วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2559

บำบัดรักนักรบแดนเถื่อน 9 โดนกระหน่ำกลางสนามรบ

เวลาล่วงเลยผ่านไป ไอ้แก้วก็ยังคงมีชีวิตที่ปกติสุขตามประสาข้ารับใช้ตำแหน่ง “มหาดเล็ก” กับบ้านหลังน้อยท้ายคุ้ม
แต่ละวันไอ้แก้วมีหน้าที่ต้องคอยรับใช้เจ้านายตามหน้าที่มหาดเล็ก ทั้งงานบีบนวด พัดวี งานขับสะล้อ ซอ-ซึง
บางครั้งก็ต้องระบายความอยากให้กับขุนพันทั้ง 4 ของท่านเจ้าหมื่นฯ โดยพันขามนั้นจะแวะเวียนมาบ่อยที่สุด
พอตกกลางคืน หน้าที่คือปลดปรนเปรอสวาทต่อจะขื่อชู้รักพรานป่าที่ตามมาอยู่ด้วยถึงเวียงเชียงแสน

ทุกค่ำคืน จะขื่อจะได้รับความสุขจากไอ้แก้วจนอิ่มหนำจึงจะยอมหลับไปด้วยความสุข
เวลาผ่านไปที่ได้อยู่ร่วมกัน จนก่อเกิดเป็นความผูกพันทางใจ จนจะขื่อแทบไม่อาจแยกจากไอ้แก้วได้
พรานหนุ่มผู้หนีเมียหนีหมู่บ้านกลางหุบเขาเพื่อตามมาดูแลไอ้แก้วด้วยความหลงสวาท

ต่างฝ่ายต่างดูแลซึ่งกันและกัน จนไอ้แก้วคิดว่าชีวิตนี้คงจะฝากชีวิตไว้กับพรานหนุ่มรูปหล่อคนนี้แน่แล้ว
แม้ว่าดวงใจยังล่องลอยไปหาทหารหนุ่มรูปหล่ออีกคนที่เป็นรักแรกอันประทับใจ!!!

อ้ายเมืองเฮย... ข้าคิดเติงหาอ้ายยิ่งนัก”

แม้จะอยู่ในอ้อมกอดของจะขื่อแต่หัวใจของเด็กหนุ่มยังอดโบยบินไปหาคนรักเก่าอย่างช่วยไม่ได้
จะขื่อเองก็พอดูออกแต่ก็เข้าใจ และไม่ได้ว่ากล่าวอันใดเพราะบัดนี้ไอ้แก้วก็เป็นของมันอยู่ทุกค่ำคืน...

............................................................................

(***ชื่อเมืองขออนุญาตใช้ชื่อในสมัยโบราณนะครับ ใครอยากรู้ว่าเมืองในปัจจุบันคือเมืองไหนสามารถเสิร์ชใน "กูเกิล" ได้นะครับ)

อาณาจักรล้านนาในยุคนั้นนับได้ว่ากว้างใหญ่ไพศาลนักมีเมืองน้อยใหญ่อยู่ภายใต้ปกครองอยู่รายรอบมากมาย
โดยมีนพบุรีศรีนครพิงค์เป็นศูนย์กลางการปกครองของอาณาจักร

แต่ถึงแม้เมืองต่างๆ จะขึ้นตรงต่อนพบุรีศรีนครพิงค์ แต่เจ้าเมืองต่างๆ ก็ยังมีสิทธิ์ปกครองกันเองได้อย่างเต็มที่
บางเมืองก็สืบเชื้อสายสืบต่อๆ กันมาตั้งแต่สมัยโยนกนครเช่นเมืองเชียงแสน เชียงของ นันทบุรี ภูกามยาว เมืองฝาง เมืองเชียงดาว เมืองเทิง
เมืองที่มีเจ้านายไปปกครองเรียกว่า “เมืองลูกหลวง” โดยที่เจ้าหลวงโปรดให้ลูก หรือ หลาน ให้ไปปกครอง

ทิศเหนือขึ้นไปมี เมืองเชียงตุง (ไทเขิน) ซึ่งเป็นเครืองญาติของนพบุรีศรีนครพิงค์โดยตรง
โดยสืบเชื้อสายจากปฐมกษัตริย์องค์แรกของอาณาจักร

นอกนั้นก็มี เมืองนาย ,เมืองลายค่า, เมืองสีป้อ ,เมืองยองห้วย (ไทใหญ่ หรือ เงี้ยว)
เมืองเชียงรุ่ง, เมืองยอง(ไทลื้อ) อันเป็นเขตแดนติดต่อกับอาณาจักรหมิง และญวน
เมืองเชียงแสน ,เมืองเชียงของ ,เมืองเทิง(อยู่ใต้ปกครองของเมืองภูกามยาม)

ทิศตะวันออกมี เมืองภูกามยาว ,เมืองนันทบุรี , เวียงโกศัย
ทิศใต้มี เมืองหริภุญชัย ,เมืองเขลางค์นคร

ทางใต้ลงไปมี เมืองชากังราว (กำแพงเพชร) และ เมืองศรีสัชนาลัย (สุโขทัย)
ซึ่งเป็นเขตแดนคาบเกี่ยวกันกับอาณาจักรกรุงศรีอยุธยา
(ทำให้มีการต่อสู้แย่งชิงดินแดนแห่งนี้ของสองอาณาจักรยาวนานนับสิบๆ ปีในเวลาต่อมา)

ทิศตะวันตกมีเมืองขุนยวม ,เมืองหาง
ตะวันตกเฉียงเหนือก็จะมี เมืองฝาง

บ้านเมืองช่วงนั้นไม่ปรกติสุขนัก เพราะบรรดาหัวเมืองน้อยใหญ่ต่างก็ต้องการเป็นอิสระจากอาณาจักรล้านนา
คิดจะตีตัวออกห่างจากเจ้าหลวงพระองค์ใหม่

จึงเกิดการแข็งเมืองเกิดขึ้นอยู่ทั่วไป ทำให้เจ้าหลวงต้องส่งทหารออกไปปราบปรามอยู่ไม่ได้ขาด
ดังเช่น

เมืองฝาง”

ที่เมื่อหลายเดือนก่อนที่เจ้าเมืองฝางแข็งเมืองจนต้องหนีไปพึ่งเมืองเทิงซึ่งเป็นญาติกัน
แต่ท้ายที่สุดก็ถูกปราบปรามอย่างรุนแรงถึงขั้นประหารชีวิตต่อหน้าเจ้าเมืองเทิงนั่นแล้ว
ความดุดันในการปราบปรามเมืองเล็กเมืองน้อยเยี่ยงนี้ทำให้เจ้าเมืองเทิงเป็นเมืองแรกที่เริ่มไม่พอใจการกระทำครั้งนี้
แล้วข่าวการปราบปรามหัวเมืองต่างๆของเจ้าหลวงองค์ปัจจุบันก็แพร่ขจรไปทั่ว
จากเหตุการณ์ปรากบฏในครั้งนั้น นำไปสู่รอยร้าวระหว่าง นพบุรีฯ กับเมืองภูกามยาว และนันทบุรี ในที่สุด

เพราะความไม่พอใจของหลายๆ เมืองในการปราบกบฏเด็ดขาดของเจ้าหลวงองค์ปัจจุบัน
เมื่อสถานการณ์ความตึงเครียดมาถึงขีดสุด! นพบุรีศรีนครพิงค์กับ เมืองนันทบุรี ก็เปิดศึกกันขึ้นจนได้
เมื่อเจ้าหลวงนันทบุรี ไม่ยอมอยู่ใต้ปกครองของอาณาจักรล้านนาอีกต่อไปแต่ไปเข้ากับเมืองศรีสัชนาลัย
อันเป็นเมืองที่ขึ้นตรงต่อกรุงศรีอยุธยา!!!

เมื่อวันนึง ก็มีม้าเร็วจากนพบุรีศรีนครพิงค์ควบตะบึงมาถึงคุ้มของท่านเจ้าหมื่นเรืองณรงค์
ผู้เป็นเจ้านายของไอ้แก้ว ท่านเจ้าหมื่นพอเปิดอ่านข้อความก็มีสีหน้าตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด
แล้วท่านก็ประกาศแก่ทหาร นายกองที่อยู่ในบังคับบัญชาของท่านถึงเหตุการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้น
ว่ามีคำสั่งให้เวียงเชียงแสน นำกำลังพล ไปร่วมรบกับกองทัพหลวง เพื่อทำสงครามกับเมืองนันทบุรี!!!

พอได้ฟังทหารทุกนายมีทั้งตกใจเพราะตั้งแต่มาอยู่เวียงเชียงแสนเกือบปีบ้างก็กินแขกกำลังข้าวใหม่ปลามัน
บ้างก็ฮึกเหิมที่จะได้ออกรบ นั่นก็คือคนที่ยังโสดไม่ได้กินแขก

ซึ่งไอ้แก้วพอได้ฟังก็รู้สึกหดหู่ใจเป็นที่สุดที่คนเชื้อชาติเดียวกันต้องมารบราฆ่าฟันกันเอง
แต่ด้วยตำแหน่งมหาดเล็กของท่านเจ้าหมื่น มันจำต้องติดตามไปรับใช้เจ้านายด้วยหน้าที่
การเดินทางไกลครั้งที่สองในชีวิตของไอ้แก้วจึงได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง.....

เจ้าเมืองเชียงแสนเกณฑ์ไพร่พลด้วยเวลาไม่นานนักก็ได้ทัพร่วมห้าพันเพราะเชียงแสนเคยเป็นเวียงร้างมาก่อน
ประชากรเลยไม่เยอะเท่าใดนัก กองทัพของเชียงแสนเดินทัพไปสมทบกับทัพของเมืองเชียงของ
ที่อยู่ทางตะวันออก เมื่อสองทัพมาสมทบกันก็เกณฑ์กำลังพลได้มากเกือบสองหมื่นคน
ด้วย เมืองนันทบุรี เป็นเพียงเมืองน้อยจึงไม่ได้เกณฑ์ไพร่ผลนับแสน

ครั้งนี้นับได้ว่าไอ้แก้วได้รู้ซึ้งถึงการเดินทัพอย่างถ่องแท้ เพราะการกิน การอยู่ แสนจะลำบากยากกายซักแค่ไหน
เพราะเมื่อคนมาก อาหารก็ย่อมต้องอดออมให้พอเพียงต่อกำลังคนไม่ได้กินฟุ่มเฟือยเหมือนดังเช่นตอนอยู่คุ้มกับเจ้านาย
ในยามกลางวันทหารที่เป็นระดับล่างก็เดินตากแดดตากลมพอๆ กับขุนทหารไปจนถึงพญา
แต่พอตกกลางคืน ทหารระดับสูงนอนในกระโจมแต่ทหารระดับล่างนอนตามสุมทุมพุ่มไม้

นอนกลางแจ้งตากน้ำค้างบ้าง แต่ทุกคนก็รู้ว่านี่คือหน้าที่ๆ เจ้าหลวงทรงรับสั่งหน้าที่ต่อบ้านเมือง...

ชายหนุ่มแต่ละคนหุ่นกายแน่นล่ำ กำยำ ไปด้วยกล้ามเนื้อ สวมเสื้อแขนกุดนุ่งเตี่ยวเพียงผืนเดียวสีมอๆ
โชว์สักขาลายกันทุกคน ผิวคนล้านนาขาวๆ พอมีลายสักลายดำพร้อยประดับตามพุงตะโพก แข้ง ขา จึงน่าดูชมยิ่งนัก
ทหารบางคนบ้างไม่สวมเสื้อเพราะไม่มีอัฐ บ้างก็เคยชินกับการไม่ใส่เสื้อนุ่งแต่เตี่ยวโชว์แผงอกแกร่งงาม
หน้าท้องแกร่งเป็นลอนสวย เพราะต้องทำงานใช้กำลังในท้องไร่ท้องนามาแต่เล็ก

พอถึงอายุที่ต้องเป็นทหารก็สักเลขเข้าประจำการณ์ชั่วระยะหนึ่งแล้วออกไปทำไร่ทำนาสลับกันตลอดทั้งปี
ทำให้ไพร่พลของล้านนาไม่เคยขาด ยามที่ต้องรบทัพจับศึก
ยิ่งพอเข้าสู่รัชสมัยของเจ้าหลวงองค์ปัจจุบัน ที่เน้นการรวบรวมความเป็นปึกแผ่นของอาณาจักร
ชายหนุ่มชาวล้านนาทุกผู้ ทุกคน จึงต้องฝึกอาวุธเพื่อรอวันรับใช้อาณาจักร…

เย็นนั้นที่ตั้งค่ายซึ่งอยู่ริมแม่น้ำทหารนับร้อยนับพันลงแหวกว่ายเพื่อชำระล้างร่างกายที่ตรากตรำในการเดินทางมาหลายวัน
ร่างกายแต่ละคนล้วนเปลือยเปล่าชำระล้างเหงือไคลอย่างสบายใจ เพราะแต่ละคนล้วนทราบดี
ว่าการศึกครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตจนถึงพรุ่งนี้หรือเปล่า

รูปกายของทหารล้านนาแต่ละนายนั้นแข็งแรงกำยำยิ่งนัก ผิวขาว ผิวเข้มแต่ก็ไม่ได้ดำมากของชาวล้านนา
บวกกับหน้าตาละอ่อนล้วนน่ามอง

ทหารแต่ละนายบ้างก็ล้างท่อนลำที่ตั้งตระหง่านเพราะไม่ได้ปลดปล่อยมาหลายวัน
ไอ้แก้วเองก็โตมากับทหารเลยไม่ได้เก้อเขินอันใดลงแหวกว่ายในน้ำร่วมกับทหารทั้งสองเมืองอย่างสบายอุรา

พอมหาดเล็กของเจ้าหมื่นลงแหวกว่ายในน้ำทหารหลายนายต่างก็หันมองด้วยความสนใจ
เพราะไอ้แก้วทั้งขาว ทั้งเนียนหนำซ้ำยังไม่ได้สักลายตามพุงและตามขาจึงทำให้ความขาวสั่นคลอนบรรดาหนุ่มเหน้า
ที่ไม่ได้ปลดปล่อยความกำหนัดอารมณ์บุรุษมาหลายวัน

จุ๊ๆๆ ...ขาวแต๊ๆ”

บางคนแอบจุ๊ปาก แต่ก็โดนเขกหัวห้ามปรามไว้เพราะรู้ว่าไอ้แก้วเป็นมหาดเล็กของคนสนิทเจ้าเมือง
ไม่ใช่ไพร่ชั้นล่างที่จะมาหยอกล้อลามปามได้

ยิ่งมาพร้อมกับขุนพันอีกสองนาย พันขาม และพันลือตามมาด้วยจะขื่อที่ดูเหมือนจะหวงไอ้แก้วไม่น้อยที่โดนแทะโลมด้วยสายตาอย่างหนัก
แต่เด็กหนุ่มกลับไม่ได้ใส่ใจว่าใครจะมอง เพราะคิดว่าล้วนเป็นชายด้วยกันทั้งนั้น
บรรดาทหารหาญผู้มีเลือดร้อนเห็นผิวขาวๆ เนียนๆของไอ้แก้วต่างก็จ้องมองกันไม่วางตา
บางคนอาบน้ำไปก็จับควยตัวเองในน้ำชักจนสำเร็จความใคร่ไปก็มี
โดยมีร่างกายเนียนงามของมหาดเล็กท่านเจ้าหมื่นเป็นที่บำบัดความใคร่ทางสายตา!

ในอีกหลายวันต่อมาทัพของทั้งสองเมืองก็ไปบรรจบกับทัพจากหลวงจากนพบุรีศรีนครพิงค์และเขลางค์นครและหริภุญชัยที่เขตแดนเมืองนันทบุรี...
โดยมีท่านเจ้าเมืองเขลางค์นคร พระเจ้าอาของเจ้าหลวง เป็นแม่ทัพในครั้งนี้
ทหารมากมายหลายหมื่น ชาวล้านนา ทั้งหนุ่มน้อย หนุ่มใหญ่ ชายฉกรรจ์ ถูกเกณฑ์ให้ออกรบในครานี้

เมื่อทัพใหญ่ก้าวเข้าสู่เขตเมืองนันทบุรีที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาน้อยใหญ่ตามวิสัยเมืองในขุนเขา
กลางเวียงนันทบุรีเป็นที่ราบเมืองสลับกับทุ่งนา มีวัง และวัดวาอารามมากมาย

บ้านเมืองของชาวนันทบุรีสวยงาม วัด วัง ประดับดา สร้งอย่างอ่อนช้อยสวยงามด้วยศิลปกรรมพื้นถิ่น
นันทบุรีแม้เป็นเมืองน้อย แต่ก็มีวัฒนธรรมสูงและมีเจ้าหลวงปกครองมาช้านานไม่ขาดตอนตั้งแต่มีการเริ่มสร้างอาณาจักร
ไอ้แก้วพอได้มาเห็นเมืองนันทบุรีก็ตื่นตะลึงไม่น้อยด้วยความสวยงามของเมือง

ชื่นชมนักความสวยงามของศิลปะการสร้างบ้านเมืองของนันทบุรีว่าน่าชมไปทุกมุมเมือง
ในหัวของเด็กหนุ่มมันคิดว่าหากเป็นช่วงปกติบ้านเมืองและผู้คนยังใช้ชีวิตกันปรกติสุขคงจะน่าดูชมยิ่งนัก
วัง วัด บ้านเรือนราษฏร กาดกลางเวียง ที่มีผู้คนจับจ่ายแต่งกายในชุดผ้าไหม ผ้าฝ้าย
ไปวัดทำบุญ ใช้ชีวิตอย่างปกติ แต่มาบัดนี้บ้านเมืองเงียบสงัดเพราะร้างไร้ผู้คน

เจ้าหลวงนันทบุรีให้ประชาชนเข้าไปอยู่ในเขตเวียงจนหมดสิ้น!ก่อนที่ทัพของอาณาจักรล้านนาจะมาถึง!!!
บรรยากาศเงียบตอนทัพไปถึงจึงเงียบและเชียบ มีก็แต่เพียงเสียงหมาเห่า เสียงเป็ดไก่ขัน
ดูแล้วช่างวิเวกใจเหลือหลาย

ตามถนนหนทางเงียบร้างไร้ผู้คนมีก็แต่เพียงเสียงเคลื่อนทัพใหญ่ของนพบุรีศรีนครพิงค์
เสียงเกือกม้าศึก เสียงขนอาวุธพร้อมสู้ศึกครั้งนี้

เป็นหยังพวกเฮาไม่พูดจากันดีๆ ล่ะอ้ายขาม... เป็นหยังต้องรบต้องฆ่า!”

เด็กหนุ่มอดถามพันขามขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ เพราะตั้งแต่ปีสองปีก่อนที่เกิดกบฏกลางเวียงเชียงใหม่ก็
ทำให้ชีวิตไอ้แก้วระหกระเหินครอบครัวกระสานซ่านเซ็นไปคนละทิศทางมันเลยรู้สึกไม่ชอบการสงครามเอาเสียเลย

ก็ถ้านันทบุรีไม่ไปเข้ากับกรุงศรีอยุธยาก็จะมิมีศึกครั้งนี้ดอกไอ้แก้ว...ผิดนี้นับว่าร้ายแรงนัก”
เพราะแต่ไหนแต่ไรมา...นันทบุรีก็อยู่ในเขตของอาณาจักรล้านนามาช้านาน... บัดนี้หนีไปเข้ากับกรุงศรีอยุธยานับว่าหักหน้ากันจ๊าดนัก!!!”

พันลือร่วมสนทนาด้วยสีหน้าดุดันเพราะความรักในเผ่าพงศ์ล้านนาอย่างเต็มเปี่ยม
ถึงแม้จะเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้เห็นว่านันทบุรีทำไม่ถูกนักที่หนีไปเข้ากับกรุงศรีอยุธยา
แต่ในหัวจิตหัวใจของเด็กหนุ่มก็ยังไม่เห็นด้วยต่อการก่อสงครามในครั้งนี้อยู่ดี

เพราะนอกจากนี้ต้องเสียเลือดเนื้อกันแล้วชาวเมืองไพร่ฟ้าประชาชนก็ต้องทุกข์ยากอีกตั้งเท่าไหร่
พ่อแม่ลูกต้องพลัดพรากจากกัน นับว่าน่าเวทนายิ่งนัก
เพราะไม่ว่านพบุรีศรีนครพิงค์ หรือ นันทบุรีศรีนครน่าน ก็ล้วนเป็นคนล้านนาด้วยกันทั้งนั้น
เด็กหนุ่มไม่เห็นเหตุที่จะต้องฆ่าฟันกันเองเลย…

ความตึงเครียดมีต่อฝ่ายเมืองนันทบุรีเสียมากกว่าฝ่ายทัพจากนพบุรีฯเพราะเป็นเมืองน้อย
การสู้รบเป็นไปอย่างดุเดือด แม้นันทบุรีเป็นเมืองน้อยแต่ก็ต่อสู้อย่างกล้าหาญจนประจักษ์แก่สายตาของบรรดาทหารหาญ
ของกองทัพของนพบุรีศรีนครพิงค์แต่เนื่องจากนันทบุรีเป็นเมืองน้อย
การสู้รบใช้เวลาไม่นานนัก เมื่อเจ้าหลวงนันทบุรีเห็นว่าสู้ต่อไปทหารก็มีแต่จะตกตายไปจึงได้ประกาศยอมแพ้แก่ทัพของนพบุรีศรีนครพิงค์
เพราะตอนนี้ฝ่ายนันทบุรีเสียทหารไปเป็นอันมาก

เสียงร้องห่มร้องไห้ของลูก เมีย ทหารหาญดังระงมไปทั่วเมืองชวนให้สังเวชใจยิ่งนัก
ไพร่ฟ้าหน้าหมองด้วยความกลัวสงคราม พอทัพของนพบุรีเคลื่อนขยบวนผ่านที่ใดชาวบ้านก็จะแอบซ่อนตัวไม่กล้าออกมาดู
ตามวิสัยของผู้แพ้สงคราม

ท่านเจ้าหลวงเปิดประตูต้อนรับแม่ทัพนพบุรีอย่างจำใจ แล้วเลี้ยงต้อนรับทหารทั้งกองทัพ
โดยที่ทหารของกองทัพของนพบุรีศรีนครพิงค์ยังคงประจำการอยู่ที่นันทบุรีต่อไป

.....................................................................

เมื่อบ้านเมืองกลับมาสู่ความสงบโดยมีกองทหารบางส่วนของนพบุรีศรีนครพิงค์อยู่ควบคุม
ชาวเมืองก็เริ่มออกมาประกอบกิจใช้ชีวิตกันตามปกติกาดกลางเวียงผู้คนเริ่มคึกคัก
สาวน้อยนุ่งซิ่นตีนจก แต่งกายด้วยผ้าฝ้าย ผ้าไหมงดงามตามแบบพื้นเมือง
หนุ่มน้อย หนุ่มใหญ่ รูปกายหล่อเหลา ผิวพรรณขาวสะอ้าน...

วันนี้ไอ้แก้วขออนุญาตท่านเจ้าหมื่นไปเดินชมเมืองหลังจากการศึกสงบลง
จะขื่อขอไปเป็นเพื่อนแต่เด็กหนุ่มอยากเดินเที่ยวตามลำพัง เดินดู วัดวัง บ้านเมืองให้เพลินใจ
วิถีชีวิตของผู้คนกลับมามีชีวิตชีวาดั่งเดิมไอ้แก้วก็รู้สึกสบายใจยิ่งนัก เพราะการฆ่าฟันยังไงก็ไม่ใช่ทางออกที่ดี
เด็กหนุ่มเดินเข้าวัดไหว้สาพระพุทธรูปแล้วเดินออกมากาด(ตลาด)เพื่อหาอะไรกิน
โดยหารู้ไม่ว่ากำลังมีคนสะกดรอยตามหลังอยู่

เด็กหนุ่มเพลิดเพลินในการเที่ยวชมเวียงจนลืมไปว่านี่เป็นเพลาเพิ่งจะเลิกศึก!
คนที่แพ้สงคราม และยังไม่หายเจ็บใจของนันทบุรีนั้นก็มีอยู่อีกมาก

ไอ้แก้วเดินเข้าสู่ถนนเส้นหนึ่งทันใดนั้น พลันที่กลางหลังก็รู้สึกปวดหนึบเหมือนโดนตีด้วยของแข็ง
พลัน! สติของเด็กหนุ่มก็ดับวูบไป!!!...

มันรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่โดนสาดน้ำเย็นๆ เด็กหนุ่มพยายามมองไปรอบๆก็เห็นชายฉกรรจ์ราว 5 คน
ยืนอยู่รอบๆ แคร่ที่มันนอนอยู่ แต่ละคนร่างกายกำยำสูงใหญ่ ผิวค่อนข้างขาว หน้าตาคมสันต์ เกือบทุกคน

พวกเอ็งเป็นไผ... พวกเอ็งจะทำอะหยังข้า”
ไอ้แก้วพยายามจะลุกขึ้นแต่ความปวดหนึบๆที่ท้ายท้อยก็ทำให้สติยังไม่ฟื้นคืนมาเท่าไหร่นัก

พวกข้าคือเจ้าของบ้านนี้เมืองนี้ เมืองที่พวกเอ็งมาตีนี่ไง”
ชายผู้หนึ่งพูดด้วยสำเนียงขบเคี่ยวเขี้ยวฟันอย่างโกรธแค้น

แต่ข้าไม่ใช่ทหาร... พวกเอ็งทำกับข้าแบบนี้บ่ได้...”
ถึงมึงบ่ใจ้ทหารแต่มึงก็มากับพวกมัน...มึงเป็นมหาดเล็กให้นายทัพของศัตรูของเมืองข้า... ดังนั้นมึงก็ต้องรับผิดชอบด้วย”
แม่นล่ะ...ข้าแอบสืบมาไอ้นี่มันเป็นคนนพบุรีศรีนครพิงค์คอยรับใช้เจ้านายมัน”

เสียงขู่ เสียงด่า ด้วยความเจ็บใจดังอยู่ข้างๆ หูของเด็กหนุ่มแต่สติก็ยังไม่คืนมาดีนักตาเหมือนจะหลับ
ด้วยฤทธิ์ของการโดนตีหัว ชายผู้หนึ่งเอาหน้าเข้ามาใกล้ ไอ้แก้วสังเกตได้ว่าชายหนุ่มดังกล่าวมีหน้าตาคมคายออกไปทางหล่อเหลา
พูดด้วยความเจ็บแค้น

ในเมืองเอ็งเป็นศัตรูที่มาตีเมืองพวกข้าเอ็งก็ต้องรับผิดชอบแทนคนของเมืองเอ็ง”
เอ็งจะทำอะไรข้า!!!”

เด็กหนุ่มพูดเหมือนละเมอ แต่เมื่ออีกฝ่ายเริ่มถอดเสื้อผ้าของมันออกไอ้แก้วจึงรับรู้ได้ว่า
บัดนี้มันต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่คนเมืองนี้โดยเฉพาะผู้ชายกลุ่มนี้ทั้ง5 คน!!! เป็นแน่แท้

ยะ... อย่า!!! … อย่าทำอะไรข้า”
เสียงตบหน้าดังฉาด!!! แรงๆ จนไอ้แก้วหน้าชา

หุบปาก!!!... ถ้าเอ็งไม่อยากตาย!”

ชายหนุ่มคนแรกขู่ไอ้แก้วข้างๆ หู ด้วยน้ำเสียงอาฆาต! สองมือบีบกดข้อมือทั้งสองข้างของเด็กหนุ่มขึงพืด!!!
ข้าว่าเอาแค่สั่งสอนมันก็พอว่ะ...ไม่อย่างนั้นเป็นเรื่องใหญ่แน่เพราะไอ้เจ้าหนุ่มรูปงามนี้เป็นคนใกล้ชิดของเจ้าหมื่นคนนึงจากเชียงแสน”

แล้วใครว่าข้าจะฆ่ามันล่ะ...”
ชายคนแรกหันไปบอกชายหนุ่มคนอื่นอย่างห้าวหาญ ดุดัน!
ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาตบหน้าไอ้แก้วแปะๆ แล้วลูบไล้ไปมาสายตามีประกายบางอย่างวิบวับ

แต่เอ็งต้องชดใช้ต่อการศึกในครั้งนี้”
จะ... จะให้ข้าทำเยี่ยงไร... ในเมื่องข้าไม่มีทรัพย์อันใดติดตัวมาด้วยเลยนอกจากอัฐเพียงนิดหน่อยเท่านั้น”
ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า... ไผบอกว่าเอ็งต้องชดใช้พวกข้าด้วยเงินล่ะวะ”

สิ้นเสียงชายคนแรก ชายนิรนามทั้ง 5 คน ก็หัวเราะลั่นอย่างเย้ยหยัน!

แต่เอ็งต้องชดใช้ให้พวกข้าด้วยร่างกายของเอ็ง!!!”
เสียงขู่คำรามดังอยู่ข้างๆ หูของเด็กหนุ่ม ทำเอารู้สึกเสียวสะท้านขึ้นมาจับใจ
เพราะไม่คิดว่าจะโดนขืนใจโดยชายหนุ่มถึง 5 คน!!!

แต่เพราะความปวดหนึบที่ท้ายทอยทำให้ไอ้แก้วหมดปัญญาจะดิ้นรน
โดยชายทั้ง 5 คน รีบถอดเสื้อผ้าของไอ้แก้วออกจนเปลือยเปล่า!!!
แล้วก็ถอดเสื้อผ้าของพวกมันออกบ้าง

โอ้โห!!!... ผิวมันขาวดีแท้ๆ ขาวกว่าเมียข้าซะอีก”

ชายหนุ่มอีกคนพูดชม มือหยาบกร้านก็บีบบี้ไปมาตามยอดอกหัวนมสีชมพู และเนื้อตัวเนียนๆของเด็กหนุ่ม
อย่างพึงพอใจ ตอนนี้ไอ้แก้วทำได้แค่หลับตาปี๋ปล่อยให้ชายทั้ง 5 คน ตะบี้ ตะโบมทำตามใจอยากอย่างหนำใจ
แต่การปิดตาเพื่อไม่ต้องมองเห็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ก็ไม่ได้ทำให้มันรอดพ้นความทรมาณจากชายทั้ง5 ไปได้
ชายคนแรกง้างปากไอ้แก้วให้อ้าออกเพื่อรับอาวุธขนาดเขื่องของมัน

ดุ้นของชายคนแรกงามสมตัวเจ้าของ ที่เป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาดงหมอยดกงาม
พอยัดเข้าปากเด็กหนุ่มได้ชายชาวนันทบุรีคนแรกก็กระเด้าควยดุ้นสวยเข้าปากไอ้แก้วโยกเข้าโยกออกอย่างเมามัน
ปากก็ส่งเสียงครางกระเส่า!

อูยยยย... เสียววว”
ชายหนุ่มหน้าตาหล่อคมเจ้าของอาวุธขนาดใหญ่ยาวโยกเอวดันควยเข้าปากคอไอ้แก้วยิกๆๆๆ
เสียงครวญครางด้วยความพึงพอใจในอุ้งปากและลิ้นของไอ้แก้วดังซู้ดซ้าด!
จนชายหนุ่มอีกคนทนไม่ไหวผลักชายหนุ่มคนแรกออกแล้วเอาดุ้นขนาดไม่น้อยไปกว่ากันมายัดปากไอ้แก้วแทน

มาข้าขอเย็ดปากมันบ้าง”

ชายหนุ่มคนที่สองรูปร่างแน่นเนื้อแน่น หน้าตาดี หนำซ้ำอาวุธยังอวบตรงหัวบานปานดอกเห็ด!
มันจับดุ้นหัวบานๆ อัดเข้าปากเข้าคอของไอ้แก้วแรงๆ จนลึกถึงคอหอย!ทำเอาเด็กหนุ่มเกือบสำลัก

แค่กๆๆ!!!”
ฮ่าฮ่าฮ่า... สมใจข้านักที่ได้แก้แค้นศัตรูของเมืองเรา”

ชายหนุ่มคนที่สองหัวเราะเสียงกังวานจากที่ไอ้แก้วอยู่กับพวกทหารทำให้แยกคนธรรมดากับทหารได้เป็นอย่างดี
เพราะถ้าเป็นชายหนุ่มชาวบ้านธรรมดาจะไม่องอาจห้าวหาญปานนี้

เสียงพูด คำอู้ ของชายทั้ง 5 คนนี้ จึงบ่งบอกให้ทราบได้ว่า ชายหนุ่มทั้งห้าคนนี้เป็นทหารอย่างแน่นอน!!!
พวกชายหนุ่มนิรนามทั้ง 5ไม่ได้ปราณีต่อการร้องขอความเห็นใจจากไอ้แก้วเลยแม้แต่น้อย
เมื่อพวกมันพอใจกับปากที่ไอ้แก้วที่เอาควยเย็ดปากให้ไอ้แก้วดูดจนครบคนแล้ว

พวกมันก็สับเปลี่ยนกันเสพสมกับประตูหลังของเด็กหนุ่มอย่างเมามัน!!!ระบายความคลั่งแค้นที่เสียเมือง
ชายหนุ่มหน้าหล่อเหลาควยใหญ่คนแรกจับไอ้แก้วให้คลานสี่ขา
แล้วทะลวงอาวุธขนาด 7 นิ้วกว่าๆ เข้าประตูหลังของไอ้แก้วช้าๆ

อึ๊!!!”
ไอ้แก้วร้องได้เพียงเท่านั้นก็โดนปิดปากด้วยควยหัวบานดุ้นอวบอ้วนของชายคนที่สอง
พอดุ้นยาวใหญ่ของชายคนแรกมุดเข้ามิดลำ มันก็กระเด้าเข้าออกอย่างเมามัน

ส่วนชายคนที่สองก็โยกควยเด้าปากทะลวงคอหอยด้วยอาวุธหัวบานเป็นดอกเห็ด!
อีกสามคนที่เหลือ ก็ทั้งเลีย ทั้งไซ้ ทั้งบีบบี้ คลึงเคล้น ไปมาตามเนื้อตัวของไอ้แก้วอย่างเมามันตามอารมณ์
จากที่เป็นอารมณ์โกรธบัดนี้กลายเป็นอารมณ์ดำดิ่งสู่ความเงี่ยน!!!ตามอารมณ์ความต้องการตามธรรมชาติ

ซี้ดดด!!!... อาเสียวววมันควยเหลือเกินนน”

ชายหนุ่มคนแรกที่อัดตูดไอ้แก้วทั้งเด้าทั้งโยกจนหัวไอ้แก้วคลอนไปมาตามแรงเย็ด!
ส่วนชายคนที่เย็ดปากไอ้แก้วก็เร่งเด้าปากยิกๆๆๆ แบบไม่สนใจต่อความทรมาณที่เด็กหนุ่มได้รับ
ไม่นานนักชายคนแรกก็ร้องครางระงมแล้วเร่งซอยตั้บๆๆๆ!!!อีกหลายครั้งก็ปลดปล่อยน้ำเข้าในตัวเด็กหนุ่มจนสิ้นน้ำ

ชายคนที่สามก็เข้าประจำการต่อทันทีด้วยขนาดเป็นรองชายคนแรกเพียงนิดหน่อยเท่านั้น
ชายคนที่สามรูปร่างสันทัดไม่สูงเท่าใดนัก ขนาดจึงพอเหมาะสมตัว ราว 6.5 นิ้ว
พอมันจ่อควยเข้ามิดลำ! ชายคนที่สามก็เร่งเด้าตูดไอ้แก้วยิกๆๆๆพร้อมกับเสียงครางอย่างเมามัน

โอยยย เสียววว มันเหลือเกินนน”
เร็วๆ เลยไอ้ห่า... ข้าอยากแล้วเนี่ย”
เอ็งก็รอไปก่อนสิ... ขอข้าเสพสังวาสตูดมันให้สะใจก่อนเต๊อะ!”

เสียงชายคนที่สามครางกระเส่าไม่ต่อปากต่อคำกับเพื่อนอีกแต่เร่งเด้ายิกๆๆๆอย่างสะใจ
จนตอนนี้ชายคนที่ 2 ที่เย็ดปากไอ้แก้วอยู่ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป
ทันใดน้ำของชายคนที่สองก็ทะลักจนเต็มหน้าของไอ้แก้ว

อูยยยย... ซี้ดดดดด อ๊า!!!”
ชายคนที่สองครางอย่างเสียวจัด เอาควยขนาด 7 นิ้วกว่าๆ ฟาดหน้าของไอ้แก้วที่เยิ้มไปด้วยน้ำเงี่ยนของตัวเองอย่างสะใจ

อา... สบายควยข้าแล้ว...”
แล้วชายคนที่สี่ก็เข้ามาหาความสุขจากปากของไอ้แก้วต่อทันที

ดูดให้ข้าเลย... ดูดดีๆ นะ อุอูยยย นั่นแหละ... อึมม... ซี้ดดด!!!”
ตอนนี้เด็กหนุ่มทำได้แค่อ้าปากออกดูดควยดุ้นควยยาวเฟื้อยของชายคนที่สี่

บัดนี้เด็กหนุ่มเริ่มชาชินต่อการโดนรุมเย็ดแล้ว เลยอ้าปากดูดจ๊วบๆอย่างคล่องปาก
ส่วนตูดก็ส่ายและโยกกระแทกกับควยของชายคนที่สามแรงๆ เน้นๆเพื่อให้มันน้ำแตกไวไว

เป็นดั่งไอ้แก้วคิดไว้ เพราะชายคนที่ 3 เด้าอยู่อีกไม่กี่ทีก็ดึงควยออกมาชักน้ำแตกเต็มแก้มก้นขาวเนียนของไอ้แก้ว
ชายคนที่สี่เห็นเป็นโอกาสดีเลยเข้าประจำที่แทน ส่วนชายคนสุดท้ายก็เข้ามาเย็ดปากไอ้แก้วต่อ
โดยไม่มีโอกาสให้ไอ้แก้วได้หายใจ

ชายคนสุดท้ายอายุน้อยสุดน่าจะไม่เกิน 18 ปี เด็กสุดในบรรดาชายฉกรรจ์ทั้ง 5 คน
รูปร่างงาม ผิวกายขาวสะอาด แต่ขนาดกลับไม่ด้อยกว่าสองคนแรกเลย 7.5 นิ้ว!!!

ตอนนี้ไอ้แก้วโดนจับให้นอนหงายแล้วชายคนที่สี่ก็สังวาสทางประตูหลังอย่างบ้าคลั่งรุนแรง
ด้วยมันเป็นคนตัวสูงโย่งเลยเอวดีส่ายไหวยิกๆๆๆจนไอ้แก้วเผลอครางเบาๆ ด้วยความเสียวที่ถูกกระทำ
เด็กหนุ่มนิรนามคนที่ 5 นั่งยองๆ คล่อมที่หน้าไอ้แก้ว แล้วเด้งควยดุ้นสวยอวบใหญ่เข้าปากไอ้แก้วผลุบๆๆๆ

อุ... อูยยยยย!!!”

มันกดหัวไอ้แก้วให้ดูดความใหญ่ยาวเข้าไปจนสุดลำ!
เรียวปากของไอ้แก้วสร้างความเสียวให้ชายคนสุดท้ายอย่างมากล้น
ชายคนที่สี่ที่ล่อตูดไอ้แก้วอยู่ตามลำพัง เสียงดังพั่บๆๆๆ!!!

ด้วยไอ้ก้านยาวคู่กายที่ประเคนใส่ตูดเด็กหนุ่มอย่างเมามัน
แต่ในที่สุดวาระสุดท้ายของชายคนที่สี่ก็มาถึง! เมื่อมันร้องดังๆ

โอ้ยยยยย!!!”

มันร้องได้คำเดียวก็ทะลักน้ำเข้าเต็มตูดขาวๆของไอ้แก้วอย่างสุขเสียว...
เด็กหนุ่มคนสุดท้ายจึงปิดภารกิจนี้โดยจับไอ้แก้วนอนคว่ำหน้ากับพื้นแล้วประกบตูดเย็ดอย่างเมามัน
ด้วยความลื่นของน้ำเงี่ยนของชายคนก่อนที่ทิ้งไว้ยิ่งสร้างควาหฤหรรษ์ให้กับเด็กหนุ่มคนที่ 5 อย่างมากมาย

ซี้ดดดด!!!... มันเหลือเกินนนน...อูยยยย!!!”
เด็กหนุ่มคนที่ห้าเร่งเอวสวนควยกระทุ้งตูดขาวเนียนของไอ้แก้วไม่มีถดถอยเรี่ยวแรงมีเท่าใดก็ใส่ลงไป
กระแทกลงไปในรูของไอ้แก้วจนหมด เสียงดังตั้บๆๆๆๆ!!! เมื่อควยดุ้นใหญ่กับหน้าท้องกระแทกตูดและแก้มก้นของมหาดเล็ก
ผู้โดยกระทำย่ำยีอย่างบ้าคลั่ง!!!

จนในที่สุดเด็กหนุ่มผู้เป็นเจ้าของเมืองที่โกรธแค้นก็กระน้ำตูดไอ้แก้วจนน้ำทะลักปลดปล่อยความโกรธแค้นและเกลียดชัง
เข้าไปในร่างกายของไอ้แก้วจนเอ่อนอง...

ชายหนุ่มทั้ง 5 คน รวมทั้งไอ้แก้วต่างนอนหอบหายใจแฮ่กๆ อย่างหมดแรงในสนามรบของบ้านหลังนี้
ไอ้แก้วตื่นขึ้นมาอีกทีก็ค่ำมืดซะแล้ว ตามร่างกายฟกช้ำ และสกปรกเกรอะกรังไปด้วยน้ำอสุจิของชายนิรนามทั้ง 5 คน

เด็กหนุ่มไม่ได้โกรธแค้นพวกเขาเลย ที่กระทำต่อเขาอย่างโหดร้ายเยี่ยงนี้ หากแม้นความโกรธแค้นจากการเสียเมืองของพวกเขา
ได้ปลดปล่อยจากการระบายผ่านร่างกายของมัน มันก็ยินดี.....


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น