เริ่มอพยพขึ้นอยู่บนบก)
และต่อมาก็เรียนรู้การเอาชีวิตรอดด้วยการปลูกผักหาปลากลางทะเลสาบไปในที่สุด
หลักในการปลูกผักกลางน้ำชาวอินทาจะนำรากหญ้าที่เริ่มเน่าทับถมกันตามน้ำ
นำมากองรวมๆกัน ทับกันไว้ แล้วใช้ไม้ไผ่ปักกับพื้นดินให้แน่นหนาเพื่อไม่ให้สวนผักลอยไปกับน้ำ
และพอกองรวมนานๆ เข้า หญ้าก็จะถูกทับทบถมกันจนสามารถปลูกพืชผักได้
นับเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวอินทาที่สุดเจ๋งไปเลยก็ว่าได้ครับน่านับถือจริงๆ
ผักที่ชาวบ้านริมทะเลสาบและในทะเลสาบปลูกก็จะมีหลายอย่าง
ที่เยอะมากจะเป็นมะเขือเทศที่สามารถส่งไปขายทั่วประเทศในทุกๆ วัน
การปลูกพืชกลางน้ำมันเป็นเรื่องของโชคยิ่งถ้าเข้าสู่ช่วงหน้าฝนก็ยิ่งต้องทำใจ
เพราะน้ำเยอะกอหญ้าถ้าปักไม่ดีก็อาจลอยหลุดหายไปก็มีฟังแล้วก็น่าสงสาร
ตอนสายๆ ผมรู้สึกดีขึ้นมาหน่อยเลยออกเดินเล่นที่ท่าน้ำ ลมกำลังพัดเย็นสบายๆ
หม่องเท น้องเขยของหม่องลองก็ขับเรือกลับเข้าฝั่งมาพอดี
หม่องเทหนุ่มมาดเข้มที่โคดเอ็กส์แตกด้วยหุ่นด้วยหน้าและสีผิวที่เข้มจัด
วาดลีลาการพายเรือในทะเลสาบด้วยเท้าเพียงข้างเดียวให้ผมได้เห็น
เขาใส่หมวกปิดบังแสงแดดแต่ใส่เสื้อเพียงตัวเดียวจึงอวดหุ่นที่โคดล่ำให้ได้เห็น
กางเกงขาก๊วยที่เขาใส่ตัวใหญ่และขาบานเวลา
เขาพายแต่ละทีช่างตุงใหญ่น่ามอง! ผมมองไม่ละสายตาเลยก็ว่าได้เพราะอยากกินเจียนบ้า!
หม่องเทเห็นผม ก็ยิ้มๆ แล้วโบกมือให้ ผมก็โบกมือตอบเขาไป
แต่เอ๊ะพ่อตาแม่ยาย พี่เมีย น้องเมีย ดันไม่เห็นกลับมาด้วยซักคน
"แล้วคนอื่นล่ะยังไม่กลับเหรอครับ”
“ยัง...ไปขายของที่ตลาดในเมืองแล้วก็คงพากันไปซื้อของกว่าจะกลับก็คงบ่ายๆ”
ผมได้ยินอย่างนั้นเหมือนสมองมันสั่งการอะไรบางอย่างขึ้นมาในทันที!
เพราะผมมาอยู่บ้านหม่องลองได้หลายวันผมรู้สึกว่าหม่องเทเป็นคนอารมณ์ดีตลก สบายๆ
บางทีก็ออกแนวลามกก็หน่อยๆ
หลายวันมานี้ดูเขาจะสนใจก็คือพวกมือถือเป็นพิเศษ และขอดูอยู่บ่อยๆ
เห็นสีหน้าตอนที่เขาเล่นผมก็ดูออกว่าเขายิ้มอย่างมีความสุข
ก็ไม่แปลก เพราะแถวนี้ถึงจะมีรายได้จากการขายพืชผักแต่ขายยังไงก็ไม่ค่อยมีเงิน
ทำสวนขายพืชผักอย่างมากก็แค่มีพอซื้อข้าวซื้อน้ำมันไว้ปั่นเรือเท่านั้น
พวกเขาถึงต้องหาทางไปทำงานในประเทศไทยเพื่อหาเงินส่งกลับมาให้ครอบครัว
“นายพายเรือเก่งมากเลย!...ทำมาตั้งแต่เด็กเลยใช่ไหม”
“ใช่...พอรู้ความหน่อยก็ถูกหัดให้ทำ”
เขาพูดแบบเป็นเรื่องธรรมดาๆผมเห็นคนแถวนี้เขาพายเรือด้วยเท้าเปล่ากัน
กลับรู้สึกประทับใจทุกครั้ง
“นายอยากลองไหมล่ะ 555”
หม่องเทถามยิ้มๆหน้ากวนๆ เหมือนจะแกล้งลองภูมิผม
“โอ้ยไม่ไหวล่ะขืนผมพายแบบนั้นคงจมน้ำพอดี”
หม่องเทได้ยินก็หัวเราะ
เราคุยกันไปผมก็แกล้งหยิบมือถือ NOKIA (ตอนนั้นฮิตมาก) ออกมาถ่ายรูป
หม่องเห็นเข้าก็บอกถ่ายรูปให้หน่อยผมก็รีบถ่ายให้ทันทีเลยครับ
เพราะรูปเดี่ยวๆ ของหม่องยังไม่มีเลยเพราะวันที่ไปเที่ยวพุกามเมียก็ติดตลอด
หม่องเทก็ขอดูหน้าตายิ้มๆ อย่างยินดี ผมก็ชมเขา...
“หล่อนะเนี่ย...หนุ่มไทยยังไม่หล่อขนาดนี้เลย”
ผมชมเปาะด้วยความปรารถนาในตัวของหนุ่มอินทา ทั้งๆที่ในใจไม่คิดอยากยุ่งกับคนมีเมียเท่าไหร่
แต่กับหม่องเทคนนี้ผมยอมรับว่าอยากจริงๆ
พอขอดูรูปไปเขาก็ดันเลื่อนไปเห็นรูปโป๊ของผู้ชายแบบควยบึ้มๆเลยครับ
“เย้ย!!!...ดูไม่ได้!!!”
ซวยแล้วกู! ดันปล่อยให้หม่องเทเลื่อนดูซะถึงจุดไคลแม็กเลย!
หม่องเทเห็นก็ทำหน้าอึ้งๆเหมือนตกใจ! ผมดิหนักกว่าทำหน้าไม่ถูกเลย
อับอายประชาชีก็วันนี้แหละครับพ่อแม่พี่น้อง!
ผมอายจนหน้างี้แดงแจ๋ร้อนวูบวาบไปหมด หม่องเทพูดแซวผมว่า...
“ในมือถือมีรูปควยผู้ชายด้วยเหรอ”
“พอดีเพื่อนส่งมาแกล้งผมน่ะ”
เขาก็พอรู้เรื่องการใช้มือถือบ้างครับผมพูดเขาก็ทำหน้าเข้าใจ
ผมก็นึกว่าจบแค่นั้นแต่เขาดันพูดถึงเหตุการณ์ในคืนแรกขึ้นมา
“คืนนั้นนายทำอะไรกันบนเรือ”
ผมตกใจ!หน้าร้อนวูบขึ้นมารอบสอง!
“ทำอะไร...ก็ไปนั่งเรือไปนั่งเรือเล่นกันไง”
ผมพูดเสร็จก็จะเดินหนีหม่องเทเลยจับแขนไว้ ฝ่ามือของหนุ่มอินทาทั้งหยาบและแข็งสุดๆ
“ถามแค่นี้ต้องเดินหนีด้วยเหรอ...แล้วทำไมต้องอายด้วย 555”
“ไม่ได้หนี...ไม่ได้อาย...ร้อนแล้วจะกลับบ้านแล้ว”
ผมกลับมาทำหน้าเหมือนเป็นปกติให้มากที่สุด
เพราะจำคำที่ว่า “นิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว” น่าจะใช้ได้บ้างแหละ
หม่องเทก็กอดคอผมจนผมรู้สึกหวิวๆแล้วเขาก็พูดว่า...
“เรารู้หรอกน่าไม่ต้องปิดแล้ว”
ผมก็หันไปมองผมรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร แต่ผมไม่กล้าคิดไปกว่านั้น
เพราะกลัวว่าเขาจะเอาไปบอกพ่อแม่ของหม่องลองแล้วทำให้การกลับบ้านครั้งนี้หมดสนุก
เพราะเคยได้ยินมาว่าคนพม่ายังรับไม่ค่อยได้ที่ลูกไปมีอะไรกับตุ๊ดเกย์
ถึงแม้ว่าหม่องลองจะเอากับเกย์อย่างผมได้แต่ผมรู้ว่าเขาก็ยังชอบที่จะเย็ดผู้หญิงมากเหมือนกัน
เดินไปก็ใจเต้นตุ้มๆต่อมๆ คิดไปสองแง่สองง่าม คิดวิตกไปหมดเลยครับตอนนั้น
คิดไปว่าจะพูดยังไงหรือทำยังไงให้หม่องเทไม่เอาเรื่องที่เห็นในคืนนั้นไปพูดได้
หรือจะต้องใช้เงินหรือจะต้องมีของแลกเปลี่ยน
โอ้ย! ขอบอกว่าชักเครียดขึ้นมาแล้วซิครับตอนนี้!
แต่คิดในใจถ้าเขาต้องการอะไรก็คงยอมแล้วครับ
ถ้าเขาอยากได้เงินผมก็คงจะหามาให้ตอนกลับประเทศไทย
ขอแค่เขาไม่เอาเรื่องผมกับหม่องลองไปบอกครอบครัวเขาก็พอ
จนเดินเข้าบ้านผมเลยตัดสินใจเด็ดขาดแล้วพูดไปว่า...
“นายอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครได้ไหม”
หม่องเทเห็นผมทำหน้าเครียดๆก็หันมายิ้มให้แล้วจับไหล่ผมโยกๆ แบบให้คลายกังวล
“บอกทำไมเรื่องของพวกนายเราไม่เกี่ยว”
“จริงๆนะหม่องเท!”
ผมดึงมือเขามากุมไว้หม่องเทเห็นผมยิ้มออกก็พูดว่า
“แต่ต้องมีอะไรมาแลกนะ”
“อ้าว...แล้วนายจะเอาอะไรอ่ะ...ผมยังเรียนอยู่ไม่ค่อยมีเงินหรอกนะ”
“มือถือ”
หม่องเทพูดสั้นๆ แล้วชี้มาที่มือถือเหมือนจะขอ
ผมถึงกับหน้าซีด! แต่ก็ต้องยกให้ด้วยความเสียดาย
“ถ้าให้แล้วจะรู้ได้ไงว่านายไม่เอาไปพูดทีหลัง”
ผมถามแต่เขาไม่ตอบนาทีนี้รู้สึกว่าชักไม่ปลื้มคนอินทาแล้วสิครับ
ดูหน้าตาเขาแล้วดูเหลี่ยมจัดจัง!
แต่นาทีนี้เป็นรองเขาทุกอย่างนี่ครับบ้านก็บ้านเค้า เรื่องผมกับหม่องลองเขาก็รู้อีก
ผมก็ใส่รหัสเข้าเครื่องไปแล้วหม่องเทก็เดินถือเข้าบ้านไปแต่ดึงแขนผมเข้าไปด้วย
เขาดึงแขนผมเดินเข้าไปในห้องด้วยแล้วปิดประตูห้องนอน
“มีคลิปโป๊ไหม...ผมเคยเห็นในมือถือของเพื่อนผม”
“อยากดูคลิปโป๊อีกนะมึง” ผมคิดในใจเพราะกำลังเคืองๆ
จากที่เคยปลื้มๆตั้งแต่วันแรกตอนนี้ชักไม่ปลื้มแล้ว 5555
ผมก็เปิดคลิปโป๊ชาย-หญิงที่ผมแอบโหลดมาไว้ดูยามเสี้ยนๆให้เขาดู
หม่องเทดูปุ้บก็ทำตาโตยิ้มกริ่มตาจ้องวีดีโดในมือถือไม่วางตา!
“ซู้ดดด!!!”
เห็นคลิปปุ้บหม่องหน้าแมนหุ่นล่ำๆก็สูดปากครางทันทีอย่างพอใจ
นาทีนี้เสียมือถือที่ไอ้ตี๋อ้นมันซื้อให้มีเหรอผมจะยังมีอารมณ์อยู่ได้
เพราะตอนนั้นมือถือโนเกียรุ่นดีๆหน่อยราคาแม่งอย่างแพง
แถมเป็นของที่แฟนที่ผมรักซื้อด้วยผมเลยแทบไม่อยากอยู่ในห้องเขาต่อ
แต่พอผมจะเปิดประตูออกไปหม่องเทก็ดึงแขนผมไว้แล้วมายืนกันที่หน้าประตู
แต่ตายังดูคลิปที่มือถือไม่วาง
“ทำแบบที่ทำให้พี่ลองหน่อยสิ!”
ผมได้ยินไม่ถนัดนักแต่มือเขาที่เริ่มจับควยแข็งๆดันกางเกงขาก๊วยมันบอกครับ
ว่าตอนนี้หม่องหน้าเอ็กส์หุ่นล่ำกำลังต้องการคนช่วยเหลือ
แต่อยากบอกว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมไม่มีอารมณ์เลยจริงๆ ครับ
เพราะเป็นมือถือที่ไอ้ตี๋อ้นซื้อให้ เลยถามไปแบบฉุนๆ ว่า...
“ได้มือถือแล้วยังจะเอาอะไรอีก!”
หม่องเทก็มองหน้าผมงงๆที่เห็นผมพูดด้วยอารมณ์โมโห
“อ้าวนายไม่ชอบเหรอเห็นคืนนั้นยังทำให้พี่ลองซะดีเลย”
ยังไม่เข้าใจอีกนะมึงโง่หรือบ้ากันแน่เนี่ย! ว่ากูกำลังมีน้ำโห! ผมคิด
“จะเอามือถือก็เอาไป!”
ผมโกรธจัดเลยพูดออกไปตรงๆทีนี้หม่องเทเลยหัวเราะก๊ากๆๆๆ!!!
เหมือนขำสุดๆแล้วพูดว่า
“ผมไม่ได้จะเอามือถือนาย...ขอมาดูคลิปเฉยๆ”
เขาพูดเสร็จ ก็หัวเราะขำๆ ในความเข้าใจผิดของการสนทนาของเราสองคน
“อ้าว!...ผมก็นึกว่า!”
ผมทำหน้างงๆ หม่องเทก็กอดคอแล้วพาไปนั่งที่ฟูกนอน
ผมทำหน้างงๆ หม่องเทก็กอดคอแล้วพาไปนั่งที่ฟูกนอน
“สบายใจได้ผมแค่อยากดูคลิปเฉยๆ ผมเคยเห็นมือถือของเพื่อนผมแบบนี้แหละ
...ในมือถือมีคลิปแบบนี้ผมเลยคิดว่านายน่าจะมี”
ผมเกาหัวอย่างอายๆแล้วยกมือไหว้เขาเพราะยังไงเขาก็เป็นพี่
และผมดันไปใส่อารมณ์กับหม่องเทจนทำพลาด!
“ผมขอโทษ”
หม่องเทก็งงๆ ที่อยู่ดีๆ ผมก็ยกมือไหว้ ทีนี้ผมก็เปิดคลิปเอากันให้เขาดู ท่าทางเขาจะชอบมาก
ดูๆ ไปหม่องเทก็จ้องคลิปไปลุกวาว! ปากก็สูดเบาๆ อย่างเริ่มมีอารมณ์!
“ซู้ดดดด!!!”
เขาครางไปมือก็เริ่มกำๆคลำๆ ที่ควยของเขาที่เริ่มแข็งจัด! แถมยังมีผงกหัวหงึกๆ อีกตะหาก!
คราวนี้พอหม่องเทจับมือผมไปกุมที่เป้าแข็งๆของเขาผมเลยไม่ปล่อยแล้วครับ
เพราะตอนนี้ได้ทั้งควยได้ทั้งคำสัญญาที่ว่าเขาจะไม่เอาเรื่องผมกับหม่องลองไปบอกใคร
เป็นใครจะไม่เอาจริงไหม
ผมให้เขานอนลงไปกับฟูกโดยที่มือเขายังถือมือถือไว้ตาก็จ้องไม่วาง!
ตอนนี้หม่องเทนอนลงไปแบบสบายๆควยเขาตั้งโด่กลางางเกงเลยครับ!
ขอบอกว่าทั้งยาว ทั้งใหญ่มากกกกกกก!!!
ผมกำปุ้บก็ถึงกับสะดุ้งเฮือก!ด้วยความร่านที่รุนแรงขั้นสุด!
มันทั้งใหญ่เต็มกำมือแข็งจัด ทั้งร้อนๆ อุ่นๆ
ผมทั้งชักทั้งถอกหนับๆๆๆ!!! หม่องเทก็สูดปากครางอย่างเสียวๆ
จนผมเองที่ทนไม่ไหวเสียเองเพราะเห็นมาตั้งแต่วันแรกก็อยากได้แล้วนี่ครับ
เลยรีบปลดเชือกที่มัดไว้ออกพอเปิดออก
ก็เห็นกางเกงในเก่าๆ เอวย้วยๆ ถูกควยดุ้นใหญ่ดันจนหัวควยโผล่ออกมาเกือบถึงสะดือ!
“หูยยย!...ใหญ่ชิบหาย!!!”
เพราะความเงี่ยนความร่าน ทำให้ผมเพลอพูดเป็นภาษาไทย
“นายพูดว่าอะไรนะครับ”
“ควยหม่องเทใหญ่มากๆ เลย”
ผมบอกเขาเป็นภาษาของเค้าหม่องเทก็ยิ้มๆ แล้วกดหัวผมลงไปดม
“ทำให้หน่อยทำแบบที่ทำกับพี่ลองน่ะ”
เขาขอร้อง ผมก็ก้มหน้าตามคำสั่งของเขา จมูกผมสัมผัสได้ถึงความอับที่แสนจะเซ็กซี่
มีความดึงดูดทางเพศอย่างที่สุด! ควยของเขาที่ผมจ้องหมายตามาตั้งแต่วันแรกที่มาถึง
อวดความใหญ่ยาวอวบหนาด้วยขนาด 8 นิ้ว!!! ไปเลยครับพี่น้อง!!!
ผมไม่รอต่อไปแล้วครับรีบอ้าปากอมแล้วดูด!รูดมือทั้งชักทั้งถอกแบบมันเสด็จ!
ปากก็ทั้งเลียทั้งอมอย่างมันเอร็ดอร่อยถึงใจ!
“ซู้ดดดดด!!!...เสียวววว!!!”
เขาครางออกมาไม่ต่างจากความรู้สึกของหนุ่มไทยที่ผมเคยผ่านมาเลยครับ
แค่ต่างสำนวนกันเท่านั้นแต่อารมณ์เงี่ยนและคุกรุ่นไม่ได้ต่างกันเลย!
ตอนนี้เขาวางมือถือไว้ข้างๆตัวแล้วปล่อยให้ผมดูดเลียควยเขาแบบคนที่อยู่ในอารมณ์คึกจัด! พร้อมหลับตาปี๋!
ปากครางซู้ดซ้าด!อย่างมีอารมณ์เงี่ยนสุดๆ! ผมดูดไปก็ดึเสื้อยืดเขาออกแล้วถอดกางเกงขาก๊วยเขาออก
จนตอนนี้หนุ่มอินทาอวดหุ่นทุกสัดส่วนของเขาให้ผมเห็นแบบหมดจด!
อา! หุ่นเขาคือสุดยอดมากๆครับ ทั้งหน้าที่หล่อ เอ็กส์ หน้าตาไม่ได้ดุดันแบบชาวพม่า
มีความอ่อนๆแบบหนุ่มอินทา แต่หุ่นกลับบึกบึนแข็งแรง! แขนใหญ่ อกกว้างหน้าท้องมีขนเซ็กส์ๆ ทั้งดกและหนา
ควยดุ้นใหญ่ 8 นิ้ว!!! แข็งจัดนอนราบไปกับหน้าท้องเพราะน้ำหนักที่มากจนทรงตัวตั้งไม่ได้
ดงหมอยที่ดกรกช่างเซ็กซี่และมีเสน่ห์แห่งความเป็นชายอย่างมากล้น!
ตอนนี้ผมทนไม่ไหว้แล้วครับจับดูดจ๊วบๆๆๆๆ!!! อย่างติดพัน!
ปากก็ดูด มือก็ถอก! จนหม่องเทดิ้นพล่านไปมาอย่างสุดเสียว!
ถือว่าเป็นผู้ชายที่ดิ้นพล่านไปมาได้อย่างสะใจผมสุดๆ!
“ซู้ดดดด!!!...อ๊า!!!”
เขากดหัวผมแน่นๆจนตัวเกร็งไปหมด! ผมโดนเขากดหัวจนควยดุ้นใหญ่ยักษ์ 8 นิ้ว!!!
กดเข้าปากผมลึกจนถึงคอหอย! จนผมน้ำตาเล็ดด้วยความสำลัก!
แต่พอหายสำลักแล้วก็มุ่งทำหน้าที่ดูดเลียควยเขาต่อจนหม่องเทตัวดิ้นพล่าน
แล้วทันใดตัวเขาก็กระตุกแรงๆ!!!
แล้วน้ำอสุจิของหนุ่มต่างชาติก็พุ่งเข้าเต็มปากผม!!!
ดีที่ผมกดปิดคอหอยไว้ทันแต่ถึงอย่างนั้นด้วยความแรงของน้ำก็ยังพุ่งเข้าปากผมจนได้!
“อูยย!!!...เสียววว!!!”
เขาครางออกมาแล้วค่อยคลายมือจากหัวผมให้ผมได้เป็นอิสระ
ผมรีบไปคายน้ำออกแล้วบ้วนปาก
พอกลับเข้าห้องหม่องเทก็นอนหลับตาอย่างสบายๆโดยเอากางเกงปิดแต่ควยไว้
ผมก็เข้าไปนอนกอดหุ่นของเขาแล้วลูบไล้ไปมาตามหุ่นแน่นล่ำผิวคล้ำออกแดงของเขา
หม่องเทก็รืมตาขึ้นมายิ้มๆ
“เมื่อกี้ผมเสียวมาก...นายดูดควยซะเสียวเลย!...มิน่าวันนั้นพี่ลองถึงร้องซะดังเลย!”
อ้อ! ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง
ผมก็นอนกอดเขาไปลูบไล้ตามตัวหม่องเทไปแล้วก็พูดคุยกัน
เขาก็ถามว่าทำไมถึงชอบผู้ชายผมก็บอก
“ไม่รู้เหมือนกัน...เห็นแล้วก็ชอบเลย”
เขาก็หัวเราะ
“แล้วแบบผมนายก็ชอบใช่ไหมเห็นมองตลอด”
เขาถามไปหัวเราะไป
"ก็นายหล่อแถมหุ่นล่ำมากผมก็เลยชอบ"
เขาได้ฟังก็หัวเราะอย่างชอบใจ
ผมเห็นทั้งหน้าตาทั้งนิสัยที่ฮาๆ และหุ่นแน่นล่ำผิวคล้ำแดงงามของเขาแล้ว
ก็นึกว่ายังไงซะวันนี้ผมต้องโดนเย็ดให้ได้ไม่งั้นคงนอนตายตาไม่หลับแน่!
เลยเริ่มเข้าไปหอมแก้มเขาหม่องเทก็เอียงหน้าหนีดูอายๆ
“ไม่เอา...”
เขาพูดแล้วทำหน้าเขินๆ
“นะครับพี่เท...ขอผมหอมหน่อยนะ”
ผมขอหลายทีเขาถึงยอมให้หอมแต่ก็ยังทำหน้าเขินๆผมก็สูดดมแก้มเขาอย่างมีความสุข!
แล้วมือก็เริ่มกำควยเขาอีกผ่านไปเกือบ 10 นาทีควยของหม่องเทเริ่มแข็งตั้งอีกครั้ง!
ผมก็เริ่มไซ้ตามติ่งหูเล่นซะเขาดิ้นกระแด่วๆ ไปเลยครับ
“ซี้ดดด!!!”
แล้วผมก็เริ่มไซอกคอตามหัวนม ตามตัว ต่ำลงมาที่ไรขนเซ็กส์ๆ ดกๆ ที่หน้าท้อง!
ตลอดการเลียไซ้ดูดบีบคลำของผมหม่องเทครางเสียวจัดตลอดเวลา!
ยิ่งทำให้ผมเงี่ยนขึ้นมาอย่างมากมายรีบจับควยดุ้นใหญ่ยักษ์ด้วยขนาด 8 นิ้ว !!! ของเขาเข้าปากดูดกินอีกรอบ!
“ซี้ดดด!!!...อา!...ดีๆๆ!”
เขาครางไปก็กดหัวผมไปอย่างมีอารมณ์!
ผมดูดทั้งควยทั้งไข่ให้หม่องเทแบบมันๆจนน้ำใสๆ ของเขาไหลเยิ้ม!
ผมกลัวว่าหม่องเทจะแตกในปากเหมือนครั้งแรกเลยถอดกางเกงออกแล้วขึ้นไปนั่งทันที!
“เดี๋ยวๆๆ!!!”
“นะพี่เทนะ...ผมขอนะครับ”
ตอนนี้ผมเรียกพี่เทซะเต็มปากเลยครับคืออยากได้เป็นผัวสุดๆ แล้วนี่ครับ 5555
หม่องเทเห็นผมอ้อนก็คิดแป้บนึงเพราะอารมณ์ที่เงี่ยนสุดๆ แล้วด้วยเลยพูดว่า
“กลัวขี้นายจะแตกใส่ควยผม!”
ได้ยินแบบนั้นผมเลยรีบออกไปเข้าห้องน้ำล้างตู้เย็นแบบเร่งด่วนครับ
พอกลับเข้าห้องผมก็ดูดควยเขาเล่นใหม่หม่องเทก็ครางซี้ดๆ อย่างชอบใจที่โดนดูดควย
“ดูดอย่างเดียวให้แตกอีกรอบได้ไหม”
“ผมขอนะครับพี่เท”
ผมทำหน้าเศร้าๆหม่องเทเห็นเลยยอม พอหนุ่มอินทาสุดเอ็กส์ยินยอม
ผมก็ขึ้นนั่งทันทีครับหุ่นเขาทั้งแน่นทั้งล่ำ ทั้งเอ็กส์ ทำเอาผมเสียวไปหมด
จนควยหัวบานๆของเขามุดเข้าถ้ำผมช้าๆ
“อ๊า!!!...ซี้ดดดดดด!!!”
ผมครางอย่างมีความสุขสุดๆ!!!!!!!
ที่ในที่สุดผมก็ได้ความเป็นชายของหม่องเทจนสมอารมณ์หมาย!
“อึ๊!!!...เบาๆ มันคับ!”
เขาทำหน้าเหยเกด้วยความคับแน่นเพราะไม่เคยผ่านตูดชายใดมาก่อน
ผมกลัวทุกคนจะกลับมาถึงบ้านก่อนจนสั่นไปหมดครับเลยนั่งควบกดควยให้เข้าตูดจนมิดด้าม!!!
“อ๊า!!!!!”
“โอ้วววว!!!...ซี้ดดด!!!”
ตอนนี้ผมลงไปกอดรัดหุ่นแน่นล่ำของหนุ่มอินทาหน้าเอ็กส์!อย่างเสียวจัด!
แล้วผมก็เริ่มเอาตูดคล่อมทับลงไปที่ควยเขาเป็นจังหวะ
ดึ๊บๆๆๆๆ!!!!!!!
เราสองคนกอดรัดกันแน่นๆจนผมดูดไซ้ตามคอเขาอย่างเสียวชิบหาย
แล้วผมก็เผลอเอาปากไปดูดปากเขาตอนนี้หม่องเทคงเสี้ยนขึ้นมาสุดๆแล้วเลยเผลอดูดปากกับผม
เราดูดปากกันจ๊วบๆผมนั้นเสียวจนแทบร่านแตก!!!
เลยตั้งหน้าตั้งตาดูดปากแลกลิ้นกินน้ำลายเขาเข้าคออย่างเมามัน!
เมื่อเขารู้สึกตัวก็หันหน้าหนีอย่างอายๆ ผมก็ปล่อยให้เขาทำใจไป
แล้วขึ้นนั่งขย่มตอให้เขาอย่างเมามันสุดๆไปเลย!
สองมือผมก็บีบคลึงไปตามตัวเขาอย่างเร่าร้อนรุนแรงสัดๆ
“อูยยย!!!...อ๊า!!!”
ผมครางอย่างมีความสุขสุดๆจนความเสียวมาถึงผมแล้ครับ
ทันใดน้ำผมก็แตกพลั่กๆๆ ออกมาเองเลย!
“อ๊า!!!...ซี้ดดดดด!!!”
ผมน้ำแตกปรี้ดๆๆๆ!!! แล้วผมก็ฟุ้บลงบนอกแน่นๆของหม่องเท
แต่เขายังไม่แตกเขาเลยจับผมนอนราบไปกับฟูกแล้วกดควยเข้ามาในรูครั้งเดียวมิดดุ้น 8 นิ้ว!!!
“อ๊า!!!...ซี้ดดดด!!!”
“อู้วววว!!!...อึ๊บๆๆๆๆ!!!”
พอเขากดเข้ามิดก็กระแทกเลยครับทั้งกระทั้น เด้าพั่บๆๆๆๆ!!!อย่างรุนแรงหนักหน่วง!
ผมที่นอนคว่ำหน้าอยู่ได้แต่ครางเบาๆหอบกระเส่าตามแรงเด้าเย็ดของหนุ่มอินทาหน้าหล่อไป
หุ่นเขาทั้งแน่นทั้งล่ำผิวคล้ำแดงแถมยังมีความแข็งแรงอย่างที่สุด!
น้ำหนักในการกระเด้าเย็ดก็ช่างสะใจผมเหลือเกิน
ตอนนี้เขาคงทนความเสียวอีกต่อไปไม่ไหวเขาเร่งเย็ดถี่ขึ้นๆๆๆ!!!
ทั้งตัวของเขาที่หนักเกือบ80 กิโล ทิ้งน้ำหนักลงที่ก้นและกลางหลังผมอย่างหนักหน่วง!
แล้วทันใดนั้นหม่องเทหน้าหล่อหุ่นล่ำก็ร้องดังๆ!!!
“โอ้วววว!!!...ซี้ดดดดดดดดดด!!!!”
แล้วเขาก็กอดรัดข้างหลังผมแน่นๆตัวร้อนวูบวาบอาบไปด้วยเหงื่อ!
แล้วน้ำที่สองของเขาก็ฉีดพุ่งเข้าในตัวผมจนหมดสิ้น! ผมกับหม่องเทนอนหอบกระเส่าแฮ่กๆ!!!
“มันมากๆ มันจริงๆ...ผมชอบมากๆ แฮ้กๆๆ!!!”
แล้วหม่องเทก็กัดคอผมเบาๆ จนผมร้องครางเบาๆ
เขาก็แกล้งเอาควยที่เริ่มอ่อนตัวแยงๆ เข้าๆ ออกๆ อย่างทะลึ่ง
ผมก็ดึงหน้าเขามาหอมฟ้อดๆ ทีนี้ยอมให้หอมง่ายๆ แล้วครับพ่อหนุ่มอินทาของผม
เราคลึงเคล้ากันอยู่แบบนั้นแป้บนึงแล้วก็รีบใส่เสื้อผ้าเพราะกลัวคนอื่นกลับมาเห็น
แล้วออกไปผ่าฟืนอยู่หน้าบ้าน ผมช่วยเขาไปก็คอยมองหุ่นเขาไป
พอมองมากๆ เขาก็ยิ้มอย่างรู้ทันผม พอได้ทีผมก็แอบคว้าหมับเล่นทันที แม่งได้อารมณ์ที่สุด!
เพราะได้ของอร่อยดุ้นใหม่ดุ้นที่เล็งไว้ตั้งแต่วันแรกที่มาถึง
คืนนั้นก็เลยสบายใจเฉิบ นอนหลับฝันดีไปเลย อิอิอิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น