วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559

เรื่องเซ็กส์ของเด็กรา่น บทที่ 31 ไปช่วยลงแขกเกี่ยวข้าวเลยโดน(ลงแขก)ไปหลายดอก (1)

อากาศช่วงนี้มีการเปลี่ยนแปลงจนรู้สึกได้เมื่อทิ้งช่วงนานหลายอาทิตย์
และบางคราวนั่งๆเรียนอยู่ก็รู้สึกว่าลมเย็นพัดกรูมาเป็นครั้งคราว
มองขึ้นไปบนฟ้าท้องฟ้าจากที่เคยมีเมฆลอยเอื่อยๆ ไปมากลับใสกระจ่างเป็นสีฟ้าเข้มไปทั้งผืน
ทำให้จิตใจรู้สึกหวิวๆยังไงบอกไม่ถูก

ต้นหูกวางก็เริ่มเปลี่ยนสีจากเขียวแก่เป็นสีเหลืองและแดงสดไปทั้งต้นต้นไม้บางต้นก็เริ่มสลัดใบ
ความรู้สึกมันเหมือนกับการที่จะต้องจากเพื่อนที่สนิทไปอีกวาระหนึ่ง

โชคดีนะ

“ฤดูฝนเพื่อนรัก”
  
...................................................................

หลายวันต่อมาก็เข้าสู่ฤดูหนาวเต็มตัวข้าวในนาก็เริ่มออกรวงสีทอง ก็เป็นเวลาของการเก็บเกี่ยวเสียที
ในบรรดาเพื่อนผมทั้งหมดก็มีไอ้เข้มนี่แหละที่บ้านมันทำนา
ส่วนคนอื่นๆ บ้านก็จะอยู่ในตัวจังหวัดกันส่วนบ้านผมถึงจะมีที่นาแต่ก็ให้เขาเช่าทำ
จะว่าไปไอ้เข้มมันก็เคยชวนพวกผมไว้เป็นเดือนเรื่องไปลงแขกเกี่ยวข้าวที่บ้านมัน
แต่จริงๆแล้วก็ชวนกันไปกินเลี้ยงและสังสรรค์กันเสียมากกว่าตามประสาเพื่อนซี้กัน
แต่มานั่งนึกดูอย่างพวกไอ้ซันไอ้อี้เนี่ยนะ มันจะเกี่ยวข้าวเป็น 5555

ผมนึกขำๆอยู่ในใจ ไอ้เหมอีกล่ะเจ้านี่อ่ะมันดีแต่ทำตาปรือไปวันๆดีหน่อยก็เรื่องเย็ดเท่านั้น
ไอ้น็อต ไอ้สินไอ้ทินนี่ก็อีกผมยังนึกภาพไม่ออก คงจะตลกน่าโคดๆ ถ้าได้เห็นพวกมันเกี่ยวข้าว
เพราะแต่ละคนเด็กในเมืองทั้งนั้นวันเสาร์ อาทิตย์ ก็ติดเกมส์ติดหนังเสียมากกว่า

แล้วในที่สุดพวกมันก็ลบคำปรามาสของผมได้แถมไอ้เจ้าซันมันก็มาได้เพราะเตี่ยมันอนุญาติ
แล้วก็มีไอ้อี้ไอ้เหม ไอ้สินและไอ้น็อต (ขาตด) ก็ถือว่าเกือบครบก๊วนก็ว่าได้ขาดก็แต่ไอ้ทิน

บ้านไอ้เข้มมันอยู่เกือบสุดเขตอำเภอเมืองเป็นหมู่บ้านที่ต่อเขตกับอีกอำเภอ
จึงค่อนข้างไกลเออจะว่าไปมันนี่ก็ขยันเดินทางจังแฮะห่างจากโรงเรียนตั้ง 15  กิโล เป็นผมล่ะขี้เกียจตาย
เป็นที่รู้กันว่าตอนเช้าของหน้าหนาวนั้นบรรยากาศมันจะน่านอนซักแค่ไหน
ผมเลยยังหลับปุ๋ยคลุมโปงไม่ลุกออกจากที่นอน(ไอ้ขี้เกียจ)

พี่ชาติก็เอาแขนขาใหญ่ๆล่ำๆ มาก่ายจนผมรู้สึกว่าควยแกมันแข็งชนสีข้าง
เลยเปิดผ้าห่มออกดูก็เจอพี่ชาตินอนกอดผมอยู่ตอนแกหลับนี่หน้าตายังเอ็กส์ได้ใจจนน่ากวนสุดๆ
ผมเลยผลักให้แกนอนหงายอกแกร่งแน่นบึกบึนยังคงน่าซบ หัวนมสีเข้มเป็นป้านแข็งเป็นไตพร้อมๆ
กับกับควยขนาดเกือบ 7.5 นิ้ว!!! ที่ลุกแข็ง

จนพ้นออกมานอกผ้าห่มผมมองแล้วก็นึกขำๆเลยกำและถอกแรงๆ ตามที่เคยทำให้แกทุกๆ เช้าจนเป็นนิสัย
ความอุ่นจากดุ้นควยพี่ชาติแผ่ซ่านมาตามมือแน่ะยังไม่ตื่นอีกผมเลยอ้าปากงับหัวบานๆ เข้าเต็มปาก
แล้วโยกหัวขึ้นๆลงๆแป้บเดียวพี่ชาติก็ครางอือๆ

“5555...กวนกูซะเช้าเลยนะมึง...”
แกพูดอู้อี้ๆในคอเพราะยังงัวเงียอยู่ ผมก็ตั้งหน้าตั้งตาดูดเต็มที่เพราะอารมณ์ในตอนเช้ามันคึกคักจะตาย

“ซี้ดดด... กูชักมันส์ๆ เต็มที่แล้วว่ะ... พอแล้วมาให้กูเย็ดตูดดีกว่า”
ผมก็นอนคว่ำหน้าอย่างรู้งานแล้วพี่ชาติก็แหกขาผมออกซะกว้าง แล้วกดควยหัวบานทะลวงตูดผม
พอเข้าได้ก็ป้าบๆๆ!!! พร้อมๆ กับเสียงครางของผมกับพี่ชาติผสานกัน

“ซี้ดดดด!!!...เสียว... ดีเนอะ”
พี่ชาติล็อคไหล่ผมเอาไว้อกแกร่งๆแนบกับแผ่นหลังผม พร้อมๆ กับกระเด้าตูดผมไปด้วย
จนความหนาวเย็นในตอนเช้าเริ่มเปลี่ยนเป็นร้อนขึ้นมาซะแล้วในตอนนี้
กำลังเข้าได้เข้าเข็มก็ได้ยินเสียงมอไซค์หลายคันจอดหน้าบ้านไล่เลี่ยกัน
คงเป็นพวกไอ้อี้ไอ้ซันที่ขับมอไซค์ มารับผมตั้งแต่เช้า จนแม่ต้องขึ้นมาตาม

“ก๊อกๆๆ... ไอ้หน้อยตื่นหรือยังลูก... เพื่อนมาตามแล้วเน้อลูก”
พี่ชาติที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาเร่งซอยตูดผมอยู่ถึงกับหยุดกึกแน่นิ่งหน้าตาดูตกใจนิดหน่อย

“ครับๆ ตื่นแล้วแม่”
“รีบๆอาบน้ำแต่งตัวนะลูกเพื่อนคอย”
“ได้ครับแม่”
ผมหันหลังไปมองพี่ชาติทั้งที่ควยแกยังคาอยู่ในตูดผม

“เอาไงล่ะมึง”
พี่ชาติถามด้วยสีหน้างุ่นง่านด้วยน้ำยังไม่ออกจนผมนึกสงสาร เพราะรู้ๆกันอยู่ว่าถ้าแกน้ำไม่แตกแกจะหงุดหงิดไม่ค่อยอยากทำอะไร

“เย็ดให้น้ำแตกเลยพี่...แต่พี่ชาติเร่งๆเย็ดหน่อยละกัน”
“ได้ๆๆ”
แกพูดด้วยความพอใจแล้วเร่งสวนควยเข้าตูดผมทั้งเร็วทั้งแรง
จนเกิดเสียงป้าบๆๆเพราะควยกับก้นกระทบกันแถมแรงจนพื้นบ้านสะเทือน
ผมนอนคว่ำหน้าปล่อยให้พี่ชาติเร่งเย็ดให้แตกไวไวด้วยใจจดจ่อ
ส่วนควยผมก็เสียดสีกับที่นอนจนครูดไปมาจนน้ำแตกก่อนพี่ชาติอีก
และก็เป็นผลไม่นานนักพี่ชาติก็เร่งซอยยิกๆๆๆเร็วขึ้นๆ แล้วแกก็ร้องครางยาวๆ
แต่พยายามเก็บเสียงไว้ไม่ให้ดังมาก

“ซี้ดดดดดดด!!!”
ซักพักแกก็แน่นิ่งไปบนหลังผมพร้อมกับความรู้สึกที่ว่ามีน้ำอุ่นๆไหลเข้าไปในตูด
เท่านั้นแหละผมก็รีบคว้าผ้าเช็ดตัวผืนของพี่ชาติมาพันตัวแล้ววิ่งลงไปอาบน้ำทันที
กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบเจ็ดโมงแน่ะ และพอผมเจอหน้าพวกมันก็เลยโดนสวดยับโดยเฉพาะไอ้อี้ปากไว

“สาดวินมึงจะนอนกินบ้านกินเมืองรึไงวะ...อุตส่าห์นัดหกโมงตรงนี่จะปาเข้าไปเกือบเจ็ดโมงแล้วเนี่ยมึงเห็นมั๊ย”
มันยกนาฬิกาข้อมือขึ้นให้ผมดูหน้าตาดูไม่สบอารมณ์นัก ผมก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ กลัวมันโกรธเอา

“กูขอโทษ...โทษทีนะโว้ยทุกคน”
ผมหันไปขอโทษพวกมันรอบๆนาทีนั้นผมเห็นแต่สายตาอำมหิตจากพวกมันทุกคน
ยกเว้นไอ้ซันคนเดียวที่มันโคดจะนิ่งมันได้แต่ส่ายหัวเพราะมันก็รู้อยู่ว่าผมมีสมญานามว่าอะไร

“เจ้าชายสายเสมอ”
นั่นคือสมญานามที่พวกมันพร้อมใจกันตั้งให้กับผม ไม่รู้ว่าเป็นเกียรติหรือคำประณามกันแน่เฮ้อ

“เออๆ ช่างเหอะไปขึ้นรถ”
ไอ้ซันตัดบท

มันต้องอย่างนี้หล่อทั้งตัวหล่อทั้งใจไม่ใช่ สักแต่จะหล่ออย่างไอ้อี้ อิอิอิ

พวกมันเอารถมอไซค์มาสามคันผมซ้อนไอ้อี้ไอ้ซันซ้อนไอ้เหม ส่วนไอ้สินซ้อนไอ้น็อต
การเดินทางครั้งนี้แม้ไม่ได้ไกลมากมายอะไรสำหรับเด็กกึ่งในเมืองกึ่งบ้านนอกอย่างผม
แต่เมื่อได้มาอยู่ท่ามกลางเพื่อนซี้อย่างพวกมันก็สนุกดีฮาๆ ตามประสาวัยรุ่น ขับรถไปก็แซวกันไปด่ากันไปตลอดทาง

อากาศในช่วงหน้าหนาวของภาคอิสานจะค่อนข้างเย็นจัด แม้ตอนนี้จะเป็นเวลาเกือบเจ็ดโมงเช้า
แสงแดดอ่อนๆเริ่มทอไปทั่วฟ้า แต่ไอหมอกที่เป็นกลุ่มก้อนก็ยังไม่สลายไปมองไปตามสุมทุมพุ่มไม้ยังเห็นเป็นควันขโมง
ได้บรรยากาศเหมือนต่างประเทศไปอีกแบบ

ตลอดทางที่ขับรถผ่านทุ่งนาก็เป็นสีทองอำไพ สุดลูกหูลูกตาชาวนาเริ่มเก็บเกี่ยวกันบ้างแล้ว
มองไกลๆ เห็นเป็นจุดดำๆ ตะคุ่มๆ ตามทุ่งนา ท่ามกลางรวงข้าวสีทอง

หน้าหนาวนี่จะว่าไปก็มีอะไรสวยๆงามๆ ให้เพลินตาเพลินใจเยอะเหมือนกันนะ
เพราะนอกจากอากาศจะเย็นสบายและสดชื่นดีแล้ว ตามนาข้าวก็จะสลับไปด้วยดอกหญ้า สีสันสวยงาม
ทั้งม่วงเข้มของดุสิตา เหลืองสดของสร้อยสุวรรณา ก้านสีน้ำตาลแซมด้วยดอกเล็กสีเหลืองสดอย่างหญ้าบัว ซึ่งโดดเด่นกว่าใคร
และที่ดูนุ่มนวลชวนมองก็เป็นเจ้ากระดุมเงินที่ชูช่อเป็นสีขาวอมเทาก้านเขียว

แต่น่าเสียดายที่พวกมันไม่เป็นที่ต้องการของชาวนาเท่าไหร่ แต่ถ้ามันเกิดในอุทยานแห่งชาติพวกมันคงจะมีค่ามากกว่านี้
ผมมองข้างทางเพลินไป จนไอ้อี้มันหมั่นใส้

“สาดวินมึงเอาเปรียบกูนี่หว่า... แม่งนั่งรถชมนกชมไม้เพลินเลยนะมึง... กูล่ะหนาวจนปวดมือ”
“อ้าวเชี่ยนิแล้วมึงจะให้กูนั่งร้องไห้เหรอวะ... บ๊องจริงมึงนี่”
“ยังยังจะมาปากดีอีกนะมึง... มาเลยมาเปลี่ยนกูขับเลยมึง”
“ก็ได้ๆ... แต่ถ้าเลี้ยวลงข้างทางมึงอย่ามาโทษกูละกัน... มึงก็รู้ๆ อยู่ว่ากูขับมอไซค์ไม่แข็ง”
“สาดก็มึงไม่ยอมหัดขับซักทีนี่หว่า... กูจะหัดให้ก็เล่นตัว”
“ก็กูกลัวนิ... บอกให้พ่อซื้อให้ก็อ้างนั่นอ้างนี่ทั้งปี”
“นี่แหละเป็นโอกาสดีแล้วมึง... ถนนโล่งโคดมึงไม่ต้องกลัว... แถมได้พี่เลี้ยงเก่งๆ อย่างกูด้วยแล้ว”
“เออๆๆ... ขับก็ขับเลิกพล่ามซักที”

ผมรำคาญมันปากมากเซ้าซี้มันก็จอดรถมอไซค์ข้างทางแล้วผมก็เป็นคนขับมั่ง
จะว่าไปผมก็พอขับได้นะแต่ถ้าให้ขับในตัวเมือง

ผมก็คงไม่เอาด้วยแน่ๆ แต่ถนนหลวงช่วงเช้าๆ โล่งแทบไม่มีรถวิ่งแบบนี้ก็ค่อยยังชั่ว
พอผมสตาร์ทรถไอ้เหมก็กอดเอวผมแน่นขับไปไม่ทันไรก็บรื๊อ! ไม่ใช่เห็นผีนะครับก็ลมมันเย็นอ่ะ 5555
เย็นอย่างมันว่าจริงๆ อ่ะครับ มิน่ามันถึงได้บ่นนักบ่นหนาพอมันเห็นอาการผมมันก็หัวเราะก๊ากอย่างสะใจ

“5555...ไงล่ะมึงพอมาขับเองมั่งรู้สึกยังไง...5555”
“เชี่ยนิยังจะมาซ้ำเติมกูอีก... อูยยยย...โคดหนาวว่ะมึง”

มันยังคงหัวเราะแบบสะใจในอาการของผมจนผมโคดหมั่นใส้มัน
แต่ดีหน่อยที่มันกอดผมจนรู้สึกอุ่นๆจากทางด้านหลังเฮ้อมีคนหล่อหุ่นดีๆ มากอดก็อุ่นดีนะครับ
แต่ถึงกระนั้นเมื่อโดนลมเย็นๆ กระทบหน้าก็แทบหน้าชาแต่ผมก็ขับไปได้ตลอดรอดฝั่ง

จนถึงบ้านไอ้ถึกเข้มมันซึ่งกำลังสาละวนกับการให้อาหารเป็ดไก่ในเล้าที่ส่งเสียงเซ็งแซ่
พอมันเห็นพวกผมก็ยิ้มแป้นอย่างดีใจสุดๆ เออดูมันดิแม้กระทั่งอยู่ในชุดเสื้อผ้าสีมอๆ แต่มันก็ยังแมนและน่ามอง
พอครบองค์พวกเราก็ออกเดินทางโดยรถอีแต๋นคันเก่าโดยมีไอ้เข้มขับเออ ไอ้เจ้านี่มันก็เก่งเนาะ
ขับรถเป็นตั้งแต่ 16-17 แน่ะ คงเพราะต้องช่วยพ่อแม่ทำงานตั้งแต่ยังเล็กมั๊ง
ระหว่างที่พวกผมอยู่บนรถลมก็พัดมาเย็นดีได้ความรู้สึกโล่งสบายดีจัง

“โคดได้บรรยากาศลูกทุ่งเลยว่ะ...พวกมึงว่ามั๊ย”
ไอ้ซันพูดออกมาโดนใจผมจังๆ เพื่อนคนอื่นก็สูดลมอากาศเข้าปอดอย่างสบายใจ

“แต่กูชอบนะ...อากาศก็สดชื่นสุดๆ”
ผมแสดงท่าทีว่าชอบจริงๆ
“มึงชอบก็มาอยู่กับไอ้เข้มเลยซิวะ...บ้านมันกว้างขวางจะตาย”

ไอ้อี้มันพูดจาเข้าทีก็หนนี้จนผมอดยิ้มไม่ได้ที่มันไม่ขัดผม
แต่ไม่ทันที่ผมจะรู้สึกดีกับคำพูดมันมันก็หันไปถามไอ้เข้มที่กำลังคุยกับไอ้เหมอยู่

“เฮ้ยไอ้เข้มที่นามึงยังขาดแรงงานอีกมั๊ย...ไอ้วินมันอาสาจะไปช่วยไถโว้ย...5555”
โครม!”
มันยังไม่ทันพูดจบประโยคผมก็ถีบมันซะเกือบตกรถ

“สาด...ไอ้ปากพาจน”
ผมตวาดมันลั่น ไอ้อี้ปากหมามันถึงกับลูบตะโพกไปมาหัวเราะไม่ออกได้แต่ยิ้มแหยๆ
เพื่อนคนอื่นก็ฮาลั่นขำกับมุขควายๆ ของมัน

ซึ่งนาของไอ้เข้มห่างจากบ้านมันอีกกิโลกว่าๆ(รวมระยะทางเป็นเท่าไหร่แล้ววะเนี่ย)
พ่อ แม่ พี่ชายของไอ้เข้มก็กำลังเกี่ยวข้าวกันอยู่ก่อนแล้ว จะว่าไปก็เป็นธรรมดาของชาวนาที่ต้องตื่นแต่เช้า
พ่อ แม่ ไอ้เข้มก็หาข้าวปลาอาหาร มาเลี้ยงพวกผมหลายอย่าง ประมาณอาหารพื้นบ้านภาคอิสานทั้งนั้น
ก็มีทั้ง ต้มไก่บ้าน ไก่ย่าง ตำแตง ลาบไก่ อะไรพวกนี้

ด้วยความที่ขับรถกันมาเหนื่อยๆพวกผมเลยสวาปามกันเต็มที่ แหมมันช่างเอร็ดอร่อยอย่างน่าประหลาดจริงๆ
ทั้งๆ ที่ก็เป็นแค่อาหารธรรมดาๆ คงเป็นเพราะการที่ต้องเดินทางไกลและยังได้มากินข้าว
ท่ามกลางบรรยากาศที่แปลกออกไปจากที่เคยเป็นแน่ๆ

ผมกับเพื่อนคนอื่นๆน่ะไม่เท่าไหร่หรอกแต่ผมห่วงไอ้เจ้าซันมันจังครับ เพราะมันเป็นลูกคนจีน
แต่พอมองดูมันอีกทีเออว่ะ มองมันผิดคาดไปจริงๆ เอากะมันซิ...
ปั้นข้าวเหนียวจิ้มลาบไก่อย่างเอร็ดอร่อย ผมกับไอ้อี้มองหน้ากันขำๆ

“กูนึกว่าเจ๊กกินลาบไม่เป็นซะอีก”
ไอ้อี้ปากไวตามเคย ไอ้ซันก็เคี้ยวข้าวหยับๆ ทำหน้ายียวนล้อเลียนไอ้อี้ แบบว่าอร่อยซะเต็มประดา

“สาด!!!”
ไอ้ปากดีเลยด่ามันไปทีก็เป็นที่ครื้นเครงกันไป พอกินข้าวกันเสร็จทีนี้ก็เป็นเวลาที่ต้องทำงานชดใช้ซะที
ไอ้เข้มก็แจกเคียวเกี่ยวข้าวให้พวกผมคนละเล่ม ผมน่ะก็ไม่เท่าไหร่ก็โตมากับการทำนา(บ้าง)เคยมาแล้วทั้งถอนกล้า ดำนา และเกี่ยวข้าว
สารภาพว่าไม่ใช่เพราะอยากจะทำหรือนึกสนุกอะไรหรอกนะครับ แต่เป็นเพราะโดนพ่อบังคับเสียมากกว่า

พ่อให้เหตุผลว่า

“เอ็งจะได้ไม่ลืมว่าเกิดมาเป็นลูกชาวนา”
มันก็จริงของแกนะ เพราะบ้านของแม่ที่อยู่เชียงใหม่ท่านก็ทำนา

***(ลักษณะการเกี่ยวข้าวจะเป็นแบบนี้นะครับ เผื่อเพื่อนๆ บางคนอาจจะไม่เคยทำนาแต่อยากจะทราบว่าเกี่ยวข้าวทำกันยังไง
มือขวาถือเคียว มือซ้ายรวบก้านของรวงข้าวแค่พอกำมือแต่ต้องกำก้านรวงข้าวให้แน่นๆ
แล้วหักมุมที่เคียว ให้เฉียงขึ้นนิดนึงเพื่อจะได้ตัดรวงข้าวได้ง่าย
พอเกี่ยวเสร็จก็เอารวงข้าวที่เกี่ยวได้วางทับกันไว้บนตอซังข้าว
กองรวมกันไว้เพื่อเป็นการตากข้าวไปในตัวหลังจากนั้นพอเกี่ยวเสร็จก็จะมัดเป็นมัดๆ
ตากแดดไว้ซักสองถึงสามวันก็เอาไปนวดที่ลานที่ได้เตรียมไว้แต่ในสมัยนี้ก็เริ่มจะหาดูได้ยากแล้วนะ
ต้องเป็นหมู่บ้านที่ค่อนข้างห่างไกลซักหน่อยที่ยังใช้วิธีการแบบเก่าๆ แบบนี้อยู่
เพราะขณะนั้นรถไถนา รถเกี่ยวข้าว กำลังเริ่มเข้ามาเพราะใช้แรงงานน้อยและเร็วด้วย)
แต่ไอ้พวกตัวดีนี่สิแต่ละคนก็เงอะๆ งะๆ เพราะไม่เคยทำมาก่อน ไอ้อี้ กับไอ้เหมดูจะหนักกว่าใคร
ไอ้ซันที่เป็นคุณหนูยังดูทะมัดทะแมงกว่าพวกมันอีก ไอ้เหมคงจะรำคาญท่าทางงกๆ เงิ่นๆของมันเลยแซวไอ้อี้

“มึงจะตูดโด่งไปถึงไหนวะสาด”
“เชิ่ยนิ...ทีมึงล่ะดีตาย”
แล้วไอ้อี้ก็วิ่งไล่เตะตูดไอ้เหมด้วยความคึกคะนอง แต่ก็ไม่ว่ากันครับเพราะถือว่าเป็นการมาเอาฤกษ์เอาชัยให้กับเจ้าของนา
มากว่าจะมาทำงานจริงจัง ดีซะอีกจะได้ไม่น่าเบื่อ พ่อกับแม่ของไอ้เข้มก็แสนจะดีปลีกตัวมาดูแลพวกเราบ่อยๆ

“ไม่ต้องรีบนะลูก... เดี๋ยวเคียวมันบาดมือเอา”
แม่ของไอ้เข้มเข้ามาดูแลใกล้ชิดแกจับมือไอ้น็อตแล้วอธิบายให้ฟังคร่าวๆ เมื่อเห็นว่าไอ้น็อตมันยังไม่ค่อยจะคล่องเท่าไหร่
และสาธิตการเกี่ยวข้าวที่ถูกต้องและปลอดภัยให้กับพวกเราด้วยน้ำเสียงใจดี
แม่ของไอ้เข้มดูเป็นคนใจดีมากดวงตาดูอ่อนโยน มีรอยยิ้มตลอดเวลาซึ่งไอ้ถึกเข้มจะหน้าตาเหมือนแม่มาก

ดีหน่อยที่อากาศเย็นสบายด้วยลมที่พัดมาตลอดวันเลยไม่ค่อยร้อนมาก
ในนาข้าวก็แห้งกำลังดีไม่มีน้ำเฉอะแฉะ กลิ่นดอกหญ้าหอมอ่อนๆ โชยมาเอื่ยยๆ
พอใครเมื่อยก็เหยียบซังข้าวให้เอนลู่เป็นระนาบเดียวแล้วลงนั่งมันก็นุ่มดีไปอีกแบบ

พวกผมก็เกี่ยวข้าวกันไปไม่ได้คืบหน้าซักเท่าไหร่นักหรอกเพราะจะหนักไปทางเล่นๆ กันเสียมากกว่า
บ้างก็จะปั้นดินเป็นก้อนๆแล้วขว้างกันไปมาบ้างก็จับตั๊กแตนยงโย่ โยนใส่หัวเพื่อน ไอ้คนที่ไม่กลัวก็เฉยๆ
แต่ไอ้คนที่กลัวนี่สิถึงกับร้องจ๊าก! ก็เป็นที่สนุกสนานเฮฮากันไป
โดยเฉพาะไอ้เจ้าอี้ที่ไม่เคยกลัวฟ้ากลัวดินที่ไหนผมก็ได้รู้ล่ะว่ามันอ่ะกลัวหนอนเป็นที่สุด ฮี่ๆๆๆเสร็จกูล่ะมึง

ครั้งนึงมันเผลอไปกำหนอนที่เกาะอยู่กับรวงข้าวเท่านั้นแหละ พ่อถึงกับร้องจ๊าก!
วิ่งไม่คิดชีวิตและไม่ยอมลงมาเกี่ยวข้าวอีกเลย จนผมต้องไปลากมันลงมาจากคันนา

“มึงจะกลัวไปทำห่าไรวะสาด...นี่มันแค่หนอนผีเสื้อไม่มีพิษหรอกมึง”
ผมชี้ให้มันดูหนอนสีเทาหม่นๆที่กำลังคลานกระดึ๊บๆ อยู่ตามคันนา

“มึงรู้ได้ยังไงว่าไม่มีพิษมึงดูหน้าตามันดิ...อึ๋ยยยย!!!...บรื๋อออ!!!...โคดน่าหยะแหยงสุดๆ...
ไม่เอาๆ ถึงมึงจะเอาช้างมาลากกู... กูก็ไม่ลงไปเกี่ยวข้าวอีกแล้วโว้ย...อี๋หยะแหยง”

เออเอากะมันซิแม่งทีอยู่โรงเรียนเดินกร่างยังกะโรงเรียนเป็นของพ่อมันแน่ะ

“ไอ้บ้า!!!...มึงจะลงมาดีๆ หรือจะให้กูลากมึงลงมา”
ผมสั่งแกมบังคับ ไอ้ตัวดีก็ส่ายหน้าเบะปากอย่างเดียวจนผมก็ไม่รู้จะทำยังไง
ทันใดนั้นไอ้เหมก็จับหนอนมาเกาะที่หลังไอ้อี้โดยที่ผมก็ไม่ทันได้ร้องห้าม
พอไอ้คนขี้กลัวมันรู้เท่านั้นแหละถึงกับร้องเสียงหลง!!!

“ยี้!...หนอน...ว๊าก!!!...ไอ้วินช่วยกูด้วย...อื๋ยยยยยย!...ช่วยด้วย!...หนอนๆๆ!!!”
เคยเห็นหมาตอนโดนอะไรมามัดหางมันมันแล้วมันเอี้ยวตัวเพื่อสลัดให้หลุดมั๊ยครับ
นั่นแหละอาการของไอ้เจ้าอี้ในตอนนี้มันถึงกับวิ่งป่าราบเลยอ่ะครับผมก็ทั้งสงสารมันทั้งตลกขบขันในอาการไอ้หน้าหล่อเพื่อนซี้

เฮ้อ! เก่งแทบจะทุกเรื่อง แต่แพ้อยู่เรื่องเดียว คือ “หนอน”

“เชี่ยเหมมึงก็รู้แล้วว่ามันกลัวหนอนมึงยังแกล้งมันอีกนะสาด”
ไอ้เจ้าซันด่ามันยิ้มๆ

“5555...สมน้ำหน้ามัน...(ทำหน้าคิดอะไรนิดนึงด้วยหน้าตาเจ้าเล่ห์)...ได้รู้จุดอ่อนมันแบบนี้ก็ดีดิจะได้แกล้งมันเสียให้เข็ด...เด็ด!”
ไอ้เหมดีดนิ้วดังเปาะ! แบบนึกอะไรออก ดูมันๆ

แม่งช่างคิด... ผมไม่สนใจไอ้เตี้ยหน้าเอ็กส์แล้ว วิ่งตามหาไอ้อี้ไปทางสระน้ำ
ป่านนี้วิ่งไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ เพื่อนคนอื่นๆ ก็หัวเราะกันอย่างฮาๆ

ประมาณบ่ายสองนิดๆแม่ของไอ้เข้มก็ให้พวกเราหยุดเกี่ยวข้าวแล้วให้พวกเราพักกัน
ไอ้เข้มเลยพาพวกเราไปเล่นน้ำที่บึงธรรมชาติซึ่งขนาดค่อนข้างกว้างและน้ำก็ใสมากๆ

ในบึงมีทั้งบัวหลวงบัวแดง ชูช่อบานรับแสงแดด มองแล้วสบายใจจังครับ
ตรงริมบึงมีสะพานยื่นออกไปในบึงยังกะภาพวาดในแกลลอรี่เลยอ่ะ
พอพวกเราเห็นก็ถึงกับอึ้งเพราะมันสวยมากๆ  มองไปไกลๆ เห็นภูเขาเขียวชอุ่มยังกะในโฆษณาแน่ะ

“โคดเจ๋งอ่ะมึง...น้ำแม่งก็ใสแจ๋วเลย...บรรยากาศสุดยอดว่ะ...นี่ถ้ามาเล่นช่วงหน้าร้อนคงจะสนุกโคดๆ”
ไอ้สินที่ไม่ค่อยพูดมากเปรยขึ้นมาซึ่งผมก็คิดไม่ต่างจากมันเท่าใดนัก
“เออ...ไอ้สินมันก็พูดเข้าทีดีว่ะ...ว่าไงมึงไอ้เข้มหน้าร้อนปีหน้ามึงจะขัดข้องมั๊ยถ้าพวกกูจะมาเที่ยวบ้านมึงอีก”
ไอ้ซันที่กำลังเอาเท้าราน้ำจ๋อมแจ๋มหันมาถามไอ้เข้ม

“โอ้ยตามสบายเลยเพื่อน...กูดีใจซะอีกที่พวกมึงชอบ”
“งั้นกูว่ามันต้องมีการมากางเต็นท์..และก่อกองไฟด้วยถึงจะได้บรรยากาศ”
“เยี่ยมไปเลย!”

ทุกคนพูดออกมาจนแทบจะพร้อมกัน แล้วพวกมันก็เริ่มถอดเสื้อผ้ากันนาทีนี้ทำเอาผมแทบหายใจหายคอแทบไม่ออก
แม้จะเคยเย็ดกับไอ้เตี้ยเหมมาหลายทีและเคยแอบดูควยไอ้ถึกเข้มมาแล้ว
แต่ก็ไม่ได้ถอดเสื้อผ้ากันหมดจนเหลือแค่ กกนพร้อมๆ กันหมดนี่นา
ทุกคนถอดเสื้อผ้าออกเหลือแค่กางเกงในโชว์เป้าตุงทุกคน

ว้าวๆๆๆๆ!!!!!!

นี่เพื่อนผมหรือเนี่ยแม่งหุ่นน่าเย็ดทุกคนเลยว่ะ 5555
หุ่นไอ้อี้แม่งจุ๊ๆๆๆ!!! หน้าท้องแม่งโคดเซ็กส์อ่ะ มีขนขึ้นพองามแต่ก็สร้างความเซ็กซี่ให้กับมันได้เป็นอย่างดี
ควยแม่งก็ตุงซะจนน่าซบแต่ก็เคยรู้ขนาดมันมาก่อนแล้วว่าใหญ่ยาวหัวบานแค่ไหน
ก็ตอนที่ไปกินเลี้ยงวันเกิดไอ้ซันไงครับ โหยเห็นแล้วอยากโดดเข้างับอ่ะ

ไอ้ซันก็น่ากินไม่แพ้กันแต่ความเนียน ขาวของผิว ยิ่งกว่าผมเสียอีกมันเลยโดดเด่นกว่าใครเพื่อน
บวกกับหุ่นอย่างล่ำเลยยิ่งน่าฟัดเป้าไม่ได้ตุงเท่าไอ้อี้ไอ้เข้ม แต่ได้ที่หุ่นล่ำกล้ามสวยน่าเย็ดมากๆ
อย่าให้เผลอนะมึงผมคำรามในใจ อิอิอิ

ไอ้เข้มก็โชว์ หุ่นถึก ล่ำ บึ๊ก สูงใหญ่กว่าใครเป้ากางเกงในก็ยังกะทะลักออกมานอกกางเกงใน(ก็มันใหญ่นี่นา)
ผิวแม่งก็เข้มมาดแมนบวกกับท่าทีบื้อๆ ของมันก็น่าฟัด น่าเย็ดไปหมด

ส่วนไอ้เหม ไม่ต้องพูดถึง เพราะไอ้เตี้ยนี่โชว์ต้นขาใหญ่ๆ แน่นๆ และก็ควยกับไข่แทบจะทะลักออกมาแน่ะและถึงแม้มันจะเตี้ยกว่าใคร
แต่ความแน่นความล่ำ ความอึด ของมันผมการันตีได้ อิอิอิ

ไอ้อี้ ไอ้ซัน ไอ้เข้ม และไอ้เหม ไม่ต้องพูดถึง แต่ไอ้น็อตกับไอ้สินนี่สิ ซ่อนรูปนี่หว่า

โดยเฉพาะไอ้สินแม้มันจะไม่ได้หน้าตาดีแต่มันมีต้นขาอย่างใหญ่และแน่นอ่ะ
แล้วเป้าก็ห่อหมกชัดๆอย่างตุงอ่ะ แถมขนหมอยก็หรอมแหรมเล็ดลอดออกมาจากกางเกงในตัวซีดๆ ผมเห็นแล้วถึงกับน้ำลายสอ

ส่วนไอ้น็อตขาตดก็อีกไอ้นี่หน้าตาก็ธรรมดา มองภายนอกก็ไม่เท่าไหร่
แต่พอถอดเสื้อเหลือแค่กางเกงในหุ่นแม่งมันแน่นๆ น่ากินว่ะ ขนหน้าแข้งก็ดกขนหน้าท้องก็ดกไอ้นี่มันซ่อนรูปสัดๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น