วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2559

เรื่องเซ็กส์ของเด็กร่าน บทที่ 26 โดนเอาทั้งหน้าหลังในท่อระบายน้ำ (1)

ช่วงเข้าสู่หน้าฝนแถวภาคอิสานเราจะมีงานบุญเกี่ยวกับการขอฝน
หรือที่คนอิสานจะเรียกว่า“บุญบั้งไฟ” นั่นเอง
ผมก็เลยโทรชวนอ้นให้มาเที่ยวงานเพราะอยากจะอยู่ด้วยกันตามประสาแฟน
โดยเฉพาะในวันหยุดเสาร์อาทิตย์แบบนี้
เพราะส่วนมากก็เจอกันแต่ในโรงเรียนหลังเลิกเรียนถ้าวันไหนไม่มีซ้อมบอล
อ้นก็จะมาส่งผมที่บ้านแล้วก็โทรคุยกันทุกวัน ส่วนวันเสาร์และอาทิตย์ก็นานๆ ทีจะได้ไปดูหนังด้วยกัน
เพราะบ้านอ้นจะเปิดร้านขายเสื้อผ้า
พ่ออ้นเป็นคนอิสานเป็นคนหมู่บ้านเดียวกันกับผม แต่ไปรับราชการเป็นตำรวจที่อุบลฯ
ส่วนแม่เป็นคนจีนก็ตามประสาคนจีนที่ชอบให้ลูกค้าขาย และวันหยุดต้องช่วยที่บ้านทำงาน
ทำให้เวลาที่จะอยู่ด้วยกันจริงๆจังๆ น้อยมาก
“ฮัลโหล...อ้นเหรอ...วันเสาร์นี้มาเที่ยวงานที่หมู่บ้านเราป่ะ”
“แหะๆๆอ้นขอโทษที่ไม่ได้บอกวินอ่ะ...ว่าอ้นต้องเก็บตัวนักกีฬาเพราะเดือนหน้าต้องไปแข่งที่อุบลฯ อ่ะครับ”
“อ้าว!...แล้วไมอ้นไม่บอกอ่ะ...เรารึก็อุตส่าห์อยากมีเวลาอยู่เที่ยวด้วยกัน”
ผมชักงอนๆจนน้ำเสียงบอกว่าโกรธนิดๆ งอนหน่อยๆ
“โอ๋ๆๆๆ...ขอโทษคร้าบบบผม...อ้นขอโทษนะครับ...คราวหลังจะบอกทุกเรื่องเลยเอ้า...นะๆๆ...อย่างอนนะครับ”
“ก็ได้...แต่มีข้อแม้ว่าแข่งบอลเสร็จต้องพาไปดูหนังเป็นการไถ่โทษด้วย”
“ตกลงครับผม...เลี้ยงหนังไม่พอยังจะพาไปกินไอติมถั่วดำด้วยดีป่ะ...อิอิอิ”
“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีเลย...จำไว้เลยมีอะไรก็จะไม่บอกด้วย”
“ว้า!...อ้นเสียใจจริงๆ นะเนี่ย”
เสียงของอ้นฟังดูออดอ้อนจนผมใจอ่อน
“พูดเล่นน่าไม่ได้ว่าไรซักหน่อย...งั้นก็ซ้อมบอลให้เต็มที่นะ...วินเอาใจช่วย”
“คร้าบบบผม...แฟนอ้นต้องอย่างนี้ดิ...แบบนี้ยิ่งรักตายเลย”
“แล้วใครไม่ให้รักอ่ะ”
“อ่ะๆๆ...พูดแบบนี้ชักอยากไปหาซะแล้วเซ่ะ”
ผมรู้ความหมายของคำว่าอยากมาหา ของอ้นดี
เพราะมันหมายถึงอ้นอยากเย็ดผมนั่นเอง
เสียงเท่ห์ๆออดอ้อนลอดมาตามสายโทรศัพท์
แม้จะโกรธแต่ก็อดใจอ่อนไม่ได้ก็เลยต้องทำใจ
เพราะผมรู้ว่าอ้นรักฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ
ไปที่ห้องอ้นจะเห็นโปสเตอร์ทีมฟุตบอลทั้ง แมนยูฯ ลิเวอร์พูล เชลซี
และอะไรต่อมิอะไรเต็มไปหมดผมก็จำไม่ได้เพราะไม่ได้ชอบฟุตบอลมากนัก
ผิดกับพี่เอ็มรายนี้จะมาส่งพี่ชาติทุกวันแล้วก็เลยอยู่กินข้าวบ้านผมแทบทุกวัน
แล้วบางวันก็จะนอนค้างที่บ้านผมด้วย
แล้วจะเหลือเหรอครับวัวเคยขา ม้าเคยขี่กันเป็นประจำออกอย่างนี้ อิอิอิ
แถมพี่แกก็หล่อตี๋เย็ดเก่ง จูบเก่ง เอาใจเก่ง หลังๆ มีของติดไม้ติดมือมาฝากผมประจำ
(รึว่าเราเห็นแก่ของฝากหว่า)
ผมก็เลยต้องให้แกเย็ดทุกคืนที่แกมาค้าง
และพอเอากันเสร็จแกก็จะดึงผมไปกก
จนพี่ชาติมองตาปริบๆ
“สาดเอ็มนี่ถ้ามึงไม่มีแฟนแล้ว...กูอดคิดไม่ได้นะเนี่ยว่ามึงชอบไอ้วินมัน...ห่า”
“แล้วถ้ากูชอบมึงจะยอมป่าววะไอ้ชาติ”

“แล้วแต่ไอ้วินมันโว้ยกูไม่เกี่ยว”
“เพื่อนกันมันต้องอย่างนี้ซิวะ”
พี่เอ็มตบบ่าพี่ชาติแบบกวนๆเลยโดนพี่ชาติเบิ๊ดกะโหลกไปที
แล้วแกก็เข้ามาคลอเคลียกับผม
“ว่าไงจ้ะวิน...มาเป็นแฟนพี่เอาป่ะ”
“พี่เอ็มมีแฟนแล้วคิดจะมาหลอกผมล่ะซิ”
“อ้าว...งั้นๆก็เป็นกิ๊กกันก็ได้...เดี๋ยวนี้เขากำลังฮิตๆ กันด้วยจะได้ไม่ตกเทรนไง”
แกยิ้มทำหน้าตาให้ดูตลกๆแต่คนมันหล่ออ่ะทำยังไงก็หล่ออ่ะครับ
แถมน่าหมั่นใส้ด้วย
“ม่ายอ่ะ”
นั่นคือคำตอบผมพี่ชาติที่นอนอ่านหนังสืออยู่ถึงกับฮาลั่น
“5555...สมน้ำหน้ามึง!...สาดเอ็ม...แม่งเจ้าชู้ไม่เลือก...ชิคิดจะมาหลอกมันดันโดนปฏิเสธซะได้...5555”
“ว้า!...เสียใจจังอ่ะ”
แกทำหน้าละห้อยแต่ดูแกล้งๆมากกว่า ตามประสาคนซี้และสนิทกัน
แต่ทันใดผมก็คิดขึ้นมาได้เรื่องงานในวันเสาร์อาทิตย์ที่จะถึง
“เออ...เสาร์อาทิตย์นี้พวกพี่ว่างป่ะไปเที่ยวงานกัน”
พี่เอ็มมองหน้าพี่ชาติ
“กูจำได้ว่าเสาร์อาทิตย์นี้ต้องทำโครงงานส่งอาจารย์ใช่ป่าววะไอ้ชาติ”
“เออ...พวกกูคงไปเที่ยวงานกับมึงไม่ได้หรอกว่ะ...อาจารย์คนนี้แม่งเหี้ยมโคดๆ...ไม่งั้นเป็นตกวิชานี้แน่ๆ…ปีสุดท้ายแล้วด้วย”
นี่ก็อีกรายเซ็งเลยตู ผมก็เลยนึกถึงนังอู
แต่นังอูก็มาไม่ได้เพราะต้องเก็บตัวนักวอลเล่บอล
มีแฟนมีเพื่อนเป็นนักกีฬาเนี่ย เซ็ง! จังครับ
ก็เลยนึกไปถึงพวกเพื่อนๆของผมกัน
พอชวนแต่ละคนก็ได้คำตอบที่แตกต่างกัน
ไอ้เหมก็ต้องอยู่ช่วยแม่ขายของที่ตลาดยิ่งเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ด้วยแล้วปลีกตัวยาก
ไอ้ซันก็ต้องประจำร้านทองช่วยเตี่ยมัน
ส่วนเพื่อนคนอื่นๆก็ไม่ค่อยอยากมา เหตุผลก็คืออยากนอน
เอากะพวกมันซิ
ดีหน่อยอย่างน้อยก็มีไอ้อี้หน้าหล่อ
กับไอ้เข้มมันยังเห็นแก่ผมยอมปลีกเวลามาเที่ยวงานบ้านผมได้
พวกเราเลยได้ทำบั้งไฟกับพวกไอ้ชาติที่เป็นทั้งญาติและเพื่อนอีกคนของผม
งานแบบนี้ก็หนีไม่พ้นเรื่องเหล้าเบียร์
พวกเราเปิดเพลงเสียงค่อนข้างดังรู้สึกจิตใจเบิกบานเป็นที่สนุกสนานกัน
ก็ตามประสาวัยรุ่นที่กำลังเริ่มมีสังคมมากขึ้น
บางครั้งก็ถามตัวเองนะว่าไม่รู้จะกินทำไมเหล้าน่ะ
ไม่เห็นอร่อยตรงไหนกินไปก็ขมโคดๆ
บางคนก็เมาแล้วเปลี่ยนนิสัยจากนิสัยดีๆ
พอเหล้าเข้าปากก็เปลี่ยนไปเป็นอีกคน
ผมไอ้อี้ไอ้เข้มเลยได้ช่วยพวกไอ้ชาติ ไอ้ช้าง ทำบั้งไฟแข่งกับเขาด้วย
(เราจะแยกขนาดของบั้งไฟออกเป็นหมื่น แสน และล้าน
ตามน้ำหนักและขนาดของบั้งไฟ)
ระดับหมู่บ้านหรือตำบลก็จะไม่เกินบั้งไฟแสนส่วนบั้งไฟล้าน
จะจุดเฉพาะงานระดับจังหวัด
เป็นประเพณีในการขอฝนให้ตกต้อง
ตามฤดูกาลอีกประการก็คือเราถือเรื่องพญาแถน หรือเทวดา
ที่รักษาเป็นผู้ดูแลเรื่องฝนให้ตกต้องตามฤดูกาลให้ทราบว่า
นี่เป็นฤดูเก็บเกี่ยวแล้วนะ  อะไรประมาณนี้
แต่ก่อนไม่ได้จัดกันทุกปีจัดเฉาะปีใดที่คาดว่าฝนจะแล้ง
ก็จะจัดให้มีประเพณีที่เรียกว่า “บุญบั้งไฟ"  ขึ้น
แต่ปัจจุบันการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้สนับสนุนให้เป็นงานประจำปี
เลยได้จัดกันทุกๆปี ก็เป็นที่ถูกอกถูกใจ ของบรรดาวัยรุ่นไป
เพราะงานนี้ก็จะมารวมตัวกันเป็นรุ่นๆ ไป
แถมดีไม่ดียังได้แฟนก็งานบุญบั้งไฟนี่แหละ
เพราะพอเรียนจบม.3 หรือ ม.6 ถ้าไม่เรียนต่อ
ส่วนใหญ่จะไปทำงานกรุงเทพกัน
พอกลับมาอีกทีก็หล่อก็สวยกันมาเชียว
แล้วก็ปิ๊งๆกันแล้วก็ตามด้วย เป็นแฟนกันตามสูตร
เราทำบั้งไฟกันก่อนวันงาน2-3 วัน เพระบั้งไฟหมื่นขนาดมันก็ไม่ได้เล็กนัก
ผมก็ช่วยพวกไอ้ชาติไอ้ช้าง และพี่ๆ แถวบ้าน รวมกัน 4-5 คน
กับไอ้อี้ไอ้เข้ม ก็เป็น 7 คน กำลังพอดี
ก็สนุกดีนับเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ อีกเรื่องที่น่าจดจำ
ที่สำคัญยังมีรางวัลเป็นเงินสดอีกด้วยที่ 1 ได้ตั้ง 5,000
ซึ่งช่วงนั้นถือว่าเยอะทีเดียว
ที่2 เงินรางวัล 3,000
ที่3 เงินรางวัล 1,500
และรางวัลปลอบใจอีก5 รางวัล รางวัลละ 500 ซึ่งก็ยังถือว่าไม่แย่นัก
งานวันแรกจะเป็น“การเซิ้ง”หรือ “รำ” แบบอิสาน
โดยแต่ละคุ้มหรือหมู่ก็จะคัดเลือกสาวๆวัยเอ๊าะๆ มาแต่งตัวสวยงาม
และเซิ้งบั้งไฟ
คณะนึงก็มีคนเซิ้งราวๆ30 คน
ทำให้ดูสวยงามและลานตามากการแต่งกายก็จะคล้ายๆ ภาคเหนือ
แต่จะนุ่งสั้นๆกว่า จังหวะการรำก็จะมีทั้งช้าและเร็วไปตามเสียงกลองยาว
แต่พอถึงจังหวะเร็วพวกหนุ่มๆ ก็จะออกไปรำวงกันอย่างสนุกสนาน
รวมทั้งผมก็เอากะเขาด้วย อิอิอิ
ก็เป็นที่สนุกสนานไป
พอวันที่สองจะเป็นการจุดบั้งไฟล่ะทีนี้งานนี้ผู้ชายจะเยอะหน่อย
และส่วนใหญ่ก็จะเป็นวัยรุ่นทั้งนั้น
การจุดบั้งไฟเราจะหาสถานที่นอกหมู่บ้านเพราะกันการเกิดอุบัติเหตุ
และต้องหาที่ใกล้ๆสระน้ำ หรือบึง
กุสโลบายก็คือเพื่อความสามัคคีก็ประมาณว่า
บั้งไฟใครไม่ขึ้นก็ต้องโดนจับคลุกโคลนจนเละเทะ
เป็นที่เฮฮาสนุกสนานกันไป โดยที่ไม่มีการถือกัน
วันจุดซึ่งเป็นวันที่สองเราไปจุดกันแถวบึงใหญ่ท้ายหมู่บ้าน
(ถ้าหลายๆ คนได้อ่านตอน “พี่ป๋อง”คงจะจำได้ว่าเป็นที่ไหน)
เพราะเป็นที่โล่งกว้างและไม่มีบ้านคนนอกจากที่นาที่กำลังไถและหว่าน
พวกผมกับเพื่อนๆก็นั่งกินเบียร์กันใต้ร่มไม้ริมๆ สระ
ผู้คนก็มากมายอยู่เป็นกลุ่มๆ ใต้ร่มไม้
เพราะวันนี้อากาศค่อนข้างอบอ้าวฟ้าก็ดูคลึ้มๆ
“เฮ้ยสมมุตินะถ้าบั้งไฟพวกเราไม่ขึ้นใครจะเป็นตัวแทนถูกจับลงโคลนว่ะ”
ไอ้อี้ปากมากดั๊น! พูดเป็นลางเลยโดนตีนไอ้เข้มเตะป้าบเข้าให้ทีนึง
“สาด...พูดซะเสียของไปได้...พวกเราทำตามสูตรมันต้องขึ้นสิวะ…ถ้าปากแบบนี้หุบไปเลยมึง”
“5555…ก็กูไม่รู้นี่หว่าสาด...บ้านกูไม่เคยทำบั้งไฟ...แหมก็แค่พูดให้หายเครียดกันก็เท่านั้นเองอิอิอิ”
(พ่อไอ้อี้ทำงานราชการส่วนแม่เป็นพยาบาล)
“เงียบไปเลยมึงไอ้ปากมอม”
ผมด่ามันหน้ายิ้มๆเพราะพวกเราถึงจะ เล่นมือเล่นตีนกันบ่อยๆ
แต่ก็ไม่ค่อยถือสากันเป็นเรื่องจริงจัง
“แล้วเนี่ยพวกมึงคิดว่าพวกเราจะได้รางวัลกับเขามั่งป่ะ”
ผมมองหน้าพวกพี่ๆแถวบ้าน กับไอ้ชาติ
ดูพวกพี่แกก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรนั่งกรอกเหล้ากันสบายๆ
เพราะที่มาแข่งกับเขาทุกปีก็เพราะอยากสังสรรค์มากกว่า
หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการทำนาทำงานมาทั้งปี
แต่ก็ดูถูกไม่ได้เชียวเพราะปีก่อนพวกพี่แกก็ได้รางวัลชมเชยนะขอบอก
ระหว่างที่เรารอจุดบั้งไฟเป็นรายต่อไป
และช่วงหนึ่งเกิดฝนตกเม็ดโป้งๆต่างคนก็ต่างวิ่งหนีฝนตาลีตาเหลือก
ผมเองก็วิ่งหาที่หลบฝนไม่คิดชีวิต
เฮ้อ! ขอฝนไม่ทันไรได้ผลเร็วทันตาเห็นจริงๆ5555
และพอดีผมจำได้ว่ามีท่อส่งน้ำเข้านา ซึ่งค่อนข้างใหญ่
แต่ช่วงนั้นฝนยังตกไม่บ่อยนักและน้ำก็มีไม่มากมันเลยแห้งๆ
เลยน่าหลบฝน
ผมก็เข้าไปหลบในนั้นรอฝนหยุดในใจก็นึกถึงพวกเพื่อนๆ  
ป่านนี้พวกมันจะวิ่งไปหลบมุมไหนก็ไม่รู้
พอเข้าไปภายในท่อก็ไม่เลวนักเพราะท่อระบายน้ำขนาดค่อนข้างใหญ่
และแห้งสบาย ผมเลยนั่งหลบฝนสบายไป
มองออกไปข้างนอกฝนก็ยังคงตกหนัก มองๆ ดูรู้สึกจะมีลูกเห็บด้วยนะนั่น
“เฮ้อ!...”
ผมถอนหายใจพลางคิดถึงอ้นนี่ถ้าอ้นมาด้วยคงจะดี
อย่างน้อยอากาศเย็นๆด้วยไอฝนแบบนี้ก็จะได้มีคนกอด อิอิอิ
หลบฝนได้สักพักก็มีใครคนนึงวิ่งลงมาหลบด้วย
ผมมองก็พอจำหน้าได้แกชื่อพี่ต้อม บ้านแกอยู่ละแวกบ้านผม
เรายิ้มให้กันแล้วคุยกันไปตามประสาคนรู้จัก
ดูแกค่อนข้างคงจะเมา “สาโท” แน่ๆ เพราะกลิ่นมันออกหอมๆ โชยมาแต่ไกล
หน้าแกก็แดงๆยิ่งผิวแกขาวด้วย พอเจอฤทธิ์ แอลกอฮอลล์เลยแดงเป็นลูกตำลึงสุก
แต่ก็เซ็กส์ดีครับยิ่งแกมานั่งใกล้ๆ กลิ่นเหล้าก็คลุ้งออกมาตามตัวแก
“ว่าไงมึงไอ้วิน...ทำไมมาหลบฝนอยู่คนเดียววะเนี่ย”
“ต่างคนต่างวิ่งอ่ะพี่ต้อม”
“เออก็ไม่แปลกแม่งฝนห่าอะไรก็ไม่รู้เม็ดยังกะหัวแม่ตีนแถมมีลูกเห็บตกด้วยเนี่ย...ถ้าวิ่งไม่ทันเป็นหัวแตก”
พี่ต้อมแกจะมีชื่อเสียงเรื่องเกเรค่อนข้างหนาหู
ทั้งเรื่องเหล้าเรื่องผู้หญิง เรื่องขี้เย็ด และเป็นนักซิ่ง
ซึ่งในตอนนั้นคำว่า “เด็กแว๊น”  หรือ “เด็กแซ่บ” ยังไม่ได้เป็นที่นิยมนัก
อ้ออีกเรื่องก็หนีไม่พ้นเรื่องชกต่อย
แกเลยได้ฉายา“บิ๊กต้อม”แบบสบายๆ
พี่ต้อมเป็นคนหน้าตาดีสูง ขาว หุ่นไม่ล่ำมาก โปร่งๆ
จำได้ว่าตอนเด็กๆผมเคยแอบจับควยแกตอนเล่นมวยปล้ำด้วย 5555 ทะลึ่งจริงๆ
มาคิดๆดูก็ตลกดีเหมือนกัน
แต่พอแกโตจนเข้าเรียนม.3 แกก็ไปติดเพื่อนที่โรงเรียนแทน
มาวันนี้แกดูหล่อและแมนมากๆ
ระหว่างที่คุยกันกำลังได้ที่นั้นฝนก็สาดเข้ามาแกจึงขยับมาติดกับผม
คุยไปคุยมาแกก็คุยแต่เรื่องที่ส่อเสียดในเรื่องใต้สะดือ
ตามประสาหนุ่มวัยรุ่นขี้เย็ด
เล่นเอาผมถึงกับมีอารมณ์ขึ้นมาทันทีตามความ“ร่าน”
“ฝนตกแบบนี้อยากเย็ดว่ะเนี่ยควยกูแข็งเลย”
แกบีบเป้าที่ควยแข็งจนนูนตาผมก็มองตามแทบจะถลนออกมาจากเบ้า
จนอดกลืนน้ำลายด้วยความอยากไม่ได้
ว้าว! เป็นลำเลยอ่ะ
“นั่นดิพี่อากาศเย็นๆ...แบบนี้ถ้าได้เย็ดกันคงจะมันน่าดู”
“เออซิวะกูก็คิดแบบนั้นไง...ยิ่งแดกเหล้ามาแบบนี้ด้วย...แม่งเงี่ยนจนน้ำควยกูเยิ้มเลยว่ะ”
“จริงเหรอพี่ไหนดูซิ”
ผมไม่รอช้าจับหมับทันทีควยแกแข็งมากๆ โอยจะขาดรอนๆ
พี่ต้อมจับมือผมออกอย่างอายๆ
“อย่าสิวะกูเขิน”
แต่ผมก็ยังทำเนียนเป็นอยากรู้ว่าของแกจะซักแค่ไหน
แหมมาถึงขั้นนี้แล้วจะปล่อยให้หลุดปากได้ไงอิอิ
“เฮ้ย!...อย่าจับดิวะเดี๋ยวก็เป็นเรื่องหรอกมึง…กูยิ่งเงี่ยนๆ อยู่”
“ขอดูหน่อยดิพี่ว่าของพี่ต้อม...จะใหญ่อย่างที่เขาลือกันรึปล่าว”
“ใครลือวะ”
“ก็พวกพี่เงาะ...ไอ้เกียรติไง...ลือกันซะเว่อร์ว่าควยพี่ต้อมอ่ะใหญ่กว่าใคร
8 นิ้วเห็นจะได้”
ผมใส่สีตีไข่จนได้เรื่อง
พี่ต้อมดูยิ้มๆอย่างภูมิใจ เลยปล่อยให้ผมคลำได้สบายมือ
อูยยยได้อารมณ์สุดๆ ขอบอก
“มันก็แค่คำลือโว้ย”
แม้จะเป็นคำถ่อมตัวแต่หน้าตาที่ดูภาคภูมิใจก็บ่งบอกได้ว่าชมชอบคำยอ
“แต่ยังไงขอผมดูหน่อยได้ไหมอ่ะ...แต่เนี่ยผมว่าถึงจะไม่8 ก็ใกล้เคียงแหละ”
“เออๆๆตามใจมึงแต่เร็วๆ หน่อยนะโว้ย”
ผมเห็นแกไม่ว่าอะไรผมก็ได้ใจรีบรูดซิบกางเกงยีนส์แกออก
เดี๋ยวแกจะเปลี่ยนใจแล้วเอาควยแกออกมชมข้างนอก
ว้าว!
ควยแกสวยทีเดียวมันไม่ใหญ่อย่างที่ผมเยินยอแก
ควยพี่ต้อมประมาณ7.4 นิ้ว ยาวมากกว่าใหญ่
แต่ปากผมก็ยังชื่นชมแกเพราะอยากดูดซะเต็มแก่
“โหพี่ต้อมใหญ่โคดๆอ่ะเกิดมาผมยังไม่เคยเห็นควยใครใหญ่อย่างนี้มาก่อน
ยาวมากๆด้วย”
ตอแหลจริงๆอิอิ
“เห็นมั๊ยมึง...ว่าข่าวลือก็เป็นจริงได้...แต่ปล่อยควยกูได้แล้วเดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”
“น่าพี่ต้อม...มีอารมณ์แบบนี้เดี๋ยวค้างไว้ปวดควยนาจะบอกให้...มาให้ผมชักให้ดีกว่า”
“เฮ้ย!...ได้ไงวะกูอายมึงตายเลย”
แกดูอิดออดแต่ไม่จริงจังนักเหมือนความหน้ามืดมันบังตาว่างั้น
“ไกลออกขนาดนี้ใครจะมาเห็นพี่...น่านะให้ผมชักให้...น้ำแตกแล้วจะได้สบายตัว”
แกชักเริ่มคิดนานหน่อย
“เออก็ได้แต่เร็วๆนะกูกลัวคนมาเห็นได้อายเขาตายเลย”
ผมก็ยิ้มดีใจซิครับที่จะได้ถอกควยสวยๆ ของพี่ตั้ม
ขนหมอยแกไม่ดกมากเส้นยาวๆ ไข่ยานและใหญ่มาก
ผมเริ่มถอกขึ้นลงและมีคลึงที่หัวควยสีสดของแกไปด้วย
พี่ตั้มถึงกับหลับตาอ้าปากหวอปากครางซี้ดเบาๆ
ผมเห็นว่าแกชักจะติดลมผมไม่รอช้าก้มหน้าดูดควยพี่ต้อมเข้าปากทันที
แกสะดุ้งเฮือก!
“เฮ้ย! ...มึงทำอะไรวะไอ้วิน”
แกร้องถามด้วยความตกใจเมื่อเห็นผมก้มหน้าดูดควยแก
ผมไม่ตอบแต่ใส่เกียร์โม๊คจับควยแกแล้วดูดแบบไม่คิดชิวิต
จนแกดิ้นกระแด่วๆถดถอยควยหนีจากปากผม
แต่พักเดียวแกก็หลับตาพริ้มมีเสียงครางเบาๆ ออกมาจาปาก
“แม่งเอ๊ย!...ซี้ดดดด...อือออ”
ผมเห็นดังนั้นเลยดูดขึ้นลงอย่างอร่อยปากและเริ่มช้าๆ เนิบๆ
แต่ด้วยความยาวเลยไม่สามารถเอาควยพี่ต้อมเข้าปากได้หมดลำ
เลยหันไปให้ความสนใจกับไข่ใบโตยานๆ ของแกแทน
เล่นเอาพี่ต้อมถึงกับกระตุกครางซี้ดๆ
“ซี้ดดดดด...อย่าดูดไข่กู...อูยยย... แม่งเอ๊ย!...กูเสียว...อืยยยย...พอแล้วกูเสียว”
แกครางอย่างกับจะเป็นจะตายดิ้นไปมาแต่สองมือกดหัวผมเข้าหาเป้าแกแน่น
ผมจึงขึ้นมาดูดควยยาวๆหัวแดงของแกต่อ
จนผมรู้สึกว่าพี่ต้อมอยากเต็มที่แล้วเมื่อแกร้องขอบางอย่างจากผม
“กูขอเย็ดตูดมึงได้ไหมวะ”
ผมไม่ตอบแต่ถอดกางเกงตัวเองลงแค่ต้นขาแล้วขึ้นนั่งตักแกโดยหันหน้าเข้าหากัน
แล้วกดตูดให้ตรงควยแกในขณะที่พี่ต้อมก็ออกอาการอยากเย็ดสุดๆ
ช่วยจับควยจ่อให้ตรงรูผม
“กดลงมาให้สุดโคนเลยมึง”
ผมทำตามอย่างว่าง่ายด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่มันจึงเข้าได้ไม่ยากนัก
แต่ความยาวนี่ซิทำเอาผมโคดจุกเลย
“ซี้ดดด”
พี่ต้อมครางออกมาอย่างสะใจเมื่อส่วนหัวเริ่มมุดเข้าถ้ำผม
“อูยยยย...หัวควยกูเข้าไปได้แล้วมึง...คับสัดๆอ่ะ”
และพอเข้ามาสุดลำก็เล่นเอาผมโคดจุกอ่ะ
พอรูเริ่มชินกับความยาวของแกแล้วผมจึงเริ่มขย่มตัวขึ้นลงพั่บๆๆๆ
“อือออ”
ผมเผลอครางนับเป็นเสียงที่บ่งบอกความร่านได้เป็นอย่างดี
ในขณะที่พี่ต้อมเองก็ได้แต่ครางอือๆๆ
สองมือแกก็กดเอวผมไว้แล้วเด้งควยสวนเข้าตูดผมป้าบๆๆ
ในขณะเดียวกันผมก็ขย่มตอแกไปอย่างเมามัน
“อูยยย...กูเสียววว.....มันควยโคดๆ.... เร็วๆๆๆ...อึ๊บๆๆๆ...แรงๆๆๆ... อีกๆๆ”
ผมก็ทำตามโดยการโยนตัวและน้ำหนักตัวทั้งหมด
กระแทกตูดเข้าหาควยยาวๆของพี่ต้อมอย่างสู้ตาย
ในขณะที่พี่ต้อมก็กระเด้งควยสวนตูดผมขึ้นมาอย่างไม่ย่อท้อ
ต่างคนต่างช่วยเหลือกันสองมือแกเปลี่ยนมากดล็อคที่ไหล่ผมแทน
จนผมต้องขย่มตามการบังคับของพี่ต้อม
ในขณะที่มือผมก็ลูบไล้ไปมาตามร่างกายแน่นๆแมนๆ ของแก
มันทำให้ผมเสียวยิ่งขึ้นจนทนไม่ไหวต้องว่าวให้ตัวเองตามแกไปด้วย
เพียงไม่นานผมก็น้ำแตกเต็มหน้าท้องพี่ต้อม
ในขณะที่พี่ต้อมก็กดเอวผมแรงขึ้นๆ
“ตูดมึงโคดรัดควยกูเลย...อืออออ...ซี้ดดด...อึ๊บๆๆๆ...อูยยยย...จะออกแล้วๆ...อ๊ะ!... น้ำกูออกแล้วววว... อาๆๆ”
พี่ต้อมกระแทกอีกสองสามทีก็แน่นิ่งไปแต่ก็ยังคงกอดผมแน่น
มองออกไปข้างนอกฝนก็ยังตกหนักอยู่ไม่มีทีท่าว่าจะซา
แล้วเราก็ได้ยินเสียงคนเดินมาทางนี้
ผมจึงรีบถอนตูดออกจากควยพี่ต้อมอย่างเร่งรีบ
ทั้งแกและผมต่างรีบใส่เสื้อผ้าอย่างฉุกละหุก
ตอนที่กำลังพิมพ์พอมาคิดดูก็ตลกดีอ่ะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น