วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เรื่องเซ็กส์ของเด็กร่าน บทที่ 72 ตามไอ้ต้อยไปงานแต่งที่มุกดาหาร (2)

หลังเที่ยงผมกับไอ้ต้อยไปมุกดาหารกันแค่สองคนเพราะป้าผมขาแกไม่ค่อยดีเลยให้เด็กๆอย่างเราไปกันเองสะดวกกว่า
บ้านอาที่อยู่มุกดาหารห่างจากอำเภอบ้านป้าไปประมาณ 30 - 40 กิโลเมตร
ถือว่าไม่ไกลนักถ้าจะขับมอไซค์ไป ก็ดีครับไวดีด้วยไม่ต้องนั่งรถประจำทาง
ระหว่างทางคุยกันไปผมถึงได้รู้ว่าที่แต่งงานน่ะไม่ใช่พี่ควรหรอกครับ

“อ้าว! นี่มึงยังไม่รู้เหรอ ว่าคนที่แต่งน่ะเป็นลูกชายน้าคมไม่ใช่น้าควร”
“อ้าว! เหรอวะ สงสัยกูคงจะฟังพ่อมาผิดว่ะ”

ผมพูดไปเหมือนคนงงๆ จริงๆ อ่ะครับ เพราะตอนนั้นฟังพ่อไม่ชัด
ก็ได้ยินแค่ว่าบ้านอาจะมีงานแต่งงาน แล้วก็ไม่ได้สนใจอะไรอีกเลยนึกว่าเป็นพี่ควร

“แล้วคนไหนวะที่แต่งน่ะ ลูกชายพี่คม เอคนไหนหว่า กูจำได้ว่าแกมีลูกคนเดียวชื่อพี่หนึ่งใช่ป่าววะ”
ผมพูดไปก็ชักงงๆ ตามไปด้วย แทบจะจัดลำดับญาติโกโหติกาไม่ถูก
เพราะพี่คมที่เป็นลูกพี่ลูกน้องผมเนี่ย อายุแกก็ตั้งสี่สิบแล้วและแกก็มีลูกชายคนเดียวชื่อพี่หนึ่ง
จากการที่ไอ้ต้อยมันต้องวิ่งไปมาเพื่อชกมวยที่ จ.มุกดาหาร บ่อยๆ
มันเลยได้ไปมาหาสู่ครอบครัวอาบ่อยกว่าผม
มันเลยเล่าให้ผมฟังว่าพี่คมน่ะมีลูกสามคน ชาย 2 หญิง 1
คนโตก็คือพี่หนึ่งแกอายุมากกว่าผมสองปีผมเลยต้องเรียกแกว่า “พี่” ไปโดยปริยาย
ทั้งๆ ที่จริงแกนั่นแหละต้องเรียกผมว่า “ลุง”
มารู้ว่าพี่หนึ่งได้เมียตั้งแต่อายุ 17 แล้วก็มีลูกโตจนเข้าอนุบาลแล้วด้วย
แต่ตอนนี้เลิกกับเมียแล้ว ส่วนลูกก็ไปอยู่บ้านเมีย นี่แหละชีวิตคนชิงสุกก่อนห่ามก็ใช่ว่าจะดี
ลูกชายคนรองของพี่คมชื่อหนุ่ยอายุ 20 ปี รุ่นเดียวกันกับผม
ผมเองก็ไม่รู้จักหนุ่ยเพราะพี่คมไม่เคยพามาเที่ยวบ้านเห็นก็แต่พี่หนึ่ง
พอได้ยินไอ้ต้อยเล่าให้ฟังผมค่อยปะติดปะต่อเรื่องราวได้  
แต่ก็ยังไม่วายทำหน้างงกับการจัดลำดับญาติสนิทอยู่ดี
“ฟังแล้วงงแดกดิมึง 5555 อยากเกิดมาญาติเยอะเองช่วยไม่ได้ 5555”
“เออว่ะกูกำลังคิดอย่างนั้นอยู่พอดี 5555”
ไหนจะญาติทางพ่อเกือบร้อย ไหนจะยังญาติทางแม่อีกตั้งไม่รู้เท่าไหร่
เฮ้อ! เยอะจนนับกันไม่หวาดไหว แต่มาคิดดูอีกทีก็ดีครับไปไหนมาไหนก็ไม่กลัวอดตาย5555
พอไปถึงบ้านอาบินซึ่งเป็นบ้านงานก็กำลังวุ่นๆ กับการเตรียมงานอยู่พอดี
ผู้คนมากหน้าหลายตาพอเห็นเราเข้าไปในงานต่างหันมามองผมกับไอ้ต้อยด้วยความสนใจ
ชาวบ้านชาวช่องเห็นแล้วก็หันไปถามกันให้แซ่ดว่าผมเป็นใคร
จะว่าไปก็ว่าไม่ได้เพราะผมมาเที่ยวบ้านอาครั้งล่าสุดก็ตั้งสิบปีที่แล้ว
พออาบินเห็นผมมาก็เข้ามากอดอย่างดีใจ
แกก็ถามถึงพ่อแม่ผมแล้วก็ป้า ก่อนที่จะถามถึงเรื่องการเรียนของผม
เสวนากันได้พักแกก็ให้หลานสาวคนเล็กหาสำรับกับข้าวมาให้ผมกับไอ้ต้อยกินกัน
แล้วก็เล่าเรื่องหลานชายเจ้าบ่าวให้ผมฟัง
ไอ้หนุ่ยที่เป็นเจ้าบ่าวพอเรียนจบ ม.3 ก็เข้าทำงานที่โรงแรมในตัวเมือง
ทำงานได้หลายปีก็เกิดไปชอบพอกับสาวรุ่นพี่เข้า คบกันมาได้สองปี
เลยตกลงแต่งงานกันอย่างที่เห็น
แต่ว่าก็ว่านะมางานแต่งครั้งนี้ถือว่ามาแล้วไม่เสียเที่ยวเลย
เพราะมีอะไรวับๆ แวมๆ ให้ดูชมพอกระชุ่มกระชวยใจ
ก็จะอะไรซะอีกล่ะครับ ก็งานแต่งเนี่ยมีแต่ผู้ชายบึ๊กๆ แมนๆ ทั้งนั้น
หน้าตาดีบ้าง บ้านบ้างคละเคล้ากันไป แต่ถ้าแมนๆ เป้าใหญ่ๆ แบบนี้
หน้าตาก็เป็นเรื่องรองอ่ะครับ อิอิอิอิ
ไม่ว่าจะเป็น “พี่ควร” ลูกพี่ลูกน้องวัยสามสิบอัพของผม
ซึ่งตอนนี้แกเป็นหนุ่มใหญ่วัยฉกรรจ์ยิ่งทำให้แกโคดแมนและน่าเอากว่าเก่าเสียอีก
หน้าคมๆ ปากหนาเซ็กส์ๆ นั้นเห็นทีไรอดนึกถึงคืนมันๆ ที่ลักหลับแกไม่ได้ทุกที
สำหรับพี่ควรนั้น หลังจากที่ผมได้ลักหลับแกเมื่อสิบปีที่แล้ว(ร่านแต่เด็ก 555)
ผมก็ยังเก็บภาพเหตุการณ์นั้นไว้ในความทรงจำมาตลอด
เพราะถือว่าเป็นการลักหลับครั้งแรกที่สุดแสนจะประทับใจสุดๆ  
บอกได้คำเดียวว่าอาวุธขนาด 6 นิ้วของแกนั้น “สุโค่ย” ได้ใจ 5555
นอกนั้นก็มีพี่หนึ่ง แล้วก็ไอ้หนุ่ย (ว่าที่เจ้าบ่าว) สองพี่น้องนี่ก็น่ากินหยอกเสียเมื่อไหร่
พ่อหม้ายวัย 22 อย่างพี่หนึ่งนั้นมีเสน่ห์ด้วยหุ่นที่สูงและอกแกร่งได้รูปสวย
หูตาดูเจ้าชู้ใช่เล่น หน้าตาดูๆ ไปก็คล้ายๆ พี่ควรอ่ะนะ ปากหนาๆเซ็กส์ๆ
แต่ท่าทางจะสูบจัดไปซักหน่อย ปากเลยค่อนข้างคล้ำ
ส่วนหนุ่ยหน้าตาก็คล้ายๆ พี่หนึ่งแต่ขาวกว่าเพราะทำงานโรงแรม เลยไม่ค่อยเจอแดด
แล้วไหนจะบรรดาเพื่อนๆ ของพี่หนึ่งกับไอ้หนุ่ยอีกนับสิบอีกล่ะ
ผมเล็งทุกคนที่เล็งได้แหละครับ แต่จำชื่อไม่หมดอ่ะเพราะมันเยอะ 5555
มองคนนั้นทีมองคนนี้ทีจนตาแทบเคล็ดแน่ะครับ
ว้าวๆๆ! เลือกไม่ถูกจริงๆ นะเนี่ย อิอิอิอิ
ส่วนเพื่อนๆ ของพี่หนึ่ง กับไอ้หนุ่ยนั้น เด็ดๆ ทั้งนั้นก็พวกนี้หนุ่มบ้านๆ ทั้งนั้นนี่ครับ
เลยไม่ค่อยถือเนื้อถือตัว ที่น่าสนก็ตรงหน้าท้องเป็นลอนสวย
มีไรขนเซ็กส์ๆ ที่โผล่อออกมาจากหน้าท้อง พ้นออกมาหรอมแหร็มพอให้ตื่นใจให้จินตนาการ
กางเกงยีนส์เก่าๆ ขาดๆ สุดแสนจะน่าชม บ้างก็ขาดตรงต้นขาโชว์ผิวขาวๆภายใต้กางเกงยีนส์
บ้างก็ขาดตรงข้างๆ เป้า เห็นกางเกงในวับๆ แวมๆ สีแดงบ้าง สีฟ้าบ้างอู้ฮู้ช่างน่าสนสุดๆ
จ้องจนตาผมจะเป็นกุ้งยิงตายแล้วนะนั่น 5555
แถมยังใส่กางเกงฟิตเป้าตุงซะขนาดนั้นจนผมกลัวว่าน้องชายพวกเขาจะอึดอัดน่ะสิ
มาเอจอากาศร้อนๆ ของเดือนพฤษภาคมอย่างนี้ด้วยแล้ว
หนุ่มๆ เขาเลยทำงานไปโดยไม่ใส่เสื้อ เปลือยอกให้ผมได้ดูชม
เห็นกล้ามงามๆ อกแกร่งๆ มีเหงื่อซึมเป็นมันเห็นแล้วเคลิ้มสุดๆ อ่ะครับ
ดูดิครับ เป้าเอย ตุงเอย อกแกร่งๆ หนาๆ เอย โอ้ย! ใจจะขาดอ่ะ 5555
แต่วันแรกนั้นก็ผ่านไปโดยไม่มีเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นแต่อย่างใด
เพราะมัวแต่ยุ่งๆ กับการจัดเตรียมงานให้ทันพรุ่งนี้เช้า
อีกอย่างก็เพราะไม่มีโอกาสงามๆ อย่างที่คิดไว้ด้วยแหละ
ซึ่งกว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืนแน่ะครับ
เพราะไปช่วยป้าสะไภ้เตรียมขนมที่จะใส่บาตรพรุ่งนี้ซะจนดึก
พอผมอาบน้ำเสร็จก็ขึ้นไปนอนบนห้องที่อาสะไภ้จัดเตรียมไว้ให้
บ้านต่างจังหวัดก็มักจะจัดที่ทางให้นอนกันง่ายๆเพราะบ้านนี้ก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร
ชั้นบนมีแค่สองห้องเล็กๆ กับห้องโถงกว้างๆ สองห้องนั้นก็ให้ผู้หญิงนอน
ส่วนห้องโถงกว้างๆ โล่งๆ ก็ให้หนุ่มๆ นอนกันไปโดยเปิดหน้าต่างเพื่อให้ลมพัดเข้ามาเย็นๆ
ก็ดีครับสบายปอดดีไม่อึดอัด ลมเย็นๆ พัดมาก็ค่อยรู้สึกเย็นสบายหน่อย
ผมกับไอ้ต้อยนอนอยู่ริมสุดตามที่ผมขอ
คืนนี้ไอ้ต้อยใส่แค่กางเกงขาสั้นตัวเดียวนอนเพื่อความสบายเป้าใหญ่ๆของมัน 5555
ตอนนี้มันหลับไปแล้วครับ มันคงจะเหนื่อยอ่ะนะโดนใช้งานทั้งวัน
เพราะตอนกลางวันเห็นโดนใช้ให้ยกนั่น แบกนี่อยู่ตลอดคงเห็นว่ามันตัวใหญ่มั๊ง
ผมลงไปนอนข้างๆ มันแต่ก็นอนไม่หลับเพราะแปลกที่แปลกทางตามนิสัย
แสงไฟจากชั้นล่างที่เปิดไว้ทั้งคืน สว่างขึ้นมาจนถึงชั้นบน
เลยทำให้เห็นสภาพการนอนของแต่ละคนที่นอนเรียงกันจนเต็มห้องโถงชั้นบน
ต่อจากไอ้ต้อยไปเป็น พี่ควรที่เปลือยอกแกร่งๆ นอนหงายอ้าซ่า เป้าตุงๆน่ากิน  
แล้วก็เป็นพี่หนึ่ง ที่หุ่นอาจจะไม่หนาเท่าพี่ควรแต่ก็น่ากินไม่หยอกเพราะแกดูเซ็กส์ด้วยแหละ
แล้วก็เป็นไอ้หนุ่ย(ว่าที่เจ้าบ่าว)หน้าตาดี
ส่วนบรรดาเพื่อนๆ ของทั้งพี่หนึ่งแล้วก็ไอ้หนุ่ยอีกเกือบสิบชีวิตก็นอนเรียงกันไป
แต่ละคนนั้นก็ใส่กางเกงยีนส์บ้าง บ็อกเซ่อร์บ้าง
ทุกนายล้วนเปลือยอกโชว์ความแกร่งให้ผมทรมานใจเล่นซะงั้น
ใจน่ะอยากลักหลับดูดดอให้หมดทุกคนเลยอ่ะ  5555
แต่กลัวว่าจะไม่คุ้มเพราะวันนี้แต่ละคนกินเหล้ากันแค่นิดๆ หน่อยๆเท่านั้นเอง
และที่หลับเป็นตายเนี่ยก็เพราะเหนื่อยจากการเตรียมงานแต่งมากกว่า
นั่งมองไปด้วยใจที่จะขาดรอนๆ แต่ก็ต้องตัดใจอ่ะครับ
แต่ก็ยังดีครับที่มีไอ้ต้อยให้นอนกอด
พอคิดได้อย่างนั้นก็หันมากอดหุ่นแน่นปึ๊กล่ำไปทั้งตัวของไอ้ต้อย
เฮ้อ! ชื่นใจจังโว้ย! ไม่เจอมันเป็นปีๆหุ่นมันแน่นขึ้นจริงๆ ด้วยครับ
ก็ตอนนี้มันกับผม อายุก็ 20 กันแล้วนี่ ผมน่ะไม่เท่าไหร่หรอกไม่ค่อยแตกต่าง
แต่มันนี่ดิเพราะซ้อมมวยเกือบทุกวัน ไหนจะทำงานหนักๆ อีก
มันเลยเป็นผู้ชายที่หุ่นล่ำน่าเอามากๆ
มือผมมันก็ซุกซนไปตามประสาคนร่านๆ อ่ะนะ
โดยมันค่อยๆ กระดึ๊บๆ ไปตามอกแกร่งของนักมวยหุ่นล่ำของไอ้ต้อย
ด้วยความมันเขี้ยวผมเลยเผลอบี้ที่หัวนมไอ้ต้อยซะแรงจนมันรู้สึกตัว
มันจุ๊ปากเบาๆ ให้ผมหยุดการก่อการร้ายกับมัน
“สาด! เดี๋ยวใครก็เห็นหรอกมึง”
มันจับมือผมไว้ไม่ให้ซุกซน แต่ตอนนี้ผมสนเสียที่ไหน
เพราะตอนนี้ใครๆ ก็นอนหลับกันหมดแล้ว
แถมอารมณ์หน้ามืดอยากโดนเย็ดอย่างนี้ด้วยแล้วถ้าไม่โดนเย็ดเป็นหลับไม่ลงแน่ๆ5555
“พอเลยมึงไอ้ตัวดี”
มันเอ็ดผมเบาๆ แต่ผมก็ยังดื้อดึงไซ้ที่ซอกคอมันจนได้
จนไอ้ต้อยหลับตาสูดปากเบาๆ ด้วยความเสียว
“อือออ”
ผมเห็นอาการอย่างนั้นก็รับรู้ได้ว่ามันเองก็อยากไม่แพ้ผมแน่ๆ
ก็ตอนกลางวันน้ำยังไม่ทันแตกนี่ครับต้องเข้าใจ ว่าป่ะครับ
ผมไซ้ตามซอกคอมันไปมือก็กำๆ ถอกๆ ที่ควยมันซึ่งบัดนี้แข็งปั๋งเต็มกำมือรอการจัดการอยู่
“มึงนอนเอียงข้างดิ”
ผมกระซิบบอกมัน มันมีท่าทีอิดออดนิดหน่อยแต่ก็ทำตามที่ผมบอก
ทีนี้ผมก็ค่อยๆ เลื่อนตัวลงต่ำแล้วไปซุกหน้าที่เป้าแข็งๆ ของมันและกำลังทิ่มหน้าผม
นิสัยโด่ไวของมันนี่เหมือนพี่ชาติไม่มีผิด อิอิอิอิ
ผมค่อยๆ ดึงกางเกงขาสั้นมันลงแล้วจับควยดุ้นใหญ่มันเข้าปากดูดจ๊วบๆ ทันที
จนไอ้ต้อยกระตุกกึกเพราะความเสียว คงจะเสียวหัวอ่ะครับ
“อือออ”
มันพยายามกลั้นเสียงครางไว้ไม่ให้มีเสียงลอดออกมาจากปาก
ผมดูดควยดุ้นใหญ่ของไอ้ต้อยอย่างมันปาก แม้จะไม่สามารถดูดจนสุดโคนแต่ก็พยายยามเต็มที่
ทั้งที่ใจนึงก็กลัวว่าใครจะตื่นมาเห็น แต่บอกตามตรงว่าเมื่ออารมณ์ร่านบังเกิด
อะไรมาฉุดไว้ก็ไม่อยู่ ซ้ำตอนนี้บวกกับความตื่นเต้นเข้าไปอีกเลยรู้สึกสะใจเป็นบ้า
ไอ้ต้อยเองเมื่อโดนผมจัดการกับควยดุ้นอร่อยของมันอย่างนั้น
ก็จับหัวผมโยกเข้าๆ ออกๆ ที่อาวุธมันเป็นจังหวะตามอารมณ์เงี่ยนของมัน
ผมผละจากควยดุ้นใหญ่ของมันแล้วหันมาดูดไข่ใบโตของมันมั่ง
“ซี้ดดดด”
ไอ้ต้อยเผลอส่งเสียงเล็ดลอดออกมาจนได้จนกลายเป็นว่า
คราวนี้ผมเองนี่แหละที่เป็นฝ่ายจุ๊ปากให้มันเงียบๆ เพราะดันกลัวคนรู้ซะเอง5555
แล้วทีนี้ผมก็อยากโดนมันเอาตูดแล้วเลยถอดกางลงไปไว้ที่ปลายเท้า
แล้วนอนเอียงข้างหันหลังให้ไอ้ต้อยมัน ไอ้ตัวดีก็รู้งานดีว่าต้องทำงัย
เพราะมันก็เคยเห็นผมกับพี่ชาติล่อกันในสภาพการณ์อย่างนี้มาก่อน
ผิดแต่ว่าคนไม่ได้เยอะเท่าครั้งนี้เท่านั้นเอง
มันจับหัวบานๆ จ่อที่ตูดผมแล้วถูไถไปมาเล่นเอาผมแทบจะบ้าตายอ่ะครับ
“สาดเร็วๆ ดิ อือออ”
มันไม่ตอบผมแต่พยายามทำตามขั้นตอนของมันไป
ระหว่างนั้นผมเสียวจนต้องดึงหน้ามันไปดูดปากจ๊วบๆ
แต่ไอ้ต้อยก็ไม่ได้หยุดการดันควยเข้าตูดผม จนกระทั่งควยทั้งดุ้นมันเข้ามาสุดลำ!
ทั้งผมทั้งมันต่างครางในลำคอให้เบาที่สุดอ่ะครับ
ทีนี้ไอ้ต้อยก็เริ่มโยกๆๆๆ มือกดที่เอวผมแล้วก็จับเข้าหาตัวมันไปด้วย
โอยย เสียวสุดๆ มันสุดตีนไปเลยครับอยากรู้ว่ามันแค่ไหนต้องลองทำดูนะครับ
เคราสากๆ ของมันถูไปมาที่ซอกคนผมจนเสียวได้ใจสุดๆ
ระหว่างนั้นไอ้ต้อยก็บีบคลำไปตามเนื้อตัวผม บอกได้ว่าเสียวชิบหาย
“เสียวว่ะ”
มันกระซิบข้างๆ หูผม ผมเองก็ได้แต่ครางในลำคอเบาๆ
เรากระแทกกันอยู่ในท่านั้นอย่างเมามัน บอกได้คำเดียวว่ามันโคดๆอ่ะครับ
ระหว่างนั้นผมก็ว่าวให้ตัวเองไปด้วย มันทั้งตูด เสียวทั้งควยว่างั้น
ผมนั้นเป็นคนน้ำแตกไวด้วยสิ และตอนนี้ก็เริ่มเสียวจี้ดๆ ที่ควยแล้วซิ
จนเหมือนกับว่าน้ำไอ้ต้อยมันจะแตกแล้วนั่นแหละมันถึงได้จับผมนอนคว่ำหน้ากับเสื่อ
ตอนที่ควยดุ้นใหญ่ของมันหลุดออกจากตูดผมนั้น ใจแทบขาดแน่ะครับ
บอกตามตรงว่ากลัวว่ามันจะเลิกเย็ด 5555
แล้วทีนี้ไอ้ต้อยก็ประกบตามหลังผม น้ำหนักตัวเกือบ 80โลของมันกระหน่ำลงมาที่ตัวผมเน้นๆ
พอกดควยมันเข้ามาอีกรอบทีนี้มันก็เร่งกระแทกเอาๆ อย่างเมามัน
ควยผมเสียดสีไปมากับเสื่อจนในที่สุดน้ำผมก็แตกออกมาก่อนมัน
ทำให้รูผมบีบรัดควยมันเข้าไปอีก
“แฮ่กๆๆๆ ไม่ไหวแล้วว่ะจะแตกแล้ว”
มันกระซิบกับผมเบาๆ ตอนนี้ผมซึ่งกำลังโดนมันประกบหลังอยู่นั้นกำลังเพลินๆ
กับการที่โดนมันเย็ดก็ไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าอะไรยังงัย เพราะตอนนี้หูอื้อไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น
มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่มันถอนควยออกจากรูผมแล้วลงไปนอนข้างๆ ผมอย่างเหนื่อยอ่อน
มันหอบเบาๆ โดยพยายามเก็บเสียงที่สุด แล้วมันก็ค่อยๆเก็บควยมันเข้ากางเกง
ผมก็เข้าไปกอดมันอย่างมีความสุข แล้วเราก็หลับไปทั้งคู่ด้วยความสุขใจจนถึงเช้า
ตกลงมางานแต่งหนนี้ เจ้าสาวเจ้าบ่าวเขายังไม่ได้เอาเสาลงหลุมกัน
แต่ผมสองคนดันเอาเสาลงหลุมตัดหน้าไปก่อน ขำดีครับ 5555
พอตอนเช้าพวกเราก็ต้องตื่นกันตั้งแต่ตีห้า เพื่อตั้งขบวนไปที่บ้านเจ้าสาว
บ้านเจ้าสาวอยู่ในอำเภอเมืองก็จริงแต่ห่างจากตัวเมืองเกือบห้ากิโล
เช้านี้ไอ้หนุ่ยแต่งตัวในชุดเจ้าบ่าวซะหล่อเนี้ยบในชุดสูทสีครีมดูสะอาดไปทั้งตัว
ซึ่งปกติแล้วไอ้หนุ่ยมันก็เป็นคนรูปร่างดีอยู่แล้ว
พอมาใส่ชุดสะอาดๆ อย่างนี้ เลยดูเด่น สะดุดตา สมกับที่เป็นพระเอกของงาน
วันนี้ผมไม่ได้สนใจอะไรมากไปกว่าเป้ากางแกงแสล็คสีครีมของมันหรอกครับ
ก็จะไม่ให้สนใจเป้ามันได้ยังงัยกันล่ะครับ ก็โหแม่เจ้า!  เป้าแม่งอย่างตุง! อ่ะ
ผมว่าตอนมันไปลองชุดคงจะรีบไปหน่อย เลยได้ไซส์ที่ฟิตเปรี๊ยะ! คับเป้าอย่างนี้ 5555
แต่มาคิดๆ ดูอีกทีผมว่าเป้ากางเกงคงไม่ผิดหรอกครับ
แต่ที่ผิดก็คงผิดที่ควยกับไข่มันที่ใหญ่เกินหน้าเกินตา 5555
ตัวพี่ชายเจ้าบ่าวเองก็น่าเอาหยอกเสียที่ไหนเพราะพี่หนึ่งแกเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์และดูเซ็กส์ๆ
ปากค่อนข้างคล้ำ หนาได้รูป เซ็กซี่น่าดูดมาก เป็นปากของผู้ชายที่มองดูแล้วรั้นๆดูถือดี
นอกจากนี้พี่หนึ่งแกยังไว้หนวดเรียวๆ บางๆที่ริมฝีปากทำให้แกเซ็กน่ากินโคดๆ เฮ้อ! เซ็กส์ชิบ
สิ่งที่สร้างความแมนโคดๆ อีกอย่างในตัวแกก็คือ “ลายสัก” เท่ห์ๆที่กลางหลังแกนั่นไง
เห็นแล้วชวนเข้าไปลูบไล้ให้เสียเหลือเกินครับ สุดยอดจริงๆครับผู้ชายคนนี้
ดูๆ ไปแล้วทั้งบุคลิกรูปร่างหน้าตาและนิสัยใจคอค่อนข้างคล้ายพี่ชาติเอามากๆ อ่ะครับ
เถอะนะ ยังงัยก็ญาติกันมันต้องมีเหมือนกันบ้างแหละน่า
ทั้งนิสัยที่ชอบปล่อยเนื้อปล่อยตัว ดูสบายๆและไม่อินังขังขอบกับเรื่องใดทั้งสิน
มาพูดถึงบรรดาเพื่อนพี่หนึ่งแต่ละคนบ้าง
เพราะเพื่อนแกหลายคนก็หน้าตาใช่เล่น หน่วยก้านน่าจัดการอยู่หลายคน
คนที่ผมค่อนข้างคุ้น ที่คุยกันบ่อยๆก็มีพี่ต๋อง พี่ศักดิ์ และพี่เรย์
สามคนนี้จะเป็นซี้พี่หนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะบ้านก็ละแวกนี้และคบหากันมาตั้งแต่เด็กๆ
พี่ต๋องน่ะดูหล่อสุดในกลุ่ม เพราะพี่แก ขาวๆ หุ่นดี นิสัยก็เป็นกันเองแถมบ้านยังรวยกว่าใคร
ส่วนพี่ศักดิ์จะเป็นผู้ชายที่ดูแมนๆ ลุยๆ และขยันทำงานคงเพราะบ้านแกฐานะธรรมดาๆ มั๊ง
ส่วนพี่เรย์แกจะเป็นผู้ชายหุ่นสันทัด ไม่ค่อยสูงเหมือนเพื่อนคนอื่น
แต่หน้าตาดีใช้ได้ทีเดียว ผิวหน้าสะอาด จมูกโด่งคม หุ่นก็แน่นๆดูแข็งแรง ท่าทางจะเย็ดมัน 5555
ผมก็เหล่ๆ พวกแกตั้งแต่วันที่มาถึงแล้วล่ะครับโดยเฉพาะพี่ต๋องน่ะผมพยายามจะตีซี้กับแกให้ได้
เพราะแกนิสัยดีและคุยสนุก แถมยังหล่อขาวน่าพิสมัยอีกด้วยเป็นใครจะไม่อยากใกล้ชิด
แต่เสียดายที่แฟนแกมาคุมแจเลยครับ ไอ้วินเลยเซ็งเป็ดสุดๆ
ผมเลยต้องมาตีสนิทกับพี่เรย์แทนเพราะแกจะคุยเป็นกันเองพูดจาซื่อๆโคดชอบอ่ะ
ทีแรกอาบินจะให้ผมเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวแต่ผมปฏิเสธอ่ะครับ
เพราะขี้เกียจต้องมานั่งพับเพียบเรียบร้อย ปวดขาจะตาย...
ที่สำคัญผมน่ะชอบเป็นตากล้องมากกว่า
ก็จะได้คอยถ่ายรูปหนุ่มๆ กับเป้าหนุ่มๆ โดยที่พวกหนุ่มไม่รู้ตัวงัยฮี่ๆๆๆ (ร้ายสุดๆ )
ไอ้ต้อยมันก็เลยได้เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวแทนผมไปโดยปริยาย
ด้วยความที่เป็นทั้งญาติและเพื่อนกันและมันก็หล่อแมนกว่าใครดูแล้วเป็นที่เชิดหน้าชูตาบ้านอา
เทียบกับเจ้าบ่าวแล้วผมว่ามันดูดีกว่าอีกนะนั่น
นี่ถ้าให้มันเดินนำหน้า ผมว่าใครๆ ก็คงคิดว่ามันเป็นเจ้าบ่าวแน่ๆ
พอเข้าเขตบ้านเจ้าสาวก็มีชาวบ้านคอยต้นรับขบวนเจ้าบ่าวอยู่เยอะแยะเต็มไปหมด
ทั้งคนแก่และหนุ่มสาว หน้าตาแต่ละคนบ่งบอกได้ว่ามาร่วมแสดงความยินดีจากใจจริงๆ
เสียงโห่ร้องเอิ้นขวัญกันเซ็งแซ่ รู้สึกได้ถึงความเป็นศิริมงคลได้ดีชะมัด
มาคิดๆดูผมไม่ได้อยู่ในบรรยากาศงานแต่งที่ดูคึกคักเป็นมงคลแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วเนี่ย
ก็ตั้งแต่ครั้งงานแต่งของพี่สาวคนเล็กกับพี่หน่อย พี่เขย 8 นิ้ว! นั่นก็ตอนที่ผมยังเด็กมาก
ต่อมาก็งานแต่งของพี่ชาติ ลูกพี่ลูกน้องขี้เย็ดของผมกับเมียคนแรกของแก
ดูๆ ไปบรรยากาศก็เหมือนๆ กัน ทั้งผู้คน ขนบธรรมเนียม ประเพณีต่างกันบ้างก็นิดหน่อย
กว่าที่เจ้าบ่าวจะก้าวขึ้นบ้านเจ้าสาวได้ก็ต้องผ่านแต่ละด่านซะก่อนทั้งประตูเงิน ประตูทอง
ที่น่าประทับใจอีกช๊อต! ก็ตรงที่น้องสาววัยรุ่นของเจ้าสาวต้องล้างเท้าให้กับเจ้าบ่าว
นั่นถือเป็นก้าวแรกที่ตัวเจ้าบ่าวได้รับการยอมรับจากคนในครอบครัวเจ้าสาว
นับเป็นกุศโลบายของคนสมัยก่อนที่ช่างคิด แต่ก็น่าชื่นชม
งานแต่งถูกจัดทั้งแบบพื้นบ้าน นั่นคือพีธีการผูกข้อมืออย่างที่แถวบ้านเขาเรียกว่า“สู่ขวัญ”
แล้วก็พิธีทาง พุทธที่นิมนต์พระสงฆ์มามากถึงเก้ารูปเพื่อความเป็นศิริมงคล
กำหนดการทุกอย่างก็เป็นไปตามเวลาที่เตรียมไว้ เสียงโห่ เสียงแซวตามประสาญาติสนิทและเพื่อนๆ ต่างสร้างบรรยากาศให้ดูสนุกสนานเป็นกันเอง
เห็นไอ้ต้อยแล้วผมก็อดขำมันไม่ได้ เพราะนับเป็นครั้งแรกของมันที่ได้เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว
ด้วยความที่ตัวมันล่ำๆ พอมาใส่เสื้อเชิร์ตสีขาวแขนยาว มันเลยแปลกๆรู้สึกขัดๆ กับมันยังงัยไม่รู้
“ขำอะไรของมึง สาดวิน!”
มันมองผมตาขวาง หน้าตาดูไม่ค่อยจะแฮปปี้เท่าไหร่
“เปล๊า! ก็วันนี้มึงดูดีนี่หว่า หล่อชิบ...หาย 5555”
ผมพูดแซวมันเล่นๆ อ่ะครับมันก็ดึงคอผมไปล็อคไว้อย่างที่เล่นกันเป็นประจำ
“เดี๋ยวมึงโดนกูแน่! ฮึ่ม!” มันขู่ผมซะผมกลัวจะแย่แล้วเนี่ย
ก็เห็นมันมาตั้งนานก็เห็นแต่ภาพมันในชุดเสื้อกล้ามกับกางเกงนักมวยนี่ครับ
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าวันนี้มันดูหล่อดีเหมือนกันนะ
แต่...ยังงัยๆ มันก็ดูทะแม่งๆ ดูเก้ๆ กังๆ เคอะๆ เขินๆ อยู่ดีอ่ะครับ 5555
และด้วยความหล่อล่ำของมัน สาวๆ ที่เป็นบรรดาเพื่อนๆและญาติทางฝ่ายเจ้าสาว
ดูจะกรี้ดกร้าดไอ้ต้อยญาติผมกันใหญ่อย่างนี้ถือว่าเรทติ้งมันดีเลยได้ป่าวครับ
เนื่องด้วยฝ่ายเจ้าบ่าวส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชาย ทั้งเจ้าบ่าวเพื่อนเจ้าบ่าว(ไอ้ต้อย) พี่ชายเจ้าบ่าว
และบรรดาเพื่อนๆ เจ้าบ่าว และเพื่อนๆพี่หนึ่งที่ตามมาให้กำลังใจอีกเป็นสิบ
แต่คนที่ไม่อยากจะไปแข่งความหล่อกระชากเรทติ้งกับใครก็ผมคนนึงล่ะ
แต่ไม่รู้เป็นงัยมันดันไปเข้าตะสาวน้อยๆ เข้าจนได้น่ะซิครับ
เพราะพวกน้องๆ มันมักจะเข้ามายิ้มๆ มาป้วนเปี้ยนๆอยู่กับผมตอนถ่ายรูปอยู่ตลอด
บางทีก็มีแซวๆ มั่ง
“อ้ายซื่อหยัง ?”
“อ้ายเป็นญาติอ้ายหนุ่ยแมนบ่ ?”
ผมก็ไม่ได้พูดไร ได้แต่ยิ้มๆ ให้ก็เท่านั้น
“เฮ้อ! อะไรของชะนีนางน้อยน้อ!”  
นี่ถ้าเป็นหนุ่มน้อย หรือหนุ่มๆ มาป้วนเปี้ยนก็อีกอย่างผมคิดในใจ
ตลอดวันนั้นผมก็เลยรับหน้าที่ช่างภาพ กดชัตเตอร์กระจายเลยครับ
เก็บแม่งทุกช๊อต ทุกซีน เลยก็ว่าได้ แต่ที่พลาดไม่ได้นี่ก็ต้องรูปหนุ่มๆ อิอิอิ
ก็ด้วยเหตุที่ว่าญาติทางฝ่ายเจ้าสาวหน้าตาเข้าทีก็มีอยู่หลายคนนี่ครับ
จะว่าไปหนุ่มๆ มุกดาหารนี่ก็หน้าตาดีเยอะเหมือนกันนะเนี่ย
หล่อบ้าง บ้านๆ บ้าง ก็ดูเพลินตากันไปการมางานแต่งครั้งนี้เลยถือว่าเป็นลาภตากันไป อิอิอิอิ
และเรื่องขำๆ ในงานแต่งก็มีนะครับ
อย่างตอนที่อาผมแนะนำผมกับไอ้ต้อยให้รู้จักกับญาติทางฝ่ายเจ้าสาว
ฝ่ายพ่อแม่เจ้าสาวพอมองหน้าผมกับไอ้ต้อยก็ยิ้มๆ
“หลานเฒ่าดองแม่นบ่ คือผู้หล่อผู้จบแท้ ขาวงามแท้พ่อเอ๊ย!”
(หลานของพ่อเจ้าบ่าวใช่ หล่อจังเลย ขาวหล่อจังพ่อเอ๊ย)

*นี่ถึงเป็นสาเหตุที่ผมไม่อยากพิมพ์เรื่องนี้ให้มีภาษาอิสานงัยครับเพราะขี้เกียจมานั่งแปลอีกรอบ
เพราะมีหลายๆ คำที่แปลยากมากกกกก อย่างคำว่า “เฒ่าดอง” นี่ไงจะเป็นคำที่ต่างฝ่ายใช้เรียกอีกฝ่ายด้วยความสนิทสนม
ซึ่งหมายถึงคนที่เกี่ยวข้องเป็นดองกันแล้ว ในที่นี้หมายถึง พ่อ-แม่ ของเจ้าบ่าว หรือ พ่อ-แม่ ของเจ้าสาว

“คนที่เป็นหมู่เจ้าบ่าวนั่นกะหล่อหลาย เฮ็ดงานล่ะบ้อ ว่าแต่มีผู้สาว(แฟน)ล่ะบ้อคันบ่มีสิหาให้”
พ่อเจ้าสาวทำเป็นกระซิบกับอาผมแต่พูดเสียงดังเหมือนต้องการให้ได้ยินกันทั่วถ้วน
“อันนี้กะบ่ฮู้กับเด็กน้อยมันดอกเฒ่าดอง... คนนั้นมันเป็นนักมวยส่วนคนนี้เพิ่นกะเฮียนอยู่เชียงใหม่พู้น!”
อาผมพูดยิ้มๆ หน้าตาระรื่นไม่ได้เอามาคิดเป็นจริงเป็นจังนักกับคำพูดของอีกฝ่าย
ผมกับไอ้ต้อยฟังแล้วก็ขำๆ อ่ะครับ โอ้ย! อยากจะบ้าตาย!
“แฟนผมน่ะมีแล้วครับ แต่เป็นผู้ชายครับผม 5555”
นี่ถ้าผมเกิดในสมัยก่อน คงไม่พ้นโดนจับคลุมถุงชนไปแล้วแน่ๆ
พอส่งตัวเจ้าบ่าวเป้าใหญ่กับเจ้าสาวเข้าห้องหอเสร็จพวกเราก็ทยอยกลับบ้านอา
พี่คมบอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้จะพาพวกเราไปเที่ยวฝั่งลาวที่เมืองสุวรรณเขตกัน
ซึ่งเป็นบ้านเก่าของเมียแก ก็แม่ไอ้หนุ่ย กับพี่หนึ่ง นั่นแหละ
พอผมได้ยินว่าจะได้ไปเที่ยวฝั่งลาวก็รีบกลับคำพูดกับไอ้ต้อยในทันที
ทั้งๆ ที่ตกลงกับมันแล้วว่าพอเสร็จจากงานแต่ง
ก็จะกลับไปนอนกับมันซักคืนสองคืน จะได้เอากันมันๆ แล้วค่อยกลับบ้านผม5555
(คิดได้อยู่เรื่องเดียว)
แต่มันก็ห่วงยายที่ขาแข้งไม่ค่อยดีกลัวว่าจะไปไหนมาไหนลำบาก
ผมเลยต้องปล่อยให้มันกลับบ้านไปก่อน เพราะผมเองก็ห่วงป้าเหมือนกัน
ถึงแม้จะเสียดายที่มันไม่ได้ไปเที่ยวกับพวกเราเพราะมีมันไปด้วยก็อุ่นใจในทุกเรื่องอ่ะครับ
เพราะงานแต่งครั้งนี้ทุกเรื่องก็มันอยู่แล้ว ทั้งขับรถ แบกของ ทำนั่นนี่ โน่น ก็เป็นมันหมด
แถมตอนกลางคืนยังรับหน้าที่เย็ดผมได้ดีอีกด้วย อิอิอิอิ
ก็ตามประสาไม่ได้เจอกันนานและเพิ่งจะได้เอากะมันแค่ครั้งเดียวเองเลยอาลัยอยู่ซักหน่อย
แต่โอกาสดีๆ ในการไปเที่ยวอย่างนี้จะมีซักกี่ครั้งอ่ะครับที่จะได้ข้ามฝั่งไปเบิ่งแผ่นดิน “ดวงจำปา”
ได้เที่ยวลึกเข้าไปถึงในแผ่นดิน เมืองสุวรรณเขต สปป.ลาว
ที่พ่อผมกับอามักจะติดปากเรียกว่า “เมืองสะหวัน” หรือ“เมืองสวรรค์”ทุกทีที่ได้สนทนา
ผมก็ไม่รู่ว่ามันจะสวยงามเหมือนในจินตนาการของผมหรือป่าว
แต่ความที่ชอบการท่องเที่ยวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยรู้สึกตื่นเต้นมากๆ
พี่ควรแกบอกว่าภาษาที่ใช้ทางฝั่งโน้นก็ภาษาอิสานดีๆ นี่แหละจะเพี้ยนก็มีบ้าง แค่บางคำ
“เห็นแก่เที่ยวจริงๆ เลยมึงนี่”
ก่อนกลับ ไอ้ต้อยมันยังมาค้อนผมวงใหญ่ครับ 5555
“โทษทีโว้ย ก็กูยังไม่เคยไปเที่ยวฝั่งลาวซักทีนี่หว่าเอาน่าขากลับจะแวะไปนอนด้วยนะๆๆ”
ผมพูดให้มันเข้าใจหัวอกผมอ่ะครับ แล้วกำเป้าใหญ่ๆ ของมันอีกหลายทีเป็นการร่ำลา
“เออๆ เที่ยวเสร็จเมื่อไหร่ก็แวะไปหากูนะโว้ย! เพราะกูมีอะไรเด็ดๆ ไว้รอมึงด้วย 5555”
มันกระซิบกระซาบข้างหูผมเป็นปริศนาแต่ตอนนี้หัวผมกำลังคิดถึงเรื่องเที่ยวอยู่
เลยไม่ได้ใส่ใจในคำพูดไอ้ต้อยซักเท่าไหร่
เพราะดีไม่ดีผมอาจจะเลยไปหาพี่สิน พี่ชายผมที่ “ธาตุพนม” ด้วยเลย
เพราะระยะทางจากมุกดาหารไป อ.ธาตุพนม ก็แค่ 40 โลเท่านั้นนั่งรถแป๊บเดียวก็ถึง
ก็จะได้ไปรำลึกความมันกับไอ้ “ไอ้อ๊อด” เด็กม.ปลายที่หุ่นใหญ่เกินเด็กนั่นงัยครับ อิอิอิอิ
ทั้งหุ่นที่สูงใหญ่ ควยก็ใหญ่ยาว แถมลีลายัง “สุโค่ย!” ได้ใจแบบนั้นผมลืมไม่ลงจริงๆ อ่ะ
ทั้งบทเย็ดริมฝั่งโขงในคืนอันเย็นจับใจนั่นแล้วตอนที่ไปเย็ดกับมันที่บ้านของมันอีก
เด็กบ้าอะไรก็ไม่รู้เย็ดเก่งชิบหาย! ผมจำติดตาในตอนที่มันจับขาผมพาดบ่า
แล้วกระทุ้งเอาๆ จนน้ำแตกคาตูดผม สีหน้าสีตามันตอนเย็ดผมนั้นแม่งเซ็กส์อ่ะ
หน้าตามันเอ็กส์เกินเด็ก ม.ปลาย จริงๆ นะครับ
อึ๊ย! คิดขึ้นมาแล้วเสียวตูดวาบๆ อ่ะชักอยากโดนเย็ดอีกซะแล้วซิ
แบบนี้ต้องไปเยี่ยมพี่ชายให้ได้ซะแว้วๆๆ 5555
แต่ตอนนี้ต้องไปเที่ยวเมือง “สะหวัน” ซะก่อนจะได้ถ่ายรูปไปอวดไอ้ตี๋อ้น
เฮ้อ! คิดขึ้นมาอีกรอบก็อดเซ็งนิดๆ ไม่ได้อีกรอบนะนั่นเพราะเสียดายแทนไอ้ตี๋อ้น กับไอ้ดอมมันจัง
โดยเฉพาะไอ้ดอมด้วยแล้วอยากให้มันมาเที่ยวด้วยจังอ่ะเพราะมันอุตส่าห์ตามผมมาเที่ยวทั้งที
แต่ตอนนี้ได้แต่นอนแกร่วอยู่ที่บ้าน น่าเบื่อตายชัก
แต่มีไอ้อี้อยู่ด้วยก็ไม่ห่วงมันเท่าไหร่หรอกครับเพราะคู่นี้มันเข้าขากันดีจะตาย
จะว่าไปในช่วงปิดเทอมใหญ่แบบนี้ก็ดีเหมือนกันเนอะ
มีเวลาไปไหนต่อไหนเยอะแยะ โดยไม่ต้องห่วงกังวลในเรื่องใดๆ
ถือว่าในช่วงที่ผมเรียนมหาลัยฯ นั้น ชีวิตผมเป็นช่วงขาล่องเลยก็ว่าได้
เพราะชีวิตมีแต่การเดินทางอยู่ตลอดเวลา ไปเหนือ ล่องใต้แต่ก็สนุกดีครับ
คืนนั้นก็มีการเลี้ยงฉลองกันที่บ้านอาอีกรอบก็มีทั้งเพื่อนไอ้หนุ่ยและเพื่อนพี่หนึ่ง
แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนพี่หนึ่งเสียมากกว่า
ผมก็นั่งกินเหล้าไปกับพวกแกด้วยแต่ก็หาทางออกโดยพยายามดื่มให้น้อยที่สุด
เพราะเดี๋ยวเมาแอ๋ ได้อับอายขายขี้หน้าอาก็คราวนี้
ไม่ว่าไปอยู่ที่ไหน ผู้ชายเนี่ยก็เอาแต่กินเหล้าไม่ว่า เหนือ ใต้ ออกตก
มันเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของสังคมผู้ชายเลยก็ว่าได้โดยเฉพาะสังคมชนบทอย่างนี้
แต่ผมก็ชอบนะเพราะเผลอๆ ได้จัดการพวกหนุ่มๆ ได้อย่างง่ายดาย อิอิอิอิ
ระหว่างที่ดื่มๆ กันไปหนุ่มๆ เขาก็คุยเรื่องสัพเพเหระกันไปตามประสาคนเมา
แต่ด้วยความที่แต่ละคนนั้นเป็นผู้ชายแท้ๆ แมนๆหุ่นน่าเจี๊ยะซะขนาดนั้น
ผมเลยไม่ได้รู้สึกรังเกียจที่จะนั่งติดๆ กับคนขี้เมา
โดยที่ข้างๆ ผมเป็นพี่ต๋องกับพี่เรย์ นั่งๆอยู่บางทีพี่สองคนก็เอนตัวไป เอนตัวมา
ผมเลยได้ใกล้ชิดพี่แกสองคนอย่างชุ่มชื่นหัวใจสุดๆ
เนื้อตัวผมมันร้อนผะผ่าว คงจะดีใจอ่ะนะที่ได้สัมผัสเนื้อแกร่งๆของหนุ่มๆ อิอิอิอิ
แต่อย่างที่บอกว่าแฟนพี่ต๋องแกจะมาคุมตลอดยังไม่ถึงสี่ทุ่มดีพี่ต๋องเลยโดนลากกลับบ้าน
เล่นเอาผมเซ็งโคดๆ อ่ะ แต่ก็ยังดีที่มีพี่เรย์เป็นเพื่อนคุย ส่วนซ้ายมือก็เป็นเพื่อนอีกคนของไอ้หนุ่ยหน้าตาเข้าท่าทีเดียวแต่เราก็ไม่ค่อยได้คุยกันซักเท่าไหร่
เพราะส่วนใหญ่ผมจะคุยกับพี่เรย์ เพราะพี่แกเป็นคนคุยเป็นกันเอง
ทำให้เราเข้ากันได้ดี มองดูแกใกล้ๆ จมูกแกอย่างโด่งอ่ะ
ปากก็ได้รูปหนาแบบผู้ชาย แมนดีจังเลยอ่ะผมเห็นแล้วอยากโดดเข้าดูดจ๊วบๆ ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
แถมวันนี้แกยังใส่กางเกงยบอลมากินเหล้าอีก เลยได้เห็นต้นขาใหญ่ๆ ล่ำๆของแก
หลังจากที่เมื่อวานเล็งแกในชุดกางเกงยีนส์ทั้งวัน
หนุ่มๆ แถวนี้ตอนค่ำๆ จะชอบเตะบอล เตะตะกร้อต้นขาเลยใหญ่น่าลูบ
ระหว่างที่นั่งๆ ไป คุยกันไป ผมก็จะถือโอกาสลูบต้นขาแกอยู่บ่อยๆโดยที่ไม่ให้แกรู้ตัว
แกก็จะกอดคอผมแบบเป็นกันเอง ตามประสาคนนิสัยซื่อๆ
คืนนั้นผมก็พยายามรอโอกาสดีๆ งาบเพื่อนๆไอ้หนุ่ยกับเพื่อนพี่หนึ่งให้ได้ซักคนให้ได้
จนเกือบเที่ยงคืนแล้วนั่นแหละจึงเป็นโอกาสดีของผม
เมื่อเพื่อนไอ้หนุ่ยที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมก็เกิดเมาจนนั่งต่อไม่ไหว
เลยโดนลากไปนอนที่ชั้นสองที่เดิมเมื่อคืน
จำได้ว่ามันชื่อกอล์ฟผมเห็นว่าเป็นโอกาสดีเลยอาสากับเพื่อนมันอีกคนพามันไปนอน
ผมกับเพื่อนมันก็ช่วยกันหิ้วปีกซ้ายขวากอล์ฟไปนอน ตัวหนักเหมือนกันนะมึง
ก็มันตัวโตกว่าผมอีกนี่ครับ เพื่อนมันเลยรับน้ำหนักมันไปเต็มๆ 5555
บ้านไอ้อกอล์ฟอยู่ในตัวเมืองนู่นพอดีมันเอง ก็ตามเพื่อนมา
และตอนนี้เพื่อนมันแต่ละคนก็กำลังเมาได้ที่กันแล้วด้วยเลยไม่มีใครคิดจะขับมอไซค์ไปส่งมัน
หน้าตาไอ้กอล์ฟก็เข้าท่าดี แม้ว่าจะเรียกว่าหน้าตาดีไม่ได้แตก็ดูดีทีเดียว
ที่น่าสนก็หุ่นมันงี้น่าเอาชิบหาย ไอ้กอร์ฟมันตัวสูงๆ ขาแน่นล่ำ
และชอบใส่กางเกงยีนส์หลุดตูดอีกตะหาก ผมล่ะช้อบชอบอ่ะ
เพราะมันจะโชว์บ็อกเซ่อร์ลายๆ ให้ได้เห็น น่าดูจะตาย
พอแบกไอ้กอล์ฟขึ้นไปนอนได้สำเร็จ ผมก็ทำทีเป็นเมาแล้วนอนลงข้างๆ ไอ้กอล์ฟซะเลย
“อ้าว! วิน นี่มึงก็เมากับไอ้กอล์ฟด้วยเหรอว่ะไม่เห็นกระดกเหมือนพวกกูเลย”
“อืออ กูมาวแล้วว่ะ มึงไปกินต่อเหอะกูจะนอน”
“เออๆๆ เมาแล้วก็นอนซะ งั้นกูลงไปล่ะ ตอนนี้กำลังได้ที่เลย”
ว่าแล้วเพื่อนไอ้หนุ่ยก็เดินลงไป ปล่อยไอ้กอล์ฟไว้กับแมวขโมยอย่างผม
แบบนี้ก็หวานปากผมซิ ว่าป่ะ อิอิอิ
ผมมองไอ้กอล์ฟที่เมาหลับไม่รู้เรื่อง ดูสภาพมันตอนนี้แล้ว
กับโอกาสที่ปลอดคนแบบนี้ ถ้าผมจะทำอะไรลงไปก็คงจะไม่รู้เรื่องแหงมๆอิอิอิอิ
เพราะบรรดาญาติๆ ที่เป็นผู้หญิงก็กลับกันหมดแล้ว
ดูท่าที่มันนอนดิครับ กางขา กางแขนอ้าซ่าท้าทายผมเป้ากางเกงยีนส์แม่งอย่างตุง! อ่ะ
หน้าท้องแม่งเซ็กส์ว่ะ ทั้งแบนราบและไร้ขน เห็นแล้วของขึ้นเลยกู
มันนอนเปลือยอก อกแน่นๆ กระเพื่อมขึ้นลงเป็นจังหวะ
ตามประสาคนเมาบางทีก็พลิกไปซ้าย บ้างก็พลิกไปขวา
หัวใจผมเต้นถี่แรงเมื่อคิดว่ากำลังจะทำอะไรต่อไป
ผมมองซ้าย แลขวา อย่างระแวดระวัง เมื่อเห็นว่าปลอดภัยดีมือผมก็กำหมับที่เป้ากางเกงยีนส์มันทันที!
“อู้ววว!” เต็มกำมือเลยอ่ะพี่น้อง ผมกำแล้วไมยอมปล่อยด้วยเลยขยำๆ ซะมันมือเลย อิอิอิอิ
อู้ย! ตื่นเต้นๆ อ่ะ ใจผมเต้นแรงโคดๆ อ่ะตอนนี้ทั้งสะใจทั้งดีใจที่ได้จัดการหนุ่มๆ ซักรายคืนนี้
โดยที่เจ้าตัวมันเมาไม่รู้เรื่องรู้ราว ว่ากำลังโดนล่วงละเมิดท่อนล่าง
ผมกำลังมันมือเลยรีบรูดซิปมันลงก็เจออีกด่านเป็นบ็อกเซ่อร์ลายๆตรงเป้าตุงๆ โด่เด่
ไม่ตุงได้งัยอ่ะก็โดนผมกำๆ ถอกๆ อยู่พักใหญ่แล้วนี่นา
ผมกำลังหน้ามืด เลยล้วงควยมันออกทางด้านหน้าบ็อกเซ่อร์
ควยมันโด่แต่ไม่แข็งเท่าไหร่ หัวยังเปิดไม่หมด แต่ขนาดก็เหมาะปากน่าจะซัก 5 นิ้วกว่าๆ ได้
เอาน่าไม่ใหญ่มาก แต่ก็เป็นควยของผู้ชายแมนๆ แหละ อร่อยเหมือนกัน 5555
ที่น่าสนใจก็ดงหมอยที่ดกดำเต็มโคนของมันนี่แหละครับ
ผมรีบชักๆ ถอกๆ ควยให้ไอ้กอล์ฟด้วยความตื่นเต้นกลัวว่าใครจะขึ้นมาซะก่อน
แม่งแข็งชิบอ่ะ ชักจนน้ำใสๆ เยิ้มเลยครับ
ชักจนควยมันแข็งเต็มที่ผมก็อ้าปากอมทีเดียวมิดลำ!
ตัวไอ้กอล์ฟมีปฏิกิริยากระตุกนิดหนึ่ง แล้วมันก็ทำท่าเหมือนจะพลิกตัว
แต่ผมพยายามดันมันไว้ไม่ให้พลิกตัว จนมันหลับต่อผมก็จัดการจับมันดูดควยต่อ
ควยไอ้กอล์ฟมีกลิ่นอับนิดหน่อยตามประสาคนไม่ได้อาบน้ำ
ผมพยายามโม๊คให้มิดลำ! ลึกสุดโคนแม่งเล่นกันสุดคอหอยเลยครับ
เพราะขนาดย่อมๆ อย่างนี้สบายปากไอ้วินนักล่ะ 5555
ระหว่างที่ดูดควยขนาด 5 นิ้วกว่าๆ ของไอ้กอล์ฟไป
มือผมก็ลูบไล้ไปมาตามอกล่ำๆ ของมันด้วยผมไซ้ขึ้นไปตามหน้าท้องที่แบนราบ
แล้วย้อนเกล็ดขึ้นไปตามหน้าอกและหัวนมของมัน
ผมดูดจนไอ้กอล์ฟมีเสียงครางอือๆออกมาจากลำคอ
“อืออ”
แต่ตาก็ยังหลับต่อ ผมอยากดูดปากมันจะตายแต่ไม่กล้าเลยกลับมาดูดควยขนาดย่อมให้มันต่อ
ความรู้สึกตอนนั้นมันสุดยอดไปเลยอ่ะครับ มันปากมาดๆเพราะขนาดควยมันที่ดูดคล่องคอ
ผมเลยดูดดอให้ไอ้กอล์ฟแบบสุดๆ ไปเลย ดูดแบบติดพันแล้วครับตอนนั้น
แต่แล้ว! ก็มีมารมาขวางซะได้!
ขณะที่ผมกำลังดูดควยไอ้กอล์ฟแบบเร่งสโตรคเต็มความไวอยู่นั้น
ก็ได้ยินเสียงคนเดินขึ้นบันได ผมถึงกับหน้าตื่น! ตกใจสุดๆ
คิดอะไรไม่ออกเลยรีบเอาผ้าห่มมาปิดควยแข็งๆ ของไอ้กอล์ฟไว้
แล้วรีบลงนอนหันหลังให้ไอ้กอล์ฟอย่างเนียน
“เฮ้อ! ใจคอหายหมด!”
ที่แท้เป็นเพื่อนไอ้กอล์ฟสองคนน่ะเองครับ
“มันหลับแล้วก็ให้มันนอนนี่แหละว่ะ กูเองก็เมากลัวว่าจะขับไม่ไหว”
“เอางั้นก็ได้ กูเองก็ตาจะหลับแล้วเหมือนกัน คงขับมอไซค์ไม่ได้ว่ะเมาชิบหาย”
มันสองคนโต้ตอบกันไปมา แล้วก็นอนลงข้างๆ ไอ้กอล์ฟ แป๊บเดียวก็หลับไปด้วยความเมา
แต่ผมดิตาค้างเลยครับ อาการร่านยังไม่หายนี่นา
แม่งเอ๊ย! พวกมึงจะมาห่วงเพื่อนเอาตอนนี้ทำไมว้า!
ผมด่าพวกมันอยู่ในใจด้วยความขัดใจ
แต่อีกใจก็ทั้งตื่นเต้นทั้งขบขันกับเหตุการณ์การลักหลับที่เพิ่งจะผ่านไปเมื่อครู่
เสียดายที่น้ำไอ้กอล์ฟยังไม่ทันแตกให้ผมเห็นเลยอ่ะ เฮ้อ! เซ็ง!ๆๆๆ
แต่มาคิดอีกที ก็ถือว่าโชคดีซักแค่ไหนเนี่ย ที่ผมรู้ตัวซะก่อน
ก่อนที่พวกมันจะมาเห็นว่าเพื่อนมันโดนลักหลับโดนดูดควยอยู่
ถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงได้อับอายขายหน้าประชาชีก็ครั้งนี้แหละ
คืนนั้นเลยได้แต่นอนกระสับกระส่ายทั้งคืนเพราะภารกิจไม่สำเร็จ 5555
พอตอนเช้าเราก็นั่งเรือข้ามไปฝั่งเมือง “สะหวัน” กันตั้งแต่เช้าๆ
เพราะจะต้องไปให้ทันงานสู่ขวัญที่ญาติฝ่ายโน้นเขาจัดให้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น