หลังจากที่ไอ้แก้วแยกกันกับไอ้แต้ม เพื่อแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตน
แต่เท้าของไอ้แก้วเดินยังไม่ถึงเรือนใหญ่ของท่านเจ้าหมื่น
พลัน!หูก็ได้ยินเสียงการต่อสู้ดังลั่นพร้อมเสียงร้องดังๆ
“จับกุมตัวเจ้าหมื่นไว้!!!”
เด็กหนุ่มถึงกับหน้าซีดรีบวิ่งไปที่เรือนใหญ่ของเจ้านาย
ด้วยใจที่เป็นห่วงท่านเจ้าหมื่น
พอไปถึงที่เรือนใหญ่เห็นมีกองทัพทหารหน้าตาไม่คุ้นเคยนับร้อยควบคุมบริเวณเรือนท่านเจ้าหมื่นไว้จนหมดสิ้น
ทหารเพียงไม่กี่นายที่เหลือเฝ้าเรือนต่อสู้อยู่ไม่นานก็ถูกจับกุมจนหมด
แม้กระทั่ง ขุนพันทั้ง 4 ผู้เจบจบการต่อสู้ของท่านเจ้าหมื่นก็ยังไม่อาจยันคู่ต่อสู้นับร้อยได้
ผ่านไปไม่นานเสียงเอะอะ และการต่อสู้
ที่โกลาหลแล้วจบลงด้วยการที่ท่านเจ้าหมื่นถูกจับกุมตัวตัวแล้วถูกนำเข้าไปในคุ้มหลวง
โดยทหารเจ้าเมืองเขลางค์นคร ผู้เป็นเจ้าอา
ของเจ้าหลวงแสนวงษ์
สถานการณ์ที่เรือนของเจ้าหมื่นจึงถูกควบคุมได้อย่างง่ายดาย
การจับกุมในครั้งนี้เพราะมีความผิดฐานคบคิดกันกับ
“เจ้าแสนพายัพ” ผู้เป็นนายใหญ่
ที่คิดจะชิงบัลลังก์เจ้าหลวง
และเมื่อเรื่องนี้รู้ไปถึงหูเจ้าหลวงแสนวงษ์
เจ้าหลวงจึงขอกองกำลังจากเขลางค์นครซึ่งมีศักดิ์เป็นเจ้าอา
เพื่อมาช่วยปราบกบฏในครั้งนี้
เหตุที่ถูกจับได้ง่ายก็เพราะท่านเจ้าหมื่นชะล่าใจ
ให้ทหารในสังกัดที่เคยมีนับร้อย
ทหารที่เคยอยู่กันอย่างเนืองแน่นรอบๆ
ออกไปทำภารกิจนี้ทำให้ท่านเจ้าหมื่นไม่มีกำลังปกป้องรอบๆ เรือน
ทหารเหล่านั้นโดนจับกุมไว้ทั้งหมด!
ด้วยกองกำลังของเจ้าเมืองเขลางค์นครที่รู้ความเคลื่อนไหวของเจ้าแสนพายัพเรื่องชิงบัลลังก์
และในจำนวนทหารที่ร่วมก่อการ “เมืองแมน”
ก็รวมอยู่ในทหารที่ถูกจับกุมในครั้งนี้ด้วย
โดยถูกกุมตัวไปไว้ที่คุกหลวงกลางเวียง
คุมเข้มอย่างแน่นหนา
แต่เพราะ... ความดีความชอบของเจ้าแสนพายัพ
ซึ่งเคยช่วยชิงบัลลังก์เมื่อเกือบสองเดือนก่อน
องค์เจ้าหลวงแสนวงษ์ จึงเมตตา ไม่ได้ประหารชีวิต 7 ชั่วโคตร!ตามกฎเวียงที่ตราไว้
โทษมีเพียงถอดยศจาก “อำมาตย์เอก” ลง
แล้วเนรเทศให้ไปเป็นเพียงเจ้าเมือง“เชียงแสน”
อดีตเมืองเก่าสมัย “โยนกนครนาคพันธุ์” และ “หิรัญนครเงินยาง”ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักร
แต่เมื่อเปลี่ยนยุคสมัยเมืองเชียงแสนที่เคยเจริญรุ่งเรืองมาอย่างยาวนานก็กลายเป็นแค่เมืองเก่า
และห่างไกล
โดยได้รับอนุญาติให้มีกองกำลังรักษาเมืองได้เพียงหยิบมือพอก็แค่ป้องกันเมือง
แต่มิอาจก่อการใหญ่ได้อีก...
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไอ้แก้วรู้สึกสะท้อนใจ
และเศร้าใจเป็นที่สุดที่คนล้านนาด้วยกันชิงดีกันและกัน
ขาดจิตสำนึกของหน้าที่ๆสมควรแก่ฐานะตนบ้านเมืองถึงได้วุ่นวายอยู่เยี่ยงนี้ไม่จบสิ้น
มิน่า... เมืองแมน
ถึงได้หายหน้าไปเสียนานเงียบหายไม่ส่งข่าวราวหมอกควัน
ที่แท้...
ไปทำภารกิจชิงบัลลังก์ให้กับท่านเจ้าหมื่นนี่เอง… และเจ้าแสนพายัพนายใหญ่นี่เอง
“พุทโธ ...ธัมโม ...สังโฆ!!!” ไม่น่าเลยอ้ายเฮย
แต่เด็กหนุ่มก็เข้าใจเมืองแมน
ว่าทหารหนุ่มผู้สนิทผู้นี้ไม่ใช่คนเลวร้ายหวังลาภยศสรรเสริญ
แต่เพราะคำสั่งนายใหญ่ คือเจ้าแสนพายัพต่างหากที่ผู้ใต้บังคับอย่างเจ้าหมื่นก็ไม่อาจปฏิเสธได้
นายทหารยศต่ำกว่านี้มีหรือจะมีสิทธิ์ที่จะไม่ทำตามคำสั่งนายได้....
ท่านเจ้าหมื่นนายของไอ้แก้ว
ถูกริดรอนกองกำลังลงจนเกือบหมด
เหลือแค่เพียงขุนทหารยศเจ้าพัน 4 นาย กับทหารรับใช้อีกเพียงไม่ถึงสิบนาย
ไอ้แก้วเองก็ต้องติดตามท่านเจ้าหมื่นไปอยู่ที่เชียงแสนด้วยเพราะข้าไทของท่านถูกริบคืนหลวงเสียเกือบสิ้น
เด็กหนุ่มเห็นแก่ความดีของท่านที่เคยช่วยชีวิตไว้จึงขอตามไปรับใช้จนกว่าชีวิตจะหาไม่ตามคำสัตย์ที่ให้ไว้
"ชีวิตข้าเจ้านี้ขอพลีให้แก่ท่านเจ้าหมื่น...แล้วแต่ท่านจะสั่ง...
บุกน้ำ... ลุยไฟ... ข้ายอมตายถวายแก่นายท่านเจ้า"
วันที่ขบวนเดินทางของท่านเจ้าแสนพายัพเจ้าเมืองเชียงแสนคนใหม่และขบวนของบรรดาเจ้าหมื่นอีกหลายคน
รวมไปถึงเจ้านายของไอ้แก้วด้วยออกเดินทางอันไกลโพ้นเพื่อไปอยู่เมืองป่า
เก่าร้าง และไกลตา
ไอ้แก้วหันหน้ากลับมาที่นพบุรีศรีนครพิงค์ทิศอันเป็นเมืองเกิดและเป็นที่อยู่ของ
บิดา พี่สาว พร้อมยกมือไหว้สาขึ้นท่วมหัว
“ถ้าหากข้าเจ้าและอ้ายมีบุญร่วมกัน
...ก็ขอหื้อ(ขอให้)ข้าเจ้าได้ปิ๊ก(ได้กลับ)นพบุรีศรีนครพพิงค์มาเพื่อได้พบกับอ้ายด้วยเต๊อะ!
ขอหื้อพ่อข้า...พี่สาวข้า ...น้องสาวข้า ...และอ้ายเมือง อยู่ดีกิ๋นหวาน
(เป็นสำนวนว่า=อยู่ดีมีสุข) ด้วยเต๊อะ!...เจ้าประคู๊นน!!!”
ตาของไอ้แก้วแดงๆ น้ำใสๆ
เอ่อซึมเต็มขอบตาด้วยความอาลัยบ้านเกิดเมืองนอน อาลัยพ่อแก่ พี่น้อง
และที่สุดคือความอาลัยชายผู้สนิททั้งใจและกาย
ไอ้แต้มที่ยืนอยู่ข้างๆ
มองตามทิศที่ไอ้แก้วนบมือขึ้นไหว้สาด้วยตาละห้อยไม่แพ้กัน
เพราะตั้งแต่เกิดและโตมามันเคยไปไกลสุดก็แค่เมืองหริภุญชัย(ลำพูน)แค่นั้น
นี่จึงเป็นครั้งแรกทั้งของไอ้แก้ว และไอ้แต้ม
ที่นับจากนี้ต้องเดินทางไกลไปถึง“เมืองเชียงแสน”
.................................................
ตลอดการเดินทางเป็นไปอย่างยากลำบาก
เพราะขบวนต้องเดินด้วยเท้า ผ่านทุ่งนาป่าเขา และดอยสูง
ผ่านห้วย หนอง คลองลึก และแม่น้ำใหญ่
ไอ้แก้วผู้มีหน้าที่ปรนนิบัติรับใช้ท่านเจ้าหมื่น
เป็นสล่ามีฝีมือติดตัวคอยขับซึงให้ท่านฟัง และไม่ได้เป็นทหาร
จึงไม่ลำบากมากนัก เพราะได้นั่งไปในเกวียนที่ใช้ขนสัมภาระของท่านเจ้าหมื่น
คอยดูแลเรื่องอาหาร และน้ำท่า ให้กับทหารคนอื่นๆ
ในขบวน
ไม่เหมือนไอ้แต้มที่เป็นเพียงทหารชั้นล่าง
จึงต้องเดินด้วยเท้า ถึงมันจะเป็นเด็กหนุ่มร่างกายบึกบึนแข็งแรง
ในช่วงแรกๆ
ไอ้แก้วก็เห็นไอ้แต้มเหมือนจะเดินต่อไม่ไหวต้องทรุดตัวลงนั่งกับพื้นเพราะความเหนื่อยในการเดินทางไกล
เพราะตลอดมามันก็ทำงานหนักแค่ในคุ้มในเวียงไม่ได้เดินทางด้วยสภาพทหารโดนเนรเทศแบบนี้
พอไอ้แก้วเห็นก็จะหาน้ำให้มันดื่ม
เพราะตอนนี้ก็เหลือมันนีแหละที่เหมือนคนรู้จักใกล้ชิดเพียงไม่กี่คน
“โอ้ยยย!!! ...ข้าเหนื่อย”
ไอ้แต้มมันบ่นๆ พร้อมกับทรุดตัวลงนั่งกับพื้น
“เดี๋ยวก็ถึง ...เอ็งต้องอดทนไว้เน้อไอ้แต้ม”
“ถ้าฮู้ว่าเป็นทหารแล้วจะเหนื่อยจะอี้(อย่างนี้)...ข้าขอเป็นข้ารับใช้เจ้านายเหมือนเอ็งดีกว่า”
ไอ้แต้มบ่นอุบตามประสา
เพราะปกติมันเป็นคนปากไวคิดยังไงก็แสดงและพูดออกไปอย่างนั้น
แต่มันเองก็รู้ตัวว่าไม่ได้เป็นสล่าเหมือนไอ้แก้วที่รู้งานสล่า(ช่าง)รู้ตั๋วเมือง(หนังสือ)
และงานขับกล่อมดนตรี สะล้อ ซอ ซึง
ไอ้แก้วรู้ตัวว่าปลอบคนไม่เก่ง
จึงได้แต่ส่งยิ้มให้กำลังใจมันไป
“เอ็งเป็นป้อจาย... และเป็นผู้ใหญ่แล้ว ...
นี่แค่เป็นการเริ่มต้นคนที่ทนได้เท่านั้นถึงจะมีชีวิตรอด ฮู้ก่อ…”
ไอ้แต้มถึงเป็นไพร่ชั้นล่างกว่าไอ้แก้ว
แต่ก็อยู่ในรั้วในวังมาก่อนมันจึงมากกว่าไพร่ทั่วไปพูดไม่กี่คำก็เข้าใจเหตุผล
คิ้วเข้มๆ ตั้งชัน ดวงตาลุกวาวแบบกล้าหาญ
ขึ้นมาทันใดคิ้วเข้มตั้งชันเงยหน้าขึ้นฟ้าพรางสูดหายใจลึกๆแบบฮึดสู้
“เอาวะ!!! …ข้าจะสู้
เพราะข้าเป็นป้อจายจะมัวแต่สำออยเป็นแม่ญิงได้หยั่งใด(ยังไง)”
เด็กหนุ่มยิ้มให้แก่กันด้วยความฮึดสู้ไอ้แต้มมีกำลังใจมากขึ้นจึงเดินทางต่อได้อย่างเข้มแข็งไม่ย่อท้อ
แต่ถึงแม้ว่าการเดินทางไปเชียงแสนในครั้งนี้
จะลำบากซักเพียงใดแต่ไอ้แก้วก็ถือว่าได้เปิดหูเปิดตาไปด้วย
เพราะตลอดเส้นทางที่เดินทางผ่านได้เห็นบ้านเมืองอื่น
ได้พบผู้คนหลากหลายเผ่าพันธุ์ตามเส้นทางที่ผ่าน
แม้จะอู้คำเมืองเหมือนกัน
แต่สำเนียงกลับแตกต่างกันไป
เพราะนับตั้งแต่องค์เจ้าหลวงองค์แรก
ผู้สร้างนพบรีศรีนครพิงค์ ได้รวบรวมแว่นแคว้นจนเป็นอาณาจักรล้านนา
ที่เกรียงไกร ก็ได้ทำศึกเทครัว(กวาดต้อนผู้คน)
ผู้คนหลากเชื้อชาติหลายเผ่าพันธุ์ ให้มาอยู่ในอาณาจักรเดียวกัน
อันประกอบไปด้วย ไทยยวน(ล้านนา หรือ คนเมือง) ลั้วะ
ไทเขิน(ไทใหญ่) ไทลื้อ คนลาว คนยอง คนมอญ คนพุกาม(พม่า)
และชาวเขา ชาวป่าเผ่าต่างๆ
ให้เข้ามาอยู่ในอาณาจักรเดียวกันจนกลืนเป็นคนล้านนา
อาณาจักรล้านนาจึงเป็นอาณาจักรที่มีประชากรมากมายและคับคั่งในยุคนั้น
ขบวนเกวียนขนสัมภาระของท่านเจ้าหมื่นมีของมากมายจึงรั้งอยู่ท้ายขบวน
มีไอ้แต้ม กับทหารสองนายคุมหลัง
คนหนึ่งนั้นชื่ออ้ายเส็งเป็นทหารรูปกายแข็งแรงวัย 20 ปี
นิสัยเป็นกันเองและคุยเก่งจึงถูกคอกับไอ้แต้มเป็นพิเศษ
ขบวนเดินทางครั้งนี้เดินทางขึ้นเหนือ
ผ่านมาถึงเขตต่อแดนของนพบุรีศรีนครพิงค์กับ เมืองเชียงราย
ขบวนหยุดพักริมห้วยที่มีน้ำใสไหลเย็น
ภูมิประเทศแวดล้อมไปด้วยป่าเขาลำเนาไพรมองแล้วพาให้ชื่นใจยิ่งนัก
พอขบวนเดินทางหยุดพัก
เด็กหนุ่มก็เข้าไปรับใช้ท่านเจ้าหมื่นให้กินข้าวและพักผ่อนในกระโจม
คอยบีบนวดบรรเทาความเมื่อยให้เจ้านายจนท่านเจ้าหมื่นผล็อยหลับไปด้วยความเพลียตั้งแต่ตอนเย็น
ไอ้แก้วจึงตั้งใจจะไปอาบน้ำที่ลำธารเพราะตั้งแต่ได้มาเห็นลำธารใสๆตอนบ่ายมันก็นึกอยากลงไปแหวกว่ายใจจะขาด
เพราะตลอดการเดินทางที่ผ่านมาร้อนเหลือทนทั้งฝุ่น
และเหงื่อไคล ทำให้รู้สึกไม่สบายตัวเอาเสียเลย
เด็กหนุ่มจะอย่างไรเสียก็เคยอยู่ในคุ้มที่มีแต่ความสบาย
รักความสะอาดมีอนามัย จึงอาบน้ำทั้งเช้าและเย็นแม้ช่วงหน้าหนาวก็ไม่เคยไม่อาบน้ำ
“นั่นเอ็งจะไปไหนรึ”
อ้ายเส็ง
ทหารคู่กับไอ้แต้มถามไอ้แก้วที่กำลังเดินลิ่วๆ ลงไปทางลำธาร
“ข้าส่งท่านเจ้าหมื่นเข้านอนแล้ว
...เดี๋ยวข้าว่าจะไปอาบน้ำให้สบายตัวซักหน่อย”
“ให้ข้าไปเป็นเพื่อนเอาบ๋อ(เอาไหม)
....เป็นป่าลำเนาไพรแถวนี้บ่ฮู้(ไม่รู้)ว่าว่าจะมีสัตว์ร้ายหรือป่าว”
ไอ้แต้มที่เป็นทั้งเพื่อนสนิทและชู้คนล่าสุดอาสาด้วยความเป็นห่วง
“บ่เป็นอะหยัง(ไม่เป็นไร)...ข้าอาบอยู่ใกล้ๆ นี่เอง
คงบ่มี(ไม่มี)สัตว์ร้ายใดๆ ดอก”
ไอ้แก้วบอกไอ้แต้มให้สบายใจแล้วเดินลิ่วๆ
ไปที่ริมลำธารที่มีน้ำใสเย็นป่าไม้เขียวขจี
เดินออกมาจนไกลขบวนเดินทางพอควร
ความเงียบสงบก็ทำให้ได้ยินเสียงจั๊กจั่นร้องระงมป่า
ฟังแล้วทั้งวิเวก วังเวง
อดขนลุกซู่ขึ้นมาอยางช่วยไม่ได้
ไปถึงริมก้อนหินก้อนใหญ่
เด็กหนุ่มก็ถอดเตี่ยวออกจนเปลือยกายหมดสิ้น
หุ่นที่งามสมชายที่กำลังเป็นหนุ่มเต็มตัวขาวเนียนทั้งตัวลงแหวกว่ายอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ
ไอ้แก้วเล่นน้ำไปอย่างสบายใจ
โดยหารู้ไม่ว่าอันตรายกำลังคืบคลานเข้ามา!!!………………..
ขณะที่กำลังอาบน้ำในลำธาราเพลินๆ
เสียงคำรามของสัตว์ป่าที่เด็กหนุ่มพอได้ยินก็ถึงกับขนลุกซู่!!!ชี้ชันหำหด!!!
และแทบจะไม่อยากจะเอ่ยชื่อมันขึ้นมาด้วยซ้ำ
เสียงคำรามของสัตว์ป่าดังมาจากด้านหลัง
“กรรซ์!!!”
ไอ้แก้วถึงกับหน้าซีดเผือดเบิกตากว้างค่อยๆ
หันไปมองทางด้านหลังช้าๆภาพที่เห็นชวนขนพองหัวใจหยุดเต้น
“เสือ!!!”
ที่อยู่ตรงหน้าเด็กหนุ่มนั้นเป็นเสือลายพาดกลอนตัวใหญ่โตน่ากลัวตัวมันสีเหลืองตัดดำลายพร้อยไปทั้งตัว
ไอ้แก้วหัวใจเต้นรัว ปากชา และหน้าซีด เพราะตอนนี้อาวุธติดตัวก็ไม่มีแต่ถึงมีก็ยากที่จะสู้กับเสือตัวใหญ่โตขนาดนี้ได้
ด้วยความตกใจได้แต่วิ่งไปตามน้ำ
ในหัวตอนนั้นคิดแค่เพียงว่าต้องวิ่งไปออกไปให้ไกลจากเจ้าเสือร้ายตัวนั้น
โดยไม่รู้ทิศทางว่าตอนนี้อยู่ที่ใด…
วิ่งออกมาเท่าใดเสือร้ายตัวนั้นก็วิ่งตามอยู่ริมห้วยตามมาเรื่อยๆ
จนเรี่ยวแรงของเด็กหนุ่มเริ่มหมด
พลัน!
เจ้าเสือร้ายตัวนั้นก็กระโจนมายืนอยู่บนก้อนหินตรงหน้า!!! แยกเขี้ยวขู่คำรามดังก้องป่า
เหมือนจะประกาศว่าให้ไอ้แก้วหยุดวิ่งหนีได้แล้วจงมาเป็นอาหารให้มันกินซะดีๆ
“กรรรรรร!!!!”
ดางตาวาววามคมใสของมันจ้องมาที่ไอ้แก้ว
เด็กหนุ่มพอเห็นดวงตาของเสือโคร่งเข้าก็ถึงกับสะท้านเฮือก!!!
ราวต้องมนต์สะกด! ตัวชา ขาเป็นเหน็บชา
ขนาดอยู่ในน้ำเย็นๆแต่เหงื่อไอ้แก้วกลับผุดออกตามหน้าตา
แข้งขากลับไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ ปากจะร้องขอความช่วยเหลือก็ไม่สามารถพูดออกมาได้สุดแสนจะประหลาดใจ!!!
กำลังคิดว่าต้องตายด้วยคมเขี้ยวเสือลายพาดกลอนแน่แล้ว
พลัน! ก็ได้ยินเสียงเสือร้ายร้องดังๆ
ด้วยความเจ็บปวดอย่างที่สุด
แล้วมันก็กระโจนหนีหายเข้าไปในป่าเหมือนเรื่องราวที่เด็กหนุ่มวิ่งหนีเจ้าเสือนั่นเป็นเพียงแค่ความฝัน
ซักพักก็มีร่างๆ หนึ่งก้าวออกมาจากชายป่า ด้วยท่วงท่าน่าเกรงขาม
ไอ้แก้วเห็นว่าเขาเป็นผู้ชายตัวสูงใหญ่ในชุดพรานป่านุ่งกางเกงขายาวและ
เสื้อฝ้ายสีดำ โพกหัวด้วยผ้าดำ
กลางหลังและเอวพกด้วยมีดดาบอาวุธสำหรับล่าสัตว์ครบครัน
หนุ่มชาวเขาที่ช่วยชีวิตไอ้แก้วไว้ถอดเสื้อผ้าออกแล้วเดินลุยน้ำเข้ามาหาไอ้แก้วที่ยังไม่หายตัวแข็ง!
มีเพียงตาเท่านั้นที่ใช้การได้
ร่างกายส่วนอื่นๆกลับแข็งชาไปหมดจนไร้ความรู้สึก!
พรานหนุ่มเดินเข้ามากระซิบที่ริมหูไอ้แก้วด้วยภาษาแปลกๆที่เด็กหนุ่มก็ฟังไม่เข้าใจ
แต่น่าแปลก
ที่พลันไอ้แก้วก็ตัวอ่อนแล้วทรุดลงกับลำธาร พรานหนุ่มชาวจึงพาไอ้แก้วขึ้นไปริมห้วย
พรานป่าให้เด็กหนุ่มนอนบนผ้าที่ปูไว้
แล้วเอายานวดที่มีกลิ่นหอมแปลกๆมานวดตามเนื้อตามตัวให้เด็กหนุ่ม
จนดีขึ้นมาบ้าง จนสามารถพูดจาวิสาสะด้วยได้
“เป็นจะได๋พ่อง(เป็นยังไงบ้าง)...ดีขึ้นแล้วใช่ไหม”
พรานหนุ่มชาวเขาพูดล้านนาด้วยสำเนียงแปลกๆ
แต่ก็พอฟังและจับใจความได้
“ข้าๆ เป็นอะไร... อูยยย ปวดหัวจัง”
“เอ็งโดนมนต์สะกดของ เสือสมิง!!! เข้า เลยตัวแข็งทื่อไป ไม่แปลกดอกเพราะมันจะได้กินเจ้าได้ง่ายๆ
...แต่ข้ามาช่วยได้ทันเจ้าเสือสมิงร้ายตัวนั้นจึงอด...และที่เอ็งปวดหัวก็เพราะข้านวดให้เอ็งด้วยน้ำมันยาของเผ่าข้า
เอ็งเลยมีอาการปวดหัวแต่บ่ต้องห่วง ...อีกซักพักก็จะหายดี”
“ข้าขอขอบใจท่านมากทที่ช่วยข้าไว้...
ไม่อย่างนั้นข้าคงตายด้วยคมเขี้ยวเสือสมิงไปแล้ว”
“บ่เป็นอะหยัง อย่าได้คิดมาก เฮาก็คนเหมือนกัน
...เห็นเอ็งตกอยู่ในอันตรายข้าก็ย่อมต้องช่วยแล้วนี่ดูเอ็งเหมือนบใจ้คนแถวนี้
...มาจากที่ไหน”
“ข้าชื่อแก้ว... มาจากในคุ้มกลางเวียง
...กำลังจะเดินทางไปเมืองเชียงแสน”
“เชียงแสน!!!...โอ!!! ไกลแท้...ข้าเองก็เคยได้ยินแต่ชื่อ
แต่จนป่านนี้ข้าก็ยังบ่เคยไปซักเตื้อ(ซักที) ....อ้อข้าชื่อจะขื่อ
เป็นชาวเขาหาล่าสัตว์อยู่แถบนี้
หมู่บ้านข้าอยู่ห่างออกไปประมาณเขา 5 ลูก”
คุยกันได้ซักพักด้วยความเมาฤทธิ์ยา
เด็กหนุ่มก็ตาปรือๆแล้วผล็อยหลับไป
พรานป่าหนุ่มชาวเขา ผู้มีชื่อว่า “จะขื่อ”
จึงแก้ผ้าโพกหัวออกมาคลุมร่างขาวโพลนของเด็กหนุ่มไว้
ระหว่างที่เอาผ้าคลุมตัวให้เด็กหนุ่ม
สายตาของพรานป่าอดจ้องมองร่างเนียนขาวไปทั้งตัวของไอ้แก้วอย่างตะลึงไม่ได้
เพราะเมียมันที่เป็นแม่ญิงจริงๆ
ที่ว่าขาวแล้วก็ไม่ขาวเนียนสะอาดสอ้านขนาดนี้
พรานป่าอดลูบแก้มใสๆ ของเด็กหนุ่มอย่างลืมตัว
วงหน้าของเด็กหนุ่มหล่อเหลาหมดจด คิ้วยาว
จมูกโด่งปากได้รูปสวยชวนมอง
อกเนียนและหัวนมสีชมพูนั้นทำเอาพรานป่าอดใจเต้นระทึกยามสัมผัสอย่างช่วยไม่ได้
แต่แล้วจะขื่อก็สลัดความคิดแปลกๆที่ไม่เคยเกิดกับผู้ชายด้วยกันมาก่อนออกจากหัว
แล้วจัดการก่อกองไฟไว้ข้างๆ
เด็กหนุ่มเพื่อกันสัตว์
แล้วผละไปอาบน้ำในลำธารเพื่อชำระกายจะกระปรี้กระเปร่า
จะขื่อล่าสัตว์ได้หลายอย่างทั้งลูกเก้ง
กระต่ายแล้วใส่ไว้ในถุงหนังสัตว์จนล่าได้พอสมควรก็จะกลับหมู่บ้าน
ไอ้แก้วตื่นขึ้นมาพร้อมกับได้กลิ่นกระต่ายป่าหอมฉุยมาเตะจมูก
มองไปที่กองไฟเห็นพรานหนุ่มผู้ช่วยชีวิตยังอยู่เด็กหนุ่มก็รู้แล้วว่าไม่ใชความฝัน
“เอ้า... นี่เนื้อกระต่ายสุกพอดี
...เอ็งลุกขึ้นมากินสิ”
พรานป่าเอาเนื้อกระต่ายป่าที่ย่างจนสุกหอมยื่นให้เด็กหนุ่มอย่างใจดี
ไอ้แก้วที่เริ่มหายจากอาการเมาฤทธิ์ยานวดลุกพรวดขึ้นแต่พลัน!ก็หน้าแดงด้วยความอาย
เพราะตัวล่อนจ้อนมีเพียงผ้าผืนเดียวปิดแก่นกายไว้กันอุจาดตา
เพราะตอนหนีเสือสมิงนั้นไอ้แก้วไม่มีเวลาไปหยิบผ้าผ่อนเพราะห่วงแต่ชีวิต
เด็กหนุ่มจึงใช้ผ้าผืนนั้นนุ่งแทนเตี่ยวแล้วไปรับกระต่ายป่ามากินอย่างหิวโหย
รสชาติความหิวมันเป็นอย่างนี้เองมันช่างเอร็ดอร่อยปานอาหารทิพย์
เนื้อกระต่ายป่าที่ย่างสุกที่ไร้เครื่องปรุงมีก็แค่เกลือสินเธาว์โรยบางๆก็ทำให้รสชาติอาหารอร่อยได้ปานนี้
พรานป่ามองเด็กหนุ่มกัดกินเนื้อกระต่ายด้วยความหิวโหยก็อดขำไม่ได้
“ฮ่าฮ่าฮ่า ...เอ็งคงจะหิวมาก
...ค่อยๆกินก็ได้เดี๋ยวติดคอ ...ข้ายังมีกระต่ายให้เอ็งกินจนอิ่มนั่นแหละ”
เด็กหนุ่มได้แต่ยิ้มอย่างอายๆ
อดเพ่งมองไปที่บุรุษหนุ่มตรงหน้าผู้ที่ได้ช่วยชีวิตไว้อย่างช่วยไม่ได้
“จะขื่อ” เป็นชายหนุ่ม วัยประมาณ 25 ปี พออาบน้ำล้างหน้าล้างตัวออกแล้ว
พรานป่าชาวเขาคนนี้ก็นับได้ว่าเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาเลยทีเดียว
ด้วยร่างกายสูงใหญ่ บึกบึน แข็งแรง และมีผิวแดงๆ
เนียนสวย
เสื้อแขนยาวสีดำผ่ากลางไม่ติดกระดุมเผยให้เห็นอกล่ำแกร่งที่ชวนมองของจะขื่อ
ทั้งพรานป่าและเด็กหนุ่มกินกระต่ายป่าที่ย่างไว้สี่ตัวจนหมดเกลี้ยงแล้วเสวนากันไปถึงที่มาที่ไปของกันและกัน
“ข้ามาล่าสัตว์กับพ่อ และ พี่ข้า
แต่แยกกันล่าสัตว์...ตอนนี้ข้าเองได้สัตว์มาพอสมควรกะว่าพรุ่งนี้ก็คงจะกลับหมู่บ้านที่อยู่ทางปู้น(โน้น)...”
พรานหนุ่มหน้าหล่อชี้นิ้วไปทางภูเขาที่เห็นยอดลิบๆความมืดของเวลาพลบค่ำเลยเห็นรางๆ
“ข้าอิจฉาพวกท่านแต๊ๆ
อย่างน้อยก็มีอิสระในการใช้ชีวิต...บ่ต้องทำตามคำสั่งไผ ...บ่ต้องรับใช้ใคร”
พรานหนุ่มผู้มีเชื้อสายชาวเขาไม่รู้กฎระเบียบการแบ่งชนชั้นของสังคมเมืองพูดซื่อๆ
“ก็ถ้าเอ็งบ่อยากทำ ...เอ็งก็บ่ต้องทำสิ”
ไอ้แก้วก็ได้แต่ยิ้มๆ
เพราะรู้ว่าจะขื่อไม่รู้ธรรมเนียมของเมืองใหญ่อย่างที่ไอ้แก้วจากมา
เพราะตลอดชีวิต 17ปีของมันนับแต่รืมตาดูโลกก็เกิดมาพร้อมระบบชนชั้น มีเจ้า มีไพร่
มีทาสทุกคนล้วนมีหน้าที่ๆ ต้องทำ
ธรรมชาติของคนบ้านป่าเป็นคนสัตย์ซื่อและมีจิตใจดีงาม
ทำให้ทั้งสองคนคุยกันอย่างเป็นกันเอง
ยิ่งดึกก็ยิ่งหนาว
ไอ้แก้วมีเตี่ยวแค่ผ้าผืนเดียวที่พรานหนุ่มแก้ออกมาจากผ้าโพกหัวให้ปิดส่วนกลางลำตัวของเด็กหนุ่ม
พรานหนุ่มเห็นอย่างนั้นจึงถอดเสื้อแขนยาวออก
แล้วเอามาสวมให้เด็กหนุ่ม
“เอ็งใส่เต๊อะ ... ท่าทางจะหนาว ...
ข้าไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่”
“ขอบใจอ้ายจะขื่อนักๆ เน้อ”
พรานป่าก็ได้แต่ยิ้มซื่อๆ ด้วยหน้าตาเปี่ยมน้ำใจ
หน้าตาของจะขื่อที่ต้องแสงไฟ พลัน! เด็กก็เกิดอาการวาบหวามเสียวที่หัวใจขึ้นมาจี้ดๆอย่างสุดประหลาด!!!
ตอนนี้ทำไมเด็กหนุ่มถึงได้รู้สึกว่าพรานหนุ่มตรงหน้าหล่อเหลา
ชวนมอง ชวนหลงใหล น่าเข้าไปสัมผัสจับต้อง
ขึ้นมาอย่างมากมายอย่างไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
อาการปวดหัวแม้เริ่มหาย
แต่อาการเนื้อตัวหวิวๆวาบๆ กลับมาแทนที...
ไม่ทราบเพราะฤทธิ์ยาหรืออะไรทำให้ไอ้แก้วเผลอถามเรื่องสังวาสกันกับพรานหนุ่ม
ทั้งที่ไม่ใช่นิสัยของเด็กหนุ่มในการเสวนาด้วยเรื่องเย็ดกัน!
“แล้วมาอยู่ป่าล่าสัตว์แบบนี้ ....
ยามอ้ายจะขื่อเงี่ยนอยากเย็ดขึ้นมา...อ้ายทำยังไง”
“ก็ต้องอดทนเอาจนกว่าจะได้กลับไปหาเมีย”
“อ้ายจะขื่อรูปหล่อจะอี้(อย่างนี้) ...เมียอ้ายคงหวงนักๆ(หวงมาก)”
“แม่นล่ะ ...เมียข้าหวงมาก ...
แต่ที่มันหวงบ่แม่นอะหยังแต่เพราะควยข้าใหญ่สุดฮ่าฮ่าฮ่า!!!”
จะขื่อพูดแบบภาคภูมิใจในขนาดควยของตนที่พ่อให้มาเยอะจนเมียสาวติดนักหนาแถมหวงสุดๆ
เวลามีแม่ญิงเข้าใกล้จะขื่อ ไอ้แก้วตอนนี้เหมือนกับไม่เป็นตัวของตัวเอง
เฝ้าถามแต่เรื่องเสพสังวาสกับผู้ชายด้วยกันจนมันเองก็นึแปลกใจ
“ใหญ่แค่ไหนกันอ้ายจะขื่อ
...ข้าอยากดู...ขอดูได้ไหมอ้าย”
“บ่เอาๆ... เดี๋ยวเจ้าป่าเจ้าเขาก็หักคอตาย”
“น่านะอ้ายจะขื่อ ...
ข้าขอดูเป็นขวัญตาหน่อยเต๊อะที่ว่าใหญ่น่ะอ้าย...ใหญ่แค่ไหนกัน”
จะขื่อเองก็นึกแปลกใจว่าทำไมเด็กหนุ่มที่มันช่วยไว้บัดนี้มีอาการแปลกๆ
เหมือนคนเมาพูดจาไม่รู้เรื่อง
แถมตอนนี้เพียรขอดูควยตัวเองไม่หยุด...
แต่พอเห็นอาการคนตรงหน้าเหมือนคนกึ่งละเมอ
ก็พอเดาออกว่าเด็กหนุ่มยังไม่หายจากฤทธิ์ยานวดสูตรเฉพาะของเผ่านั่นเอง
ตัวพรานป่าเองก็ไม่เคยใช้แต่เพราะพ่อของเขาบอกว่าเป็นของดีเอาไว้ใช้ยามเจอมนต์ของเสือสมิงและสิ่งชั่วร้ายได้ชะงัด!
หนำซ้ำตอนนี้มือไม้ของไอ้แก้วก็มาป้วนเปี้ยนอยู่ที่เป้าของพรานหนุ่มแล้วด้วย
ตอนนี้จะขื่อเองก็เริ่มมีอารมณ์ทางเพศเพราะไม่ได้เย็ดเมียมาหลายวัน
ปกติวันนึงต้องเย็ดทั้งก่อนนอนและตอนรุ่งสางวันนึงก็สองครั้งเป็นอย่างต่ำ
แต่ห่างเมียมาหลายวัน
ตอนนี้ควยเริ่มแข็งตามมือของเด็กหนุ่มจนฉุดไม่อยู่!
ทีแรกจะขื่อขัดขืน
เพราะกลัวผีป่าหักคอแต่ในที่สุดความอยากก็เอาชนะความกลัวยอมให้เด็กหนุ่มจนได้
ไอ้แก้วหน้าตาหิวกระหายดวงตาแตกพร่า พยายามแก้ปมผ้าที่มัดอยู่ของกางเกงของพรานหนุ่มออกอย่างกระหายอยาก
เมื่อกางกงพรานหนุ่มหล่อพ้นจากพันธนาการ พลัน! สายตาของไอ้แก้วก็เห็นควยดุ้นงามใหญ่ยาว!!!
เด็กหนุ่มถึงกับตาค้าง!!! เพราะพรานป่าชาวเขาคนนี้มีของดีติดตัวจริงๆด้วย
ควยจะขื่อทั้งใหญ่และยาว เกือบ 8.5 นิ้ว!!! ตั้งเด่ชูชันหัวบานแดง
ที่ปลายลำมีน้ำเงี่ยนไหลซึม
บ่งบอกว่ากำลังต้องการการปลดปล่อยอย่างที่สุด
ตั้งแต่เห็นควยผู้ชายด้วยกันมา
ก็นับท่านเจ้าหมื่นที่มีขนาดใหญ่ขนาดนี้
ไม่คิดว่าจะมาเจองวงช้างเผือกกลางป่าเขาอันเงียบสงบนี้นี่เอง
“โอ!!!...ใหญ่ขนาดเลยอ้าย
...ควยอ้ายใหญ่แต้ๆ”
เด็กหนุ่มผู้ไม่รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรลงไป
กำควยดุ้นใหญ่ยาวอวบหนาของพรานหนุ่มแน่นแล้วชักขึ้นชักลงตามอารมณ์ต้องการ
ตอนนี้พรานหนุ่มหล่อก็เริ่มเสี้ยนจนหน้ามืด
เมื่อมีเด็กหนุ่มหน้าตาดี ผิวขาวสะอาดไปทั้งตัวแบบนี้
มาช่วยทำให้สำเร็จความใคร่มีหรือจะต้านทานได้และปฏิเสธความต้องการตามธรรมชาติได้
ไอ้แกวอ้าปากครอบควยดุ้นใหญ่ยาวนั้นแล้วเลียดูดอย่างเมามันทำเอาจะขื่อถึงกับเสียวซี้ด
เพราะที่ผ่านมาเมียของมันยังไม่เคยดูดให้มาก่อนเพราะถือว่าผู้หญิงดูดควยให้ผู้ชายเป็นเรื่องไม่ดี
พรานหนุ่มโดนไอ้แก้วดูดควยเข้าๆ ออกๆ ทั้งชัก
ทั้งอม รูด อยู่จนสะท้านไปทั้งตัว
เผลอกดหัวให้ไอ้แก้วโน้มหน้าเข้าไปที่ควยดุ้นใหญ่ยาวตัวเองโยกเข้าๆ
ออกๆ อย่างเสียวสะใจ
เด็กหนุ่มผู้เคยผ่านประสบการณ์มาแล้วกับหนุ่มหลายคนก็ทำไปโดยสัญชาติญาณความคุ้นเคย
อ้าปากดูดดุ้นควยขนาดใหญ่ของพรานหนุ่มลงลิ้นทั้งเลียทั้งดูดจนพรานป่าอ้าขากว้างสองมือโยกหัวเด็กหนุ่มเข้าหาควยอย่างเมามัน
พรานหนุ่มส่งเสียงสูดปากซี้ดๆ ออกมาอย่างเสียวจัด
เพราะขนาดเมียมันก็ดูดได้ไม่ถึงใจขนาดนี้มาก่อน
“อา... ซี้ดดดด!!!”
พรานหนุ่มเสียวไปถึงสันหลัง
ลูบหน้าลูบหลังที่ขาวเนียนของเด็กหนุ่มไปด้วย
ตอนนี้อารมณ์เงี่ยนมันบังตาแล้วจนไม่สามารถถอนตัวได้พรานหนุ่มจึงกระโดดเข้าฟัดเด็กหนุ่มอย่างกระหาย
เสื้อ และ
เตี่ยวที่ไอ้แก้วนุ่งอยู่ถูกพรานหนุ่มเปลื้องออกจนล่อนจ้อน
ผิวขาวนวนเนียนของไอ้แก้วสะท้อนแสงไฟยิ่งชวนมอง
พรานหนุ่มกอดไซ้ ลูบคลำ
ขยำไปตามร่างงามๆของเด็กหนุ่มอย่างมีความต้องการสูง
ไอ้แก้วที่กำลังตกอยู่ในฤทธิ์ยานวดและอารมณ์อยากดึงหน้าของจะขื่อเข้ามาจูบปาก
ตอนนี้ทั้งพรานป่าผู้มีเชื้อสายชาวเชา
กับเด็กหนุ่มจากในคุ้มเจ้าจูบปากตอบสนองความต้องการกันอย่างเร่าร้อน
พรานหนุ่มประกบอยู่บนตัวของเด็กหนุ่ม
อาวุธแข็งๆของทั้งสองจึงเสียดสีกันไปมา
ทั้งคู่สอดประสานเสียงที่บ่งบอกถึงความเสียวครางระงมก้องป่า!
“ทำข้า... เย็ดข้า... ข้าอยากให้ท่านเย็ดข้า....เร็วๆ
อ้ายจะขื่อเย็ดข้าที อือ!!! ...”
เด็กหนุ่มพูดออกมาเหมือนคนละเมออ้าขากว้างจับควยดุ้นใหญ่ยาวของพรานป่าตรงรู
อีกมือก็ดันตะโพกของพรานหนุ่มให้ดันควยเข้ารูตูดเหมือนคนละเมอ...
พรานหนุ่มรับรู้โดยสัญชาติญาณว่าต้องทำอย่างไรมันกดควยเข้าในรูของเด็กหนุ่มช้าๆ
โดยได้รับความร่วมมือจากเด็กหนุ่ม
ที่โยกย้ายขยับก้นไปมาให้ควยของพรานหนุ่มให้ตรงรู
ควยพรานหนุ่มหล่อมุดเข้าปากถ้ำได้นิดเดียวทั้งสองก็ผวากอดกันแน่น
“ซี้ดดดด!!!เสียวแต๊ๆ”
“อูยยย... คับควยแต๊ๆ
ไอ้แก้วเฮยยข้าจะดันเข้าจนสุดแล้วเน้ออออ!!!”
จนความเงี่ยนบังสติจะขื่อดันควยใหญ่ยาว 8.5 นิ้วเข้าไปทีเดียวมิดลำ!
“อ๊าซ์!!!...ซี้ดดดด!!!”
เด็กหนุ่มครวญครางลั่นป่า เมื่อได้รับควยดุ้น 8.5นิ้ว!ของพรานหนุ่มประเคนตูดแบบมิดลำ!
“อูยยยย!!!ซี้ดดดด!!!เสียวควยแต้ๆ มันนักๆ เลยโว้ย!!!”
สองร่องกอดก่ายและเกี่ยวก้อยกันขึ้นสวรรค์!
ร่างกำยำบึกบึนของพรานหนุ่มหล่อขยับตูดสวนควยเข้าๆออกๆ
ในรูของไอ้แก้วอย่างเมามัน
จากจังหวะช้าๆ แล้วจึงเริ่มซอยแรงขึ้นๆ เร็วขึ้นๆ
ยิกๆๆๆๆ
ความเสียวทำให้พรานหนุ่มจัดการยกสองขาของเด็กหนุ่มพาดบ่าแล้วกระเด้าอย่างลืมตัวลืมตาย
ความเสียวความมันอัดแน่นจนสุดยอดนับว่าเป็นครั้งแรกของพรานหนุ่มนับแต่ได้เย็ดมา!
จนกระทั้งความมันเดินทางมาถึงทางขึ้นสวรรค์
พรานหนุ่มหล่อผู้หลงใหลรสตูดของเด็กหนุ่ม
จับให้ไอ้แก้วนอนคว่ำหน้ากับพื้นแล้วกระหน่ำควยเข้าใส่ตูดงามงอนของไอ้แก้วอย่างบ้าคลั่ง
เสียงเย็ดตูดของควย 8.5 นิ้วดังตั๊บๆๆๆ!!! ผสานกับเสียงครวญครางระงมของทั้งผู้เย็ดและผู้ถูกเย็ดลั่นป่า!!!
“อูยยยย!!! ...เสียววเหลือเกินอ๊ะๆๆ!!!จะไม่ไหวแล้ว ซี้ดดด อูยยย!!!”
ไอ้แก้วโดนพรานร่างสูงใหญ่บึกบึนประเคนความเป็นผัวให้อย่างรุนแรงบ้าคลั่ง!
และแล้วแล้วพรานหนุ่มก็กระแทกรัวๆเข้าตูดไอ้แก้วอีกเน้นๆ
หนักๆ อีกหลายที
แล้วน้ำกามของพรานป่าชาวเขาก็ทะลักเข้าตูดงอนงามของหนุ่มน้อยผู้มาจากกลางเวียงอย่างล้นหลาม!!!
พรานหนุ่มกอดไอ้แก้วแน่น
สุขที่ได้รับจากร่างกายของเด็กหนุ่มนั้นช่างประทับอยู่ในทรวงจนยากจะถอน
ถึงแม้คืนนั้นอากาศจะเย็น
แต่ก็ไม่อาจเข้ามาทำลายความอบอุ่นในอ้อมกอดของพรานหนุ่มหล่อกับเด็กหนุ่มรูปงามได้
...........................................................
จนกระทั่งตอนเช้าไอ้แก้วก็หายจากอาการเมาฤทธิ์ยาเป็นปลิดทิ้ง!
นึกตกใจที่ตนเองเปลือยเปล่าหนำซ้ำยังอยู่ในอ้อมแขนพรานหนุ่มที่กอดแนบแน่น
เด็กหนุ่มรู้สึกกระดากที่ไปกอดคนแปลกหน้าที่พึ่งรู้จักกันไม่นานจึงค่อยๆ
แกะแขนแข็งแรงของพรานหนุ่มออก
แล้วลงไปอาบน้ำชำระร่างกายในลำธาร
เพื่อจะได้รีบเดินทางไปหาขบวนเดินทางของท่านเจ้าหมื่นป่านนี้ไม่ทราบจะหากันให้วุ่น
หรือไม่สนใจตัวมันก็ไม่รู้
ระหว่างอาบน้ำในลำธารไปไอ้แก้วรู้สึกเสียดๆ
เจ็บๆที่รูทวาร ก็นึกแปลกใจว่าเป็นเพราะอะไร
พยายามนึกๆ เลยนึกออกรางๆ
ว่าสาเหตุที่เจ็บก็เพราะเมื่อคืนมันกับพรานหนุ่มสมสู่กันกลางดินนั่นเอง
เด็กหนุ่มอดกระดากต่อเรื่องที่เกิดขึ้นจับใจ
จนพรานหนุ่มตามลงมาอาบน้ำด้วยแล้วเข้ามากอดไอ้แก้วทางด้านหลังจนเด็กหนุ่มสะดุ้ง!
“ตื่นแล้วก็บ่ปลุกอ้าย...
เผื่อมีสัตว์ร้ายมาทำร้ายจะทำจะได(ยังไง)”
พรานหนุ่มหล่อหอมแก้มไอ้แก้วฟอดใหญ่จนไอ้แก้วสะท้าน!
“เรื่องเมื่อคืนข้า... ข้าคงไม่รู้ตัว
...ข้าทำไปคงเพราะเมาฤทธิ์ยาท่านอย่าได้ถือสา”
“เมายา...หรือบ่เมายา ...น้องก็ทำให้อ้ายมีความสุขนักๆ
เลยฮู้ก่อ(รู้ไหม)”
พรานหนุ่มหล่อเข้าไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงไอ้แก้วในลำธารจนทั้งคู่เริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาอีกรอบ
พรานหนุ่มหล่อกอดจูบไอ้แก้วอย่างเร่าร้อนยิ่งอากาศในตอนเช้ายิ่งทำให้ควยแข็ง
ยิ่งกระหายสวาทหนักเข้าไปอีก
ไอ้แก้วที่ไม่เมายานวดแล้วเลยได้รับรู้ความรู้สึกของการตกเบี้ยล่างอีกครั้งหนึ่ง!
เมื่อพรานหนุ่มหล่อมีความต้องการถึงขีดสุดก็จัดการเย็ดเด็กหนุ่มกลางธารลำธารนั้นอย่างเมามัน
ทั้งอุ้มแตง ยืนเย็ด
เสียงครางแห่งความสุขดังทั่วป่าอย่างสุดแสนกระสันต์!
จนกระทั่งทั้งพรานหนุ่มและเด็กหนุ่มทะลักน้ำกามแห่งความสุขลงสู่ลำธารใสสองกายกอกก่ายกันด้วยความสุขเหมือนนานแสนนาน...
จากความสัมพันธุ์ทางการร่วมสังวาสกับเด็กหนุ่มถึงสองครั้ง! พรานหนุ่มก็เปลี่ยนความตั้งใจที่มีอยู่แต่เดิมไปโดยสิ้นเชิง!
ทีแรกจะพาเด็กหนุ่มไปส่งเจ้านายแล้วค่อยกลับหมู่บ้านไปหาเมียหาพ่อ
แต่ตอนนี้พรานหนุ่มกลับตัดสินใจจะร่วมเดินทางติดตามเด็กหนุ่มไปด้วย
ด้วยความตั้งใจจะปกป้องไอ้แก้วไม่ให้สิ่งใดมาแผ้วพาล.........
เช้าวันต่อมาจะขื่อก็สะกดรอยเส้นทางการเดินทางของเจ้านายไอ้แก้วจนทราบพอจะรู้ว่าเดินทางไปทิศไหน
สังเกตุจากกองไฟที่ยังมีควันบางๆ
จากการจุดเพื่อประกอบอาหารและกันสัตว์ป่า
จึงได้รู้ว่าทัพท่านเจ้าหมื่นคงเดินทางไปได้ไม่ไกลนัก
ตลอดการเดินทางล้วนเป็นป่าเขาหนทึมทึบสุดวิสัยที่คนเกิดกลางเวียงใหญ่ในคุ้มเจ้าอย่างไอ้แก้ว
จะจำแนกทิศทางออกได้ว่าควรจะเดินเส้นทางไหน
แต่พรานหนุ่มอาศัยและเติบโตมากับป่าเลยจดจำป่าได้เจนจัด
ว่าถึงจะเหมือนแต่ก็ย่อมแตกต่าง เด็กหนุ่มได้อาศัยความชำนาญไพรของพรานหนุ่ม
ที่บัดนี้ได้กลายมาเป็นคู่ชู้ชื่นโดยเฉพาะยามมีอารมณ์กำหนัดตามธรรมชาติก็ได้เด็กหนุ่มที่คอยปลดเปลื้องความต้องการให้
เมื่อเดินทางมาถึงช่วงบ่ายอากาศร้อนจัดพรานหนุ่มก็ให้หยุดพักค่อยเดินทางต่อ
เกือบหนึ่งวันไอ้แก้วจึงรู้สึกอบอุ่นใจเป็นพิเศษที่ได้จะขื่อคอยนำทางให้
“ข้าขอบคุณอ้ายนักๆ เน้อ...
อ้ายจะขื่อบุญคุณอ้ายครั้งนี้ข้าจะจดจำไว้จนวันตาย”
“น้องเฮาบ่ต้องคิดมากดอก... ข้าเต็มใจที่จะช่วยน้อง...”
พรานหนุ่มลูบหัวเด็กหนุ่มอย่างเอ็นดู ตาจ้องตา...
จนไอ้แก้วต้องหลบเพราะรู้สึกกลัวว่าสายตาของพรานหนุ่มกำลังจะเกิดความต้องการขึ้นมาอีกระลอก
จนพลอยทำให้การติดตามคณะของเจ้านายจะช้าออกไปจนค่ำมืด
พรานหนุ่มประชิดเข้าใกล้เด็กหนุ่มแล้วคว้าหุ่นงามๆ
เข้าไปกอด ควยแข็งๆแนบกับหน้าท้องเด็กหนุ่มจนรู้สึกสะท้าน!
“อ้ายจะขื่อ... ข้าฮ้อน”
พรานหนุ่มจึงได้รู้สึกตัวว่ากำลังจะล่วงเกินเด็กหนุ่มรูปงามตรงหน้าอีกครั้ง
ทั้งๆ ที่ตอนเช้าก่อนออกเดินทางได้เสพสังวาสกับคนตรงหน้าอย่างปรีด์เปรมจนสำเร็จความใคร่
แต่อารมณ์ของคนกำลังติดรสเย็ด!... อย่างพรานป่า
ย่อมต้องลุ่มหลงเป็นธรรมดา
“ไอ้แก้ว.... ข้าต้องการเอ็ง...”
พรานหนุ่มหล่อหอบหายใจฟืดฟาดด้วยอารมณ์กำหนัดที่เริ่มพุ่งขึ้นมาอีกระรอกถือโอกาสดึงเด็กหนุ่มเข้าไปกอดจนแน่น
แล้วเอามือเด็กหนุ่มไปกำที่ควยดุ้น 8 นิ้ว!!! ที่กำลังแข็งจัดอย่างมีอารมณ์ต้องการ
พรานหนุ่มโน้มหน้าประกบจูบปากเด็กหนุ่มอย่างเร่าร้อน
ทำเอาไอ้แก้วสะท้านไปตามแรงกระสันต์ของพรานป่า
แต่เพราะร่างกายที่เหนื่อยอ่อนจากการโดนเย็ดตั้งแต่ตอนเช้า
แล้วบวกกับการเดินทางอีกไกลเกือบทั้งวันจึงไม่มีแรงต้านทานพรานหนุ่มได้
พรานหนุ่มอารมณ์คุกรุ่นรุนแรงจนเกิดความอยากสุดๆ
แล้ว จึงถอดกางเกงขายาวสีดำออก ควยดุ้น 8 นิ้ว ก็ตั้งตระหง่าน!
"น้องพี่ไวไวช่วยอ้ายให้หายเงี่ยนที..."
จะขื่อดึงหัวไอ้แก้วให้โน้มหาความเป็นชายที่แข็งแกร่งผงาดง้ำ!
“ข้าดูดให้อย่างเดียวนะอ้าย... ”
“ได้ๆ น้องพี่ช่วยดูดให้อ้ายไวไว... อ้ายอยากก!”
พรานหนุ่มยืนขึ้นแล้วจับหัวเด็กหนุ่มให้แนบกับดงหมอยดกหนาและควยดุ้นงามใหญ่อวบ
ไอ้แก้วอ้าปากดูดควยดุ้นงามอวบอ้วนให้พรานหนุ่มอย่างเต็มใจ
อนนี้ไอ้แก้วไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธอีกต่อไป
อ้าปากดูดเลียเล็มท่อนเอ็นของพรานหนุ่มหล่อตามความต้องการของชู้รัก
ปากนุ่มๆ
ลิ้นพริ้วไหวของเด็กหนุ่มไล้เลียและเล็มจนจะขื่อร้องซี้ดซ้าด!!! ครางอย่างเสียวสุข
“ซี้ดดดด!!!... ฮูยยย... อา...อ้ายเสียวแต๊ๆ”
ปากไอ้แก้วไม่สามารถถอนจากควยจะขื่อได้เพราะโดนกดหัว
คาควย คาโคนหนอกหมอยดกดำของพรานหนุ่มไว้ตลอด
จนกระทั่งความเสียวมาถึงขีดสุด!
พรานหนุ่มก็ร้องดังลั่นป่าด้วยความเสียวสุดๆ!!!
น้ำกามทะลักน้ำออกมาชุดใหญ่จนเลอะเต็มหน้าเด็กหนุ่มไปหมด!
พอสำเร็จความใคร่พรานหนุ่มพ่นลมหายใจอย่างสบายตัว
แล้วเอาน้ำในกระบอกไม้ไผ่มาล้างหน้าให้ไอ้แก้วพร้อมขอโทษ
แล้วตระกองกอดอย่างมีความสุข
"อ้ายขอโทษด้วยเน้อทำเอ็งเลอะไปหมดเลย
ฮ่าฮ่าฮ่า"
เด็กหนุ่มเข้าใจอารมณ์ชายตอนกำลังจะถึงจุดสุดยอดย่อมต้องการความสะใจ
จึงไม่ถือสา
หนำซ้ำคนที่มีความสุขจากการปรนนิบัติของมัน
ก็เป็น "จะขื่อ" ผู้ที่เป็นคนที่เคยช่วยชีวิตมันไว้ด้วย
“บ่เป็นหยัง(ไม่เป็นไร) รีบออกเดินทางต่อเต๊อะอ้าย...
ข้าอยากพบเจ้านายเวยเวย(ไวไว)”
พรานหนุ่มอารมณ์ดีขึ้นมากหลังจากน้ำแตก
จึงรีบนำไอ้แก้วออกติดตามคณะเจ้าหมื่นต่อไปจนรู้เส้นทางการเดินตามรอยเกวียน
เส้นทางหลังจากนั้นพอออกนอกเขตหุบเขา
ก็เริ่มเป็นที่ราบลุ่มกว้างใหญ่ พลันสายตาก็เร่ิมสว่างสดใสด้วยทุ่งหญ้าไกลสุดลูกหูลูกตา...
มีร่องรอยสัตว์ป่าหากินอยู่โดยทั่วไป...
ไม่ทันค่ำพรานหนุ่มก็พาไอ้แก้วออกติดตามทันขบวนเดินทางของท่านเจ้าหมื่นจนทัน
ณ จุดต่อแดนเมืองเชียงราย
ทหารและไพร่ของท่านเจ้าหมื่นกำลังก่อกองไฟหุงหาอาหารกันชุลละมุน
ไอ้แก้วเห็นขบวนคนและเกวียนหยุดพักตั้งกระโจมก็หัวใจพองโตวิ่งไปตามทางที่ตั้งทัพ
ไอ้แต้มเป็นคนแรกที่เห็นไอ้แก้ว
พอมันเห็นเด็กหนุ่มคู่ขามันก็รู้สึกดีใจอย่างที่สุดร้องตะโกนก้องบอกคนอื่นๆ
โหวกเหวก
ตามประสาเด็กหนุ่มที่ไม่เก็บอารมณ์ แต่ก็สื่อได้ถึงความจริงใจ
และห่วงใยที่มันมีต่อไอ้แก้วได้ดีว่าห่วงใยมากเพียงใด
“ไอ้แก้ว!!!... นั่นไอ้แก้วนี่พวกเรา
ไอ้แก้วยังบ่ตาย!!!”
เสียงไอ้แต้มร้องตะโกนโหวกเหวกจนทหารคนอื่นๆ
ต่างหันมามองตามเสียงไอ้แต้มด้วยความดีใจ
ับตั้งแต่เมื่อวานที่ไอ้แก้วหายตัวไป
ทั้งมันและขุนพันทั้งสี่ก็ได้ออกติดตามไอ้แก้วไปที่ลำธาร
แต่สิ่งที่เห็น
มีเพียงกองเสื้อผ้าที่วางไว้บนโขดหิน ส่วนคนนั้นได้หายไปทุกคนต่างลงความเห็นว่าไอ้แก้วโดนสัตว์ป่าฆ่าตายไปเสียแล้ว
เมื่อวานไอ้แต้มแทบกินไม่ได้นอนไม่หลับทั้งคืนน้ำตาซึมเพราะสงสารและคิดถึงไอ้แก้วชู้รัก
แต่ไม่รู้เพราะอะไรไอ้แต้มมันเชื่อมั่นว่าไอ้แก้วไม่ตายแน่นอน
ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่คนฉลาดนัก
แต่ก็พอจะสันนิษฐานได้ตามความคิดของคนทั่วไป ว่าจากร่องรอยที่เกิดขึ้นไม่มีแม้แต่รอยเลือดซักหยด!
เป็นไปได้ว่าไอ้แก้วหนีไปได้แต่อาจจะหลงป่า ท่านเจ้าหมื่นเองก็ให้คนออกติดตามจนถึงเช้า
แต่ก็คลาดกันเพราะไอ้แก้ววิ่งไปคนละทิศทางกับทหารของท่านเจ้าหมื่น
“ข้าดีใจแต๊ๆ ข้านึกว่าเอ็งตายไปเสียแล้ว!”
ไอ้แต้มทหารใหม่ชูรักของไอ้แก้ววิ่งเข้าไปสวมกอดเด็กหนุ่มรูปงามชู้รักด้วยความรู้สึกดีใจล้นพ้น!
“ข้า... ข้าดีใจนักๆ ที่ได้เจอเอ็งแหม(อีก)
เพราะเมื่อวานข้าเกือบหาชีวิตไม่”
ไอ้แก้วสุดแสนจะดีใจเช่นกันที่ได้พบหน้าเพื่อนเก่าอีกครั้งกำลังต่างดีใจที่ได้เจอหน้ากันอยู่นั้น
พันขาม
ทหารเอกของท่านเจ้าหมื่นพอได้ยินเสียงก็วิ่งมาดู
“ไอ้แก้วเฮย…
ข้าดีใจเหลือเกินที่เอ็งปลอดภัยมาเน้อไอ้แก้ว”
มือหนาและกร้านจับไหล่เด็กหนุ่มตรงหน้าเขย่าสุดแรงอย่างลืมตัวด้วยความดีใจ
พันขามดึงเด็กหนุ่มเข้ามากอดแน่นจนไอ้แก้วรู้สึกตื้นตันอย่างที่สุดไม่แพ้กัน
“ไปจะไดมาจะไดถึงได้หายไปอย่างนี้...ฮู้ก่อว่าพวกข้าตามหาเอ็งทั้งคืน
เมื่อบ่พบก็คิดกันล่ะว่าเอ็งถูกสิงสาราสัตว์คาบไปกินเสียแล้ว”
“ข้าขอสุมาเต๊อะนายท่านกับพวกท่านทุกคนด้วย...เมื่อวานตอนเย็นข้าเกือบตาย”
“เล่ามาไวไว
ว่าเกิดเหตุอันใดกับเอ็ง...เจ้านายก็กินบ่ได้นอนบ่หลับเพราะห่วงเอ็ง”
แล้วพันขามก็นำไอ้แก้วไปพบเจ้านายแล้วเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อหนึ่งวันเต็มๆให้เจ้านายได้ฟัง
ทุกคนได้ฟังแล้วต่างก็ขนลุกซู่! ด้วยความขนพองสยองเกล้า!!!
ทุกคนได้ฟังแล้วต่างก็ขนลุกซู่! ด้วยความขนพองสยองเกล้า!!!
ต่างก็ไม่คิดว่าในป่าเขาลำเนาไพรจะมีเรื่องราวลี้ลับน่ากลัวอย่างนี้
และต่างก็มองไปที่พรานป่าร่างสูงใหญ่หน้าตาหล่อเหลาที่นั่งอยู่ข้างๆ
เด็กหนุ่มด้วยความนับถือ พรานป่าผู้เจนวิชา...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น