วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เรื่องเซ็กส์ของเด็กร่าน บทที่ 63 การเดินทางกับกิ๊กหนุ่มเจ้าเสน่ห์

เราออกเดินทางกันแต่เช้าเพื่อไปให้ถึงบ้านพี่สาวผมก่อนเที่ยง
เมื่อคืนผมก็โทรไปหาพี่สาวก่อนแล้วล่ะครับ ว่าพอดีมาทำธุระแถวๆ นี้
เลยจะไปเยี่ยมพอพี่สาวผมรู้เท่านั้นแหละดูจะดีใจยกใหญ่

แถมยังบอกอีกว่าจะเตรียมพวกอาหารทะเลเผารอผมเพราะรู้ว่าผมชอบกิน
ผมเองก็รู้สึกตื่นเต้นมากๆ เพราะไม่ได้เจอพี่สาวกับพี่เขยเกือบสองปี

ครั้งหลังสุดก็ตอนที่พี่สาวพาหลานคนแรกมาเยี่ยมบ้านก็ประมาณ สองปีที่แล้ว
ตอนี้พี่นิลได้ลูกสองคนแล้วไม่รู้ว่าตอนนี้จะเปลี่ยนไปแค่ไหน
ผมนั่งกับเสกที่เบาะหน้าส่วนไอ้ปั้นมันนั่งที่เบาะหลัง

ตลอดทางผมกับเสกก็คุยกันถึงเรื่องเก่าๆเพื่อนเก่าๆ ที่ไม่ได้เจอหน้าค่าตากันมานาน
อย่างพวกไอ้ต้อยไอ้เข้ ไอ้หนุ่ม ไอ้เขต และไอ้จอม
ก็ได้รู้ว่าพวกมันต่างก็แยกย้ายกันไปคนละทิศละทาง

อย่างไอ้ต้อยนี่ผมก็รู้เรื่องราวมันตลอดนั่นแหละครับ
เพราะเป็นทั้งญาติกัน และเป็นทั้งคู่ขาสุดมันส์ 5555

ไอ้นี่พอมันเรียนจบ ม.6 มันก็สอบเข้าเรียนวิทยาลัยพลศึกษา
ช่วงไหนที่มีงานมันก็ยังคงรับจ็อบออกไปต่อยมวยเหมือนเดิม
แต่ไอ้ต้อยนี่จะแปลกออกไปจากคนอื่นๆ

คือ หนุ่มๆ แถวบ้านผมส่วนใหญ่ พอเรียนจบก็อยากจะไปหางานทำในกรุงเทพ
หรือไม่ก็ที่อื่นที่มีงานดีๆ รายได้ดีๆ

แต่มันกลับตั้งความหวังไว้ว่าถ้ามันเรียนจบมันจะหางานทำแถวๆอำเภอ
หรือไกลสุดก็คงอยู่ในตัวจังหวัดเพราะไม่ค่อยอยากไปไหนไกลๆ บ้าน
พอผมกลับไปบ้านเมื่อไหร่ก็ได้มันส์กับมันได้ตลอด
เพราะมันเองก็ไม่เคยปฏเสธผมได้ซักที 5555

ส่วนไอ้เข้ พอเรียนจบปวส. มันก็เลิกต่อยมวยแล้วหันมาทำงานเป็นหลักเป็นแหล่ง
ก็ได้งานเป็นช่างฯอยู่แถวๆ กรุงเทพฯ โดยพักอยู่กับไอ้จอม เพื่อนมัน

ส่วนไอ้หนุ่มมันก็เรียนต่อปริญญาตรี เพราะบ้านมันฐานะดีกว่าเพื่อนคนอื่น
ส่วนไอ้เขตอีกไม่กี่เดือนก็คงจะจบปวส. ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดนะ
เพราะไอ้นี่มันค่อนข้างเกเร หัวดีแต่ขี้เกียจอะไรประมาณนั้น
ดีหน่อยที่หน้าตากับลีลาเย็ดนั้นเด็ดดวง! 5555

แต่คนอย่างมันคงหางทางออกให้ตัวเองได้ไม่ยากหรอกนะ
“ไม่ได้ต่อยมวยอีกรู้สึกเป็นงัยบ้าง เสียใจป่าว”
ผมทำทีเป็นพิธีกรซักไซ้เสกไปตลอดทางแต่เสกก็ไม่ยักกะรำคาญแฮะ

“ตอนแรกก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนกันว่ะ ก็กูเกิดมาจากมวยนี่หว่า

บางทีก็คิดถึงหน้าครู คิดถึงหน้าเพื่อนที่บ้านครูมวย
เนี่ยกะว่ากลับไปบ้านช่วงปีใหม่

จะหาซื้อของฝากไปฝากพ่อครูซะหน่อยเพราะพ่อครูก็เหมือนพ่อคนนึงของกู
เห็นไอ้ต้อยบอกว่าพ่อครูบ่นๆ หากูอยู่ด้วย”

“ก็เสกเป็นลูกรักนี่นา”

ผมพูดไปตามน้ำอ่ะครับเพราะที่เห็นมาก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
และเท่าที่เห็นพ่อครูก็ดูจะเอ็นดูเด็กในสังกัดอยู่แค่ไม่กี่คน
อย่างเสกกับไอ้ต้อยก็อยู่ในกลุ่มลูกรักด้วย

และคนที่จะเจริญในอาชีพนี้ได้ก็ต้องเชื่อฟังครูบาอาจารย์
และที่ไม่ค่อยสำเร็จในอาชีพนี้ก็มีมากอย่างพอดังๆ หน่อยก็เสียผู้เสียคนเพราะผู้หญิงมั่ง

เพราะยามั่งเพราะฟุ้งเฟ้อมั่ง และมั่นใจเกินไปว่าตัวเองเก่ง เลยไม่ค่อยฝึกซ้อม
แต่เสกกับไอ้ต้อยไม่เคยลืมและเชื่อฟังครูมวยตลอดทำให้ได้ดีมาจนถึงทุกวันนี้

“เพราะคนดีต้องมีครู”
ใช่มั๊ยครับ

สำหรับเสกตอนนี้ผมก็ทำให้ผมสบายใจมากๆ เลยล่ะครับ
ที่เสกหันมาทำงานทำงานเป็นเรื่องเป็นราวแบบนี้

ดีกว่าจะไปตระเวนเดินสายต่อยมวยทั่วราชอาณาจักร
เพราะต่อยมวยกลับมาแต่ละทีก็หน้าแหก คิ้วแตก ปากเจ่อ ฯลฯ สารพัด
เฮ้อ!เห็นแล้วน่าสงสารอ่ะครับ ก็คนอย่างเสกผมว่าน่าจะอยู่เป็นที่เป็นทางจะเหมาะกว่าอ่ะ
แต่ถึงว่าอ่ะนะคนเราคิดแทนคนอื่นหรือตัดสินแทนใครไม่ได้หรอก

เพราะชีวิตเป็นของเขาเราเป็นแค่กิ๊กก็ได้แค่แนะนำ จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็อีกเรื่อง
ผมกับเสกคุยๆกันไปอย่างออกรสแต่ส่วนใหญ่ผมจะเป็นคนจ้อซะมากกว่า 5555

เสกก็จะเสริมบ้างพอให้การคุยออกรสหรือบางครั้งเสกก็จะมีอำผมนิดๆ หน่อยๆ

“แล้วมึงอยู่เชียงใหม่มีกิ๊กเยอะป่าววะแต่กูว่าร้ายๆ อย่างมึงคงไม่เหลือ 5555”
“เหลือเหลอ อะไรกันเล่าเสกก้อ เราก็มีแค่อ้นกับเสกนั่นแหละ”

พูดเสร็จก็ทำหน้าทำตาบ๊องแบ๊วอ่ะครับ เพื่อเรียกคะแนนสงสาร
(แหวะ! จะอ๊วก! 5555)

“เหรอวะ! เออโทดทีที่กูดูมึงผิด”

พูดเสร็จเสกก็กัดกำปั้นแบบขำๆแบบว่าไม่ค่อยจะเชื่อที่ผมพูดเท่าไหร่นักหรอก
ผมดูก็รู้เพราะหูตาเสกมันฟ้องว่ารู้สึกอย่างนั้น

ผมเลยตุ้ยท้องเสกเบาๆไปทีนึง แต่พอตุ้ยเสร็จกลับไม่ได้ดึงมือ
แต่กลับเอามือคาไว้ที่ท้องแกร่งเป็นลอนของเสกอยู่อย่างนั้น
แล้วค่อยๆเลื่อนมือไปที่เป้ากางเกงยีนส์ของเสกเบาๆ ว้าว! ได้อารมณ์อีกแระ ฮิๆๆๆ
แล้วผมก็ทำหน้ากะลิ่มกระเหลี่ยแทนที่เสกจะว่ากลับเอาแต่ยิ้มๆ พร้อมยังยักคิ้วยิกๆ แบบกวนๆ อีกแน่ะ

เฮ้อ! เสกนี่แย่จังทำเอาผมชักจะมีอารมณ์อีกแล้วดิ
จนผมนั่นแหละที่ต้องเป็นคนอายแทนจึงดึงมือกลับเอง
อย่างนี้เขาเรียกว่า“พูดน้อยต่อยหนัก” ได้มั๊ยเนี่ย 555

ส่วนไอ้ปั้นมันก็เอาแต่หลับตลอดทางตามประสาคนชอบนอนดึกและติดหนัง
อย่างตอนที่มันนั่งหลับอยู่มีหลายทีที่มันเอาหัวไปก่ายคนที่นั่งอยู่ข้างๆ
ซึ่งเป็นคุณป้าวัยกลางคนแกก็ทำหน้าแปลกๆ แบบรำคาญอ่ะครับ
ผมกับเสกเห็นแล้วก็หัวเราะกันขำๆ

จะว่าไปแล้วการได้มาเที่ยวกับเสกแบบนี้นับว่ามีไม่ค่อยบ่อยนักหรอก
เพราะผมกับเสกค่อนข้างอยู่ไกลกันมากๆและต่างก็มีทางที่ตัวเองต้องเดิน
(ไม่เหมือนอ้นแม้จะอยู่ไกลกันไอ้ตี๋ก็ยังดั้นด้นมาหาผมจนได้)

การมาเที่ยวหนนี้ของผมกับเสกจึงทำให้ผมรู้สึกประทับใจเป็นพิเศษ
เพราะไม่เพียงเสกจะเป็นคนรูปร่างบึกบึนเท่านั้นแถมยังเป็นผู้ใหญ่มาก
อยู่ด้วยแล้วรู้สึกมั่นใจและอบอุ่นอ่ะครับ

แต่ไม่ใช่ว่าเวลาที่ผมอยู่กับไอ้ตี๋อ้นหรือไอ้อี้ผมจะรู้สึกไม่อบอุ่นนะครับ
แค่ความรู้สึกมันแตกต่างกันออกไปก็เท่านั้น
เพราะตอนอยู่กับไอ้ตี๋อ้นผมจะรู้สึกมีความสุขมากๆๆๆ  คูณ 10 ก็ว่าได้

ผมจะรู้สึกปลอดโปร่งโล่งใจ สบายใจ อุ่นใจและไว้วางใจได้ที่สุด
พึ่งพาได้ที่สุดอะไรประมาณนั้น เพราะอ้นเป็นผู้นำให้กับผมได้เสมอ
และเราก็สามารถหาเรื่องมาคุยกันได้ไม่มีจบ
ส่วนเวลาอยู่กับไอ้อี้ก็ตามประสาเพื่อนกันเอามันส์อ่ะครับ 5555

อยู่กับมันแล้วไม่ค่อยเบื่อเพราะมันเป็นคนปากดี ด่ากันไป แขวะกันมาได้ตลอดเลยไม่เหงาปาก
และที่สำคัญสุดพอมันทำตัวสบายๆก็ทำเอาผมรู้สึก ซาบๆ ซ่าๆ ไปได้เสียทุกที
แต่ในขณะเดียวกันมันเองก็ทำให้กังวล และปวดหัวได้บ่อยๆ เหมือนกัน

ผมมองดูเสกในวันนี้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นกว่าเก่าเยอะคงเพราะว่าเสกทำงานแล้วมั๊ง
ต้องอยู่ในสังคมของผู้ใหญ่เลยต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น
เลยทำให้เสกหนุ่มนักมวยวัยรุ่นในวันก่อนแทบหายไปเลย

ดูตอนนี้ซิกลายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวไปแล้ว ทั้งดูดีมีเสน่ห์แปลกออกไปกว่าที่ผมเคยเห็น
ตอนนี้ผมรู้สึกดีมากๆเลยหันไปมองเสกแล้วยิ้มๆ
เสกเห็นผมจ้องอยู่ก็ตบหัวผมเบาๆพร้อมกับยิ้มที่มุมปากแมนๆ

“เป็นอะไรของมึง”
“ป่าว...ไม่มีอะไรหรอกแค่รู้สึกดีที่เสกมาเที่ยวด้วยน่ะ”

เสกก็มองหน้าผมยิ้มๆพร้อมกับพยักหน้าเบาๆตามประสาคนที่ไม่ชอบพูดมาก
ผมก็ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่นักหรอกเพราะนิสัยส่วนตัวของเสกก็ไม่ใช่คนชอบพูดมาก
หรือพูดอะไรที่เกี่ยวกับความรู้สึกความในใจ อะไรประมาณนี้อยู่แล้ว
แต่เรื่องการกระทำล่ะก็เป็นอีกเรื่องครับ5555

พอเข้าเขตจังหวัดตราดผมก็อดนึกไปถึงวันวานเก่าๆ
ตอนที่มาเที่ยวตราดครั้งแรกขึ้นมาไม่ได้และหนนั้นก็ทำเอาผมฝังใจสุดๆ
แถมยังได้ควยเป็นดุ้นๆมาตั้งหลายดุ้นกินกันจนตูดบานไปเลย 5555

ทั้ง...
“พี่หน่อย” พี่เขยมาดแมน หล่อคม กับควยขนาด 8.5 นิ้ว!!!  
“พี่นิด” ทหารเรือหุ่นสมาร์ทเย็ดมัน ที่มีควยขนาดเท่าพี่ชาย 8.5 นิ้ว!!!
“พี่เจต”หนุ่มเอวไวจนลืมไซส์ของแกไปเลย
“พี่ทิม”หนุ่มหน้าคม หุ่นล่ำบึ๊ก และเย็ดมัน
“พี่เข่ง”หนุ่มหน้าหื่น เย็ดแรง กับขนาด 8 นิ้ว!!! อีกคน

และสุดท้ายก็ “พี่อุ่น” หนุ่มกลัวเมีย ผู้มีลิ้นสว่าน!

พอคิดขึ้นมาแล้วก็ทำเอาผมควยแข็งเลยอ่ะครับ
นึกถึงตอนที่โดนพวกพี่แกเย็ดในสวนแต่ละทีก็อดใจเต้นแรงไม่ได้เพราะอยากโดนอีก

แต่ป่านนี้ไม่รู้ว่าพวกพี่แกยังทำงานให้พี่เขยผมอยู่รึป่าวเพราะผมเองก็ไม่กล้าถามพี่เขย
เพราะกลัวว่าแกจะรู้ว่าผมน่ะโดนลูกน้องแกเสยมาครบคนแล้วน่ะสิ 5555

พอไปถึงบ้านพี่สาวผมหลังที่อยู่ในตัวเมืองเพราะช่วงนี้ปลากำลังทำกำลำไร
และไม่ใช่หน้าผลไม้เลยปล่อยงานในสวนไว้กับลูกน้องของพี่เขยไป
แล้วมาเน้นงานที่เรือและสะพานปลาเสียมากกว่า

บ้านแกหลังนี้ก็น่าอยู่ไปอีกแบบคือสะดวกดีหาซื้ออะไรก็ง่ายเพราะอยู่ในตัวจังหวัด
มาคราวนี้ผมไม่ได้เจอพี่นิดครับเพราะแกประจำที่ฐานและได้ยินว่าแกได้เลื่อยศสูงขึ้นด้วย
เสียดายจังผมคิดในใจ เพราะที่มาหาพี่สาวคราวนี้แกก็คนนึงล่ะที่ผมหวังได้แอ้ม 5555

ส่วนพี่หน่อยก็ดูคล้ำกว่าเดิมเยอะเพราะเน้นหาเงินกับทะเลมากกว่าผลไม้
แต่ความมาดแมนและเสน่ห์มัดใจน้องเมียอย่างผมก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลยให้ตายซิ

กร้านแดดอย่างนี้นี่แหละผมว่าน่าเย็ดขึ้นเป็นกอง 5555
เราวิสาสะกันนิดนึงผมก็แนะนำเสกกับปั้นให้พี่สาวพี่เขยรู้จัก

“เป็นงัยมึงธุระอะไรของมึงถึงได้มาถึงระยองได้”

พี่หน่อยทำหน้าที่คาดคั้นผมแทนพี่สาวเหมือนไม่อยากจะเชื่ออ่ะนะว่าผมจะมาธุระเรื่องเรียน
อย่างที่บอกพี่นิลไปจริงๆก็เมื่อคืนผมบอกพี่สาวผมว่ามาทำธุระที่ระยอง
พี่สาวผมไม่ใช่คนคิดมากแกเลยไม่ได้เซ้าซี้ต่อ

“ก็พอดีผมต้องทำรายงานเกี่ยวกับธุรกิจการท่องเที่ยวอ่ะพี่หน่อยเลยต้องมาหาข้อมูลแถวนี้”
“แถวเชียงใหม่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวออกเยอะไปไม่เห็นต้องมาถึงภาคตะวันออกเลยนี่มึง”

พี่หน่อยทำหน้าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งดุๆ แมนๆ ตามสไตล์แก แต่ยิ่งแลก็ยิ่มแมน อิอิอิ

“ก็เพื่อนๆผมมันเลือกแถวนั้นกันหมดแล้วอ่ะพี่หน่อย ผมเลยไม่อยากให้ซ้ำใคร”
“เออๆๆ...เลยถือโอกาสมาเที่ยวด้วยว่างั้นเถอะมึง”

พี่หน่อยยังคงดักคอผมตลอดและรู้ทันผมซะงั้น 5555 แต่ก็ขำๆ กันอ่ะครับ
เพราะแกก็พูดไปตามประสาคนหน้าดุแต่ใจดีอ่ะครับไม่ได้มีอะไร

“แหะๆๆๆก็ประมาณนั้นอ่ะพี่”
“จะคาดคั้นน้องมันเอาอะไรล่ะพี่ก็น้องมันเพิ่งจะเดินทางมาถึง อ๊ะๆๆ ดูซิใครเอ่ย...”

ว่าแล้วพี่สาวผมก็ตัดบทสามีจอมวางก้ามแล้วอุ้มเจ้าตัวเล็กมาหาผม
หน้าตาน่าเอ็นดูอ่ะครับไม่ค่อยเหมือนพ่อเท่าไหร่
ดูๆไปหน้าตาออกมาทางบ้านผมซะมากกว่า คือปากนิดจมูกหน่อยขาวๆ ละอ่อนๆ

“น้องนนท์ใช่มั๊ยเอ่ย...อ๊ะลูกใครเนี่ยน่าเกลียดน่าชังจังเลย”

ผมหยอกเล่นกับหลานชายคนเล็กเจ้าตัวเล็กก็หัวเราะเอิ๊กอ๊าก ยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดี
แล้วพี่สาวก็ให้ผมอุ้มหลานเจ้าตัวเล็กก็เอามือมาลูบหน้าผมแล้วจ้องหน้าผมนิ่ง
เหมือนจะจดจำหน้าผมให้นานๆตาของเด็กหนึ่งขวบใสแจ๋วอย่างน่ารัก
พอผมหยอกเจ้าตัวเล็กก็หัวเราะร่าเอิ๊กอ๊ากๆ อย่างน่าชัง

ผมเห็นแบบนี้ชักอยากให้แม่มาอยู่ด้วยซะแล้วสิ
เพราะแม่น่ะชอบเด็กยิ่งอยู่กันแค่สองคนตายายอย่างนั้นด้วยแล้วคงจะเหงา
แต่เดือนที่แล้วแม่ก็มาเยี่ยมผมที่เชียงใหม่แล้วก็เลยไปพักกับพี่จินที่เชียงรายตั้งสองอาทิตย์

ก่อนกลับยังแวะไปหาพี่รินที่ตากอีกตั้งอาทิตย์นึงถึงค่อยยอมกลับบ้านที่อิสาน
อย่างนี้แหละครับพอลูกโตๆ กันแล้วก็แยกย้ายกันไปมีครอบครัว
และแต่ละที่ก็ไกลๆกันทั้งนั้น ผมล่ะสงสารพ่อกับแม่ซะจริงๆ

“น้าวิน...หวัดดีครับ”

เจ้านัทหลานคนโตอายุเกือบ4 ขวบ ยกมือกลมป้อมเป็นพุ่มไหว้ผมอย่างนอบน้อม
เห็นแล้วน่าเอ็นดูผมก็ดึงตัวน้อยๆ ของเจ้าหลานคนโตเข้ามาหอมแก้มดังฟอดทีนึงอย่างคิดถึงไม่ได้
เห็นหน้าสองปีโตขึ้นมากทีเดียว

“มาให้น้ากอดหน่อยคิดถึงจังเลย”

เราสองน้าหลานก็กอดกันกลมเจ้านัทมันก็อ้อนให้ผมอุ้มเหมือนกับที่อุ้มน้องชายตัวเอง
หน้าตาเจ้านัทหลานคนโตถึงได้คล้ายพ่อคือค่อนข้างคมคาย แต่ผิวกลับขาวได้พี่สาวผม
เสกเห็นแบบนั้นเลยอาสาอุ้มซะเอง

“น้าวินตัวเล็กนิดเดียวอุ้มสองคนไม่ได้หรอก...ให้น้าอุ้มดีกว่า”

ว่าแล้วเสกก็ยกไอ้เจ้านัทไปอุ้มเจ้านัทมันก็ยอมให้อุ้มแต่โดยดีครับ
เออดีเหมือนกันแฮะเด็กบ้านนี้ไม่ค่อยจะกลัวคน
บ้านพี่เขยหลังนี้อยู่แถวๆชายทะเล บรรยากาศจึงค่อนข้างดี และเย็นสบาย

แม้ว่าบางทีจะรู้สึกเหนียวเหนอะหนะเพราะลมทะเลก็เหอะ
แต่การที่ได้มาอยู่ร่วมกันฉันท์พี่น้องแบบนี้ผมเลยรู้สึกดีและอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก

แต่อีกใจก็รู้สึกแย่ๆที่แอบไปขโมยกินพี่เขยสุดเอ็กส์และความคิดนี้ก็ยังวนเวียนอยู่ในหัวมาโดยตลอด
มานั่งคิดๆ ดูก็รู้สึกว่าดีแล้วที่ผมน่ะเกิดเป็นผู้ชาย เพราะเย็ดกันเอามันแล้วก็จบๆ กันไป
แต่ถ้าเป็นผู้หญิงนี่สิไม่รู้เรื่องจะจบดีๆ แบบนี้รึป่าว......

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น