วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2559

บำบัดรักนักรบแดนเถื่อน 1 คาวน้ำรักสองนักรบหื่นกาม

เกริ่นนำ ในยุคที่อาณาจักรล้านนามีความยิ่งใหญ่ มีแสนยานุภาพเกรียงไกร อาณาจักรล้านนามีความเข้มแข็ง
และมีแสนยานุภาพทางทหารยิ่งใหญ่นั้น ได้ทำการขยายอำนาจลงสู่ทางใต้ประชิดเขตแดนสุโขทัยและพิษณุโลก
ซึ่งเคยเป็นเขตแดนของอาณาจักรสุโขทัยมาก่อน เพื่อทำสงครามแย่งชิงดินแดนกับอาณาจักรอยุธยาอยู่นานหลายสิบปี  
(หลังยุคของพญามังราย พ่อขุนรามคำแหง และพ่อขุนงำเมือง กรุงสุโขทัยก็ตกอยู่ภายใต้การปกครองของกรุงศรีอยุธยา
พะเยาถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรล้านนา)

การแผ่อำนาจของล้านนาในยุคนั้นได้สร้างความกังวลใจให้กับทางฝ่ายอยุธยาถึงกับย้ายเมืองหลวงจากกรุงศรีอยุธยา
มาที่เมืองพระพิษณุโลก เพราะเกรงกลัวต่อการขยายอาณาเขตของล้านนาในยุคนี้นั่นเอง


 นพบุรีศรีนครพิงค์ เจ้าแสนวงศ์ ราชบุตรองค์หนึ่งในสิบของเจ้าหลวงองค์ปัจจุบัน ผู้ไปกินเมืองทางทิศตะวันตกได้ก่อการกบฏ
ได้ทำการยึดอำนาจจากเจ้าพ่อ แล้วกุมเอาตัวเอาเจ้าหลวง พร้อมด้วยเจ้านายองค์อื่นๆ เอาไว้ จนสร้างความวุ่นวายปั่นป่วนไปทั่วนพบุรีศรีนครพิงค์

ในคุ้ม "เจ้าแสนคำ" ผู้เป็นเจ้าน้องของเจ้าแสนวงศ์ มีเสียงร่ำให้ของแม่ญิง เสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดของผู้คนในคุ้มปนเป
ดังระงมวุ่นวายอยู่ทั่วไป เสียงร้องขอชีวิต เสียงเด็กร้องให้จ้าดังระงมจนฟังไม่ได้ศัพท์

"เจ้าแสนคำ" นั้น เป็นราชบุตรคนที่ 9 ของเจ้าหลวง เป็นผู้ซึ่งไม่มีอำนาจราชสิทธิ์ใดๆ ในราชสำนัก เพราะเป็นเพียงลูกของนางสนม
แต่ถึงกระนั้นเจ้าหลวงก็ยังประทานคุ้มให้ประทับพร้อมยก ไพร่ ข้าทาส บริวาร ตามสมควรแก่ฐานะ

***  “ไพร่”  หมายถึง “ประชาชนทั่วไป" ทำงานและได้รับค่าจ้างเป็นการตอบแทนตามฐานะ มีตั้งแต่ไพร่ชั้นสูง ทำงานชั้นสูง ใกล้ชิดเจ้านาย
ไพร่ชั้นล่าง ทำงานหนัก ตามฝีมือ หรือทำงานตามตระกูลเดิม

ส่วน "ทาส" คือ พวกที่ถูกจับมาเป็นทาส หรือ เชลย จากการแพ้สงคราม จะไร้อิสระภาพต้องทำงานตามเจ้านายสั่งโดยไม่ได้รับสิ่งตอบแทน
ในยุคล้านนามีการปกครองแบบพ่อปกครองลูก ทาสในล้านนาจึงไม่ค่อยมี ส่วนใหญ่ทาสจะมาจากชาวเมืองอื่นที่แพ้สงคราม
หรือจากการตีเมืองใดได้ก็จะมีการเทครัวมาไว้ในล้านนา มากกว่าจะเป็นคนเมือง ยกเว้นสงครามกลางเมืองถึงจะเกิดทาสที่เป็นคนเมือง

ในครานั้นบรรดาคุ้มที่ประทับของเจ้าราชบุตรองค์ที่ไม่ได้ไปกินเมืองอื่น ที่ยังอยู่ในนพบุรี จะถูกจับเสียสิ้น
ไพร่ที่เป็นชายถูกจับไปเป็นทาส เป็นทหาร ส่วนที่เป็นหญิงที่งามหน่อย ก็ถูกจับไปเป็นเมียทหาร ทำให้เกิดความวุ่นวายอยู่ทั่วไป
ในนพบุรีศรีนครพิงค์ในเวลานั้น

ในคุกที่คุมขัง ไพร่ และ ทาส นับร้อยๆ ชีวิต
สองพ่อลูกจากคุ้มของเจ้าแสนคำราชบุตรคนที่สุดท้องของเจ้าหลวงพระองค์ก่อนสุดแสนสะท้อนใจในโชคชะตา

มันเป็นเวรกรรมของพวกเฮา”

"หนานอิน" ผู้เป็นมหาดเล็กคอยรับใช้ใกล้ชิดเจ้าแสนคำ บอกลูกชายด้วยสีหน้าเศร้าหมอง เนื่องด้วยครอบครัวต้องพังพินาศ
แตกแยกไปคนละทิศทางก็เนื่องด้วยการแย่งชิงอำนาจกันในหมู่เจ้าชาย ไพร่ ทาส ที่เป็นข้าไท พลอยต้องลำบากตามไปด้วย

*   หนาน คือคำนำหน้าชื่อคนที่เคยบวชเป็นพระ
** น้อย   คือคำนำหน้าชื่อคนที่เคยบวชเณร

ลูกสาวคนโต คนรอง และคนเล็ก ทั้งสามนางที่กำลังงามเหมือนดอกไม้แรกแย้ม
คนโต กับ คนรอง อีกไม่กี่เดือนก็จะได้ออกเรือนไปกับคู่ครองที่เหมาะสม กำหนดการณ์วันกินแขกก็มีมาแล้ว (แต่งงาน)
คนเล็กสุดอายุแค่ 15 เพิ่งจะแตกเนื้อสาว แต่บัดดนี้ทั้งสามนางกลับถูกพวกทหารฉุดคร่าหนีหายไปหมด

ความหวังของหนานอินที่จะได้เห็นลูกสาวทั้งสามคนออกเรือนมีหน้ามีตา จึงพังสลายไปกับสายลม
ทำให้หนานอินสุดที่จะหมดอาลัยตายอยากในชีวิต

บัดนี้เหลือก็แต่ลูกชายคนเดียวชื่อ “ไอ้แก้ว” ที่กำลังเป็นหนุ่มเหน้าอายุย่างเข้า 18 ปี
ไอ้แก้วเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาหมดจด รูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวละเนียน สะอาดสะอ้าน
ไว้ผมยาวแล้วมัดเป็นมวยไว้กลางหัวตามประเพณีนิยมของหนุ่มล้านนา
เจาะหูแล้วใส่ต่างหู สวมเสื้อผ้าฝ้ายแขนกุด นุ่งผ้าเตี่ยวสั้นรัดเป้าและตะโพก...

หนานอิน เกิดในตระกูลมหาดเล็กหลวง ก่อนหน้านี้เคยเป็นข้ารับใช้ในเจ้าหลวงพระองค์ก่อน
และต่อมาได้ถูกยกให้เป็นข้ารับใช้ของ "เจ้าแสนคำ" เมื่อคราวเจ้าแสนคำอายุครบเบญจเพส 25 ปี
นับแต่ได้ยกครัวมารับใช้เจ้าแสนคำโอรสองค์ที่เก้าของเจ้าหลวง หนานอินและครอบครัวก็คอยรับใช้เจ้านายด้วยความซื่อสัตย์สืบมา
แต่ครานี้เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ครอบครัวต้องพังล้มหายตายจาก ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้พบหน้ากันอีก

ไอ้แก้วคอยดูแลพ่อที่ย่างเข้าวัย 55 ที่หัวเริ่มหงอกขาว ด้วยความเป็นห่วง

พ่อกิ๋นข้าวมั่งเต๊อะ... พ่อบ่ได้กินอะหยังมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วเน้อ”
หนานอินส่ายหน้าอย่างอเน็จอนาจในชีวิต

ข้ากิ๋นบ่ลง”
ถ้าพ่อบ่กิ๋นก็จะบ่มีแฮง”

ไอ้แก้วพยายามเกลี้ยกล่อมให้พ่อกินข้าวปลาแต่ก็หมดปัญญาที่จะทำให้พ่อกินข้าวได้
เพราะหนานอินตอนนี้หมดอาลัยกับชีวิตเสียแล้วไอ้แก้วแอบหันหลังเช็ดน้ำตาไม่ให้พ่อเห็น
เพราะบัดนี้พ่ออายุย่างเข้าสู่วัยชรา... พี่สาวและน้องสาว ของไอ้แก้วที่ถูกจับไปตอนนี้อยู่ไหนก็ไม่รู้
หรือมีชีวิตอยู่หรือเป็นตายอย่างไรไอ้แก้วเองก็ทุกข์ใจไม่น้อย แต่บัดนี้ห่วงพ่อเสียมากกว่า

ทันใด! นั้นเสียงดุดันของทหารที่เข้ามาใหม่ก็ทำให้นักโทษในคุกตื่นตกใจ

แยกคนแก่กับคนหนุ่มออกจากกัน....เอาคนหนุ่มเอาไปเป็นทหาร!”
หนานอินได้ฟังอย่างนั้นก็ร้องครวญด้วยความห่วงลูกชายคนเดียว

อย่าเอาลูกข้าไป... อย่าเอาลูกข้าไป... ปล่อยลูกข้าเต๊อะ”
ไม่ได้!... นี่เป็นคำสั่งของท่านแม่ทัพ... หรือเอ็งกล้าขัดขืน!!!”
ด้วยความห่วงลูกชายมากกว่าชีวติหนานอินดึงแขนลูกชายไว้แน่นไม่ยอมปล่อยให้ทหารจับตัวไป

บ๊ะ!ไอ้แก่นี่บอกให้ปล่อยไงว้ะ!!!”
จนถูกทหารกระแทกด้วยด้ามดาบดังสนั่น!!!

"ผั๊วะ!!!"
หนานอนถึงกับสลบแน่นิ่งไปทันที!

พ่อ!”
ไอ้แก้วดิ้นรนขัดขืนเพื่อจะเข้าไปดูหนานอินที่สลบเหมือดคาพื้นฟางแห้ง

พ่อๆๆ... อย่า!... ได้โปรด.... อย่าทำอะไรพ่อข้าเลย... ข้ายอมตามพวกท่านไปแล้ว... พ่อๆๆ!!!”
ไอ้แก้วร้องไห้ระงมไพร่คนอื่นๆ...ก็ไม่กล้าเข้าไปดูอาการเพราะเพรางอาญาของทหาร

หุบปากซะ!!!... ถ้าเอ็งไม่อยากเจ็บตัว!!!”

ทหารหน้าตาดุๆ ตะคอกให้ไอ้แก้วหยุดโวยวาย หน้าตาทหารคนนี้แสนจะดุดันจนไอ้แก้วหน้าซีดด้วยความกลัว
นักโทษชายมีตั้งแต่วัยละอ่อนน้อยอายุน้อยสุดแค่ 14 ไปจนถึง 30 กว่าๆ
บางคนก็คุ้นหน้าคุ้นตากันดี เพราะมีเจ้านายคนเดียวกัน
ไอ้แก้วถูกลากออกไปพร้อมไพร่ทาสที่เป็นชายคนอื่นอีกนับสิบที่อยู่ในวัยหนุ่มฉกรรจ์

บ้างก็เป็นคนของเจ้านายคนอื่นๆ คละกันไปหน้าตาแต่ละคนหมองไหม้ด้วยความกลัวภัยที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า
ไพร่เหล่านี้ส่วนใหญ่ทำงานอยู่แต่ในคุ้มทำงานแตกต่างกันไปตามบรรพบุรุษแล้วแต่ว่าเป็นไพร่ชั้นสูง หรือ ชั้นล่าง

ถ้าพ่อเคยเลี้ยงช้างลูกออกมาก็ต้องเลี้ยงช้างเลี้ยงม้าถ้าเคยทำงานครัวก็ต้องสานอาชีพงานครัวต่อจากบิดามารดา
จนไปถึงพวกที่คอยรับใช้เจ้านายใกล้ชิด

อย่างพวกที่เป็นมหาดเล็กอยู่งานพัดวีเล่นสะล้อ ซอ ซึง เป็นสล่า (ช่าง) หลายแขนง หรือรู้ตั๋วเมือง (หนังสือ)
ก็ถือเป็นไพร่ชั้นสูงเช่นครอบครัวของหนานอิน ที่เป็นครอบครัวมหาดเล็กคอยรับใช้เจ้านายอย่างใกล้ชิด
มาหลายสมัยตั้งแต่ก่อตั้งนพบุรีศรีนครพิงค์เป็นราชธานีของล้านนา
ตระกูลหนานอินจึงรู้งานสล่า (ช่าง) หลายแขนง  รวมไปถึงด้านดนตรี สะล้อ ซอ ซึง ตามแต่นายจะสั่ง

ไอ้แก้วเองก็เป็นศิษย์มีครู เพราะได้ฝากตัวเป็นศิษย์กับพ่อครูในคุ้มเจ้าหลวงองค์ก่อนมาตั้งแต่เล็ก
นับได้ว่าเป็นไพร่ที่มีวิชาชั้นสูงต่อไปในภายภาคหน้ามีแต่จะเจริญต่อไป

ในค่ายทหารไพร่ที่เป็นชายนั่งกองอยู่กับพื้นสกปรกๆปะปนกันทั้งไพร่ชั้นดี และไพร่ชั้นล่างนับร้อยชีวิต
การกบฏครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างหมดจดเจ้าหลวงองค์ก่อนถูกเนรเทศไปอยู่เมืองไทใหญ่
อันเป็นเมืองใต้ปกครองของล้านนา

ส่วนเจ้านายคนอื่นๆรวมทั้งเจ้านายของไอ้แก้วถูกจับคุมขังอยู่ในเวียง
ส่วนไพร่ถูกจับไปเป็นทาสสิ้นอิสรภาพไพร่หนุ่มๆถูกบังคับให้เป็นทหาร ให้ใช้แรงงาน

ค่ำคืนที่มืดสนิทในบริเวณโรงนอนของทหารไอ้แก้วร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหล
ชีวิตที่ผ่านมาเกือบ 17 ปี ... แม้จะเป็นไพร่แต่ก็เป็นไพร่ชั้นสูง คอยรับใช้ใกล้ชิดเจ้านาย ได้เรียนตั๋วเมือง (หนังสือ)
และศิลปะวิทยาแขนงต่างๆ ซึ่งก็เรียนไว้คอยรับใช้พระเดชพระคุณเจ้านาย
แม้จะไม่ถึงกับสุขสบายนัก แต่ก็มีความเป็นอยู่ดีกว่าไพร่ทั่วไปมาก

ข้าวมื้อเย็นข้าวตกถึงท้องแค่เพียงไม่กี่คำตามแต่ทหารจะแบ่งสรรอาหารมาให้
แต่ด้วยสถานการณ์ที่เป็นอยู่ก็ทำให้ไอ้แก้วรับสภาพในสิ่งที่เป็นได้ไม่ยาก
เนื่องด้วยเป็นฤดูร้อนหนุ่มๆแต่ละคนจึงเปลือยอกล่ำๆ นอน ด้วยความอ่อนเพลีย
เพราะวันนี้ผ่านการฝึกทหารมาอย่างหนักทหารนอนระเกะระกะกันเต็มโรงนอน
ส่วนใหญ่จะสวมแค่เตี่ยวสั้นจนรัดต้นขารัดตะโพก

ทำให้เห็นลายสักดำที่ลายพร้อย ตัดกับผิวขาวๆ ของชาวล้านนา บางคนก็สักตั้งแต่พุงลงไปจนถึงกลางหน้าแข้ง
บ้างก็สักแค่ต้นขา บ้างก็สักพุง สักตามลำตัว ด้วยลวดลายอันเป็นมงคลตามประเพณีนิยมของหนุ่มล้านนา
เมื่อเข้าสู่วัยหนุ่มชายชาวล้านนาโดยเฉพาะเชียงใหม่นิยมการสับขาลาย(ลายสัก)
ซึ่งสับขายาวจะเป็นการสักตั้งแต่เอวลงมาเสมอเข่าหรือต่ำกว่าเข่าเล็กน้อย
ส่วนสับขาก้อมจะเป็นการสักในช่วงเอวถึงกลางขาการสับหมึกคือการสักยันต์ด้วยหมึกดำ

จึงมีวลีในสมัยนั้นที่พูดกันว่า

กบเขียดขายังลาย ถ้าผู้ชายขาไม่ลายไม่เอาเป็นผัว”

กล่าวกันว่าหญิงสาวจะเมินชายหนุ่มที่ปล่อยขาขาวเพราะถือว่าเป็นคนขี้ขลาด

ด้วยค่านิยมนี้ หนุ่มๆ ล้านนาในยุคนั้นจึงเสาะหาอาจารย์ดีให้สักลายให้พร้อมลงคาถาอาคมให้
ไอ้แก้ว สักที่กลางหลังแทนเป็นลวดลายหงส์คู่ ลวดลายวิจจิตรสวยงาม เพราะพ่อครูแห่งคุ้มหลวงเป็นผู้สักให้กับมือ

กำลังนอนคิดอะไรเพลินๆ ไพร่ที่นอนข้างๆที่รู้ชื่อว่า ไอ้แต้ม
ก็ละเมอนอนกอดไอ้แก้วจนไอ้แก้วสะดุ้งโหยง!ขาล่ำๆ แขนแกร่ๆง ของไอ้แต้ม
พาดกอดไอ้แก้วจนรู้สึกหนักพร้อมกับทำเสียงงึมงำๆในลำคอเหมือนกำลังฝัน
ทีแรกไอ้แก้วก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะคิดว่าเดี๋ยวมันก็คงปล่อยแขนของมันไปเอง
แต่แล้วที่ตะโพกก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างแข็งๆ เป็นลำเริ่มชูแข็งและเสียดสี…

ไอ้แก้วนิ่งด้วยความตกใจเพราะเกิดมาก็เพิ่งได้นอนกับคนเป็นร้อยแถมทหารที่เฝ้ายามก็แสนจะดุดัน
ถ้าเกิดเสียงดังไปอาจจะโดนลงโทษได้เลยปล่อยให้เพื่อนทหารใหม่กดควยแข็งๆ เข้ากับสีข้างไปตามอารมณ์ที่มันฝัน
ไอ้แต้มมันคงจะฝันดีเพราะมันเด้าควยเข้ากับขาไอ้แก้วยิกๆ เหมือนหมาติดสัด!

จนไอ้แก้วเองก็เริ่มสึกว่าร่างกายส่วนกลางลำตัวมีอาการชูชันขึ้นมาบ้าง
อารมณ์แบบนี้มันเองก็ไม่เคยเป็นมาก่อนโดยเฉพาะกับผู้ชายด้วยกัน
ตั้งแต่เป็นหนุ่มมามันก็เคยช่วยตัวเองมาไม่รู้เท่าไหร่แต่บัดนี้ความต้องการตามธรรมชาติครอบงำไอ้แก้ว
จนเผลอเอามือล้วงเข้าไปในผ้าเตี่ยวสะดอของไอ้แต้มด้วยความต้องการและสุดแสนจะตื่นเต้น

หัวใจไอ้แก้วเต้นตึ่กตั่กๆ ราวจะกระดอนออกมาจากปาก
ไอ้แก้วกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบากหายใจฟืดฟาดด้วยอารมณ์และความต้องการที่พาไป
ควยไอ้แต้มแข็งชันทั้งใหญ่ทั้งแข็งเต็มที่และตอนนี้อยู่ในมือของไอ้แก้วแล้ว

ไอ้แก้วรู้สึกตื่นเต้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้จับควยของผู้ชายคนอื่นนอกจากของตัวเอง
ไอ้แก้วเริ่มลงมือชักให้ไอ้แต้มขึ้นๆลงๆตามอารมณ์เสียว และเพียงไม่นาน
ควยของไอ้แต้มก็ทะลักน้ำอุ่นๆเลอะเต็มมือของไอ้แก้วจนคาวคลุ้ง!
สร้างความสะใจให้กับไอ้แก้วเป็นบ้า....

ไอ้แก้วเองก็ต้องการปลดปล่อยจึงใช้มือชักควยของตัวเองชักหนับๆๆๆ
ความเสียวซ่านและตื่นเต้นนั้นช่างแตกต่างจากตอนที่นอนชักในห้องนอนตัวเองในคุ้มเหลือเกิน
ปากก็พยายามเก็บเสียงไม่ให้เล็ดลอดออกมาจากปาก
เพราะที่โรงนอนมีทหารนับร้อยชีวิตนอนออกันเต็มโรงนอนแค่ทำเสียงดังนิดเดียวก็คงแตกตื่นกันไปทั่ว

แต่แล้ว! ก่อนที่ไอ้แก้วจะสำเร็จความใคร่ เงาตะคุ่มสองเงากก็เข้ามาหยุดที่ไอ้แก้ว
คนนึงเอามืออุดปากไอ้แก้วไว้กันไอ้แก้วร้องอีกคนฉุดไอ้แก้วให้ลุกขึ้นด้วยกิริยาหยาบหยาม

เอ็งลุกขึึ้น...แล้วตามพวกข้ามา!”
ไปไหน...ข้าไม่ไป...ข้าไม่ไป!”
ทหารหน้าดุดึงคอไอ้แก้วเข้าหาพร้อมขู่

ถ้าเอ็งขืนเสียงดัง เอ็งเจ็บตัวแน่!!!”
ไอ้แก้วถึงกับกลัวจนตัวแข็งแล้วก็โดนลากออกไปจากโรงนอน
ทหารอีกคนก็เอามือปิดปากไม่ให้ไอ้แก้วส่งเสียงไปตลอดทาง

กลิ่นฉุนๆ ของยาเส้นปนกับกลิ่นสาบของทหารร่างใหญ่ที่มีลายสักดำพร้อยเต็มขาเต็มตัวสองนาย
ทำให้ไอ้แก้วมีความรู้สึกแปลกประหลาดอย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน

ไอ้แก้วถูกพามาในป่าหลังโรงนอนที่ไกลพอควร
พอถึงที่หมายทหารสองคนก็ผลักไอ้แก้วจนมันหน้าคะมำกับพื้นดินดังพลั่ก!

โอ้ย!... พวกเอ็งจะทำอะหยังข้า!!!... อย่า!!! อย่าทำอะหยังข้าเลย ข้ากลัวแล้ว!!!”
ทหารหน้าดุไม่พูดพล่ามอะไรแต่เข้ามาลูบไล้เนื้อตัวส่วนบนของไอ้แก้วที่ขาวเนียนไร้ไฝฝ้า
ด้วยสีหน้าสีตาที่สุดแสนจะหื่น!!! ไอ้แก้วรู้สึกได้ในทันทีว่าตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากแน่แล้ว

จากการที่ได้อยู่ในคุ้มเจ้านายทำให้ไอ้แก้วพอรู้มาบ้างว่าไพร่ที่เป็นชายที่ยังไม่ได้กินแขก (แต่งงาน)
มักจะเสพสุขกันเองในหมู่ชายด้วยกันยามมีอารมณ์ เพราะการใช้มือสำเร็จความใคร่นั้นเมื่อเวลาหนึ่งก็จะรู้สึกว่าไม่เพียงพออีกต่อไป
เพราะมนุษย์ต้องการการปลดปล่อย และความสุขทางเพศรสมากกว่านั้น ขึ้นไปเรื่อยๆ แบบไม่มีขีดจำกัด!

แต่อาการเสพเมถุนกันเองระหว่างชายหนุ่มก็จะหายไปเมื่อถึงเวลากินแขกกับแม่ญิง

เอ็งนี่ขาวเนียนดีแต๊ๆ!!! ...แบบนี้แหละข้าชอบ ฮ่าๆๆๆ”
ไอ้คนหน้าดุๆ ลูบไล้ตามหน้าตาหมดจดของไอ้แก้วอย่างกักขฬะ

มันพยายามซอกไซ้ตามเนื้อตัวขาวเนียนของไอ้แก้วอย่างหื่นกระหาย
มันใช้ปากและลิ้นเลียตามหน้าตาตามหัวนมของไอ้แก้วอย่างสุดหื่น ด้วยวัยกำลังเป็นหนุ่มน้อย ผิวพรรณดีของไอ้แก้ว
มือไม้ของทหารหน้าดุเริ่มตะโบมโลมเล้าไปทั่วร่างกายสะอาดของไอ้แก้วอย่างไม่ปราณี

ไอ้ข่า!!!...ข้าขอบ้าง ไอ้นี่ข้าก็เล็งๆ ความขาวเนียนของมันตั้งแต่วันแรกแล้วโว้ย! ฮ่าๆๆๆ”

ทหารที่ผิวขาวกว่าแต่หุ่นถึกและบึกบึนไม่น้อยไปกว่ากัน แถมมีลายสักจากหน้าแข้งเลื้อยขึ้นไปจนถึงสะดือ
ตามตัวก็มีลายสักเต็มตัวจนไอ้แก้วนึกขยาด เพราะนาทีนั้นความกลัวเข้าครอบงำจิตใจไอ้แก้วอย่างที่สุด
ทหารที่ขาวกว่าถอดชุดทหารออกพร้อมเตี่ยวสะดอความเป็นชายแข็งโทงเทง ผงกหัวหงึกๆ ด้วยอารมณ์เงี่ยน!!!
แล้วมันก็โดดเข้ามารุมขย้ำไอ้แก้วจนไอ้แก้วต้องหลับตาปี๋เพราะไม่สามารถขัดขืนกำลังของสองทหารได้

ตอนนี้ไอ้แก้วกลัวจนตัวสั่นไม่กล้าร้องตามคำขู่ของสองทหารหื่นกาม!!!

เรี่ยวแรงของไพร่ที่ไม่เคยทำงานหนักมาก่อนหรือจะสู้ทหารที่ผ่านร่างกำยำแข็งแรง
ที่ผ่านการฝึกมาอย่างโชกโชน ผ่านสงครามมานับครั้งไม่ถ้วน

ทหารหน้าหื่นที่ทราบชื่อว่า “ข่า” ทั้งซอกไซ้ตามเนื้อตัวที่ขาวละเอียดสะท้อนในเงามืดอย่างบ้าคลั่นหื่นกระหาย!!!

ส่วนทหารที่ขาวกว่า ชื่อว่า “สน” ก็เอาอาวุธขนาดใหญ่ยัดเข้าปากไอ้แก้ว
ไอ้แก้วที่ไม่เคยผิดผีแม้กระทั่งกับแม่ญิง แต่ตอนนี้กลับถูกทหารร่างใหญ่เอาอาวุธเสพสุขทางปากของมันจนถึงกับจะอ๊วก!!!
แต่ไอ้สนก็ไม่สนใจจับท่อนลำขนาดเขื่อของมันยัดเข้าปากไอ้แก้วดันเข้าเด้งออกอย่างเมามัน!!!

เตี่ยวสะดอของไอ้แก้วไม่รู้ว่าถูกไอ้ข่าถอดออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่จนไอ้แก้วรู้สึกเจ็บจุกตื้อๆที่รูทวาร
มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ไอ้ข่ามันอัดควยดุ้นใหญ่เข้ามาในรูของไอ้แก้วจนมิดด้าม!

โอ้ย!!!...ข้าเจ็บ! โอ้ย! ปล่อยข้า!!!...อย่าทำข้า...ช่วยด้วยๆ!!!”

นาทีนั้นด้วยความเจ็บเหมือนร่างกายจะแตกเป็นสองส่วน!!!
จนไอ้แก้วลืมความกลัวแหกปากร้องขอความช่วยเหลือเสียงดังลั่น!!!

แต่แล้วไอ้แก้วก็ต้องหยุดร้องเมื่อไอ้สนเอาดาบพาดคอ! ด้วยความกลัวตายไอ้แก้วจึงได้แต่ร้องไห้น้ำตาไหลนอง
ร่างกายที่กำลังงามด้วยวัยหนุ่มถูกไอ้ข่าข่มขืนจนยับเยิน
อาวุธที่รกไปด้วยขนดกดำของไอ้ข่าทหารร่างใหญ่และแข็งเสพสังวาสทางรูทวารของไอ้แก้วด้วยความย่ามใจ!!!

อือออ... ซี้ดดด!!!... โอวววว... ข้าเสียววววอา...ซี้ดดด!!!”
ไอ้ข่าจับสองของขาวๆของไอ้แก้วพาดเอวแล้วเร่งกระหน่ำควยดุ้นใหญ่ซอยเข้าๆออกๆ ในรูไอ้แก้วอย่างเมามันสุดๆ
จนเสียงท่อนลำอันใหญ่ของไอ้ข่ากระกับบั้นท้ายของไอ้แก้วกระทบกันดัง ตั้บๆๆๆๆ!!! ดังไปทั่วบริเวณ

ส่วนไอ้สนก็เร่งสวนท่อนลำอันใหญ่ยาวเข้าปากไอ้แก้วจนไอ้แก้วสำลักนับสิบครั้ง!!!
พอไอ้แก้วจะถอนปากออกมันก็จับอาวุธดุ้นใหญ่ของมันเข้าปากไอ้แก้วใหม่
ไอ้ข่าไม่ได้ปเสพกามา มานานนับเดือน
พอมาเจอช่องทางกระชับและสดใหม่เข้า ก็ถึงกับสำเร็จความใคร่ไวกว่าปกติ

มา... ข้าขอบ้าง!!!”

ไอ้สน ผลัก ไอ้ข่า เพื่อนทหารร่างใหญ่ออกจากตัวไอ้แล้วแล้วจับไอ้แก้วนอนคว่ำหน้ากับพื้นดิน
ไอ้แก้วพึ่งจะโดนเปิดซิงจนทวารหนักฉีกขาดเลือดไหลปะปนออกมากับน้ำกามของไอ้ข่า
แต่ไอ้สนที่หื่นกามไม่แพ้เพื่อนมันก็ไม่ได้นึกปราณี มันรีบจับอาวุธดุ้นใหญ่กระหน่ำสังวาสร่องทวารของไอ้แก้วอย่างบ้าคลั่ง!!!...

ไอ้แก้วได้แต่กัดฟันกรอดๆ!!! แต่ก็ไม่กล้าร้องเสียงดังเหมือนโดนองคชาตไอ้ข่าทั้งที่ความเจ็บนั้นไม่น้อยไปกว่ากันเลย
แต่ไอ้สนมันมีลีลาสังวาสที่สุดแสนพิศวง เพราะระหว่างเสพสุขกับก้นไอ้แก้วไป มันก็ไซ้ซอกคอ บีบคลำตามเนื้อตัว
สร้างแรงกระตุ้นให้ไอ้แก้วจนเกิดความเสียวซ่านขึ้นมาอย่างน่าแปลกใจ!!!

ไรหนวดของไอ้สนซอกไซ้ตามซอกคอและหลังหู จนไอ้แก้วลืมความเจ็บจากท่อนลำขนาดใหญ่ของไอ้สน
ที่มันเร่งกระเด้าเข้ารูทวารของไอ้แก้วอย่างบ้าคลั่ง!
จนไอ้แก้วมีอารมณ์คล้อยตามจนองคชาตแข็งสู้และเผลอครางออกมาจากปาก

อา..!!!...อูยยยย!!!”

ไอ้แก้วกัดปากด้วยอารมณ์เสียวที่เกิดขึ้น หลับตาครางด้วยอารมณ์ที่พาไปไอ้สนยิ้มอย่างยินดีที่เห็นว่าไอ้แก้วมีอารมณ์ร่วม
จึงยิ่งย่ามใจจับให้ไอ้แก้วคลานสี่ขาแล้วเร่งเสพสังวาสในท่าสุนัขอย่างเมามัน
จนอาวุธขนาดเขื่องของมันกระแทกกับตูดขาวๆ ของไอ้แก้วจนเกิดเสียงดังลั่นป่า!!!

ตั้บๆๆๆๆ!!!!

มือของไอ้สนทหารสุดหื่นจิกมวยผมไอ้แก้วที่เกล้าไว้จนมวยผมยาวๆ หลุดกระจุยกระจาย

อูยยยย!!! ซี้ดดดด!!! ข้าเสียววว อา...มันเหลือเกิน... ต่อไปเอ็งต้องให้พวกข้าเสพสุขทุกวัน เอ็งเป็นของพวกข้านะจำไว้ ซี้ดดดด!!!”

ไอ้สนกระแทกตั้บๆๆๆๆ!!! กระหน่ำอีกไม่กี่ทีก็น้ำกามของมันก็ทะลักเข้าเต็มรูทวารของไอ้แก้ว

ไอ้แก้วนอนฟุบไปกับพื้นดินไม่อยากเชื่อว่าน้ำแห่งความเสียวจะทะลักออกมาพร้อมไอ้สนทหารสุดหื่น!!! ไปด้วย

ด้วยความระบมทั้งร่างกายและจิตใจสติสะลึมสะลือคล้ายๆ ได้ยินเสียงๆ หนึ่งมาไกลๆ
และมีการต่อสู้กันเกิดขึ้นแล้วหลังจากนั้นไอ้แก้วผู้มีชะตาพลิกผันก็สลบไสลไม่ได้สติสมประดี.....


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น