วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เรื่องเซ็กส์ของเด็กร่าน บทที่ 62 เสก หนุ่มโรงงานเจ้าเสน่ห์ (1)

ปลายๆเดือนตุลาคมปีนั้นตรงกับวันออกพรรษาซึ่งมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน
ชีพจรก็ลงเท้าผมอีกแล้วครับพี่น้อง 5555

ทั้งๆที่นัดกับไอ้ตี๋อ้นเอาไว้แล้วว่าจะกลับบ้านไปเจอกัน
แล้วไหนจะมีโปรแกรมอะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่างที่อยากจะทำด้วยกัน
“อ้นกะว่าจะพาวินไปดูเขาแข่งเรือยาวที่อุบลฯด้วยอ่ะ
รู้นะว่าชอบ แล้วก็ว่าจะพาไปเที่ยวผาแต้มด้วยดีป่ะ

แล้วก็ข้ามแดนไปซื้อของที่ฝั่งสปป.ลาว ที่ช่องเม็ก...”

เสียงไอ้ตี๋ฟังดูสดใสทุกครั้งที่พูดกับผมถึงเรื่องเที่ยว เพราะอ้นเข้าใจผมที่สุดนั่นเอง
อีกอย่างอ้นคงอยากจะหาโอกาสไปเยี่ยมพ่อกับน้องชาย(ต่างแม่)ที่อุบลฯ ด้วยล่ะมั๊ง
เพราะตั้งแต่ครอบครัวกลับมาเป็นปกติ
พ่อกับไอ้ตี๋อ้นก็ดูสนิทกันกว่าแต่ก่อนผมรู้แบบนี้แล้วก็อดปลื้มแทนไอ้ตี๋อ้นไปด้วย

แต่พอเอาเข้าจริงๆ มันก็ไม่ได้เป็นไปตามโปรแกรมที่ได้วางไว้ต้นเหตุ
ก็เพราะก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน “เสก” โทรมาหาอ่ะดิครับ
ด้วยความที่ไม่ค่อยได้เจอกัน พอคุยกันไปผมก็เลยใจอ่อนให้กับกิ๊กนักมวยรูปหล่อของผมจนได้

ก็ผมมันปากไวดันไปตกปากรับคำกับเสก ว่าจะไปหาในช่วงออกพรรษา
ทั้งๆที่เสกก็ทำงานอยู่ที่ ระยอง โน่น! อยู่กันคนละมุมประเทศเลยก็ว่าได้
คนนึงอยู่เกือบเหนือสุดคนนึงก็อยู่เกือบตะวันออกสุด เฮ้อ! เอากะผมดิครับ 5555

ความเป็นจริงที่ผมยอมรับปากเสกจนกล้ายกเลิกนัดกับไอ้ตี๋น่ะเหรอครับ
นั่นก็เพราะผมกับเสกไม่ค่อยมีเวลาเจอกันเลย เพราะพอผมเรียนจบ ม.6
ส่วนเสกเรียนจบปวส. เราก็ต่างคนต่างต้องทำหน้าที่ของตัวเองไป
เพราะพอเสกเรียนจบก็ไปทำงานที่โรงงานแถวๆ จ.ระยอง

นี่ก็เกือบปีแล้วที่ไม่ได้เจอกันผมก็ย่อมรู้สึกคิดถึงเสกขึ้นมามากเป็นธรรมดา
เพราะเสกสำหรับผมแล้วนั้นเสกเป็นผู้ชายคนนึงที่ผมรู้สึกดีด้วยมากๆ เลยก็ว่าได้
ด้วยความที่เสกอายุมากกว่าผมเขาเลยค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่และที่สำคัญดีกับผมมากๆ ด้วย
และเราสองคนคบกันด้วยใจพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง

และดูๆไปแล้วผมว่าเสกดูจะรู้เรื่องราวความเป็นไปของผมมากกว่าที่อ้นรู้ซะอีก
นับตั้งแต่ที่ผมมาเรียน เชียงใหม่ เราก็โทรคุยนานๆ ครั้ง เดือนนึงครั้งหรือสองครั้ง
ความสัมพันธ์เราสองคนเลยยังไปได้เรื่อยๆ ไม่ได้ห่างหายกันไป

และผมก็ได้รู้ความเป็นไปของเสกตลอดจากปากเจ้าตัวนั่นแหละ
ว่าเขาทำงานที่โรงงานอะไรพักอยู่ที่ไหน เงินเดือนเท่าไหร่ แล้วมีสาวมาตอมมั๊ย
ซึ่งข้อหลังนี่ไม่ต้องห่วงหรอกครับ เพราะระดับเสกแล้ว

ทั้งหล่อทั้งหุ่นงาม แถมยังเป็นนักมวยอีก สาวไหนไม่ชอบก็ไม่ใช่หญิงแล้วครับ 5555
แล้วเวลาคุยกันทางโทรศัพท์ทีไรเสกก็มักจะพูดว่า

“โอ้ย! กูคิดถึงมึงว่ะไอ้วิน!!!...เมื่อไหร่จะได้เจอกันวะ!”

ผมก็ได้แค่หัวเราะแหะๆเพราะตัวผมก็ยุ่งๆ ทั้งเรื่องเรียนที่ต้องประคองให้รอดไป
แต่ละเทอมแล้วก็ไหนจะกิจกรรมในมหาลัยฯ อีก เพื่อนๆ ผมอีกล่ะ
ไหนจะไอ้อี้อีกล่ะแล้วไหนจะเจ้าแจ็คอีกล่ะ โอ้ยๆๆๆ ปวดหัวอ่ะครับ

“อยากเจอก็มาหาที่เชียงใหม่ดี๊!”

ผมแกล้งพูดยั่วเสกหวังให้เสกบ้ายุ แต่ก็ไม่เป็นผลหรอกครับ
เพราะรายเขานี้ต้องทำงานนี่ครับพอติดวันหยุดยาวๆ เสกก็ต้องกลับไปเยี่ยมบ้านตัวเอง

“ถ้ากูว่างก็ดีดิสาดแต่นี่กูต้องทำงาน มึงมันคนเวลาว่างเยอะ มึงมาหากูจะง่ายกว่ามั๊ย”
“ไอ้เรารึก็นึกว่าอยากเจอเราจริงๆ ซะอีก”

ผมพูดเหมือนจะงอนนิดๆแต่ไม่ได้มากมายเหมือนตอนคุยกับอ้นหรอกนะครับ
เพราะเสกไม่ชอบคนอ้อล้อหรือติ๊งต๊องมากๆ อ่ะครับ แหะๆๆ

“เอาน่า...มึงมาหากูหน่อยได้ป่ะอยากเจอมึงจริงๆ นะเนี่ย!
...ถ้ากูไม่ติดงานกูก็อยากจะไปหามึงเหมือนกันแหละน่า”

ผมเข้าใจครับเพราะเสกต้องชกมวยแลกกับเงินมาตั้งแต่อายุน้อยๆ
เลยรู้คุณค่าของเงินมากกว่าผมที่วันๆ เอาแต่แบมือขอเงินแม่อยู่นั่นแหละ
เลยไม่กล้าเซ้าซี้เสกอีกจะว่าไปผมก็ยังไม่เคยไปเที่ยวระยองซักที
ไปหาเสกหนนี้ก็ดีเหมือนกันจะได้เปลี่ยนบรรยากาศมั่ง

“ก้อได้...แล้วไปไงอ่ะ”
และแล้วผมก็ใจอ่อนกับเสกจนได้ฟังเสียงเสกแล้วก็เหมือนจะดีใจไม่น้อย
เมื่อได้ยินว่าผมจะไปหา

“ไม่ต้องห่วงมึงมาถึงกูจะไปรับเอง!...รับรองไม่ปล่อยมึงลอยแพหรอกน่า”
“จริงๆ นะ”
“อ้าว! พูดอย่างนี้แสดงว่ามึงไม่เชื่อใจกิ๊กมึงคนนี้ซะแล้วซิ!”

ผมได้ยินเสกเรียกตัวเองว่ากิ๊ก ก็อดขำออกมาดังๆ ไม่ได้
เพราะยังจำคำที่เสกเคยพูดไว้ตอนแรกๆที่คบกันได้ดี ที่เสกเคยพูดว่า

“ให้กูเป็นแค่กิ๊กก้อได้...แต่ขอเย็ดมึงมากกว่าแฟนมึงนะ”

คำนี้แหละครับเท่าที่ผมจำได้เราสองคนขำกันน่าดู
แต่กว่าที่ผมจะผ่านด่านแต่ด่านแต่ละคนเพื่อหลบไประยองได้ก็แทบแย่เหมือนกันครับ
ทั้งพวกไอ้นิวเพื่อนผมพวกไอ้ดอม เจ้าแจ็ค ที่หวังจะให้ผมไปเยี่ยมเยียนในวันหยุดยาว

แต่ที่หนักใจสุดๆเห็นจะเป็นไอ้อี้นี่แหละครับที่มันดูเหมือนจะน้อยใจผมเอามากๆ
ที่วันหยุดยาวหลายวันทั้งทีผมกลับไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนมัน
อย่างตอนนี้นั่นไงมันนั่งอยู่ที่เตียงทำหน้าทำตาแบบไม่สบอารมณ์เสียเท่าไหร่

“สาด! พอหยุดเรียนปุ้บก็ดันหนีกูไปเที่ยวอีกแล้วนะมึง”

มันพูดติดๆน้อยใจอ่ะครับ จริงๆ แล้วผมฟังมันพูดทำนองนี้มาตั้งแต่สองสามวันก่อนแล้วล่ะครับ
แต่พยายามทำหูทวนลมซะ เพราะไม่งั้นก็ต้องใจอ่อนให้มันอีก

แต่ลองชั่งตวง วัด ดูแล้ว โอกาสที่จะไปหาเสกแบบนี้แทบจะหาได้ยากมากๆ เลยก็ว่าได้
ส่วนไอ้อี้นั้น ผมก็นอนกับมัน กกมันอยู่ทุกวันอยู่แล้ว
เผลอๆ มากกว่าอ้นเข้าไปแล้วนะนั่น 5555

อีกอย่างไอ้นี่มันเพื่อนเยอะจะตายแป้บเดียว เดี๋ยวก็ลืม ผมเลยพยายามกลั้นๆ ใจอ่ะครับ
“สาด! มึงนี่พูดไม่รู้เรื่อง ก้อบอกแล้วไงว่ากูไปทำธุระไปหาพี่สาวกูที่ ตราด”
นั่นไงหาข้ออ้างจนได้นะมึง5555

“ก็แล้วมัยกูไปกับมึงไม่ได้อ่ะแค่นี้ทำหวง”

มันยังหาเรื่องผมไม่หยุดอ่ะครับแต่มองหน้าหล่อๆ ของมันแล้วก็เกือบจะใจอ่อนอ่ะครับ
ผมเกาหัวอย่างมึนๆอ่ะครับ นับวันไอ้นี่มันก็ยิ่งขี้น้อยใจมากขึ้นทุกที
ไม่รู้เป็นเหี้ยอะไรของมันหลังๆ จึงได้รู้ว่ามันอยากให้ผมเอาใจ เอากะมันดิ

“น่านะกูไปหาพี่กูไม่กี่วันเอง นี่ก็ไม่ได้เจอหน้าแกตั้งสองปี อยากเจอหน้าหลานด้วย
...โอกาสหน้าแล้วกันรับรองกูพามึงไปด้วยแน่ๆนะๆๆ”

ผมเข้าไปกอดมันแน่นๆแล้วขยี้หัวของมันเล่นแบบที่ผมกะมันชอบแกล้งกันเป็นประจำ
เวลาทำให้ต่างฝ่ายโกรธหน้าหล่อๆ ของหมอดูมุ่นๆ อารมณ์ดูยังไม่ดีเท่าไหร่
แต่พอผมเข้าไปกอดมันไปแกล้งมันเล่น มันก็เริ่มยิ้มแล้วครับ
เห็นแล้วยิ่งหล่ออ่ะไอ้เพื่อนปากดีของผม

“เลิกเลยสาดไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลัง ทำเหมือนกูเป็นหมาเลยมึง”
“มึงเป็นหมาก็ดีดิกูจะได้เอาไว้เฝ้าบ้าน ดุๆ อย่างมึงจะได้ไม่ต้องกลัวขโมย 5555”
“พูดอย่างนี้ใช่มั๊ย!....”

ว่าแล้วมันก็ผลักผมลงที่เตียงแล้วแกล้งไซ้คอผมใหญ่
ผมจั๊กกะจี้เลยร้องเสียงหลงอ่ะครับ

“ไม่เอาปล่อยกูๆสาดอี้กูบอกให้ปล่อย 5555”

มันเห็นแบบนั้นก็ยิ่งได้ใจใหญ่เลยยิ่งแกล้งหนักเข้าไปอีกถึงกับถอดเสื้อผมออก
ผมสู้แรงมันไม่ได้อยู่แล้วเลยต้องยอมให้มันถอดเสื้อออกจากตัว
พอมันถอดเสื้อผมได้มันก็กัดหัวนมผมซะเจ็บเลยครับเพราะไอ้นี่มันชอบแกล้งผม

“โอ้ย! ซี้ดดด!กูเจ็บนะสาดอี้... อือออ”

ปากด่าแต่ก็ปนเสียงครางเบาๆไอ้อี้มันก็รู้แล้วอ่ะนะว่าผมน่ะพร้อมจะให้มันล่อแล้ว
มันเลยถอดเสื้อมันออกมั่งโชว์กล้ามกับผิวงามๆ ของมัน โคดน่ามองอ่ะครับ
ผมลูบไล้เนื้อตัวมันไปมาอย่างพึงพอใจถึงจะนอนร่วมหอร่วมเตียงกันทุกวันก็เหอะ
(หลังจากได้เสียกันหนนั้นก็เอาเตียงมาต่อกันเพื่อจะได้นอนด้วยกันไงครับ)

เนื้อตัวมันน่าจับน่าลูบไปหมดทั้งตัวเล่นเอาผมมีอารมณ์ร่วมสัดๆ อ่ะ
แล้วเราสองคนก็ดูปากกันนัวเนีย รสปากมันน่าดูดอยู่แล้วอ่ะครับ
แม้ว่าเมื่อคืนผมจะโม๊คควยให้มันจนน้ำแตกคาปากไปทีนึง
แล้วก็ให้มันเย็ดตูดไปอีกดอกนึงก็เหอะ

แต่มันคงจะอยากเย็ดชดเชยที่ผมจะไม่ได้อยู่อีกสองสามวันมั๊ง
ตอนนี้มันถึงได้ดูคึกจัดราวกับอยากจะขย้ำผมซะเต็มแก่
ซึ่งก็อย่างที่เคยๆเกริ่นอ่ะครับ ว่าเราแม้จะนอนด้วยกันทุกคืน

แต่ผมก็ไม่ค่อยให้มันเอาตูดบ่อยๆหรอกครับ อาทิตย์นึงก็สองถึงสามครั้งเท่านั้น
อย่างมากก็โม๊คควยให้มันจนน้ำแตกแล้วมันก็ว่าวให้ผมแล้วก็นอนแค่นั้น

เพราะผมกลัวว่ามันจะเบื่อซะก่อน และมันเองก็ไม่ใช่คนขี้เย็ดเหมือนพี่ชาติด้วย
และพอผมกับมันจะเย็ดกันจริงๆเลยทำให้อารมณ์เราสองคนดูคึกคักได้ใจเสียทุกทีไป
พอดูดปากกันจนพอใจแล้วมันก็จับขาผมพาดบ่าแล้วล่อตูดผมแบบมันยกร่องไปเลยครับ
พี่น้องก็ไอ้นี่มันลีลาธรรมดาเสียที่ไหน บอกได้คำเดียวว่า สุดยอด! อ่ะ 5555

“ซี้ดดดดดีว่ะสาดอี้ แรงๆ เลยกูชอบ อืมมมม”
ผมกัดปากด้วยความสะใจส่วนไอ้อี้มันก็เด้งควยใส่ผมไม่เลี้ยง พั่บๆๆๆๆ

“อึ๊บๆๆๆมันควยว่ะเชี่ยวิน อูยยย ขมิบตูดด้วยเหรอมึง อือออ ร้ายจริงๆ นะมึง อูววว”

มันพูดไปเอวก็ส่ายไวขึ้นๆ  แล้วไม่ถึงครึ่งชั่วโมงผมกับมัน ก็น้ำแตกกันไปคนระรอบ
แล้วเราสองคนนอนกกกันอย่างสุขใจแล้วผมก็อาบน้ำแต่งตัวเพื่อออกเดินทางส่วนไอ้อี้ก็ทำหน้าที่ของมันไป
คือขับรถมาส่งผมที่อาเขตพร้อมกับสั่งเสีย เอ๊ยอวยพรครับ 5555

“เดินทางปลอดภัยนะโว้ยอย่าไปชนรถเขาเข้าล่ะ กูเป็นห่วงเดี๋ยวพ่อมึงไม่มีตังค์ไปจ่ายเขา”
ฟังมันพูดดิครับแม่งนี่คนนะโว้ย ไม่ใช่ควาย สาดนี่ 5555

“เออ! มึงก็เหมือนกัน อยู่ห้องก็ทำตัวดีๆ ล่ะอย่าไปขวางตีนใครเข้า กูก็ห่วงมึงเหมือนกัน อิอิอิ”
ว่าไปนั่นปากผมนี่นับวันผมก็ปากร้ายเหมือนมันเข้าไปทุกที เหมาะสมกันจริงๆ 5555

แล้วผมก็นั่งรถมองมันจนสุดตาอ่ะครับมันก็ยืนมองผมจนรถผมออกมาไกลแล้วนั่นแหละ
มันถึงได้ขับมอไซค์กลับไป

ตลอดทางก็คิดถึงคนนั้นคนนี้ไปเสียทุกคนนั่นแหละครับ
ทั้งไอ้ตี๋อ้นที่ผมไปผิดนัดหมอ แต่หมอก็ไม่เคยทำตัวให้ผมรู้สึกแย่นะครับ

“ถ้ามีธุระก็ไปทำเถอะเจอกันเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องคิดมาก”

นั่นเป็นคำพูดของอ้นที่ผมนึกถึงทีไรก็สุขปนเสียใจทุกที เสียใจที่ต้องโกหกแฟนงัย
แล้วก็ไอ้อี้ปากดีที่ผมเพิ่งจากมันมาหยกๆกับรสเซ็กส์ที่ร้อนตูดมาได้ไม่ถึงชั่วโมง
แล้วก็ไอ้เจ้าแจ็คกิ๊กเด็กที่คิดถึงทีไรเป็นเปรี้ยวปากเสียทุกที5555

สุดท้ายก็เสกเพราะรายนี้เจอหน้ากันน้อยที่สุดในรอบปีเลยก็ว่าได้
คิดถึงตั้งแต่ตอนเจอกันครั้งแรกที่บ้านครูมวยคิดถึงตอนไปเที่ยวน้ำตกด้วยกัน

ตอนที่ผมไปดูเขาชกมวยและตอนที่ผมไปค้างกับเสกที่หอตอนเรียนเทคนิค
เฮ้อ! อีกไม่นานก็เจอแล้วเนอะ ป่านนี้คนหล่อๆหุ่นดีๆ อย่างเสก
จะเปลี่ยนไปมากแค่ไหนก็ไม่รู้

ผมไปถึงหมอชิตก็ต่อรถไประยองอีกต่อตลอดทองเสกก็โทรมาถามตลอดว่าถึงไหนแล้ว
ด้วยความเป็นห่วงพอๆ กับไอ้อี้ที่โทรมาเกือบทุกๆ สามชั่วโมงก็ว่าได้

“ถึงไหนแล้วสาดระวังตัวด้วยนะสาด อย่าไปพูดกับคนแปลกหน้านะโว้ย!”

สารพัดที่มันจะกำชับผมด้วยความเป็นห่วง ไมเห็นต้องห่วงเลยเพราะผมน่ะชอบเดินทางจะตาย
มีอะไรให้เรียนรู้และได้เห็นเยอะแยะสนุกจะตาย พอไปถึงระยองเสกก็มารับอย่างที่สัญญาเอาไว้

ผมสำรวจเสกทั้งตัวอดยิ้มอย่างดีใจไม่ได้เพราะเสกดูเปลี่ยนไปเยอะ
แต่ก็คงความหล่อคมแบบหนุ่มอิสานเอาไว้แบบคงที่
เขาดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากหุ่นแน่นขึ้น และผิวก็คล้ำขึ้น
เสกเข้ามากอดคอผมอย่างดีใจผมสัมผัสได้ถึงความผูกพันที่เสกส่งผ่านทางการสัมผัส

“เป็นงัยมั่งวะมึงเดินทางมาตั้งไกล”
“เหนื่อยนิดหน่อยอ่ะแต่ได้เห็นวิวภูเขา ต้นไม้ สองข้างทางก็เพลินตาดี”
“5555มึงนี่มันนักเที่ยวตัวยงจริงๆ นะสาด ไปๆ ไปห้องกูจะได้อาบน้ำพักผ่อน”

“อือแล้วห้องเสกไปทางไหนอ่ะ”
“ออกไปนอกเมืองหน่อยว่ะแต่บรรยากาศดีโคดๆ แล้วมึงจะชอบ”

เสกสาธยายซะน่าสนเลยครับแต่จากการที่โทรคุยกันตลอด
ทำให้ทราบว่าเสกพักอยู่กับเพื่อนอีกคนเป็นญาติๆ กัน แต่ผมไม่รู้จักหรอกครับ

ว่าแล้วเสกก็กอดคอผมเดินไปที่รถมอไซค์
แล้วเสกก็พาผมลัดเลาะออกมาเรื่อยๆซึ่งห้องพักของเสกจะอยู่แถบๆ นอกเมือง
ผมกอดเอวเสกแน่นด้วยความคิดถึงตลอดทางเราคุยกันไปอย่างออกรส
เพราะไม่ได้เจอกันนานพอดูแล้วผมก็แอบหอมแก้มเสกตอนเผลอด้วย

เสกก็ได้แต่ยิ้มๆ  แล้วดึงมือผมไปกุมที่เป้าตัวเองแบบไม่อายเหมอนกัน
ผมก็กำแบบเต็มๆเลยดิครับ ก็เจ้าตัวอนุญาตแล้วนี่นา5555

การที่ผมได้มาเที่ยวระยองครั้งนี้ความรู้สึกผมมันก็เหมือนๆกับทุกๆ ครั้งที่ได้ไปเที่ยวนั่นแหละครับ
นั่นก็คือความรู้สึก ตื่นเต้น ตื่นตาตื่นใจไปซะหมด
กับประสบการณ์ใหม่ๆที่จะเกิดขึ้นจากการเดินทางครั้งนี้
ไม่รู้ว่าเพราะผมเป็นคนรักการท่องเที่ยวหรือบ้าเที่ยวกันแน่นะ 5555

เพราะการที่ได้เดินทางไปในที่ต่างๆกัน ทั้งแปลกตา ได้ไปเห็นบ้านเมืองและผู้คน
รวมไปจนถึงสำเนียงการพูดที่แปลกและแตกต่างกันออกไปตามถิ่นที่อยู่

ทำให้ได้เปิดหูเปิดตารวมไปจนถึง “เปิดใจ” ยอมรับในเรื่องของความต่างได้อย่างง่ายๆ
แต่ผมว่าถึงเราจะต่างกันยังงัยก็เถอะแต่สิ่งหนึ่งที่เรามีเหมือนๆ กันก็คือ การเป็น “คนไทย” เหมือนๆ กันจริงมั๊ยครับ

สำหรับผมแล้วผมคิดถึงคำๆนี้ตลอด นั่นคือ “ไม่แบ่งแยกไม่แตกต่าง”
เสกพาผมขับมอไซค์ออกมานอกเมืองเรื่อยๆบรรยากาศก็เหมือนกับต่างจังหวัดทั่วๆ ไป
คือโล่งๆสบายตา ตลอดทางเราก็คุยกันไม่หยุดปาก

แต่ส่วนมากก็เป็นผมซะมากกว่าที่จ้อไม่หยุด ก็รู้ๆกันอยู่ว่าเสกไม่ใช่คนพูดมากอยู่แล้ว
แผ่นหลังของเสกยังคงน่าซบเสมอสำหรับผมเพราะทั้งกว้างทั้งล่ำตามประสาอดีตนักมวย
แม้ว่าตอนนี้เสกจะแขวนอาชีพนี้ไป

แล้วและมาเอาดีทางด้านงานช่างฯของโรงงานแล้วก็ตาม
แต่ความหล่อความล่ำ และผิวเนียนสวย ก็ยังมีอยู่ครบในตัวเสก
ที่สำคัญเสกก็เป็นคนที่ผมชื่นชมและนับถือมากๆทั้งในเรื่องนิสัยใจคอ
ที่ซื่อสัตย์แต่ก็ฉลาดทันคน
และไม่เคยเปลี่ยนเลยก็ว่าได้คือเป็นยังงัยก็เป็นอย่างนั้น

“แล้วไอ้ต้อยสบายดีป่าววะกูไม่ได้เจอมันตั้งเกือบปีแล้ว ตั้งแต่มาทำงานที่ระยองก็ไม่ได้กลับบ้านอีกเลย”

“ก็สบายดีมั๊ง...เราก็ไม่ค่อยได้กลับบ้านเหมือนกัน...
แต่ก่อนจะมาระยองก็โทรไปคุยกับมันแล้วนะมันก็ฝากความคิดถึงมาหาเสกด้วย”

“ไอ้ต้อยมันน่าคบก็ตรงนี้แหละคือรักเพื่อน”

ผมก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วยเพราะไอ้ต้อยกับเสกจะว่าไปก็นิสัยคล้ายๆกันคือซื่อสัตย์แต่ก็ฉลาดทันคน
และผ่านไปกี่ปีๆ ก็ไม่เคยเปลี่ยน

ผมกอดเอวเสกแน่นเพราะไม่ได้เจอกันมานาน เสกก็อ้อมมือมาลูบหัวผมอย่างสนิทสนม
ผมรู้สึกดีจนคันปากอดอยากแกล้งเสกเล่นๆเสียไม่ได้

“อยู่ที่ห้องคงไม่เจอเมียเสกรออยู่หรอกนา...ถ้าเจอเป็นตีรถกลับจริงๆด้วยเอ้า!”
“โอ้ย! สาดวิน...มึงก็รู้ว่ากูยังไม่คิดมีห่วงถ้ามีเมียกูจะชวนมึงมาเที่ยวระยองเหรอวะ”
“อ้าว! ใครจะไปรู้ล่ะคนเราสมัยนี้เชื่อได้ที่ไหน ไวไฟกันจะตาย”
(มึงก็คนนึงล่ะไอ้วิน5555)

ผมยังแกล้งกวนประสาทเสกต่ออย่างน่าเตะ
แต่เสกก็พยายามอธิบายให้ผมเข้าใจต่อไปอย่างไม่ลดละ

“ก็เท่าๆที่มึงรู้นั่นแหละสาด สาวๆ น่ะก็มีหลายคน แต่กูก็ยังไม่คิดจริงจังกับใครโว้ย!”
“เหรอๆๆๆ...แล้วผู้ชายล่ะมีมาจีบมั่งป่ะ”
แล้วผมก็อดที่จะตั้งคำถามที่เสี่ยงต่อการโดนตีน! ไม่ได้ 5555

“มีซิวะ!...พวกเกย์ที่โรงงานมีน้อยเสียเมื่อไหร่ แต่เห็นหุ่นแต่ละคนกูก็ทานไม่ลงว่ะแม่งบางคนล่ำกว่ากูอีก
...ไม่เหมือนมึงตัวเล็กๆ ขาวๆ กูชอบ”

ว่าแล้วเสกก็เอามือซ้ายลูบขาอ่อนผมไปมาแม่งได้ฟิวส์อ่ะครับท่านผู้ชม
แถมยังได้ใจไอ้วินไปเต็มๆอีกตะหาก พูดแบบนี้รักตายเลยอ่ะ 5555
แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังส่งสำเนียงกวนบาทาเสกต่อ

“จริงเด่ะ”
“ก็เออซิวะ...บ๊ะ! มึงนี่กวนประสาทกูซะจริงๆ 5555”

พอยิ่งคุยเสกก็คงจะรู้แกวแล้วมั๊งว่าผมแกล้งเลยเขกที่เข่าผมเบาๆ หนึ่งที
อย่างที่เสกชอบเล่นกับผมเป็นประจำตอนอยู่ด้วยกันตามลำพัง บ่งบอกว่าเสกไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจริงๆ

“โอ้ย! เจ็บนะเนี่ย”
ผมแกล้งสำออยแต่เสกก็หัวเราะร่วนอย่างสบายใจ เพราะรู้งัยว่าผมไม่ได้เจ็บจริงๆ

“โดนแค่นี้ทำเป็นร้องทีอย่างอื่นล่ะก็บอกให้ทำแรงๆ นะมึง 5555”
“อย่างอื่นน่ะอันนี้ใช่ป่าวฮึ!”

ผมไม่พูดเปล่าแต่กำหมับเข้าให้ที่เป้ากางเกงยีนส์ของเสกแบบเต็มๆมือ โฮะๆๆๆ
แหมช่างเร้าอารมณ์และได้ใจไอ้วินจริงๆครับท่านผู้ชม

ก็ทางออกจะโล่งขนาดนี้นี่ครับเลยกำแบบไม่อายใคร
ก็ไม่ได้จับควยเสกมาตั้งนานนี่นาเลยกำจนติดลมไปหน่อย

“จับมากๆเดี๋ยวมันแข็งขึ้นมามึงจะเจ็บตัวนะสาด”
“จริงเด่ะ...อิอิอิอิ”
“เออ! แต่พอก่อนได้ป่าววะตอนนี้ควยกูมันแข็งจนปวดควยแล้วว่ะ กางเกงยีนส์ยิ่งคับๆ อยู่ด้วย”

เป็นอย่างที่เสกว่าจริงๆอ่ะครับ เพราะตอนนี้ควยเสกเริ่มแข็งตามแรงขยำของผมแล้ว
ผมเห็นใจเสกเลยปล่อยมือจากการกำควยเสกเล่นแล้วกอดเอวเสกแน่นๆแทน
ฮู้!กลิ่นอายของเสกนี่ยังหอมน่ารับประทานไม่เปลี่ยน

ตลอดทางผมสังเกตได้ว่าจังหวัดนี้จะมีโรงงานใหญ่ๆ อยู่หลายแห่ง
ถ้าบอกชื่อก็คงพอคุ้นหูกันบ้างแหละน่า

ส่วนอพาร์ทเม้นท์ของเสกก็อยู่ไม่ไกลจากโรงงานที่ทำเท่าไหร่นัก
และบรรยากาศก็เป็นอย่างที่เสกพูดไว้ดูสะอาดและร่มรื่นไปด้วยแมกไม้ที่รายรอบ
แสดงว่ารายได้จากงานที่ทำคงจะดีพอตัว

ไม่งั้นคงไม่สามารถสรรหาห้องพักที่น่าอยู่ขนาดนี้ได้แน่ๆ
แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่กล้าที่จะถามเสกหรอกครับว่าได้เงินเดือนเท่าไหร่
เดี๋ยวจะหาว่าละลาบละล้วงมากจนเกินไปเพราะถ้าอยากจะบอกเสกก็คงจะบอกเองนั่นแหละ
แล้วผมก็ได้รู้ตอนที่เสกเล่าให้ฟังเองว่ารายได้ต่อเดือนเกือบสองหมื่นบาท

หรือเผลอๆเดือนไหนทำโอทีไม่หยุดก็เหยียบสามหมื่นบาทแน่ะ
แถมเป็นงานที่ทำแต่ในโรงงานไม่ต้องเจ็บตัวเหมือนตอนต่อยมวยด้วย

ผมได้ยินแบบนี้ก็สบายใจอ่ะครับที่เสกมีงานดีๆ อนาคตดีๆ อย่างที่ผมภาวนา
ข้างหลังอพาร์ทเม้นเป็นสวนมะพร้าวแซมกับทุ่งหญ้าโล่งๆมองแล้วสบายตา
เสกพักอยู่กับเพื่อนอีกคนนึงแต่จริงๆ แล้วเป็นญาติกับเสกนั่นแหละครับ
คือเป็นลูกพี่ลูกน้องกันอายุมากกว่าเสกหลายปี
และพอเสกเรียนจบก็ก็เป็นคนฝากเสกเข้าทำงานที่โรงงานที่ทำปัจจุบัน
เพราะจบช่างกลฯมาเหมือนกัน

แต่วันที่ผมไปถึงญาติเสกก็กลับต่างจังหวัดเพราะมีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน
แต่จริงๆแล้วก็ไปบ้านหญิงนั่นแหละครับ ก็ว่าไม่ได้เนอะคนกำลังจะแต่งงานนี่นา
ก็ย่อมจะติดกันงอมแงมเป็นธรรมดาเพราะเป็นวันหยุดยาวๆ แบบนี้ทั้งที
เป็นใครก็คงอยากไปหาแฟนตัวเองกันทั้งนั้น
แต่ผมน่ะมันพวกทวนกระแสดันดอดมาหากิ๊กถึงระยอง แทนที่จะไปหาแฟนตัวที่บ้าน 5555

ห้องพักของเสกอยู่ชั้นสามกำลังดีไม่ต่ำและไม่สูงไปด้วยความที่ข้างหลังเป็นสวนมะพร้าว
และทุ่งหญ้าโล่งๆเลยมีลมพัดมาเอื่อยๆ มาตลอดวัน เสกเล่าว่า วันไหนอารมณ์ครึ้มๆ
เขาก็จะชวนเพื่อนๆไปนั่งก๊งกันในสวนมะพร้าว เพราะเจ้าของรู้จักกับพวกเสกดี
และไม่ได้หวงห้ามอะไร มิหนำซ้ำยังเคยก๊งเหล้าด้วยกันออกบ่อยๆ

พอถึงห้องเสกผมก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าค่อยรู้สึกสบายตัวขึ้นมาหน่อย
ส่วนเสกก็ลงไปซื้อกับข้าวมาทานกันผมกำลังยืนชมกินลมชมวิวที่ระเบียงสบายๆ
เสกก็เปิดประตูเข้ามาพร้อมถุงส้มตำไก่ย่างถุงใหญ่และผลไม้อีกสองสามอย่าง
ก็อยู่ด้วยกันมานานเสกรู้นี่ครับว่าผมชอบทานผลไม้
ถึงทำให้ผิวพรรณดีแฟนรักกิ๊กหลงอย่างนี้งัย 5555 (กูจะอ๊วก!)

“วิน...มากินข้าวได้แล้วมึง”
“ได้อะไรมากินมั่งอ่ะ”

“ก็ที่มึงชอบทั้งนั้นแหละส้มตำ ไก่ย่าง แคบหมู ...(พูดเสร็จก็ทำหน้ากรุ้มกริ่ม)...
ส่วนใส้กรอกต้องรอกินข้าวเสร็จก่อนนะโว้ยอันนี้กูมีพกติดตัว5555”

พูดเสร็จก็กำๆที่เป้ากางเกงยีนส์ตัวเองจนขึ้นรูป!
ฮั่นแน่มีแย้บเล็กๆแบบนี้ก็เข้าทางโจรดิครับ  อิอิอิ
แบบนี้แสดงว่าเสกก็คงจะอยากพอๆกับผมนั่นแหละน่า ว่าป่ะ

“ไหนๆๆ...อันนี้ใช่ป่าว”
ผมพูดปุ้บก็กำปั๊บเข้าให้ที่เป้ากางเกงยีนส์ของเสกทันทีว้าว! หยุ่นๆ ซะด้วย

“สาด..อันนี้รอก่อนดิวะกินข้าวก่อนค่อยกินเดี๋ยวกูก็ให้มึงกินจนเบื่อนั่นแหละน่า”
แต่ผมได้กำแล้วนี่ครับมันเลยติดลม เพราะไม่ได้กินควยเสกมาก็นานโข

“น่านะๆๆกินใส้กรอกเสกก่อนค่อยกินข้าวก็ได้”
“เอางั้นเหรอวะ”
“เอางั้นเลยแหละอิอิอิ”

ผมพยักหน้าอย่างมีอารมณ์สุดๆแล้วเอาหน้าก็เอาไปคลุกเคล้าที่เป้ากางเกงเสกอย่างได้อารมณ์
กลิ่นเป้ากางเกงยีนส์หนุ่มช่างฯโรงงานเนี่ย ได้ใจไอ้วินเหลือทน
และตอนนี้มันก็โป่งพองจนดันกางเกงออกมาแทบจะระเบิดก็ว่าได้........

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น