วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559

บำบัดรักนักรบแดนเถื่อน 10 บำเรอกามทหารเมา

หลังจากที่ตีเวียงนันทบุรีได้ ทางนพบุรีศรีนครพิงค์จึงยกเจ้าชายองค์หนึ่งของนันทบุรี
ให้ขึ้นเป็นเจ้าหลวงนันทบุรีองค์ใหม่ โดยที่ทางกองทัพของเมืองนพบุรีฯ ยังคงอยู่กำกับจัดการกิจการภายในเวียงนันทบุรีต่ออีกหลายเดือน

ระยะเวลานี้แม้ว่าเมืองนันทบุรีจะกลับมาสู่ความสงบสุขอีกครั้ง
ภายนอกอาจดูเหมือนว่าบ้านเมืองจะสงบเรียบร้อยดี รอยยิ้มที่มีให้ แม้จะยิ้มระรื่นดูเป็นมิตร
แต่แววตากลับดูอับเฉาแห้งโหย เพราะภายในใจของคนเวียงนี้ล้วนเจ็บปวดต่อการเป็นเมืองขึ้น!

ไอ้แก้วเองก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกนี้ที่กำลังประสบกับชาวเวียงน้อยแห่งนี้
เพราะมันเองก็ได้ประสบความเคียดแค้นชิงชังจากบรรดาชายฉกรรจ์ของเมืองนี้มาแล้วเป็นอย่างดี
จากเหตุการณ์ การโดนรุมสังวาสอย่างเหี้ยมโหด!!! และรุนแรงในคืนนั้น!!!

และไอ้แก้วรู้สึกว่า แม้เหตุการณ์ของเวียงนี้อาจดูเหมือนสงบ แต่กลับเป็นความสงบที่รอพายุแห่งสงครามครั้งใหม่!!!
เวียงใดที่เคยเป็นรัฐเอกราช ล้วนไม่นิยมอยู่ใต้การปกครองของอาณาจักรไหน หรือเวียงใด
แม้ว่าเวียงนั้นจะเป็น “อาณาจักรล้านนานพบุรีศรีนครพิงค์” อันยิ่งใหญ่เพียงใดก็ตาม!!!

ต่างจาก “อาณาจักรสุโขทัยศรีสัชนาลัย” ที่เมืองนันทบุรี มีความใกล้ชิดสนิทสนมมาอย่างเนิ่นนานนับร้อยๆ ปี
ด้วยว่ามีความสัมพันธ์ทั้งทางการเมือง มีความใกล้ชิดสนิทสนมฉันท์เครือญาติด้วยการเกี่ยวดองด้วยการแต่งงาน
สนิทชิดใกล้ทางการเมืองและมีการสืบต่อพระพุทธศาสนากันอย่างใกล้ชิด

และในห้วงเวลาที่ผ่านมานับร้อยๆ ปีเวียงน้อยอันสงบงามอย่างเวียงนันทบุรี
มักจะถูกอาณาจักรรอบด้านเข้ารุกรานอยู่เสมอๆ ด้วยว่าเวียงนี้อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่า
โดยเฉพาะสินค้าที่หายากในแดนภูเขาเช่นนี้

นั่นก็คือ  “เกลือสินเธาว์!!!”

ด้วยเหตุนี้เวียงนันทบุรีที่แม้จะเป็นอาณาจักรน้อย จึงอยู่ยั่งยืนนานผ่านกาลเวลามานานปี
เพราะมีความสำคัญด้วยเหตุฉะนี้

หลายอาณาจักรผลัดเปลี่ยนกันเข้ายึดครองไปพร้อมๆ กับการปกป้องมาตุภูมิของชาวเวียงนันทบุรี
และทุกครั้งล้วนได้รับการช่วยเหลือจากอาณาจักรสุโขทัย ด้วยกำลังทหารที่ช่วยปกป้องด้วยความสนิทสนมตามที่กล่าวมา
ทำให้นันทบุรีรอดพ้นการรุกรานมาได้โดยตลอด

แต่มาบัดนี้ กาลเวลาเปลี่ยนแปรไป ความยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรสุโขทัยเองก็เริ่มเข้าสู่ปลายยุค!!!...
จนล่วงเข้าสู่ยุคของการถ่ายทอดความยิ่งใหญ่ให้กับ “อาณาจักรอโยธยา” ที่เริ่มเรืองอำนาจจากทางใต้ ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา

นับตั้งแต่กองทัพหลวงของนพบุรีฯ ตีเมืองนันทบุรีได้ แม่ทัพนายกองหลายต่อหลายคนต่างก็ได้รับยศถาบรรดาศักดิ์
เพิ่มพูนเป็นบำเหน็จศึก
หนำซ้ำยังได้รับพระราชทานภรรยาจากเจ้าหลวงเมืองนันทบุรีองค์ใหม่เพื่อให้เกี่ยวดองเป็นญาติใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น

แม้กระทั่ง เจ้าหมื่นเรืองณรงค์ เจ้านายของไอ้แก้วก็ได้รับพระราชทานภรรยาในกาลนี้ด้วย
นายหญิงคนใหม่ของเจ้านายผู้มีเชื้อเครือเจ้านายในวงศ์นันทบุรีนางรู้จักการวางตัวให้ลูกน้องของผัวรัก
เพราะนางมีกุศโลบายที่เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ ดูแลเรื่องความเป็นอยู่ อาหารเครื่องนุ่งห่ม เรื่องที่หลับนอน
ไม่นานนักบรรดาทหารลูกน้องของเจ้าหมื่นก็นับถือนางอย่างหมดใจ!

หน้าที่คอยดูแลอยู่ใกล้ชิดปรนนิบัติจึงตกเป็นของนายหญิงคนใหม่ไป
ไอ้แก้วจึงมีหน้าที่ดูแลเจ้านายน้อยลงในแต่ละวันจึงมีหน้าที่เพียงตรวจสอบสำรับกับข้าวก่อนเจ้านายกิน
และรับใช้ยามนายในยามที่ท่านจะเรียกใช้เท่านั้น และมีเวลาส่วนตัวมากขึ้น

เจ้านายให้ไอ้แก้วอยู่เรือนไม้หลังน้อยอยู่เป็นสัดส่วนต่างหากจากไพร่คนอื่นๆ ให้มันอยู่กับจะขื่อสองคน ตามประสาชู้รัก
พรานหนุ่มก็ดูแลไอ้แก้วอย่างดีทั้งสองคนต่างก็เป็นมือเป็นเท้าให้เจ้านายช่วยงานได้ดั่งใจทั้งคู่
และพอตกกลางคืนไอ้แก้วก็ปรนเปรอสวาทให้กับจะขื่อตามความต้องการตามธรรมชาติที่สนองให้แก่กันและกัน

พรานหนุ่มเองนับวันก็ยิ่งติดตรึงในรสสวาทที่ได้รับจากเด็กหนุ่ม
จนติดหนึบไม่คิดหวนคืนหมู่บ้านป่าในดงดอย

เช้าตรู่วันนี้ก็เช่นกันที่ไอ้แก้วต้องสนองความสุขให้กับจะขื่อ
ที่มีความปรารถนาตั้งแต่ย่ำรุ่งอันเป็นช่วงเวลาประจำที่พรานหนุ่มมีความต้องการในทุกๆ วัน
สองขาของไอ้แก้วถูกกางอ้าจับพาดบ่าแล้วจะขื่อผู้มีท่อนลำขนาดใหญ่ยาวก็กระหน่ำเย็ดอย่างเมามัน
ทั้งสองคนร่วมรักกันอย่างหฤหรรษ์!!! สุขสมกันทั้งสองฝ่าย

จนกระทั้งพรานหนุ่มรูปหล่อตักตวงความสุขจากไอ้แก้วจนสำลักความสุข
จึงได้ปล่อยให้ไอ้แก้วได้นอนพักเอาแรงก่อนไปรับใช้เจ้านายในตอนเช้า

อย่าเพิ่งไปได้ก่อ...”
พรานหนุ่มดึงร่างแกร่งงาม แต่ผิวขาวสะอาดของเด็กหนุ่มไปกอดแล้วหอมแก้มดังฟอด!

หืมมม... อ้ายจะขื่อมีอะหยัง”
เด็กหนุ่มหันไปถามทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าจะขื่อขี้อ้อน

อยากเอาอีก... ได้ก่อ”
ตอนค่ำได้ไหมอ้าย...ข้าเจ้ากลัวจะไปรับใช้เจ้านายบ่ทัน”
โอ้ย! ป่านนี้เจ้านายคงหลับสบายนักๆ เพราะมีแม่นายคนใหม่ทั้งงามทั้งสาวคอยนอนกอดอยู่ข้างๆ ฮ่าฮ่าฮ่า!!!”
ถึงจะนั้นก็เต๊อะมันเป็นหน้าที่ของข้า... ตอนเย็นรับรองข้าบ่ขัดอ้ายแน่นอน”

ไอ้แก้วจุมพิตที่ปากของชู้รักรูปหล่อหนึ่งครั้ง ก่อนจะลุกออกจากห้องไป ปล่อยให้จะขื่อนอนต่อไปอย่างสบายอารมณ์...
ตั้งแต่จะขื่อติดตามไอ้แก้วไปอยู่เวียงเชียงแสนเป็นปีๆพรานหนุ่มก็คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตสังคมในเวียง
และธรรมเนียมปฏิบัติต่างๆ ของคนเมืองต่างๆ

และมักจะสนิทสนมถูกคอกับขุนพันทั้งสี่นานจึงมักจะหายหน้าไปเป็นวันๆ เพื่อขลุกอยู่กับขุนพันทั้งสี่
ในการสนทนาราชการบ้านเมือง พอพบกันอีกทีก็ตอนเย็นย่ำค่ำแล้ว
เรื่องราวที่เกิดขึ้นคืนนั้นไอ้แก้วก็มีอาการบอบช้ำและมีอาการไข้อยู่หลายวัน
แต่ก็ไม่ได้ปริปากบอกใครว่าเกิดเรื่องราวใดกับตัวเองเพราะเกรงว่าจะกลายเป็นเรื่อง “น้ำผึ้งหยดเดียว”
มันจึงปิดปากเงียบแม้กระทั่งกับจะขื่อก็มิได้บอก

พอหายดีไอ้แก้วได้รับคำสั่งให้ออกตรวจตราแผนผังเวียงนันทบุรีจารึกลงบนแผ่นกระดาษ
เผื่อในภายภาคหน้าอาจจะมีความจำเป็นต้องใช้
จึงถือว่าเป็นงานที่ตรงกับความชำนาญของไอ้แก้วยิ่งนักเพราะได้เดินชมบ้านชมเวียงของนันทบุรีได้อย่างเบิกบานใจ
และได้ศึกษาบ้านเมืองแห่งนี้ไปด้วย

เพราะที่ไอ้แก้วร่ำเรียนงานสะล่า(ช่าง)มาจากตุ๊เจ้า(พระ) อาจารย์ที่วัดกลางเวียงนพบุรีฯ
จึงชื่นชอบงานทางด้านศิลป์เป็นพิเศษสามารถจำแนกแยกแยะได้ว่าศิลปะแบบใดเป็นของเวียงไหน
โดยเฉพาะศิลปะกรรมการก่อสร้างของเมืองนันทบุรีไม่ว่าจะเป็นวัดวาอารามโบสถ์ วิหาร ช่อฟ้า หางหงษ์ ใบระกา
ไปถึงพระธาตุเจ้า ก็ล้วนรับเอาแบบอย่างศิลปะมาจากอาณาจักรสุโขทัยแทบทั้งสิ้น เนื่องจากมีสัมพันธ์อันดีมาเนิ่นนานปี

(แต่นับจากนี้ไปเวียงนันทบุรีก็จะรับเอาแบบอย่างศิลปะของล้านนาเข้าแทนที่ศิลปะแบบสุโขทัย)

เวียงน้อยแห่งนี้แม้จะเป็นเวียงเล็กแต่งามรุ่งเรืองงดงามด้วยศิลปกรรมอันสูงส่ง
ยอดพระธาตุเจ้าสีทองสุกปลั่ง พระอารามโบสถ์วิหาร งดงามไปด้วยลวดลายฉลุลายปูนปั้น
ประชาชนชาวเมืองก็ล้วนเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาบริจาคทรัพย์บำรุงรักษาปฏิสังขรณ์วัดวาอาราม
ให้รุ่งเรืองงดงามไม่ให้เก่าพังไปตามกาลเวลาเหมือนเวียงเชียงแสนที่ไอ้แก้วจากมาที่เคยร้างราผู้คนนานนับร้อยปี

ไอ้แก้วมององค์พระธาตุเจ้าตรงหน้าที่งดงามด้วยศิลปะสุโขทัยปิดทองสุกปลั่งอยู่ตรงหน้า
พร้อมวาดภาพเก็บไว้ตามคำสั่งนาย

พอวางดอกไม้ธูปเทียนหน้าพระธาตุเจ้าเสร็จก็พนมมือขึ้นเหนือเกล้าไหว้สาด้วยความปลาบปลื้มใจ
พลันดวงจิตก็อดคิดถึงพระธาตุเจ้าหลายๆ แห่งที่ตั้งอยู่ในเวียงนพบุรีฯ ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
นพบุรีศรีนครพิงค์อันยิ่งใหญ่ มีพระธาตุเจดียย์เจ้าที่งดงามมากมายหลายองค์
ทั้งที่ตั้งบนดอยสูง ตั้งอยู่กลางเวียงและนอกเวียง ล้วนมีลักษณะงดงามแตกต่างกันออกไป
ความคิดคำนึงของเด็กหนุ่มยังติดตรึงไปถึงรักหนึ่งที่ยังซาบซึ้งตรึงใจกับชายชาติทหารผู้หนึ่ง

อ้ายเมือง!!!

ข้าเจ้าจะมีบุญได้พบเจออ้ายอีกเมื่อใดน้อ”
เด็กหนุ่มครุ่นคิดคำนึงจนน้ำตาเอ่อแต่ก็พยายามเลิกคิดต่อ เพราะมันสำเหนียกเสมอว่าคนเราต้องนึกถึงปัจจุบันเท่านั้
อดีตล้วนเลือนหาย เก็บไว้เพียงความรู้สึกดีๆ

ระหว่างที่ไอ้แก้วตระเวนเที่ยวชมบ้านชมเวียงกับจะขื่ออยู่นั้น
เด็กหนุ่มก็เห็นได้ว่าแต่ละจุดจะมีทหารของกองทัพนพบุรีฯอยู่ประจำการเพื่อควบคุมเวียงนี้เป็นจุดๆ
ไอ้แก้วขี่ม้ามาจนมาถึงละแวกวัดที่อยู่ชานเวียงเห็นมีป้อมกองหทารคุมอยู่ราวสิบนาย

นึกอยากน้ำพอดีจึงควบม้าไปหาแต่ละนายพอเห็นเด็กจูงม้าเข้ามา
ก็ชี้ชวนกันดูอย่างสนใจเพราะต่างก็จดจำได้ว่าเป็นมหาดเล็กร่างงามของนายทหารผู้ใหญ่แห่งเวียงเชียงแสน
ไอ้แก้วจดจำได้ว่าเป็นทหารกองทัพนพบุรีฯ ที่เคยอาบน้ำในแม่น้ำด้วยกันก่อนจะตีเข้าตีเมืองได้ จึงไม่คิดระแวง

ข้าอยากน้ำยิ่งนัก...ขอน้ำข้ากินซักจอกเถิด”
ทหารผู้หนึ่งเดินยิ้มกริ่มออกมาดึงบังเหียนม้าแทนเด็กหนุ่ม
แววตาตอนที่มองมหาดเล็กรูปงาม แววตายิ้มมีเลศนัยดูกะลิ่มกะเหลี่ยไม่สำรวม

เอ็งจะไปที่ใดรึ”
ข้าได้รับคำสั่งจากเจ้านายให้จดแผนผังเวียงนันทบุรีนี้เอาไว้...จนกระทั่งขี่ม้าผ่านมาทางนี้นี่แหละ”
อากาศฮ้อนนักๆ เอ็งคงจะเหนื่อยจงหยุดพักทานน้ำด้านนี้เถิด”

ทหารสองนายมองตากันด้วยแววตาแปลกๆแล้วเชิญชวนไอ้แก้วให้เดินตามไป
เด็กหนุ่มไม่ได้เฉลียวใจตามเข้าไปหนึ่งในสองของทหารก็เอาเหล้ามาให้ดื่ม

นี่มันสุรานี่!!!...”
ใช่แล้ว...พวกข้าเหนื่อยยากกายมานานก็ขอดื่มสุราบ้างพอให้หายเหนื่อย และสบายตัว”
ทหารคนที่สองกล่าวมือนึงยกแก้วเหล้าให้ไอ้แก้วอีกมือลูบไหล่หลังของเด็กหนุ่มเหมือนคนสนิทกัน

แต่ตอนนี้พวกท่านล้วนอยู่ในหน้าที่ไม่สมควรที่จะดื่มน้ำเมาเยี่ยงนี้”
เอาน่าเจ้าอย่าได้คิดมาไปเลยนิดๆหน่อยๆ จะเป็นไรไป อย่างใดเสียพวกเฮาก็ชนะศึกเวียงนันทบุรีแล้ว”
ไอ้แก้วไม่อยากสนทนาต่อเพราะจับสำเนียงได้ว่าทหารทั้งสองนายตอนนี้กำลังอยู่ในอาการเมาสุรา
และตอนนี้ก็ยากที่จะขัดใจเลยต้องยกแก้วขึ้นดื่มตามคำชวน

ทหารสองนายนี้มียศนายร้อยทั้งคู่ คนแรกหน้าตาคมคายร่างกายบึกบึน แกร่งงาม
คนที่สองหน้าตาละอ่อนหมดจด ร่างกายแข็งแรงแกร่งไม่แพ้ทหารนายแรก
ทหารล้านนาทั้งสองสวมแต่เสื้อแขนกุดสีแดงนุ่งเตี่ยวแดงรัดติ้ว

อวดพุงและตะโพกที่สับหมึก (สักลาย) ตั้งแต่หน้าท้องลงไปจนถึงต้นขาแกร่งๆ
ตามไหล่ แผ่นอก แผ่นหลังก็สับหมึกเป็นลวดลายอันเป็นมงคลงดงามไปทั้งตัว
ไอ้แก้วอดเมียงมองด้วยความสนใจไม่ได้เพราะทหารทั้งสองล้วนมีร่างกายที่งดงาม ผิวเนียนน่ามอง
จนมารูสึกตัวได้ว่าทหารหน้าละอ่อนเริ่มวุ่นวายกับร่างกายของมันหนักขึ้นเรื่อยๆ

เอ็งนี่มันขาวดีแต๊ๆผิวก็เนียนเหมือนแม่ญิงนักๆ”
ทหารหน้าละอ่อนใช้มือหยาบๆไล้ไปมาตามเนื้อตัวของเด็กหนุ่มไปจนถึงต้นขอ

เอ็งจะทำอะไร!”
ไอ้แก้วเริ่มไม่พอใจต่อพฤติกรรมที่ไม่สำรวมของทหารหน้าละอ่อนแตะที่ด้ามดาบหากมีการลงมือเกิดขึ้น
ถึงแม้จะสู้ไม่ได้ก็คงไม่พ่ายแพ้ภายในไม่กี่เพลงดาบหรอกน่า เด็กหนุ่มคิด

หวงตัวไปทำไมวะ... ทั้งข้า ทั้งเอ็ง ทั้งมัน ก็เป็นป้อจายด้วยกันทั้งนั้น...บ่เป็นหยังดอก”
ทหารหน้าคมเข้ามาโอบเอวไอ้แก้วมั่ง แล้วเชยคางของเด็กหนุ่มเข้าประชิดตัว

เอ็งนี่มันงามแต๊ๆถ้าเป็นแม่ญิงข้าจะเย็ดให้มันควยไปเลย”
ถ้าขืนเอ็งยะหยังข้า... ข้าจะ!!!”
จะฟ้องนายเอ็งรึ!...เอ็งคงบ่ได้กลับไปฟ้องหรอกเพราะพอเอ็งโดนพวกข้าเย็ดจนมันควยพวกข้าก็จะเวียนกันเย็ดเอ็งจนตูดบาน 5555”
ไอ้แก้วพยายามหลบหลีกหน้าหื่นๆของทหารหน้าคมที่เริ่มซอกไซ้ตามลำคอ

ปล่อยข้า!!!”
บ๊ะ!!! อย่ามาทำหวงตัวหน่อยเลย... ทีกับเจ้านายเอ็งไม่เห็นหวงตัวอย่างนี้นี่หว่า...
พวกข้ารู้นะว่าเอ็งนะว่าคนตำแหน่งสูงคอยรับใช้ใกล้ชิดเจ้านายอย่างเอ็งต้องยอมให้เจ้านายเย็ด!!!
แถมให้ขุนทหารของเจ้านายเอ็งก็ได้เสพสุขกันถ้วนหน้า!”

เด็กหนุ่มหน้าแดงด้วยความอายและความโกรธแต่ก็เป็นจริงอย่างพวกมันว่า
ด้วยเป็นที่รู้กันว่าเจ้านายแต่ละคนมีสิทธิ์พาเด็กหนุ่มวัยกำลังเหมาะหน้าตาผิวกายติดตามมาในทัพ
มองผิวเผินก็เหมือนให้มารับใช้แต่ความเป็นจริงคือ ให้มาปรนเปรอในสนามรบที่ห้ามแม่ญิงติดตามมาในทัพนั่นเอง

ถ้าไม่ยอยากเจ็บตัวก็อยู่นิ่งๆ ยอมเป็นเมียของพวกข้าเสียดีๆ! ฮ่าฮ่าฮ่า!!!”
ทหารหน้าละอ่อนเข้ามากอดไซ้ไอ้แก้วอย่างหยาบคายส่วนคนหน้าคมก็ใช้มือกำตูดตะปบยอดอกของเด็กหนุ่มอย่างกักขฬะ!!!
เด็กหนุ่มพยายามผลักไสแต่ท้ายที่สุดก็สู้แรงของทหารหนุ่มทั้งสองไม่ได้
หนำซ้ำเหล้าที่ดื่มเข้าไปก็ทำให้ร่างกายหมดเรี่ยวสิ้นแรง!!!

ยาสั่ง!”

ในหัวไอ้แก้วตอนนั้นนึกได้ทันทีว่ามันโดนของดีเข้าแล้วจากเหล้าที่ทหารสองนายให้ดื่ม
เด็กหนุ่มหมดเรี่ยวแรงดิ้นรนขัดขืนถูกลากขึ้นไปบนแคร่พักชั่วคราวของทหาร
ทหารหน้าคมเข้ามาดูดเลียตามหัวนมสีแดงสดของไอ้แก้วอย่างหื่นกระหาย
ส่วนทหารหน้าละอ่อนก็ประกบปากจูบกับไอ้แก้วอย่างเร่าร้อน

ขาวเนียนไปทั้งตัวเลยมึงเอ๊ยได้เย็ดมันแบบนี้นับเป็ญบุญควยกูนักๆ”
ทหารหน้าคมดูดไซ้ตามตัวเด็กหนุ่มไปก็สบถไปด้วยความหฤหรรษ์!!!
จนกระทั่งมันหน้ามืดสุดๆแล้วทหารหน้าคมจึงจับขาของไอ้แก้วให้กางออกแล้วยัดเยียดความเป็นผัวให้ไอ้แก้ว!!!
เด็กหนุ่มกำลังจะร้องด้วยความจุก มือหยาบกร้านของทหารหน้าละอ่อนก็ปิดปากไอ้แก้วไว้แน่น

โดนแค่นี้ไม่ต้องร้องไป... เดี๋ยวเอ็งก็ได้เป็นเมียพวกข้าอีกเป็นสิบ!!! ฮ่าฮ่าฮ่า!!!”
อื้อๆๆๆ!!!”

ไอ้แก้วพยายามส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือแต่เรียวแรงก็หมดสิ้นแม้แต่เสียงที่จะเปล่งออกมาก็
สุดปัญญาที่จะร้องออกมาได้แขนขาก็สามารถขยับเขยื้อนได้

อยู่นิ่งๆ ซิวะ!!! ถ้าเอ็งไม่อยากตาย!!!”
เสียงหื่นๆ ของหทารหน้าคมกรอกอยู่ข้างหู พร้อมกับการกอดรัดและกระแทกควยเข้าๆ ออกๆ
ในตัวไอ้แก้วอย่างหนักหน่วง รุนแรง!!!

เพราะทหารเหล่านี้ไม่ได้ปลดปล่อยความต้องการทางธรรมชาติหรือเสพสังวาสมานานนับเดือนๆ เพราะล้วนยุ่งๆ กับการศึก
ถึงแม้บางทีจะมีสัมพันธ์กันเองในหมู่ทหารแต่ความหยาบกร้านกรำแดดบางคราก็ทำให้ไร้อารมณ์
แต่พอมาเจอร่างกายงามๆผิวพรรณสะอาดเนียนไปทุกส่วนอันมีตำแหน่งของมหาดเล็กเข้าก็ถึงกับพลุ่งพล่านถึงขีดสุด!!!

ไง... มันไหม อึ๊บๆๆๆ!!! ฮ่าฮ่าฮ่า!!!”
ทหารหน้าคมประกบเย็ดไป พร้อมกระซิบริมหูเด็กหนุ่มไปพรางขบที่ติ่งหูเบาๆ
ไอ้แก้วบางคราวก็จุกแต่บางครั้งก็เสียวปานใจจะขาด

อููยยยย!!! เป็นบุญควยของข้านักที่อยู่ดีๆ เอ็งก็มาให้พวกข้าเย็ดถึงที่... ตั้งแต่ได้เห็นเอ็งที่แม่น้ำ พวกข้าคิดเติงหา(คิดถึง)เอ็งยิ่งนัก
ฝันว่าอยากเย็ดตูดเอ็งให้สุขควยจนน้ำแตกในตัวเอ็งไปเลยฮ่าฮ่าฮ่า!!!”

ทหารหน้าละอ่อนกระซิบกระซาบอยู่ข้างๆหูเด็กหนุ่มไปด้วย
แล้วดึงมือของไอ้แก้วให้มาชักที่ควยตัวเอง
พอสัมผัสที่ควยทหารหน้าละอ่อนไอ้แก้วก็ถึงกับสะท้านทรวง!!!
เพราะมันมีขนาดที่ใหญ่ยาวกว่าทหารหน้าคมมากๆเกือบๆ 8.5 นิ้ว!!!

เป็นไงเจอควยใหญ่ๆของข้าถึงกับอึ้งเลยใช่ไหม แล้วเอ็งจะชอบ!ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!!”
ทหารหน้าละอ่อนกายแกร่งงามเปลี่ยนจากให้ไอ้แก้วชักมาเป็นเย็ดปากไอ้แก้วเอง

ซู้ดดด!!! เสียวหัวควยแต้ๆ”
ตอนนี้ชายฉกรรจ์ทั้งสองต่างหัวเราะร่าอย่างสะใจเอวก็ส่ายยิกๆเย็ดตูดกับปากของไอ้แก้วอย่างเมามัน

อูยยยย!!! ข้าเสียวแต๊ๆ เสียวเหมือนน้ำจะแตกเลย เสียวควยแต๊ๆ ซี้ดดดด!!!”
แม่นแล้วอ้ายหาญ... ข้าเห็นมันที่แม่น้ำวันนั้นข้ายังติดใจบ่หายเอากลับไปชักว่าวจนน้ำแตกตั้งหลายน้ำ”

ทหารหนุ่มหน้าละอ่อนพูดเพ้อ ควย 8.5 นิ้ว ก็เด้งเอวยิกกๆๆๆ ใส่ปากไอ้แก้วอย่างสุขสมอารมณ์
แต่พอพูดเสร็จก็มีเสียงด่าจากทหารหน้าคมเหมือนกลัวว่าความลับจะรั่วไหล

ไอ้ยศ!!! ข้าบอกเอ็งแล้วแม่นก่อ... ว่าอย่าฮ้อง(เรียก)ชื่อข้า... ไอ้โง่!!!”
สุมมาเต๊อะอ้าย... ว่าแต่ข้า อ้ายก็ลืมเหมือนกันนั่นแหละน่าฮ่าฮ่าฮ่า!!!”

ทหารหน้าละอ่อนร่างแกร่งงามหัวเราะอย่างสนุกปากแสดงว่าสถานะของทั้งสองคนสนิทสนมกันยิ่งนัก
และตอนนี้ไอ้แก้วก็ได้รู้แล้วว่าทหารที่กำลังขืนใจมันอยู่นี้

คนนึงมีชื่อว่า “อ้ายหาญ”
อีกคนมีชื่อว่า “อ้ายยศ”

แล้วอ้ายหาญก็จะเปลี่ยนท่า ทันใดนั้นไอ้แก้วก็รวบรวมกำลังเฮือกสุดท้าย!!!
สองเท้าถีบร่างแกร่งๆ นั้นจนหน้าหงาย!!!

แต่เรี่ยวแรงของไอ้แก้วที่ปล่อยออมาทางเท้านั้นกำลังอันน้อยนิดมันจึงไร้ผล!!!

ฮ่าฮ่าฮ่า!!! มีฤทธิ์จ๊าดนักนะเอ็ง!!!บอกหื้ออยู่นิ่งๆ ถ้าบ่อยากเจ็บตัว พวกข้าจะมอบความสุขให้กับเอ็งนักๆ บ่ซอบก๊า!!!”
พอพูดจบอ้ายหาญ ก็พลิกร่างของไอ้แก้วให้คลานสี่ขา
แล้วเข้าประกบตูดกดควยดุ้น 6นิ้วกว่าๆ เข้าประจำที่อีกครา พอมิดลำ!!!

อ๊าซ์!!!”

มันกำจูบไซร้ตามซอกคอของเด็กหนุ่มอย่างบ้าคลั่ง!!!
ไอ้แก้วไม่สามารถขัดขืนได้อีกต่อไปเพราะปากก็ถูกควยทหารหน้าละอ่อนเย็ดจนเต็มปากเต็มคอ
ความเสียวซ่าน! แผ่ไปทั้งตัวทหารหน้าละอ่อน จนมันเชิดหน้าร้องครวญคราง
สองมือกุมหัวให้แก้วให้ดูดดุนท่อนลำของตัวเองอย่างเมามัน

อูยยยย!!! ซี้ดดดด!!!”

ทางด้านขุนหาญก็กำลังเมามันกับการเสพสมประตูหลังของไอ้แก้วอย่างหื่นกระหาย!
สองตาหลับพริ้มอย่างมีความสุขเอวก็ส่ายยิกๆๆๆ กระหน่ำตูดงอนงามของเด็กหนุ่มใส่ตั้บๆๆๆ!!!
สองมือมันกดไหล่ไอ้แก้วจนหน้าแนบไปกับพื้นแคร่

ตอนนี้ไอ้แก้วเลยต้องรับสภาพโดนเย็ดทั้งหน้าหลับควยดุ้นนึงล่อตูด
อีกคนก็ล่อปากดันตัวไอ้แก้วโยกโยนไปมาเด้งหน้า เด้งหลัง รับแรงเสียดทานอย่างน่าสังเวช!
ในที่สุดอ้ายหาญก็ทนความเสียวต่อไปไม่ไหวเมื่อมันกระแทกดุ้นควยกระหน่ำร่องหลืบของไอ้แก้ว
อย่างรุนแรง!!! ทั้งรัวและเร็ว
จนกระทั่งครั้งสุดท้ายมันดึงควยออกจนสุดแล้วกระแทกทีเดียวมิดลำ!!!

อ๊าซ์!!!”
ไอ้แก้วจุกจนเผลอคายควยดุ้นงามของอ้ายยศออกมาจากปาก

ซี้ดดดด!!! อ๊ะๆๆๆ!!!”
พออ้ายหาญก็สำเร็จความใคร่ทะลักน้ำกามเข้าในตัวไอ้แก้วสุขสมดั่งที่มันตั้งใจ

ทหารหน้าละอ่อนชื่ออ้ายยศกับขนาด 8.5 นิ้ว!!! มันก็เข้ามาเย็ดต่อทันที
ในท่าคลานสี่ขายังคงเป็นท่าที่ไอ้แก้วต้องรับวิบากกรรมที่มันคงทำมาแต่ชาติปางก่อน
ชาตินี้ถึงได้โดนกระทำชำเย็ดแบบนี้จากชายฉกรรจ์มากหน้าหลายเผ่า
ทหารหน้าละอ่อนหุ่นแกร่งงามหำใหญ่ บรรจงกดหัวควยที่บานเบอะเข้าในร่องตูดของไอ้แก้วช้าๆ
แต่น้ำอสุจิของเพื่อนทหารยังเต็มร่องตูดจึงทำให้ขนาด 8.5 นิ้ว!!! ไม่เป็นปัญหา

พอควยมันเข้ามิดด้ามไอ้แก้วก็ถึงกับร้องครางด้วยความจุกปนเจ็บ
เพราะถึงแม้ว่านายมันจะมีขนาด 8.5นิ้ว พอกันแต่หลังๆ มานี้ นานๆ ครั้งถึงจะได้ใช้บริการตูดมัน
ทหารหน้าละอ่อนกดเอวไอ้แก้วไว้แน่นไม่ให้หนีหายไปไหน
โยกเอวกระแทกควยเป็นจังหวะเด้าตั้บๆๆๆๆ!!! ด้วยมันเป็นคนมีร่างกายสูงใหญ่บึกบึน
หนำซ้ำควยก็ดุ้นใหญ่ ยาว อวบ หนาโดนกระหน่ำตูดแต่ละทีไอ้แก้วจึงแทบสำลักความสุข!

ซี้ดดด!!! มันควยแต๊ๆ อึ๊บๆๆๆ!!!”
อ้ายยศร้องครางเสียงหลงกับความสุขที่ได้รับจากร่ายกายของเด็กหนุ่ม
สองมือก็บีบคลำไปตามเนื้อตัวของไอ้แก้วอย่างบ้าคลั่ง!!!
ต้อนนี้อ้ายหาญออกไปประจำการข้างนอกแล้วปล่อยให้อ้ายยศหาความสุขจากเรือนร่างงามของไอ้แก้วต่อ

อูยยยย!!! มันควยนักๆ ชักจะบ่ไหวแล้วน้ำข้าแตกแล้วอ๊ะๆๆ!!!”
อ้ายยศร้องอึ๊กๆๆ อยู่หลายทีมันกระแทกรัวๆอีกหลายทีแล้วทะลักน้ำกามเข้าสู่ร่างกายของไอ้แก้วจนหมดตัว
แล้วมันก็นอนฟุบลงกับข้างหลังของไอ้แก้วที่นอนหอบแฮ่กๆ ด้วยความระบมไปตามกล้ามเนื้อ
ผสมกับยาสั่งที่กินเข้าไปยิ่งทำให้เด็กหนุ่มไร้เรี่ยวแรงขัดขืน

ทันใดนั้น!!! ข้างนอกก็ได้ยินเสียงเอะอะมะเทิ่งของทหารดังดูโกลาหล วุ่นวาย!!!
อ้ายยศรีบคว้าเตี่ยว คว้าดาบแล้วรีบกระโจนออกไปทันที เพราะนึกว่ามีการก่อการจลาจลเกิดขึ้น!

ระหว่างที่เกิดความชุลมุนนั้นก็มีชายนิรนามสองคนมาพาไอ้แก้วหนีไปจนไร้ร่องรอยเสียแล้ว
แต่พออ้ายหาญกับอ้ายยศกลับเข้ามาดูร่างของไอ้แก้วอีกทีคนก็ได้หายไปแล้ว!!!

มันไปไหน!!!”
ทหารแหงนพบุรีฯสองนายต่างมองหน้ากันด้วยความแปลกใจ เพราะฤทธิ์ยาสั่งไม่น่าจะหมดไวขนาดนั้น
แต่มันทั้งสองก็จนด้วยปัญญาเพราะไร้วี่แววของเด็กหนุ่มร่างงามที่บำเรอกามให้มันทั้งสองจนน้ำแตก

พอทหารอีกหลายนายเข้ามาถามหาเพื่อจะเสพสุขกับเด็กหนุ่มบ้างก็ต้องผิดหวังที่ไอ้แก้วได้หายไปแล้ว!
ไอ้แก้วรู้สึกตัวอีกทีก็เป็นตอนค่ำแล้วในหัวหนักอึ้ง! ร่างกายไร้เรี่ยวแรง
มองไปรอบๆก็เป็นเรือนไม้หลังใหญ่ แต่ร้างผู้คน

เอ็งตื่นแล้วรึ”
ชายฉกรรจ์หน้าหล่อคมร่างแกร่งผิวเนียนงามอยู่ด้านหน้าส่วนด้านหลังเป็นเด็กหนุ่มหน้าละอ่อนคนนึง
ชายฉกรรจ์หน้าหล่ออายุราว 25 ปี ส่วนเด็กหนุ่มหน้าละอ่อนอายุไม่น่าจะเกิน 18 ปี
ทั้งสองดูคุ้นๆ อย่างบอกไม่ถูกทั้งหน้าตาและน้ำเสียง ไอ้แก้วเหมือนเคยได้ยินที่ไหนซักแห่ง

พอหันไปมองด้วยใจหวาดหวั่น!!! ว่าจะโดนทำร้ายซ้ำอีก

เอ็งบ่ต้องกลัวพวกข้าดอก...เป็นพวกข้าเองที่ไปช่วยเอ็งออกมาจากทหารพวกนั้น”
พวกเอ็งเป็นไผ!”
ความหวาดระแวงเกาะกินใจไอ้แก้วจนหน้าตระหนก!!!

สุมมาเต๊อะ! พวกข้าเองก็เคยทำร้ายเอ็งในคืนนั้น พอสำนึกได้เลยจะหาทางขอโทษเอ็ง”
พวก… พวกเอ็งนั่นเอง!!! ออกไปนะ... อย่าทำข้าอีกเลย”
ไอ้แก้วตะคอกลั่นเรือน! น้ำตาไหลพราก!!! วันนี้เป็นวันโหดร้ายอะไรนี่หนอ
ถึงจะต้องโดนกระทำหยามเหยียดต้องบำเรอกามให้พวกชายฉกรรจ์ผ่านศึกพวกนี้จนหมดเวียงเลยหรืออย่างไรสวรรค์ถึงจะพอใจ

อย่าทำอะไรข้าอีกเลยข้ากลัวแล้วๆ!!!”
ไอ้แก้วถึงกับก้มลงกราบอ้อนวอนจนทหารหน้าหล่อคมเข้ามาประคอง

เอ็งฟังข้าก่อน...พวกข้าจะไม่ทำร้ายเอ็งอีกแล้ว... พวกข้าสำนึกผิดแล้ว!!!”
ใช่ๆๆอ้ายบ่ต้องกลั๋ว! พวกเฮาบ่ทำอันใดอ้ายอีกแล้ว”

เด็กหนุ่มหน้าละอ่อนวัยอ่อนก็เข้ามาปลอบขวัญไอ้แก้วเริ่มจับความรู้สึกและรับรู้ได้ถึงความจริงใจ
ของสองหนุ่มต่างเวียงสภาพจิตใจของไอ้แก้วจึงดีขึ้นมาบ้าง
แล้วทั้งสองทหารเวียงนันทบุรีก็เล่าให้ฟังว่า

เมื่อผ่านไปหลายวันพวกมันทั้ง 5 ก็กังวลจะโดนทางกองทัพนพบุรีฯ จับไปคุมขัง
ข้อห้าทำร้ายคนเวียงนพบุรีฯแต่ผ่านไปหลายวันข่าวก็เงียบไม่มีเรื่องราวใดใด
พวกมันจึงได้รู้ว่าไอ้แก้วไม่ได้แจ้งความเหล่านั้นให้กับใครได้รู้ ยิ่งทำให้พวกมันรู้สึกผิดยิ่งขึ้นไปอีก

พวกมันได้สับเปลี่ยนกันออกสะกดรอยติดตามไอ้แก้วตลอดเวลาหลายวันมานี้
เพื่อหาโอกาสไถ่โทษจนกระทั่งมาเจอไอ้แก้วในสภาพที่โดนกระทำย่ำยีเสร็จไปถึง 2 ดุ้น!!!
และเรื่องก็ยิ่งน่าเศร้าเมื่อผู้ที่กุมเหงน้ำใจกลับเป็นทหารจากคนเวียงเดียวกันเองแท้ๆ
ทหารเวียงนันทบุรีทั้งสองจึงจุดไฟให้เกิดควันแล้วช่วยไอ้แก้วออกมาได้ในที่สุด

ข้าขอบในน้ำใจของพวกเอ็งนักๆ พวกเอ็งชื่อหยัง”
ข้าชื่อภู ส่วนอ้ายนี่ ชื่อหมอก”

ทั้งสองแนะนำตัวด้วยสีหน้าแววตาอันเป็นมิตร
บัดนี้ไอ้แก้วจึงได้เห็นพิจารณาว่าอ้ายภูเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา รูปกายแกร่งงาม
ผิวเนียนแทนไปทั้งตัวลายสับหมึกสวยงามสมชาย

ส่วนอ้ายหมอกหน้าตาละอ่อนหล่อน่ารักกำลังเป็นหนุ่มเต็มตัว แต่ร่างกายสูงใหญ่แข็งแรง

จนผ่านไปสักพัก ทหารหนุ่มอีกสามคนที่เคยล่วงละเมิดรุมเสพสังวาสไอ้แก้วก็กลับมาถึง
ทั้งสามคนก็เข้ามาขอโทษเด็กหนุ่ม เพราะส่ิงที่ทำลงไปก็เนื่องด้วยความเคียดแค้นชิงชังที่เสียเมืองนั่นเอง
จนลืมไปว่าไอ้แก้วที่เป็นมหาดเล็กมีหน้าที่ติดตามรับใช้เจ้านายเท่านั้นไม่ใช่ทหารที่ตีบ้านเมืองของพวกมัน
เด็กหนุ่มเห็นว่าทหารเหล่านี้ล้วนรักบ้านเมืองจีงยินดีอภัยให้

เรื่องราวต่างๆ จึงคลี่คลายไปในทางที่ดี...


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น