วันอังคารที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เรื่องเซ็กส์ของเด็กร่าน บทที่ 106 หนุ่มม้งหน้าละอ่อนกับลีลาขยันซอย

ในช่วงนั้นผมติดเรียน ติดเพื่อนกลุ่มไอ้นิว ไอ้โดโด้ ไอ้นาย และไอ้ท็อป เป็นพิเศษ
เลิกเรียนแล้วก็จะไปหาอะไรกินกันต่ออย่างหมูกระทะ หรือนั่งฟังเพลงชิลๆ
แต่ก็ไม่ดึกครับพอสมควรแก่เวลาก็จะกลับ และที่สำคัญก็คือผมกำลังติด “ไอ้นิว” อิอิอิ

ผมยอมรับตรงๆเลยว่าตอนนั้นผมหลงไอ้นิว ไอ้ตี๋โลกส่วนตัวสูง และลุ๊คแอบกวนเอามากๆ
และยิ่งพอเปลี่ยนสถานะจากเพื่อนสนิทมาเป็นแฟนเราสองคนก็ตัวติดกันมากเข้าไปอีก
ผมไปไหนก็จะมีมันเป็นเงาตามตัวตลอด

และไอ้นิวก็ชอบกระเตงผมไปนอนค้างที่บ้านมันเกือบทุกวัน
ด้วยความที่ไอ้นิวมันหล่อขาว รูปร่างดี เท่ห์ๆ แถมรวยอีกตะหาก

อุ้ยส! 555 ป่าวน๊า! ผมไม่ใช่คนจำพวกบ้าคนรวยนะ 55555
ถึงมันไม่รวยผมก็รักมันอยู่ดีแหละก็มันทั้งหล่อ ทั้งดีกับผมขนาดนี้ จะไม่ให้ผมรักได้ไงจริงป่ะ

ตื่นเช้าก็เจอหน้ากันเรียนก็นั่งติดกัน กินข้าวเที่ยงก็กินด้วยกันพอเลิกเรียนกลับบ้าน
มันก็ลากผมให้ตามมันไปบ้านด้วยอีก
เป็นอยู่อย่างนี้เกือบทุกวันจนตอนนั้นผมแทบไม่มีเวลาพลีกายไปให้หนุ่มคนไหนเลยก็ว่าได้ 555

ไอ้นิวมันชอบคนเทคแคร์ผมเองก็พอใจที่ได้ดูแลมัน
ก็มันหล่อออกขนาดนี้ ใครไม่หลงก็บ้าแล้ว อิอิ

เวลาอยู่ด้วยกันตามลำพังหรือซ้อนมอไซค์กันไปไหนต่อไปเลยมีความสุขเป็นบ้า 5555
แต่พอกลับเข้าห้องมันมันก็จะเข้าสู่โหมดโลกส่วนตัวมันแล้วครับ
กับหนังสือการ์ตูนเล่มโปรดของมัน

โดยไม่หันมาสนใจผมแต่ดีหน่อยที่ยังคุยกันบ้าง
มันก็จะเงยหน้าขึ้นมาตอบผมพอให้ได้รู้ว่าผมไม่ได้อยู่ในห้องคนเดียว

และบ่อยไปที่ผมจะชอบแกล้งเข้าไปหอมแก้มมันครั้งแรๆ มันก็เอียงหน้าหล่อใสให้หอม
แต่พอหอมซ้ำๆหลายๆ ครั้ง เข้ามันก็จะรู้แล้วอ่ะว่าผมอ่ะแกล้งกวนตีนมัน 555
ทีนี้มันก็จะเข้ามาจี้เอวผมจนผมร้องลั่นห้องขอยอมแพ้!!!

แต่พอมันจะวางมือผมก็จะดึงมันเข้ามาโอ้โลมกอดจูบ ไอ้นิวก็จะเริ่มมีอารมณ์
แล้วท้ายที่สุดมันก็จะจับผมกดลงกับเตียงแล้วเราก็จะเอาผมทั้งๆที่อยู่ในชุดนักศึกษานั่นแหละ!!!

ลีลาเย็ดของไอ้นิวนั้นทั้งหื่น เร่าร้อน และ รุนแรงเป็นบ้า!!!
บอกตามตรงว่าไม่สมกับหน้าตาตี๋ๆบุคลิกแบบลูกคนรวยของมันเลย
เพราะทุกครั้งที่ผมกับมันเอากันความรู้สึกของผมจะเหมือน โดนมันข่มขืนซะมากกว่าครับ

แต่ถ้าถามว่ากลัวไหม ตอบเลยว่า หึ! 555 เพราะถ้าซาดิสม์หน้าหล่อแบบนี้ผมยอมตาย 555

ข้อดีของมันมีมากมาย แต่ข้อเสียของไอ้นิวก็มีครับ
คือมันจะเอาได้แค่คืนละครั้งเท่านั้นพอน้ำแตกถึงจะไปกอด ไปไซ้ ไปฟัดมันเท่าไหร่
มันก็จะไม่มีแรงเย็ดอีกรอบนี่แหละที่ผมกลุ้ม 555

“วันหลังค่อยเอานะคร้าบ!!!”

มันจะพูดอู้อี้ๆ แบบอ่อนเพลีย ตาก็จะหลับมิหลับเหล่ ผมเลยไม่กล้ากวนมันให้รำคาญใจ
เดี๋ยวมันจะหาว่าผม “บ้ากาม” 555

เพราะยังไงมันเย็ดผมแค่คืนละครั้งก็สุดแสนสุขเสียวสะใจสุดๆ ไปเลยนี่ครับ
เพราะมันจะจัดหนักจัดเต็ม!!! ให้ผมแบบถึงใจมากๆ
เด้าควยดุ้นงามเข้าตูดผมกระแทกผมแต่ละที ทำเอาผมน้ำแทบเล็ด!!! เลยลืมข้อบกพร่องไปเลย

แต่ศุกร์นี้ผมไม่ได้ไปนอนกับไอ้นิวเพราะมันบินไปกรุงเทพกับแม่มันเพื่อติดต่อเรื่องธุรกิจ
เมื่อวานมันขับมอไซค์มาส่งผมที่หอก่อนมันกลับผมก็ถาม

“แล้วนี่คิง(มึง)จะปิ๊กวันไหน”
“วันติ๊ด(อาทิตย์)ก่อปิ๊กแล้ว...เออ... แล้วคิง(มึง)อยากได้หยังที่กรุงเทพก่อ...”
ผมส่ายหน้าส่งยิ้มหวานให้มันแค่เดินทางปลอดภัยก็ดีใจแล้ว

“บ่าเอาๆ...คิง(มึง)เดินทางปลอดภัยเน่อ...”
“ขอบคุณคร้าบบบ!...”
แม่งมันพูดซะเพราะเลยอ่ะ พร้อมลากหางเสียง ส่งตาเจ้าชู้ให้ผมก่อนจาก อิอิ
ทำเอาผมยิ้มไม่หุบ

จนมันขับมอเตอร์ไซค์

พอขึ้นไปบนหอไอ้อี้ก็ยังไม่กลับแต่ดันไปเจอโน๊ตที่มันเขียนทิ้งเอาไว้ที่หน้ากระจก

“กูไม่อยู่หลายวันไปเตะบอลที่ขอนแก่นนะโว้ยแข่งบอลเสร็จเดี๋ยวโทรหานะ เทคแคร์นะครับ..."

พร้อมกำกับที่ท้ายกระดาษว่า

"จากผัว!!! 555”

สาด!!! ขนาดทิ้งโน้ตไว้ยังจะแสดงสถานะอีกว่ามึงเป็นผัวกู ห่าอี้!!! 555
ผมด่ามันในใจถือโพสท์อิทอ่านกลับไปกลับมาด้วยอารมณ์หลากหลาย
ทีแรกก็ขำๆ มีความสุข แล้วก็ตามมาด้วยอารมณ์หงอยๆ

เพราะกะว่าพรุ่งนี้วันเสาร์จะให้มันพาแว้นขึ้นดอยสุเทพแล้วนอนค้างบนดอยซักคืน
แต่ผมกลับลืมไปว่ามันเคยบอกไว้ว่าเสาร์-อาทิตย์นี้มันมีแข่งบอลที่ภาคอิสาน
มิน่าเก็บตัวกันเป็นเดือนๆผมกลับมาก็ไม่ค่อยได้เจอหน้ามัน
ผมอดคิดถึงมันขึ้นมาตะหงิดๆ อย่างช่วยไม่ได้เพราะคนเคยอยู่ด้วยกันมาตลอด

ส่วนไอ้จอมกับเจ้าจ็อบ (รุ่นน้องตี๋หล่อ) ก็เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลเลยต้องไปแข่งบอลกับพวกไอ้อี้ด้วย
ไอ้เม่นไอ้เก่ง สองเพื่อนซี้ก็ดูจะยุ่งๆ ทั้งเรื่องเรียน กิจกรรม และเรื่องหญิงๆ เลยไม่กล้าไปกวนพวกมัน
ไอ้ดอมกับไอ้ตูน ไอ้ก้อง ญาติผมกับเพื่อนสนิทก็ยุ่งๆ

เจ้าแจ็คกิ๊กเด็กของผม ก็ติดฝึกงานเพราะใกล้จบอนุปริญญาแล้ว
นับนิ้วมือเอานิ้วเท้ามานับ ก็คิดไม่ออกว่าจะโทรหาใคร เพราะพวกไอ้โดโด้ ไอท็อป ก็อยู่กับเมีย
ไม่อยากไปกวนเวลาแห่งความสุขของพวกมันส่วนไอ้นายก็นั่งรถกลับน่านตั้งแต่เย็นวาน

เลยเอาตามความตั้งใจเดิมนั่งรถแดงขึ้นไปไหว้พระบนดอยสุเทพคนเดียวเองเลยครับไม่เห็นจะยาก 555
ไหว้พระเสร็จก็ต่อรถไปหมู่บ้านม้งดอยปุย

รถแดงจอดที่หน้าหมู่บ้านช่วงนั้นเป็นปลายฝนนักท่องเที่ยวยังไม่เยอะเท่าไหร่ทั้งที่เป็นวันเสาร์
ที่สะดุดตาก็คือหนุ่มๆชาวม้งหน้าละอ่อน ผิวขาว หลายคน หน้าตาละม้ายคล้ายกันมากครับจนแยกแทบไม่ออก
ทั้งหุ่นที่สันทัดไม่สูงเท่าไหร่ แต่ดูแข็งแรง ท่าทางจะเอวดี เย็ดมัน 555

หนุ่มๆ ชาวม้งเดินขายของ เดินแนะนำที่พักให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมาด้วยความขยันขันแข็ง
ความละอ่อนมันเข้าตาผม ทำให้ผมอดยกกล้องขึ้นถ่ายไว้หลายภาพอย่างช่วยไม่ได้
บ้างก็ผิวขาวมากบ้างก็ตากแดดจนแดง แก้มก็เลยแดงตามยิ่งดูแปลกตา
บางคนก็สวมเสื้อประจำเผ่าทับเสื้อเชิ้ตแบสมัยใหม่นุ่งกางเกงสีดำชาวเขา

ความรู้สึกผมจึงเหมือนกับว่าได้หลุดเข้ามาในมณฑลยูนนานของจีนยังไงยังงั้นเลย
ภาษาที่แตกต่างสำเนียงอู้คำเมืองที่แปลกหู เพลินใจดีเหมือนกัน
ผมเดินสะพายกล้อง DSR ยีห้อ CANON กล้องตัวโปรดที่ไอ้ตี๋อ้นออกตังค์ช่วยซื้อครึ่งนึง เพราะราคาตอนนั้นแพงมากๆๆๆ
ผมเลยรักกล้องถ่ายรูปตัวนี้เป็นชีวิตจิตใจไปไหนไปด้วยตลอด

ผมเดินดูของที่ตลาดในหมู่บ้านก็เห็นขายชา, กาแฟ, เสื้อผ้า, กระเป๋า, ของฝาก
สินค้าจำพวกพลอย เครื่องประดับที่ทำด้วยหินและพลอยสีด้วยฝีมือชาวเขา
ส่วนใหญ่เป็นสินค้าพื้นเมืองผ้าฝ้าย ผ้าทอมือ เสื้อ กางเกงชาวเขา

แล้วถ้าใครอยากแปลงร่างไปเป็นชาวเขาเผ่าม้งก็มีบริการเช่าชุดไว้ให้นักท่องเที่ยวอีกด้วย
นอกนั้นก็เป็นพืชผลทางการเกษตรผลไม้เมืองหนาว สาลี่ แอปเปิ้ล เชอรี่ สตรอเบอรี่ ฯลฯ
ผมได้ซื้อของกินสาลี่ถุงนึง แล้วก็น้ำเปล่าติดกระเป๋าเป้เอาไว้กินระหว่างทางเท่านั้น
เพราะไม่ชอบสะสมของอยู่แล้วชอบบันทึกด้วยภาพถ่ายมากกว่า

เดินดูของดูนั่นนี่ไปจนเบื่อ จึงคิดว่าไปหาถ่ายรูปสวยๆ ที่น้ำตกและสวนดีกว่า
จ่ายค่าผ่านประตู 20 บาท แล้วเดินเข้าไปเลย

พอพ้นประตูทางเข้าไปในสวนก็ได้พบกับสวยงามของทิวทัศน์เบื้องหน้า
ที่สลับซับซ้อนไปด้วยภูดอยเป็นฉากอยู่เบื้องล่าง
ลักษณะภูมิประเทศที่สวยงามนี้อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 700-1,685 กิโลเมตร
มีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 16 องศาเซลเซียส

พรรณไม้ดอกมากมายวิวที่สวย และอากาศที่สดชื่น
ทำให้ผมรีบวิ่งเข้าไปอย่างกระดี๊กระด๊าเหมือนเด็กเล็กๆ 555
สวนแห่งนี้มีน้ำตกสดชื่นตามขั้นทางเดินจะมีสวนหย่อมปลูกเป็นชั้นๆ เป็นขั้นตามเนินดอย
ปลูกดอกไม้สีสันสดใสสวยงามขึ้นเต็มอากาศก็โคดจะดีเย็นสดชื่น

ต้นไม้บางพรรณก็มีลักษณะดอกที่สวยงามแปลกตา
ทั้งดอกฝิ่นหรือดอกป็อปปี้สีสันสดใสนี่ก็เคยเห็นแต่ในรูป ได้มาเห็นของจริงก็คราวนี้
เพราะไม่ค่อยเห็นปลูกบนพื้นราบแต่กลับมาเจอบนดอยสูงอย่างนี้
มุมถ่ายรูปก็มีมากมายจนเดินไม่ทั่วเลยทำให้ผมเพลินกับการถ่ายรูปไปเลย
นักท่องเที่ยวก็หามุมถ่ายรูปกันเป็นที่สำราญใจ ผมก็ถ่ายไปอย่างใจเย็นจนแทบลืมเวลาไปเลย

พอหิวๆ ก็นั่งกินอะไรไปแล้วเดินถ่ายรูปต่อ แต่เพราะความเพลียหรือความอิ่มก็ไม่รู้ทำให้หนังตาดันหย่อน
ผมเลยผล็อยหลับใต้นกอดอกกุหลาบพันปีตรงซอกเล็กๆ

มารู้สึกตัวอีกทีก็เย็นแล้วครับ มาดูเวลาอีกที

“อ้าว! เหี้ย!!! ชิบหายแล้ว!!!”  

เย็นแล้วววครับตอนนี้รถแดงที่จะลงดอยจะมีไหมล่ะครับตอนนี้!!!
ผมรีบวิ่งกระหืดกระหอบกลับไปที่หมู่บ้านม้งก็ไม่มีรถแดงซักคัน
วันซวยจริงๆครับวันนี้ ผมยืนรอรถจนแล้วจนรอดรถแดงก็ไม่มีซักคัน แต่สมองในตอนนั้นคิดไว้แล้วล่ะว่า

“เอาวะถ้าไม่มีรถลงดอย!...ก็นอนแม่งในหมู่บ้านม้งซักวันก็แล้วกัน”

เพราะใช่ว่าจะไม่เคยมาค้างบนดอยปุยนี่นาจำได้มาค้างอยู่ 3 ครั้ง
ครั้งแรกมาตอนดูดอกนางพญาเสือโคร่งที่ขุนช่างเคี่ยนกับพวก ไอ้นิว ไอ้นาย
(หาอ่านได้ใน บทที่ 67 แอ่วดอยปุยไปดูดอกนางพญาเสือโคร่งแต่ดันไปเจอดอกเห็ด!)

ครั้งที่สองมากับไอ้อี้สองคน
ครั้งที่สามมากับไอ้ตี๋อ้นตอนที่หมอขึ้นมาหาผมที่เชียงใหม่
สังเกตได้ว่าถ้าใครที่พิเศษหน่อยถึงจะได้ขึ้นมาบนดอยปุยกับผม 5555

ผมก็เดินไปหาที่พักแถวๆ ท่ารถ และรอบๆ หมู่บ้านแต่ก็เต็มหมด เพราะเริ่มเข้าสู่หน้าหนาวนักท่องเที่ยวมากันเยอะ
ป้าเจ้าของร้านก็ใจดีโทรหาให้ผมก็ขอบอกขอบใจแกใหญ่
แต่กำลังรอสายอีกฝั่งด้วยใจจดจ่อแกโทรหลายครั้งก็ไม่ค่อยติดเพราะบนดอยมันไม่ค่อยมีสัญญาณ
แต่เมื่อความหวังใกล้ลิบหลี่ก็เหมือนสวรรค์เป็นใจ เมื่อหนุ่มม้งหน้ามนที่ผมเห็นตอนสายๆ
ขับมอไซค์ออกมาซื้อของที่ร้านของป้าแกพอดี

“อาซาๆ!!!... มาพอดีเลย... มีคนหาห้องพักที่บ้านเอ็งยังพอมีห้องว่างอีกไหม”
หนุ่มที่ชื่อ “อาซา” เป็นหนุ่มม้งขนานแท้ครับ แต่ไม่ได้แต่งกายด้วยชุดชาวเขาประจำเผ่าแบบดั้งเดิมซะทั้งหมด
เห็นใส่เสื้อยืด แล้วคลุมด้วยแจ็กเก็ตตัวเทห์ๆ แบบคนบนพื้นราบนิยมกัน

จะว่าไปหนุ่มม้งรุ่นใหม่ๆ ก็รับเอาวัฒนธรรมการแต่งกาย และการดำเนินชีวิตแบบเมืองมาใช้เยอะขึ้น
พอสังเกตุใกล้ๆ จึงเห็นได้ว่าอาซาเป็นหนุ่มหน้าตาดีออกไปแนวจีนยูนนาน
หน้าละอ่อนๆ ผิวขาว อกล่ำแน่นหน่วยก้านดูแข็งแรง หนุ่มม้งทำท่าคิดนิดนึงแล้วยิ้มตอบ

“มีๆ ครับป้า จำได้ว่ายังมีเหลือ 1 ห้องครับ”
ผมได้ยินก็ถึงกับยิ้มออกครับเย้ๆๆ คืนนี้มีที่นอนแล้วโว้ย 5555

หนำซ้ำยังได้นอนโฮมสเตย์บ้านของหนุ่มม้งหน้าละอ่อนด้วยอ่ะ อิอิอิ
พอหนุ่มม้งนามอาซาซื้อของเสร็จก็ให้ผมซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ไปโฮมสเตย์ของบ้านเขา
ผมกอดเอวหนุ่มชาวม้งเนื้อแน่นหลวมๆพอไม่ให้พลัดตกไปตามเหวข้างล่าง
แต่แค่นี้ก็ฟินสุดๆ ไปเลยครับ 555

ระหว่างที่นั่งมอไซค์หนุ่มม้งไปลมก็พัดอู้ๆมาตลอด อากาศโคดจะเย็นเลย
จนผมเผลอกอดอาซาแน่นขึ้นเจ้าตัวก็ไม่ได้ว่า หันมายิ้มแล้วพยักหน้าให้หงึกๆ แบบใจดี

“หนาวขนาดเลยเน้อ”
“ใจ้ครับหนาวแต๊ๆ บรื๋อออ!!!”

ผมตามน้ำครับกอดแน่นเลยครับตอนนี้
มือผมสัมผัสได้ถึงกล้ามเนื้ออันแข็งแรงของหนุ่มม้งคนนี้อย่างจัง!
อารมณ์ร่านเลยรุนแรงขึ้นทวีคูณอ่ะดิตอนนี้ 555

แต่เพิ่งเจอหน้าถึงผมจะร่านแค่ไหนผมก็ไม่กล้าทำอะไรเขาหรอกครับ 555
เกิดเขาไม่เล่นด้วยขึ้นมาโดนถีบลงเขาผมก็ซวยอ่ะดิ

ขับไปจนเกือบสุดหมู่บ้านเลยครับบ้านของอาซาอยู่ลึกเข้าไปในดอยอีกไกลเป็นกิโลเลยครับ
แม่งโคดจะไกลอ่ะ มิน่าถึงหองถึงยังเหลือ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องบรรยากาศนี่โคดจะฟินอ่ะ!!!

บ้านทั้งหมดมี 4 หลัง หลังใหญ่สร้างอยู่บนเนินราบ อีก 3 หลังสร้างลดหลั่นกันลงไปตามเนินดอย
มีทางเดินเป็นขั้นๆ โดยการขุดดินเป็นบันได
หลังใหญ่เป็นบ้านของอาซา กับพ่อแม่ ส่วนอีกสามหลังเล็กๆ ที่แยกออกมาเป็นโฮมสเตย์สำหรับนักท่องเที่ยว
ขนาดไม่ใหญ่มากแต่อบอุ่นน่านอนพอสมควร

ลมหนาวกรรโชกหวีดหวิวเลยครับบรื๋ออ!!! หนาวเป็นบ้า!!!
ขนาดใส่แจ็กเก็ตแล้วนะยังปากคอสั่น ขนาดหำยังสั่นเลยครับ 5555

อาซาเปิดโฮมเสตย์หลังอยู่ข้างล่างสุดให้ผม
แต่ถึงจะอยู่ข้่างล่างสุดวิวก็ยังสวยอยู่ดีครับ บรรยากาศโคดจะฟิน!!!

จนอดคิดถึงบรรดาแฟนๆ ของผมไม่ได้ทั้ง ไอ้ตี๋อ้น ที่มานอนค้างกันเมื่อปลายปีที่แล้วตอนมาดูดอกนางพญาเสือโคร่ง
แล้วก็คิดถึง ไอ้อี้ ตอนเรามันกันช่วงต้นปี อากาศตอนนั้นยังหนาวยะเยือกอยู่เลย กอดกันโคดอุ่น
คิดถึงไอ้นิวตอนมาดูดอกนางพญาเสือโคร่งตอนมาขุนช่างเคี่ยนครั้งแรกซึ่งตอนนั้น ไอ้นาย ก็ตามมาด้วย

“รอแป้บนึงนะครับ...เดี๋ยวเอาอาหารกับผ้าห่มมาหื้อ”
“ขอบคุณเน้อ”

ผมเดินเข้าไปภายในโฮมสเตย์ชาวเขามีเตียงโล่งๆ มืดตื๋อ! ดูวังเวงชอบกล
ตอนนั้นอดเย็นวาบๆไม่ได้ ใจนึงก็นึกกลัว และคิดว่าไม่น่าจะใจกล้ามาคนเดียวเลย
นั่งทำใจแป้บนึงตาก็เริ่มชินกับความมืดสังเกตได้ว่าบ้านชาวเขาแห่งนี้ ไม่มีหน้าต่าง

ปลูกด้วยไม้ฝาเป็นไม้ไผ่สาน ทำให้มีแสงเล็ดลอดเข้ามาได้บ้าง ประกอบกันขึ้นเป็นบ้านอย่างง่ายๆแต่ดูแข็งแรง
พื้นไม่มีการราดซีเมนต์แน่นอนครับเพราะอยู่บนดอยสูงซะขนาดนี้ เพราะมันทำอย่างง่ายๆ เป็นดินดานแต่แข็งแรง

“นอนแค่คืนเดียวเองน่า”
ผมปลอบใจตัวเองนี่ถ้ามากับแฟนคนใดคนนึงผมคงไม่ขยาดแบบนี้หรอกครับ
แต่ตอนนี้เริ่มห่วงสวัสดิภาพของตัวเองมากกว่าถึงแม้ว่าจะดูเป็นแค่เด็กนักศึกษาแต่ก็พกกล้องราคาแพงพอสมควร

แต่นั่งทำใจอีกไม่นานอาซา หนุ่มม้งหน้าละอ่อนก็เดินถือตะเกียงมาทางนี้พอดี
พอเห็นแสงไฟค่อยยังชั่วหน่อยครับเหมือนโลกมันสดใสขึ้นมาในทันใด
อาซาวางตะเกียงเจ้าพายุไว้บนหัวเตียงแล้วยังมีกับข้าวอย่างง่ายๆ 2 อย่าง พร้อมข้าวเหนียว

“แม่บอกว่ากับข้าวหมดเลยทอดไข่เจียวมาให้”
หนุ่มม้งหน้าละอ่อนบอกผมยิ้มๆ

“ขอบคุณครับแค่นี้ก็ดีมากแล้วครับ”
ผมกล่าวขอบคุณอาซาไป

นาทีนั้นเลยชวนเขากินข้าวด้วยแต่ม้งหนุ่มไม่กล้ารบกวนแขกเลยขอนั่งคุยเฉยๆ
ดูเขาจะไม่กลัวคนแปลกหน้าเอาซะเลย

แต่ก็ไม่แปลกเพราะถ้าเจอนักท่องเที่ยวแบบนี้ทุกเดือนทุกปีเป็นผมก็คงจะสนุกเหมือนกัน
ระหว่างที่ผมกินข้าวเย็นไปอาซาก็ขอดูรูปที่ผมถ่ายมา ผมก็เอากล้องให้ม้งหนุ่มดู
ดูไปเขาก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ชมเปาะว่าผมถ่ายรูปสวย

แต่บังเอิ๊นบังเอิญผมลืมไปว่าแอบถ่ายรูปหนุ่มๆชาวม้งเกือบยี่สิบใบ 5555
เขาเปิดไปเรื่อยๆเลยเห็นว่ามีรูปหนุ่มๆ ชาวม้งอยู่หลายใบ ทั้งถ่ายใกล้ ทั้งซูมไกล ตายๆๆ อายเป็นบ้า!!!
อาซามองหน้าผมยิ้มๆตาหยีๆ ตี่ๆ ของเขาดูพิกล มุมปากยิ้มแปลกๆ

“ถ่ายรูปหนุ่มม้งไว้เยอะเลยเน้ออ้าย”
ผมได้ยินก็หน้าแดงแป้ดเลยครับโคดจะอาย!!!

“ก็...ก็ถ่ายวิถีชีวิตชาวม้งไปเรื่อยอ่ะ ไม่มีอะไร”
“แต่อ้ายเป็นป้อจายยะหยังบ่ถ่ายรูปแม่ญิงสาวม้งน่ารักๆ ออกเยอะแยะ”
อาซาว่าพร้อมมองผมเหมือนจะจับผิด

“ไม่มีอะไรก็ถ่ายไปเรื่อย”

ส่วนผมก็ทำเป็นแก้ตัวไถไปเรื่อยแววตาหนุ่มม้งดูฉลาดใช้ได้
เพราะผมสัมผัสได้ว่าหนุ่มม้งคนนี้อยากรู้ อยากเห็นเกินเด็กม้งทั่วไป
และยีังถวิลหาสังคมเมืองอยูจากแววตา

พอรับรู้เรื่องราวผมถึงได้บางอ้อว่าที่เขาดูสนอกสนใจเรื่องภายนอกมากขนาดนี้นั้น
ก็เพราะอยากอยากออกไปใช้ชีวิตในเมืองนั่นเอง

อากาศหนาวๆ ผมเลยชวนเขามาห่มผ้าด้วยกัน และดูเหมือนเขาก็ไม่ได้รังเกียจซักนิด
เข้ามาห่ามผ้านวมกับผมพอเนื้อแนบเนื้อเลยได้ไออุ่นของหนุ่มม้งเข้าผมก็ยิ่งเคลิ้มซิทีนี้ 555

เราดูรูปที่ผมถ่ายไปวิจารณ์กันไป เขาก็จะเล่าความเป็นมาของบางสถานที่ให้ผมรู้
ไม่รู้ว่าเขาหนาวหรืออะไรเพราะบางทีอาซาก็เอามือมาโอบเอวผมด้วย
ผมงี้หน้าแดงด้วยความร้อนขึ้นมาวูบๆเลยครับ 555

เขาเห็นผมเงียบก็มองดูตาตี่ๆ นั้นทำเอาผมแทบละลาย หน้าละอ่อน ผิวขาว
แถมหุ่นแม่งแน่นน่ากอดขนาดนี้ ใจผมจะละลายเสียให้ได้เลยครับ
เหมือนเขาจะรู้นะว่าผมเขิน เขาก็มองผมอย่างแปลกใจ
แต่ผมก็ยังวางท่าทีอยู่นะเพราะไม่กล้าคิดไปว่าผู้ชายแท้ๆ แบบนี้จะเล่นกะเรา

ผมรู้สึกเก้อๆ เลยหยิบมือถือขึ้นมากดดู ทั้งๆ ที่ดูแล้วก็ไม่มีสายเข้าหรอกเพราะไม่มีสัญญาณ
อาซาเห็นเข้ากดูจะสนใจมือถือผมเอามากๆ เขารู้แม้กระทั่งรุ่นของมันด้วย
เออแฮะหนุ่มม้งคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ดูไม่ยึดถือธรรมเนียมของชนเผ่าจนเกินไป
ออกแนวเด็กชาวม้งรุ่นใหม่ที่ไม่ เลยยิ่งคุยกันถูกคอเข้าไปอีกเขาก็ถามว่าทำอะไรได้บ้าง
แล้วขอเล่นเกมส์ผมก็ยอมให้เขาเล่นเกมส์ไป และคุยกันไป

เราคุยๆกันไป ระหว่างที่ม้งหนุ่มหน้าละอ่อนเล่นเกมส์ไป ผมก็ทำหน้าที่ซักไซ้ไปด้วย
ตามประสาคนที่สนใจความเป็นไปของหนุ่มม้งคนนี้
ทำให้ผมได้รู้ว่าครอบครัวของอาซามีอาชีพทำไร่และให้บริการโฮมสเตย์เป็นอาชีพเสริม

อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่มีพ่อ พ่อของอาซามีเมียสองคน คือแม่ใหญ่ซึ่งเมียคนแรกของพ่อ
กับแม่ของอาซาที่เป็นเมียรองเพราะตามธรรมเนียมชาวม้งผู้ชายสามารถมีเมียได้หลายคน
และเมียทั้งหมดก็จะอยู่รวมกันในบ้านหลังเดียวกัน

นอกนั้นก็มีพี่ๆ น้องๆ 5 คน อาซาเป็นน้องชายคนเล็กสุด และมีพี่สาวอีกคนที่เกิดจากแม่คนเดียวกัน
ปัจจุบันแต่งงานไปอยู่กับสามีที่อยู่ในเมือง ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้พ่อของอาซาเป็นอย่างมาก
เพราะชาวม้งจะไม่นิยมแต่งงานนอกเผ่าแต่ในโลกยุคโลกาภิวัตน์ทุกอย่างล้วนมีการเปลี่ยนแปลง
เพราะอาซาเองก็ถึงกับกล้าขัดคำสั่งพ่อหนีงานแต่งเมื่อสองปีก่อน

ผมมองดูหนุ่มม้งหน้าละอ่อนคนนี้แล้วยิ่งปลื้มครับมองใกล้ๆ หน้าเขาใสมาก
คิ้วชี้เฉียงตาตี่ จมูกโด่ง ปากเป็นกระจับสีแดงน่าจูบ แถมหุ่นยังน่ากอดอีกตะหาก ใจละลายเลย อิอิ
เราคุยกันไปอย่างสนุกคนนึงถาม คนนึงตอบ คนนึงอยากรู้เรื่องเผ่าม้ง อีกคนอยากรู้สังคมเมือง

จึงเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยผมว่านิสัยของอาซามีความคล้ายผมหลายอย่างทั้งเรื่องชอบเรียนรู้
มีความยอากรู้อยากเห็นโลกให้กว้างๆโดยไม่ยึดติดกับสิ่งรอบตัว
เราคุยกันจนลืมเวลาอาซามองนาฬิกาข้อมือผมเห็นว่าค่ำมากแล้ว
บอกให้ผมอาบน้ำอาบท่าก่อนเดี๋ยวเขาแวะมาคุยเล่นด้วย

“เดี๋ยวผมปิ๊กบ้านก่อนเน้อ...อ้ายจะได้นอนพักผ่อน”
“อ้าว!!!... กลับแล้วเหรอ”

ผมครวญเพราะกำลังคุยสนุกเลย รู้สึกเสียดายขึ้นมาในทันที
แถมแขนที่โอบเอวผมก็กำลังอุ่นได้ที่เลย อิอิอิ

“เดี๋ยวผมมาหาใหม่...อ้ายจะได้อาบน้ำให้สบายตัว
ผมคิดในใจ

“หนาวขนาดนี้ฆ่ากันให้ตายซะยังดีกว่า...ยังไงตรูก็ไม่อาบ 555”
แต่หน้าก็รับคำยิ้มๆด้วยความดีใจ ที่หนุ่มม้งหน้าละอ่อนจะมาหาอีก

“มาแน่ๆ นะ พี่อยู่คนเดียวรู้สึกกลัวอ่ะ”
ผมตีหน้าเศร้าจนหนุ่มม้งผู้ใจดียิ้มร่า

“บ่ต้องกั๋ว...ถ้าอ้ายบ่ทำเรื่องผิดผีป่าผีเขา ผีป่าผีเขาก็จะบ่ทำอันตรายอ้าย
...และผมกำลังเล่นเกมส์สนุกๆ เลย”

ผมก็ยิ้มออกหน้าอย่างดีใจ

พอหนุ่มม้งหน้าละอ่อนเดินลับไปผมก็เช็ดเนื้อเช็ดตัวซักหน่อยถึงไม่อาบน้ำก็เหอะ
อากาศตอนนั้น 10 กว่าองศา ทั้งๆ ที่ตอนอยู่ในเมืองแค่เย็นๆ แต่ยังอาบน้ำได้สบาย
แต่ตอนนี้มาอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลตั้งพันกว่าเมตรแค่เช็ดตัวยังหนาวสะท้าน!!!

พอเช็ดตัวเสร็จต้องรีบเข้าไปซุกในผ้าห่มปากคอสั่น
นอนเล่นเกมส์ในมือถือไปเรื่อยๆก็นึกถึงหน้าละอ่อนๆ สำเนียงอู้คำเมืองที่ชัดเจนน่าฟัง
ไม่เพี้ยนๆเหมือนม้งคนอื่นๆ ถึงจะไม่สูงเท่าไหร่ แต่ช่วงอกก็แน่นได้ใจ ขาก็ใหญ่อย่างที่ผมชอบ

ลมหนาวพัดอู้ๆแทรกมาตามรอยแตกรอยแยกของไม้ไผ่ที่สานกันไม่เรียบนัก
มองดูนาฬิกาเกือบจะสี่ทุ่มแล้วคิดว่าหนุ่มม้งหน้าละอ่อนคงหลับแน่แล้ว
เพราะยังไงเราก็พึ่งจะรู้จักกันเป็นผมเองมากกว่าที่ไปปลื้มเขามากมายฝ่ายเดียว
แต่กำลังจะหลับอาซา ก็มาเคาะประตูไม้ไผ่สาน

ก๊อกๆๆ!!!
ผมก็กระดี๊กระด๊ารีบไปเปิดประตูให้หนุ่มม้งลูกชายเจ้าของสถานที่ทั้งๆที่ยังไม่รู้เลยว่าเป็นเขาจริงไหม
ลมเย็นพัดกรูเข้ามาพร้อมกับอาซาที่รีบเข้ามาแล้วรีบปิดอย่างไวเพราะลมหนาวตามเข้ามาด้วย

“หนาวก่ออ้าย”
“หนาวขนาดเลยบรื๋อออ!!!”
“เสียดายแทนอ้ายแต๊ๆที่บ่เอาแฟนมาแอ่วด้วย จะได้มีคนนอกอด 5555”
เขาแซวผมครับแหมมีอารมณ์ขันดีจังหนุ่มม้งคนนี้ อิอิอิ

“แฟนเฟินมีที่ไหนถ้ามีก็มาด้วยแล้วดิ 555”
ผมพูดไปก็ทำนิ้วไขว้ไว้ด้านหลังแก้เคล็ด 555

“อ้ายน่าฮักจะเอี้ยะยังบ่มีแฟนบ่น่าเจื้อเนาะ”
“น่ารักที่ไหนน่าเกลียดจะตายน่ารักก็มีแฟนแล้วดิ”
เขาก็หัวเราะอย่างคนมีอารมณ์ขัน ผมปากไวเพราะบรรยากาศพาไปรึป่าวอันนี้ไม่รู้

“แล้วถ้าพี่หนาว...อาซาจะมานอนเป็นเพื่อนพี่ไหมล่ะ...”
ผมพูดยิ้มๆหนุ่มม้งก็ยิ้มๆ แต่ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ
แต่เข้ามาซุกในผ้านวมกับผมแล้วเล่นเกมส์มือถือต่อ

“เออ...ปีนี้อาซาอายุเท่าไหร่”
“เดือนหน้าก็ซาวปี๋(20)แล้ว...อ้ายล่ะ”
“พี่ซาวเอ็ดปี๋(21)หน้าตาอาซาอ่อนมากเลยพี่ก็นึกว่าแค่18 ปี”
ผมชมเปาะอย่างใจคิดเพราะว่าหน้าตาเขายังอ่อนมากจริงๆ ครับ คงเพราะผิวขาวๆ
ตัวสันทัดไม่สูงเท่าไหร่เลยเหมือนเด็กพึ่งจบม.6 เสียมากกว่า เขาก็หัวเราะว่าผมพูดเกินจริง

“อ้ายขี้จุ๊แล้ว 555”
“บ่ได้ขี้จุ๊... แล้วนี่มีเมียยังอ่ะ เคยได้ยินมาว่าหนุ่มม้งเขาแต่งงานตั้งแต่เด็กๆ”

“ก็ที่หนีไปอยู่ในเมืองกะปี้สาวก็เพราะบ่ยากแต่งงานนั่นแหละอ้าย
... ผู้หญิงเปิ้นอายเลยแต่งงานไปกับป้อจายคนอื่น”

ผมเลยได้รู้เพิ่มว่าเขาถูกจับคลุมถุงชนตั้งแต่อายุ 18 ตอนเรียนจบ ม.6
แต่อาซายังไม่อยากแต่งเลยหนีไปทำงานในเมืองกับพี่เขยพี่สาว
ซึ่งสามีพี่สาวของอาซาเป็นคนในเมือง

พอเรื่องเงียบพ่อของอาซาจึงตามตัวอาซาตัวกลับมาบนดอย
แต่ท้ายที่สุดเขาก็หนีไม่พ้นอีกจนได้เพราะปีหน้าเขาก็ต้องแต่งงานอยู่ดีกับเด็กผู้หญิงรุ่นน้องเกือบ 5 ปี!!!

ผมมองด้านข้างหน้าของหนุ่มม้งหน้าละอ่อนแล้วก็นึกเสียดายแทน
หน้าตาดีแถมอายุก็ยังน้อยอยู่เลย เขาน่าจะได้เห็นโลกมากว่านี้ซะก่อน
เขาเห็นสีหน้าผมที่ดูสงสารเขาอาซาเลยเปลี่ยนเรื่องคุยเปลี่ยนเป็นมาถามผมคืนมั่ง

พอเขารู้ว่าผมมาจากภาคอิสาน ก็เลยยิ่งสนใจถามใหญ่เลยว่าแถวบ้านผมเป็นไงบ้าง
ปากก็บอกว่าอยากไปเห็นซักครั้ง ผมก็บอกถ้ามีโอกาสจะพาไปเที่ยว รับรองเขาจะชอบ
เพราะผู้คนมากมายไม่เงียบเหงาเหมือนบนดอยแน่นอน

“อ้ายสัญญาแล้วเน้อ... แบบนี้เอาเบอร์มือถืออ้ายมาเลย... จะได้เอาไว้อู้กัน”
ผมกับอาซาเลยแลกเบอร์กันไว้ ยิ่งคุยก็ยิ่งได้รู้ว่าเขามีจิตใจที่บริสุทธิ์และนิสัยน่ารักมาก
ได้อยู่กันแค่สองต่อสองใต้ผ้าหุ่มอุ่นๆที่อากาศภายนอกต่ำเพียง 10 กว่าองศาแบบนี้
ทำให้ผมอดเผลอไผลไปกับบรรยากาศอย่างช่วยไม่ได้

ในหัวตอนนั้นเลยนึกออกว่าในมือถือมีคลิปโป๊อยู่หลายคลิป
และผมว่าผู้ชายคนไหนก็ชอบทั้งนั้นแหละเวลาเห็นคนเย็ดกัน 555

“อาซาอยากดูอะไรเด็ดๆ ป่าว”
ผมพูดยิ้มๆ ความหื่นของผมคงแสดงออกอย่างชัดเจน เขาหันมามองผมพร้อมถามด้วยความสนใจ

“อ้ายมีคลิปโป๊ก๊า!”
นั่นไงผมว่าแล้ว ไอ้เจ้านี่มันเด็กยุคใหม่ อิอิอิ ผมป่าวหลอกเด็กน๊าาา 555
ว่าเขาไม่ทึ่มอย่างที่คิด แบบนี้และคุยกันง่าย ว่าแล้วผมก็เปิดคลิปโป๊ให้หนุ่มม้งหน้าละอ่อนดู
ตาหยีๆ ดูวาววามเวลาเพ่งมองคลิปที่กำลังนัวกันใหญ่ ผมเห็นเข้าก็แลบลิ้นไปมาพร้อมจุ๊ปากอย่างสนใจ

“จุ๊ๆๆๆ แม่ญิงคนนี้นมใหญ่จิ๋มใหญ่ขนาดเลยอ้าย!!!”
“แล้วอาซาชอบไหม”

หนุ่มม้งพยักหน้าเป็นการตอบหงึกๆร่างกายที่แนบเนื้อกันทำให้ผมสัมผัสได้ว่าตัวของเขาเริ่มร้อนขึ้นๆ
ตามอารมณ์ที่ได้รับจากคลิปโป๊!!!

ผมทำทีเป็นเข้าไปขอดูคลิปด้วยเนื้อตัวเราสองคนยิ่งแนบชิดกันยิ่งขึ้น
ส่วนมือก็กอดเอวเขาหลวมๆกลิ่นตัวหนุ่มม้งโชยเข้าจมูกเป็นกลิ่นบุหรี่มากกว่า
ผมสูดดมเข้าปอดอย่างมีความสุขจนวงแขนผมเริ่มแน่นขึ้นๆ  
เรื่อยๆ จนอาซาถึงกับจั๊กกะเดียม! พร้อมหัวเราะด้วยความจั๊กกะจี้

“5555”
“เป็นอะไรเนี่ย”

“มันจั๊กกะจี้ครับอ้าย...555”

ตอนนี้ผมร่านสุดๆ แล้วครับ บอกเลย ไม่ล่ง ไม่เล่นแล้วครับ
มือผมเริ่มเลื้อยมือไปกำที่เป้ากางเกงม้งขายาวสีดำของเขาแบบเต็มๆมือ!!!
แค่สัมผัสแรกก็รับรู้ได้ถึงความแข็งปานหินแล้วครับ

“อ้ายอย่า!!! บ่เล่น... บ่เอา เดี๋ยวผีป่าผีดอยเปิ้นจะมาหักคอเน้อ!!!”

หนุ่มม้งหันมาบอกผมสีหน้าดูจริงจังแล้วดึงมือผมออกผมก็ตามใจเขาครับ
แต่แหมควยแข็งๆของหนุ่มหน้าละอ่อนมาอยู่ในกำมือถึงขนาดนี้แล้ว

มาเลยครับมาเป็นตัวๆ เลยก็ยอม แต่ก่อนหักคอผมขอซักครั้งเถอะ 5555
ซักพักผมเข้าไปกอดอาซาอีกคนนึงจับควย คนนึงดึงมือจุ้นจ้านให้ออกจากควย อยู่หลายที
จนหนุ่มม้งทนความหน้าด้านของผมไม่ไหวแล้วนั่นแหละ เลยปล่อยให้ผมจับแบบเต็มๆ มือ!!!

“พี่จะชักให้เสียวๆ นะ...คนเมืองเขาชอบทำกัน...รับรองจะสนุกกว่าชักเอง”

อาซาไม่ตอบแต่ปล่อยให้ผมกำควยแข็งๆ เล่นตามใจ
นาทีนี้ผมเลยทั้งกำทั้งถอกเล่นครับขนาดจับภายนอกกางเกงยังรู้เลยว่าอวบใหญ่แค่ไหน
แถมแข็งมากๆ ด้วย แต่รู้สึกว่าความยาวไม่ยาวเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ถึงกับสั้นมาก

ผมเอาหน้าไปไซ้ซอกคอจนอาซาส่งเสียงสั่นเครือหัวใจเต้นแรงตุ้บๆๆๆ!!! จนรู้สึกได้
ไออุ่นที่ได้รับจากร่างกายหนุ่มม้งมันช่างรัญจวนใจเป็นบ้า!!!
จนผมทนความร่านต่อไปไม่ไหวแล้วจึงแก้เชือกที่ผูกกางเกงเขาออก
แล้วล้วงควยเขาออกมากำๆถอกๆ จนหนุ่มม้งสูดปากซี้ดซ้าด!!!

“ซี้ดดดด!!!...เสียววว!!!”

มือนึงก็กำควยมือนึงก็สะกิดที่ยอดอกที่ตั้งเป็นไตแข็ง!นาทีนี้หนุ่มม้งไม่หลุดมือผมแน่แล้วครับ
คลิปที่อยู่ในมือถือกำลังใส่กันตั้บๆๆๆ!!! มันหยดติ๋ง!!!
ผมกระซิบข้างหูหนุ่มม้งหน้าละอ่อนด้วยความอยากสุดๆ

“พี่โม๊คให้นะ!...”

หนุ่มม้งวัยเกือบยี่สิบไม่ตอบแต่ปล่อยให้ผมทำตามอำเภอใจ
ผมก็มุดหัวลงไปอมหัวบานแดงของหนุ่มม้งหน้าละอ่อนแบบเต็มๆปาก เต็มๆ คอ!!!

“อ๊ะ!!! ...ซี้ดดด!!!”

อาซาถึงกับสะดุ้งด้วยความเสียวที่ปลายอาวุธที่มีน้ำใสๆ เยิ้มจนเต็มปากผม
ผมโขกหัวดูดควยอาซาอย่างเมามันขนาดอวบอ้วนดีจริงๆครับ แต่ไม่ยาวเท่าไหร่
แต่ก็ไม่สั้นมากกำลังพอดีหมอยก็ไม่ดกเท่าไหร่เท่าไหร่
ผมดูดควยอาซาเล่นอย่างกับคนไม่เคยเห็นควยมาก่อน

ดูดเอาๆ จนอาซาวางต้องวางมือถือลงแล้วเอามือมากดหัวผมโยกเข้าๆ ออกๆ ที่ควยตัวเอง
ด้วยความเสียวซี้ดดด!!!

จากอาการแบบนี้ผมรับรู้ได้ว่าเขาเคยเย็ดมาก่อนแล้วแน่นอน
เพราะหนุ่มชาวเขาทุกวันนี้ก็ใช่ว่าจะไม่รู้เรื่องพวกนี้นี่ครับยิ่งผู้ชายแท้ๆ อายุเกือบยี่สิบแบบนี้ด้วยแล้ว

“โอ้ยยย!!! เสียววว!!!”
“อาซาเคยเย็ดหรือยัง”

เขาพยักหน้าหงึกๆเล่าว่าตอนอยู่บ้านพี่เขยในเมืองมีผู้หญิงมาชอบเลยเสียกันได้เปิดซิงตั้งแต่อายุ 17
สาวเจ้าก็ติดใจเลยมาประเคนให้อีกหลายที
แต่ก่อนที่จะโดนผู้หญิงจับพ่ออาซาก็มาตามกลับบ้านซะก่อนนับจากนั้นเลยไม่ได้เอาหญิงอีกเลย

ผมดูดไซ้ตามซอกคอและหน้าตาของหนุ่มม้งอย่างบ้าคลั่งเพราะเป็นความแปลกใหม่อย่างที่ผมไม่เคยเจอมาก่อน
แต่เขาไม่ยอมจูบปาก ผมก็ไม่ว่าครับ ผมดูดเลียตามหัวนมไปมาแต่ดูดได้แค่แป้บเดีย
วเพราะเขาบอกหนาวผมเลยจัดการดูดควยให้เขาต่อ จนความต้องการของผมถึงขีดสุด!!!

ผมจึงขึ้นนั่งคล่อมกลางลำตัวของม้งหนุ่มหน้าละอ่อน
แล้วเอาร่องตูดกลืนอาวุธอวบอ้วนหัวบานของเขาเข้ามาในตัวผมจนมิดด้าม!!!

“อูยยย!!!...”
ม้งหนุ่มเจอความคับแน่นเข้าถึงกับหลับตาครางกระเส่า ผมเองก็เจอของใหม่ถึงกับสะท้านจนควยแข็ง

“อือออ!!!... เสียวววว”
ผมครางอย่างเสียวซ่านไม่อายผีป่าผีดอยแล้วครับตอนนี้

พอเข้าที่เข้าทางผมก็ขึ้นโยกขี่คล่อมบนตัวของอาซาอย่างเมามัน
ควบกันจนเตียงที่ทำจากไม้ไผ่ลั่นเอี้ยดๆๆๆ!!! เลยครับ 5555

มือผมบีบบี้ไปตามเนื้อตัวหัวนม ลำตัว หน้าท้อง และขยำไข่ สร้างความกระสันต์ให้กับอาซาไปด้วย
ม้งหนุ่มก็ได้แต่ร้องครางกัดปากซู้ดๆ

ผมตั้งหน้าตั้งตาควบอีกไม่นานม้งหนุ่มก็กดเอวผมไว้แล้วร้องหนักๆ

“อ๊ะๆๆๆ!!! ซี้ดดดด!!!”

ม้งหนุ่มน้อยตัวกระตุกถี่ๆหลายทีกระฉูดอสุจิอุ่นๆ พุ่งวาบเข้ามาในตัวผมจนหมดลำ!!!
ผมเห็นเขาน้ำแตกเล้วเลยเร่งสาวว่าวให้ตัวเองจนสำเร็จความสุขตามอาซามาติดๆ

แล้วเราสองคนก็นอนกองกอดกันอยู่อย่างนั้นม้งหนุ่มหอบหายใจแฮ่กๆ
แต่สีหน้าบ่งบอกว่ามีความสุขมากแค่ไหน

ผมหอมแก้มเขาทีแรกเขาทำอายๆ แต่ผมขอหอมครั้งที่สอง ที่สาม
หนุ่มม้งก็ยอมแต่โดยดีแล้วครับ

“มันขนาดเลยเน้ออ้าย”
“อาซาชอบก่อ?”

เขายิ้มๆพยักหน้าหงึกๆ อยู่ในอ้อมกอดกันและกัน จนควยเขาเริ่มอ่อนตัวลง
เราก็ใส่เสื้อผ้าแล้วนอนกอดกันใต้ผ้าห่าผืนหนาอย่างสุขสม
เราคุยกันไปอีกจนเกือบเที่ยงคืน ต่างฝ่ายต่างติดใจกันครับ ผมดูจะติดใจมากกว่าที่อาซาติดใจผมนะผมว่า
ผมนอนกอดเขาไปมือผมก็จะกำควยเขาเล่นตลอดล้วงเข้าไปลูบห้าท้อง บีบตามอกเขาบ้าง
อาซาก็ไม่อิดออดแล้วครับตอนนี้ยอมทุกอย่างว่างั้น 555

เกมส์ 2 เลยตามมาตอนเที่ยงคืนเป้ะ! ทีนี้เขาเล่นท่าเองเลยครับแต่ก็เป็นท่าธรรมดาไม่เท่าไหร่
ผมเลยจับสอนบทเย็ดให้หนุ่มม้งเลยครับคืนนั้นติวกันอีก 2 ยก!!!

สอนจนหนุ่มม้งหน้าละอ่อนเป็นงานมากขึ้นเอาเก่งขึ้นในคืนเดียวเลยว่างั้น
เพราะอาซาน่าจะมีหัวด้านเย็ดนะผมว่า แถมควยก็แข็งง่ายดีด้วย
พอน้ำสุดท้ายแตกกระจายเราสองคนถึงได้ยอมหลับยอมนอน 555

จนครั้งหลังสุดเขาคงได้อารมณ์ถึงขีดสุดเวลาเย็ด!!! จึงเปิดรับปากผมให้เอาลิ้นเข้าไปควานในปาก
ผมก็ดูดน้ำหวานในปากเขาซะครางซี้ดเลยครับ
พอตอนเช้าก็จัดกันอีกดอกต้อนรับเช้าวันใหม่คราวนี้เขาเล่นจัดการลักเย็ดตูดผมเองเลยครับ 555

ผมก็นอนคว่ำหน้าปล่อยให้หนุ่มม้งที่กำลังติดเย็ดกระแทกควยใส่รูผมไปจนน้ำเงี่ยนแตก!!!
เขาถึงได้รีบแต่งตัวกลับบ้านเขาไปก่อนฟ้าจะแจ้ง

ก่อนกลับเขาพาผมแวะเที่ยวแวะถ่ายรูปในมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
บอกว่าเป็นการสมนาคุณที่ทำให้เขามันสุดๆเมื่อคืนและตอนเช้าถึง 4 น้ำ!!! 5555
พอบ่ายๆ อาซาก็ขับมอไซค์มาส่งผมที่รถแดง เรามองกันยิ้มๆ แล้วโบกมือลา

แต่เป็นการจากกันเพื่อเจออีกครั้งครับ เพราะพออาซาอายุครบ 20 อาซาก็หนีลงดอยอีก
เพราะไม่อยากแต่งงานเหมือนเดิม 5555

และคนแรกที่อาซาโทรหาก็คือผมครับ เพราะไม่มีใครรู้จักผม
และหลังจากนั้นอาซาก็หนีพ่อเขาสำเร็จผมไม่รู้ว่าผมทำผิดหรือป่าวนะแต่ผมก็ช่วยได้เท่าที่ช่วยแหละครับ

คนรู้จักกันไม่ให้ผมช่วยมันก็กระไรอยู่ใช่ไหม ดีกว่าให้เขาไประหกระเหินแบบไม่รู้ทิศรู้ทาง
แล้วอาซาได้งานทำอยู่รีสอร์ต ที่อยู่อีกอำเภอ โดยได้รับความช่วยเหลือจากญาติของผมเอง
แล้วหนุ่มม้งหน้าละอ่อนของผม ก็ได้ออกไปพบโลกกว้างอย่างที่เขาตั้งใจไว้ครับ…..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น