กาลเวลาล่วงเลยผ่านไป
ชีวิตของไอ้แก้วก็เป็นไปอย่างปกติสุขในคุ้มของเจ้าหมื่นเรืองณรงค์
อันเป็นคุ้มของเจ้านายและเจ้าชีวิตของไอ้แก้ว โดยมีเรือนหลังน้อยปลูกอยู่ท้ายคุ้มเป็นที่พักร่วมกับจะขื่อ
พรานหนุ่มรูปหล่อ
ทุกค่ำคืนจะขื่อจะนอนเคียงกอดเกยกันไม่ได้ห่าง
พร้อมกามรมณ์ที่ต่างมอบให้กันและกันในทุกค่ำคืน...
ส่วนไอ้แต้มก็นานๆ ครั้ง
ถึงจะขอเสพสังวาสกับไอ้แก้ว นั่นก็เป็นที่ทราบได้ว่าสาวน้อยคนรักของมันกำลังมีรอบเดือน
จนไม่สามารถให้มันปลดปล่อยอารมณ์ทางธรรมชาติได้...
ขุนพันทั้ง 4 ก็สลับ
หมุนเวียนกันมาหาไอ้แก้วบ้าง นานๆ ครั้ง เมื่อมีความต้องการสังาส
เพราะต่างก็มีภาระกิจ ราชการงานเมือง
และต้องคอยดูแลทั้งเจ้านาย บ้างก็เหนื่อยและเมื่อยจากการฝึกปรืออาวุธ
บ้างก็มาขอให้ไอ้แก้วขับสะล้อ ซอ ซึง
ให้ฟังเป็นที่สำราญใจ
พอเพลินๆ
และสบโอกาสเหมาะก็จะพาไอ้แก้วเข้าห้องน้อยให้ไอ้แกวปรนเปรอสวาทให้จนสำเร็จความใคร่
เมื่อสำเร็จความใคร่ก็จะกลับเรือนตนไปไม่ได้อยู่ค้างที่เรือนน้อยกับไอ้แก้ว
ทางด้านท่านเจ้าหมื่นนับตั้งแต่ท่านเจ้าหมื่นกิ๋นแขก(แต่งงาน)กับแม่นายท่าน
ไอ้แก้วก็ไม่ค่อยมีโอกาสได้ปรนนิบัติกามกิจให้กับเจ้านายเท่าใดนักซึ่งแต่ละเดือนก็แทบนับครั้งได้
แต่ถึงแม้จะนานๆได้ปรนนิบัติท่านซักครั้ง
ไอ้แก้วก็ชุ่มชื่นหัวใจเพราะองคชาติของนายท่านนั้น ได้ประทับจิตไอ้แก้วไม่รู้ลืม...
การที่เป็นอย่างนี้นั่นก็เพราะแม่นายท่านจะอยู่ข้างๆ
กายเจ้านายมันตลอดเวลา ตามประสาเมียที่หวงผัว
เวลาที่สามารถรับใช้เจ้าหมื่นได้ก็จะเป็นยามที่เมียของท่านไม่อยู่
และเจ้านายมันต้องการคนที่รู้ทั้งงานนวดงานพัด
งานขับกล่อมด้วยสะล้อ ซอ ซึง
และสำคัญยิ่งก็คือ งานบำเรอสวาท!
ที่เจ้าหมื่นประทับจิตไม่เคยลืมเพราะรู้จุดสุขและเสียวอย่างที่ต้องการ
ส่วนชู้รักหนุ่มพม่าอย่างหม่องจีก็ยังแอบส่งส่วยสวาทกันอยู่สม่ำเสมอมิได้ขาด
เพราะต่างฝ่ายต่างก็ติดอกติดใจในรสกามารมณ์ของกันและกัน
ไอ้แก้วนั่นย่อมติดใจในขนาดที่เกินชายใดในปฏพีของหนุ่มพม่าหน้าหื่นอย่างหม่องจี
ที่พอโดนทะลวงประตูสวรรค์ครั้งใดก็สุขจนลืมโลกกันไปเลย!
แถมหม่องจียังมีบทร่วมรักอันเร่าร้อน!!!
รุนแรง!!! หนักหน่วง!!! แต่แสนสุขสันต์รัญจวนใจเป็นที่สุด
ส่วนหม่องจีเองก็ประทับใจในรูปกายอันขาวเนียนนวลงามของไอ้แก้ว
ที่ไม่ว่าจับสัมผัสไปจุดใดก็สร้างแรงกระสันของบุรุษเพศให้กระเจิง!
น้ำกระจาย!
บางครั้งหม่องจีทนความต้องการไม่ไหวก็จะแอบมาหาไอ้แก้วถึงเรือนน้อยท้ายคุ้ม
แล้วทั้งคู่ก็จะแอบเสพสมกันจนเสียวสุขหม่องจีถึงได้ยอมกลับไป
คืนนี้ท่านเจ้าหมื่นมีราชการที่คุ้มเจ้าเมืองเชียงแสน
เพื่อหารือกันถึงเรื่องที่
เวียงเชียงทอง
อันเป็นเมืองขึ้นอีกเมืองของล้านนา
ที่ถึงกำหนดส่งบรรณาการให้กับนพบุรีศรีนครพิงค์โดยขบวนบรรณาการจะผ่านมาทางเวียงเชียงแสน
ทางด้านเวียงเชียงแสนจึงต้องคอยต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองให้ดี ซึ่งคาดว่าขบวนเดินทางจะมาถึงในเช้ารุ่งพรุ่งนี้
อัน "เวียงเชียงทอง" นั้น
เป็นเมืองเก่าแก่โบราณมีความเกี่ยวดองกับ เวียงนันทบุรี ฉันท์ญาติสนิท
และเป็นเมืองเก่าแก่ร่วมสมัยกับโยกนกนครนาคพันธ์
อยู่ทางทิศตะวันออกของเชียงแสน
มีเจ้าฟ้าปกครองเช่นเดียวกับอาณาจักรล้านนา และมีสัมพันธไมตรีกันมานานตั้งแต่สมัยโบราณ
นับตั้งแต่เจ้าหลวงองค์แรกผู้ได้กินเมืองน้อยใหญ่ที่อยู่รายรอบอาณาจักร
ทำให้ เวียงเชียงทอง ก็เป็นอีกหนึ่งรัฐที่ต้องส่งบรรณาการให้กับอาณาจักรล้านนา
นพบุรีศรีนครพิงค์ เรื่อยมา
จนถึงเจ้าหลวงองค์ปัจจุบัน
ผู้คนทั้งสองอาณาจักรแม้จะอยู่คนละเมืองแต่ก็มีอาณาเขตติดต่อกัน
ทำมาค้าขายกัน
ไปมาหาสู่กันจนแทบแยกไม่ออกว่าใครเป็นลาว
ใครเป็นยวน
เพราะวัฒนธรรมและประเพณีต่างก็คล้ายคลึงกันแม้กระทั่งสำเนียงเสียงพูด
พันแสง กับ พันด้วง
ควบม้าคนละตัวติดตามไปกับเจ้านายด้วย
ส่วนพันลือกับพันขาม ทหารเอกคู่หู
คอยดูแลควบคุมความเรียบร้อยของคุ้มยามเจ้านายไม่อยู่
เพราะในบรรดา 4 ขุนพัน เจ้าหมื่นไว้วางใจ พันแสง กับ พันขาม มากที่สุด
ระหว่างที่สองขุนพันทหารคู่ซี้กำลังฝึกดาบอยู่กับเหล่าทหารคนอื่นๆ
พลัน...
สายตาของพันขามทหารเอกของเจ้าหมื่นผู้เจนสนามรบ
ก็เหลือบไปเห็นไอ้แก้วเดินไปทางท้ายคุ้ม
บัดนี้เด็กหนุ่มได้โตเต็มวัยหนุ่มรูปงาม หล่อเหลา
งามดั่งเทพพนม รูปปูนปั้นที่ประดับอยู่ตามวัดและวังในเวียงเชียงแสน
หน้าตาเด็กหนุ่มหล่อเหลารูปกายสูงโปร่งแกร่งงามกำลังดี
ผิวพรรณขาวเนียนละเอียดดั่งผู้ดี
ยิ่งได้รับความรักจากท่านเจ้าหมื่นให้รับราชการในตำแหน่งมหาดเล็กคนสนิทที่ใกล้ชิดและรู้ใจ
ก็ยิ่งได้รับการประทานข้าวของเสื้อผ้าอาภรณ์
สมกับฐานะไพร่ชั้นสูงทั้งเสื้อผ้าและเตี่ยว ด้วยผ้าไหมอย่างดี
พันขามเห็นตะโพกขาวๆไร้รอยสักของไอ้แก้วแล้วอาวุธประจำกายก็เกิดแข็งขึ้นมาด้วยอารมณ์ตามธรรมชาติอย่างช่วยไม่ได้
จึงแสร้งทำทีเป็นปวดหนักเพื่อแอบหลบไปหาเด็กหนุ่ม
“ข้าปวดท้อง...ไอ้ลือเอ็งฝึกดาบไปกับพวกมันก่อน
เดี๋ยวข้ามา...”
พันลือก็พาซื่อพยักหน้ารับแล้วหันไปฝึกดาบกับทหารลูกน้องอย่างว่าง่าย
ร่างสูงใหญ่กำยำของพันขามเปลือยอกแกร่งใส่แต่เตี่ยวสั้นสีแดงรัดเป้าโชว์ขนหน้าท้องแสนจะเซ็กซี่
เดินตามไอ้แก้วจนมาถึงบันไดเรือนเล็กเรือนนอนของเด็กหนุ่ม
ในตอนที่ไอ้แก้วกำลังจะก้าวขึ้นเรือน
“เอ็งไปไหนมารึไอ้แก้ว”
เด็กหนุ่มหันกลับมาก็เห็นพันขามยืนยิ้มกริ่มแววตาส่งประกายวิบวับ
เด็กหนุ่มอดหน้าแดงวูบอย่างช่วยไม่ได้แววตาแบบนี้มันก็พอทราบได้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรจากมัน
เด็กหนุ่มอดเสียวที่ประตูหลังขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้เพราะพันขามก็นับเป็นอีกผู้หนึ่งที่มีรสจูบซาบซ่า
บทเย็ดเร่าร้อน รุนแรง
“ข้า...เอ่อ... พึ่งกลับจากส่งเจ้านายที่ประตู...
พันขามมีอะหยัง(อะไร)”
“บ่มีหยังดอก...แต่ข้า...”
พันขามเข้าประชิดตัวเด็กหนุ่มหน้าหล่อผิวขาวปานหยวกมือหยาบๆก็รั้งเอวอีกฝ่ายเข้าไปกอด
กลิ่นเหงื่อของอีกฝ่ายทำเอาไอ้แก้วถึงกับผงะ!
ทั้งรู้สึกซาบซ่า และเสียว ปนกัน
พันขามไซ้ซอกคอเด็กหนุ่มที่อยู่ในอ้อมแขนทันทีไอ้แกวถึงกับสะท้านจนขาอ่อน!
“พันขาม!... เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า...”
ไอ้แก้วปรามพันขาม
จนพันขามต้องรีบดันหลังเด็กหนุ่มให้เดินขึ้นเรือนแล้วปิดห้องอย่างเร็วรี่
“ข้าเงี่ยน!...
แค่ข้าเห็นเอ็งข้าก็แทบอดใจไม่ไหวแล้ว...ช่วยข้าที”
พันขามดึงมือเด็กหนุ่มไปกำที่ควยตัวเองที่กำลังแข็งจัดด้วยขนาด7.5 นิ้ว ที่ประเคนตูดให้ไอ้แก้วเป็นประจำ
“ท่านไปอาบน้ำก่อนดีหรือไม่”
“ไม่ทันแล้ว...ตอนนี้ข้าเงี่ยน!!!”
พันขามไม่พูดพล่ามต่อผลักไอ้แก้วนอนลงบนฟูกแล้วซอนไซ้ตามหน้าตาลำคอ
ของเด็กหนุ่ม
เสื้อมหาดเล็กของไอ้แก้วโดนพันขามถอดจนเปลือยเปล่าโชว์เรือนร่างแกร่งงามกำลังเหมาะ
“อา...เอ็งขาวเนียนยั่วอารมณ์ข้าดีเหลือเกินไอ้แก้ว...”
“ถ้าท่านต้องการก็รีบจัดการข้าเลยสิ...ข้าพร้อมแล้ว”
เด็กหนุ่มก็เริ่มมีความต้องการถึงขีดสุดเชิญชวนทหารเอกของเจ้านายให้เสพสุขกับกายตน
ทหารกล้าหุ่นล่ำแกร่งกระโดดกอดจูบจนไอ้แก้วครางอู้อี้ในลำคอรสจูบของพันขามนั้นเร่าร้อนซาบซ่าจนเด็กหนุ่มอ่อนระทวย
ลิ้นของพันขามฉกเหมือนลิ้นงูแล่บแผล่บๆ
ไปทั่วผิวขาวเนียนของเด็กหนุ่ม
หัวนมสีสดของไอ้แก้วถูกดูดเลียจนครางระงมปานใจจะขาด
แล้วพันขามก็กดหัวไอ้แก้วให้ดูดอาวุธคู่กายอันใหญ่ยาว
7.5 นิ้ว
เด็กหนุ่มกับพันขามต่างก็คู่ขากันมาร่วมปีจึงรู้ความต้องการของอีกฝ่ายดีว่าสุขเสียวตรงไหน
แบบใด
ไอ้แก้วดูดเลียที่่ท่อนลำของพันขามที่มีเส้นเอ็นโปนอย่างเอร็ดอร่อยจนน้ำลายแตกฟอง
จนกระทั่งความเงี่ยนของพันขามมาถึงขีดสุด!
ทหารเอกแห่งนครพิงค์ก็จับเด็กหนุ่มนอนคว่ำหน้ากับฟูกแล้วประเคนความเป็นผัวให้ไอ้แก้วอย่างเมามัน
“อ๊า...!!!... ซี้ดดด!!!”
ไอ้แก้วร้องระงมลั่นด้วยความสุขปนเสียว
“ฮึ่มมมม!!!... ซี้ดดดด!!!”
ส่วนพันขามกัดฟันกร่อดๆเร่งกระทุ้งควยดุ้น 7.5 นิ้ว
ที่ทั้งใหญ่ทั้งหนาบุกตะลุยเข้าร่องก้นของเด็กหนุ่มด้วยความเงี่ยนสุดๆ
ควยดุ้ยใหญ่ยาวของพันขาทหารหุ่นแกร่งร่างล่ำซอยเข้าๆออกๆ
ในร่องตูดของไอ้แก้วอย่างรุนแรง
ตามอารมณ์เงี่ยนที่พลุ่งถึงขีดสุด!
ขาของไอ้แก้วถูกจับกางจนปวดหนึบๆเพื่อปรนเปรอบำเรอกามให้กับทหารหนุ่มหุ่นแกร่ง
เสียงควยดุ้นแข็งจัดกระทบเนื้อในโพลงตูดของเด็กหนุ่มดังตั้บๆๆๆๆ!!!
จนลั่นเรือนหลังน้อย
ด้วยความแข็งแรงสูงใหญ่ของพันขามที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับจะขื่อเวลาขยับโยกย้ายร่างกายในการประกิจกาม
แต่ละครั้งทำจนเรือนหลังน้อยลั่นเอี้ยดอ๊าด!
แต่ก็นับได้ว่ายังสู้เรี่ยวแรงกำลังของหม่องจีหนุ่มพม่าร่างยักษ์ควยใหญ่ไม่ได้
เพราะยามใดที่แอบมาเสพสังวาสกับไอ้แก้วที่เรือนน้อยหลังนี้เล่นเอาไอ้แก้วใจลุ่มๆดอนๆ
กลัวใครจะมาเห็น
ถึงแม้ว่าจะมีข้อตกลงร่วมกันว่าจะเอากันที่เรือนของหม่องจีก็ตามแต่ยามใดที่ความเงี่ยนบังเกิด
หม่องจีก็จะมาหาเด็กหนุ่มและอ้อนขอเย็ดไอ้แก้วจนได้
การลักลอบเอากันของไอ้แก้วกับหม่องจี
นั้นสร้างความตื่นเต้นให้แก่เด็กหนุ่มจนเกิดเป็นความประทับใจ
แต่ตอนนี้พันขามเป็นผู้กำลังพิชิตตูดของเด็กหนุ่มอย่างเมามันและรุนแรง
สองแขนล่ำกอดร่างแกร่งกำลังดีของเด็กหนุ่มแน่นส่วนเอวก็ส่ายยิกๆๆๆๆอัดความเป็นชายเข้ามาในรูของไอ้แก้วอย่างลืมตัว
“ซี้ดดดด!!!... ข้าเสียวววว!!!”
เสียงของพันขามกระซิบข้างๆหูเด็กหนุ่มด้วยน้ำเสียงกระเส่าปนสุข
และตอนใกล้จะเสร็จทหารหนุ่มหุ่นแกร่งล่ำก็จับไอ้แก้วให้นอนหงายยกขาพาดบ่า
โดยที่ควยดุ้นใหญ่ไม่หลุดออกจากรูแล้วพันขามก็เร่งซอยถี่ๆๆๆๆ
เสียงเย็ดดังและก้องไปทั่วห้อง
“พั่บๆๆๆ!!!”
ไอ้แก้วนอนหลับตาพริ้มปล่อยกายปล่อยใจให้ทหารกระหายสวาทเสพสุขกับร่างกายตน
จนกระทั่งความสุขก็มาถึงจุดสุดยอด!
พันขามเร่งซอยรัวๆ ถี่ๆ นับสิบ!
“ซี้ดดดด!!!... อ๊า!!!”
ร่างแกร่งหนามันแผล่บไปด้วยเหงื่อชุ่มโชกกายของพันขากระตุกถี่ๆปลดปล่อยน้ำกามเข้าในตัวเด็กหนุ่มจนหมดสิ้น!
ทั้งสองกอดก่ายกันอย่างอิ่มเอมในรสสวาทพันขามจูบไอ้แก้วมือลูบคลำไปทั่วตัวอย่างมีความสุข
“เอ็งทำให้ข้ามีความสุขนักๆ(มากๆ)เลยฮู้ก่อไอ้แก้ว”
“ข้าเองก็มีความสุขเหมือนกัน”
เด็กหนุ่มนอนซบอกแกร่งผิวเข้มเนียนงามมือลูบเล่นไปมาตามหน้าท้องแกร่งๆของพันขามอย่างเปรมสุข
พันขามลูบไล้ไปมาที่ริมฝีปากสีสดของเด็กหนุ่มแล้วจูบลาอย่างประทับใจ
แล้วนุ่งเตี่ยวกลับไปฝึกดาบกับพันลือและทหารคนอื่นต่อ
วันต่อมาคณะเดินทางจากเชียงทองก็มาถึงเมืองเชียงแสนเพื่อกระชับความสัมพัน
คณะทูตประกอบด้วยท้าว พระยา และขุนทหารร่วมร้อย
พร้อมนำสิ่งของต่างๆ มากมายมากระชับไมตรีต่อกัน
ไอ้แก้วได้รับหน้าที่ในการช่วยพ่อครูบุญตั๋นพ่อครูเพลงของท่านเจ้าเมือง
เพื่อทำการขับสะล้อซอ ซึง
ต่อหน้าคณะทูตของเชียงทอง
ในเวียงเชียงแสนขณะนี้คนที่มีฝีมือด้านขับสะล้อซอ
ซึง ก็มีเพียงไม่กี่คน
พ่อครูเองปีนี้ก็อายุมากเกือบ 70 ปี อายุมากเต็มที รองจากพ่อครูลงมาก็เป็นไอ้แก้วที่มีฝีมือที่สุด
ค่ำวันนั้นบรรยากาศในคุ้มกลางเวียงเชียงแสนเต็มไปด้วยมิตรไมตรีกลิ่นหอมของเหล้ายา
อาหาร
เสียงขับกล่อมของพ่อครูบุญตั๋นผสานกับเสียงหัวเราะครึกครื้น
ของทั้งสองเมือง
ที่เปี่ยมไปด้วยความเป็นมิตรบ้านพี่ เมืองน้อง
ที่มีความสัมพันธ์กันมานาน
เชียงทองเป็นเมืองโบราณก่อตั้งมาอย่างยาวนานคู่กับอาณาจักรโยกนกนคร
โดยมีคนลาวเป็นคนพื้นเมืองหลัก
ซึ่งมีวัฒนธรรมไม่ต่างจากคนล้านนาเท่าใดนักผิดแผกบ้างก็แค่สำเนียงเสียงพูด
ท่านพระยาผู้เป็นหัวหน้าคณะเป็นชายสูงวัยอายุร่วม
60 ปี หน้าตาดูใจดี
ข้างๆ ของท่านพระยาคือหลานชาย มีชื่อว่า
“ขุนวิชิต” ถึงแม้ว่าจะมีอายุเพียงแค่ 24 ปีแต่มียศถึงขุนพันแล้ว
บ่งบอกได้ถึงความเก่งกาจในดานฝีมือการต่อสู้ได้เป็นอย่างดี
ขุนวิชิตหลานของท่านพระยามีหน้าตาหล่อเหลาคมคายสมบุรุษเพศ
รูปกายสูงใหญ่กำยำสง่าสมกับเป็นชนชั้นสูงของเมืองเชียงทอง
คิ้วเข้ม ตาคมจมูกสวยแต่ไม่โด่งมาก ผิวหน้าละเอียดอ่อน
ในชุดทหารยศพันของเมืองเชียงทองขุนวิชิต
จึงงามสง่าน่าชมไม่เป็นรองผู้ใดในงานเลี้ยงค่ำคืนนี้...
ด้านหลังที่นั่งห่างออกไปก็เป็นทหารยศลดหลั่นกันลงไป
อยู่ในชุดเต็มยศประกาศเกียรติยศของเมืองตน
ยศที่สูงจะสวมใส่ผ้าไหมสีสดเนื้อดียศต่ำหน่อยถึงจะสวมด้วยผ้าฝ้าย
นุ่งเตี่ยวคล้ายคนเมือง
พ่อครูบุญตั๋นขับซอได้เล่นได้เพียงเพลงเดียวก็เริ่มไม่ไหวแล้ว
ไอ้แก้วจึงต้องทำหน้าที่ขับซึงแทนพ่อครู
เพียงกรีดนิ้วไปตามสายซึง...
สำเนียงเพราะพริ้งดั่งสายน้ำไหลดังใสแจ๋วไพเราะ
เสนาะโสตผู้ได้ฟังก็ตรึงผู้คนให้หยุดมามอง...
ไอ้แก้วในชุดเสื้อผ้าไหม ผ้าเตี่ยวสั้น
นั่งขัดสมาธิกรีดน้ำไปตามสายซึงด้วยท่วงท่า และลีลา สง่าน่ามอง
ปากก็ร้องลำนำขับซออย่างไพเราะเสนาะโสต
การแสดงต่อหน้าท่านเจ้าเมืองและคณะทูตจากเชียงทองต่างนิ่งฟังการขับซึงอย่างเพลินใจ
ท่านพระยาถึงกับหันไปถามเจ้าเมืองว่าไอ้แก้วเป็นผู้ใดถึงได้เล่นซึง
และร้องขับซอได้ไพเราะนัก
ท่านเจ้าหมื่นที่อยู่ไม่ไกลนักจึงออกตัวว่าเป็นคนของท่านหลังจากนั้นท่านพระยากับท่านเจ้าหมื่นเจ้านายของไอ้แก้วก็เหมือนจะคุยกันอย่างถูกคอ
เพราะท่านพระยาผู้เข้าสู่วัยไม้ใกล้ฝั่งดูจะสนใจด้านดนตรีพอๆกับการรบ
ท่านเจ้าเมืองเห็นท่านพระยาผู้ชราจากเชียงทองให้ความสนใจสะล้อซอ
ซึง
จึงมอบหน้าที่ในการดูแลแขกเมืองให้กับเจ้านายของไอ้แก้ว เพื่อคอยต้อนรับขับสู้อาคันตุกะต่างเมือง
แม้กระทั่งทหารหนุ่มหน้าคมหลานชายของท่านพระยาก็ดูจะสนใจการขับซึงของเด็กหนุ่มเป็นอย่างมาก
เพราะฟังๆ
ไปก็แอบโคลงหัวไปมาพร้อมหลับตาอย่างมีความสุขในสุนทรีรสทางดนตรี
งานเลี้ยงในคืนนั้นจึงถือได้ว่าครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุดเมื่อมีเสียงขับสะล้อ
ซอ ซึง ของไอ้แก้ว
คืนนั้นท่านเจ้าหมื่นจึงได้เชิญท่านพระยาจากเวียงเชียงทองพร้อมคณะไปพักค้างที่คุ้มของตน
จากการที่คุยกันอย่างถูกคอ ทั้งเรื่องดนตรี
และเรื่องการฝึกปรืออาวุธเพราะต่างก็มีความชอบเหมือนๆ กัน
งานเลี้ยงคืนนั้นจึงไปต่อที่เรือนของท่านเจ้าหมื่น
ยิ่งดึกสงัดทหารของทั้งสองฝ่ายก็เริ่มเมามายเมาหลับนอนเกะกะ
พื้นเรือนอันกว้างขวางท่านเจ้าหมื่นตอนนีเลยกลายเป็นแคบไปถนัดตา
ทหารทั้งสองฝ่ายหลับเกือบหมดที่ยังคอแข็งก็นั่งดื่มต่อแต่ก็เหลือไม่มากนัก
ไอ้แก้วถึงแม้จะเหนื่อยแต่ก็ยินดีที่ขับซอซึงให้เจ้านายและท่านพระยาได้ฟังต่อ
จนกระทั่งท่านพระยาคงเมาหนักจนไม่ไหวแล้วหลานชายท่านจึงพยุงไปนอนในห้อง
“ไอ้แก้วตามไปดูแลท่านด้วย”
ท่านเจ้าหมื่นสั่งเด็กหนุ่มให้ตามไปดูแลทั้งปู่
หลาน เด็กหนุ่มแบกปีกซ้ายของท่านพระยา
ส่วนหลานชายแบกปีกขวาพากันแบอร่างที่เมาหนักเข้าไปนอนในห้อง
คุ้มของเจ้าหมื่นเรืองณรงค์นี้ข้ารับใช่ที่เป็นแม่ญิงมีน้อยที่มีก็เป็นข้ารับใช้ของแม่นายท่าน
ดังนั้นหน้าที่ในการดูแลแขกที่มาเยี่ยมเยียนท่านเจ้าหมื่นที่อื่น
หน้าที่ดูแลต้อนรับจึงเป็นหน้าที่ของไอ้แก้วไปอีกหน้าที่หนึ่งซึ่งจะต้องดูแลแม้กระทั่งเรื่องที่นอนหมอนมุ้ง
จนกระทั่งแขกหัวถึงหมอนไอ้แก้วจึงจะหมดหน้าที่...
ทั้งไอ้แก้วและขุนวิชิตพยุงท่านพระยาให้นอนจนเรียบร้อยไอ้แก้วก็ตามไปรับใช้ขุนวิชิตที่ห้องต่อ
พอถึงหน้าห้องรับรองของอาคันตุกะขุนวิชิตก็เอ่ยปากด้วยความสงสารไอ้แก้วที่ดึกดื่นไม่ได้หลับได้นอน
แต่ต้องมาคอยดูแลต้อนรับทั้งขับเพลงให้ฟังตลอดทั้งคืน
“เอ็งไปนอนเถอะ...บ่ต้องรับใช้เฮาแล้ว...”
เด็กหนุ่มยิ้มรับอย่างยินดี
“บ่ได้ดอกนายท่าน...นี่เป็นหน้าที่ของข้าที่ต้องทำให้เสร็จ...
ไม่อย่างนั้นเจ้านายข้าอาจจะถูกท่านเจ้าเมืองตำหนิได้หากดูแลแขกเมืองได้ไม่ดี”
เหตุผลของไอ้แก้วทำเอาทหารหน้าคมยศขุนพันปฏิเสธไม่ได้
จึงยอมให้เด็กหนุ่มข้ารับใช้ตามเข้าไปปรนนิบัติในห้องพักรับรอง
ไอ้แก้วหาน้ำสะอาดพร้อมผ้า มาเช็ดตัวให้ทหารหนุ่ม
บัดดนี้ทหารหนุ่มจากเมืองเชียงทองไร้ซึ่งเสื้อผ้าอาภรณ์
เหลือเพียงร่างกายแกร่งงามไปทั้งตัว
ใจไอ้แก้วเริ่มสั่นรัว
ด้วยความสง่างามชวนสัมผัสไปทุกอณูและสัดส่วนของทหารหนุ่มอาคันตุกะ
ขุนวิชิตไม่เพียงมีหน้าตาหล่อเหลาคมคายสมชายเท่านั้น
ร่างกายก็ยิ่งงดงามกำยำงามแกร่งไปทั้งตัว
อกผายไหล่ผึ่งสง่างงามแกร่ง
และผิวของทหารหนุ่มก็เนียนละเอียด สะอาดไปทั้งตัว
ทหารยืนอวดหุ่นงามโชว์ขนดกดำกลางลำตัวกับอาวุธที่หลับสนิทห้อยหัวอยู่กลางหว่างขา
แม้จะมีแสงจากตะเกียงแต่ก็พอสังเกตุได้ว่าขนาดของขุนทหารแห่งเมืองเชียงทองผู้นี้ไม่ใช่น้อยแน่นอน
ทหารหนุ่มหลับตาให้ไอ้แก้วเช็ดตัวหน้าให้แม้จะไม่แน่ใจนักว่ามือที่คอยเช็ดตัวให้ของเด็กหนุ่มนั่น
สั่นเพราะอะไรอาจะเพราะความหนาว หรือ
เพราะเกรงกลัวในตัวเขา
การเช็ดตัวเริ่มต่ำลงจากลำคอแกร่งๆ
ลงมาที่หน้าอกแกร่งสวย หัวนมป้านสวยเป็นติ่งน่ากิน
โดนสะกิดจนทหารหนุ่มอดสูดปากด้วยความเสียวอย่างช่วยไม่ได้
“ซู้ด!!!…”
ทหารหนุ่มพยายามระงับอะไรบางอย่างพร้อมหลับตาพริ้มเพื่อให้ข้ารับใช้เช็ดเนื้อตัวให้เสร็จ
การเช็ดตัวไล้ต่ำลงมาที่หน้าท้องที่แบนราบและแกร่งงามทหารหนุ่มกัดฟันกร่อดๆ
อาวุธประจำกายที่มองเห็นได้ในความมืดเริ่มตั้งชัน
“ซี้ดดด!!!... ข้าเสียวว่ะ”
“ขอรับนายท่าน...”
ไอ้แก้วรับคำทหารหนุ่มมือไม้เริ่มสั่นสะท้านขึ้นเรื่อยๆ
แต่ก็ยังทำหน้าที่เช็ดตัวให้ทหารหนุ่มต่อไป
จนเช็ดวนต่ำลงๆ ต่ำลงมาจนถึงอาวุธคู่กายที่ตั้งชันเต็มที่!!!
อาวุธของทหารหนุ่มแข็งชันเต็มที่ผงกหัวหงึกๆ
ด้วยความโกรธ
ด้วยขนาดที่ไม่ต่ำกว่า 7.5 นิ้ว! ใหญ่ และยาว น่าชม
เด็กหนุ่มเองก็หายใจติดขัด
กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก
การนั่งคุกเข่าต่อหน้าอาวุธของชายชาติทหารร่างแกร่งงามเช่นนี้เป็นเรื่องที่ช่างลำบากใจเสียเหลือเกิน
ต้นขาล่ำแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามแข็งแรงบัดนี้เด็กหนุ่มรู้แล้วว่ามันต้องปรนนิบัติทหารหนุ่มให้ประทับใจด้วยอะไร
ไอ้แก้วพยามเช็ดบริเวณง่ามขาและไข่แฝดสองใบที่ใหญ่ยาน
ณ
จุดนี้ทำเอาความเสียวของทหารหนุ่มพลุ่งพล่านทำให้ทหารหนุ่มส่งเสียงครวญครางออกมา
“ซี้ดดด!!!”
ความเสียวของอีกฝ่ายทำเอาเด็กหนุ่มใจจะขาดตามแต่ยังต้องทำหน้าที่ให้เสร็จสิ้น
ไอ้แก้วเช็ดรอบๆ ลำควยหัวบานสวยอย่างบรรจง
ด้วยอารมณ์ที่งุ่นง่านไม่แพ้ทหารหนุ่ม
จนกระทั่งความเงี่ยนของขุนวิชิตพุ่งพล่านขึ้นถึงขีดสุด! ทหารหนุ่มก็กดหน้าของไอ้แก้วให้แนบกับดุ้นควยที่แข็งจัด!!!
“ช่วยข้า...ช่วยดูดให้ข้าที”
“ขอรับ...”
เด็กหนุ่มรับคำทั้งที่หน้ายังแนบชิดกับควยแข็งๆ
ของทหารหนุ่ม
แล้วไอ้แก้วก็อ้าปากฉกลิ้นเลียที่ปลายดุ้นหัวบานความเสียวจัดก็วิ่งไปที่หัวใจราวฟ้าผ่า!
“อ๊า!!!... ซี้ดดดด!!!... ข้าเสียววว!!!”
ทหารแห่งเมืองเชียงทองถึงกับเชิดปากครางกระเส่า
“ซู้ดดดด!!!”
สองมือกดหัวไอ้แก้วให้ดูดเข้าๆออกๆ
ที่ท่อนลำของตัวเองอย่างลืมตัว ลืมฐานะ
ไอ้แก้วก็อ้าปากทั้งอมเลีย ดูดดุน ด้วยหน้าที่และด้วยความเต็มใจ
จนทหารหนุ่มทนไม่ไหวอีกต่อไปจับไอ้แก้วโก้งโค้งกับปลายเตียง
ทหารหนุ่มถุยน้ำลายใส่ร่องตูดของไอ้แก้วจนชุ่มโชก
แล้วกดหัวควยบานๆเข้าในตูดเด็กรับใช้ช้าๆ
ควยดุ้นใหญ่ยาวของขุนวิชิตทหารหนุ่มหน้าคม
มันมุดเข้ามาในตัวเด็กหนุ่มช้าๆช้าๆ จนกระทั่ง...
มิดลำ!
ทหารหนุ่มก็ไม่อาจสะกดอารมณ์ตามธรรมชาติและความเมาได้อีกต่อไปเมื่อความอยากถึงขีดสุด
ลีลาการเสพสมตามธรรมชาติที่ไม่เลือกเชื้อชาติและวรรณะก็เป็นไปตามครรลองของมัน
ไอ้แก้วแอ่นตูดให้ทหารต่างบ้านต่างเมืองล่ออย่างสุขสมบางคราวก็เด้งตูดงอนๆ
สวนควยทหารหนุ่ม
เพื่อให้ทหารหนุ่มสำลักความสุขมากเข้าไปอีกซึ่งก็ได้ผล…
ทหารหนุ่มถึงกับกัดปากร้องซี้ดซ้าด
“โอ้ย!... มันขนาด... มันควยหลายๆ”
ร่าแกร่งกำยำของทหารหนุ่มเร่งซอยยิกๆๆๆอย่างเมามัน
เด้าแต่ละทีทำเอาหัวไอ้แก้วแทบหัก
ตามน้ำหนักและแรงที่กระทั้นกระแทก!
จังหวะการเย็ดของทหารหนุ่มแห่งเวียงเชียงทองไม่มีลดถอยลงเลย
หนำซ้ำยังหนักหน่วงได้จังหวะสุดเสียว
จนเสียงเตียงนอนลั่นเอี้ยดๆๆ!!!
ตามแรงกระแทกกระทั้น!
เด็กหนุ่มเสียวจากการสาวว่าวให้ตัวเองไปก่อนหน้าที่ทหารหนุ่มจะสำเร็จความใคร่ไม่นาน
ไอ้แก้วก็ทะลักความสุขคามือตัวเองออกมาจนล้นปรี่!!!
“อ๊า!!!...”
ทางด้านทหารหนุ่มหน้าคมเมื่อความสุขเสียวมาถึงจุดสุดยอดทหารหนุ่มกดเอวไอ้แก้วอย่างแน่นหนา
แล้วเร่งซอยตั้บๆๆๆๆ!!! อย่างรุนแรงและหนักหน่วง
ปากร้องครางลั่น!
“อ๊า!!!... ซี้ดดดด!!!”
ทหารหนุ่มหน้าคมร้องครวญครางอย่างมีความสุขกดควยแช่ในตูดไอ้แก้วแน่นจนสะเด็ดน้ำเชื้อ
แล้วทหารหนุ่มหน้าคมก็ดึงตัวไอ้แก้วให้ไปนอนกอดแนบอกจนถึงเช้า...
.............................................................
...ตื่นเช้ามามองหาเด็กหนุ่มรับใช้ผู้เจนการขับสะล้อซอ
ซึง ซ้ำยังมอบความสุขทางเพศรสให้อย่างครบถ้วน
แต่ก็มองเห็นแค่อ่างน้ำใสๆมีผ้าขาวสะอาดวางไว้เคียงข้าง
ทหารหนุ่มอดนึกถึงค่ำคืนที่เปี่ยมสุขที่ผ่านมาอย่างช่วยไม่ได้อาวุธคู่กายก็แข็งผงกหัวหงึกๆ
บ่งบอกว่าอยากเสพสุขอีกคราแต่ก็จนใจ
เพราะต้องรีบไปดูปู่และขุนทหารร่วมคณะ
เช้านั้นไอ้แก้วคอยรับใช้ดูแลเรื่องสำรับกับข้าวให้ทั้งปู่พระยาและหลานขุนพัน
ผู้พึ่งจะเสพสุขกันมาเมื่อคืนนี้
แต่เมื่อถึงตอนนี้ทุกอย่างก็กลับสู่ภาวะปกติไม่มีอาการที่แสดงออกใดใดทางสีหน้า
แต่เมื่อถึงตอนที่เด็กหนุ่มยกขันน้ำลอยดอกมะลิให้ท่านขุนวิชิตมือกับมือก็สัมผัสกันอย่างไม่ตั้งใจ
เด็กหนุ่มถึงกับหน้าร้อนผ่าว ไม่ต่างจากทหารหนุ่มเท่าใดนัก
เด็กหนุ่มถึงกับหน้าร้อนผ่าว ไม่ต่างจากทหารหนุ่มเท่าใดนัก
“ขออภัยนายท่าน”
“บ่เป็นหยังดอก”
ท่านกล่าวแบบไม่ถือสาแล้วยกขันเงินใส่น้ำขึ้นดื่มอึกๆ
ก่อนที่ไอ้แก้วจะหลบออกไปอยู่ด้านหลังทหารหนุ่มต่างเมืองก็ยัดกระดาษแผ่นหนึ่งใส่ในมือของเด็กหนุ่ม
ทำเอาไอ้แก้วถึงกับใจสั่นระรัว!
ไม่คิดว่าทหารหล่อคมสมชายเยี่ยงขุนวิชิตจะมีใจให้แก่ตน ผู้เป็นเพียงข้ารับใช้
ไอ้แก้วแอบอ่านก็ได้ความว่า
“คืนนี้ข้าอยากพบเอ็งอีก”
เด็กหนุ่มอดยิ้มอย่างดีใจไม่ได้เพราะความสุขที่ได้รับเมื่อคืนนี้
มันเองก็รู้สึกประทับใจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
เมื่อท่านพระยาปู่และหลานทานอาหารเสร็จ ก่อนที่จะลงบันไดเรือนไปเด็กหนุ่มอดหันมามองขุนทหารผู้มีใบหน้าหล่าคม
แล้วสายตาก็สบกัน
พร้อมยิ้มให้แก่กันด้วยมีใจที่ตรงกัน.........
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น