วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เรื่องเซ็กส์ของเด็กร่าน บทที่ 68 หนุ่มริมฝั่งโขงล่อตาน่ากิน (1)

จำได้ว่าตอนเด็กๆ พ่อแม่พาผมไปเยี่ยมพี่ชายที่ นครพนม ตอนนั้นอากาศจะหนาวเย็นเอามากๆ
เพราะมีงานประจำจังหวัดจัดขึ้นในช่วงปลายหนาว ก็จะมีการออกงาน ของกินของใช้ของที่ระลึก ต้นไม้ ดอกไม้ เยอะแยะมากมาย
รวมทั้งมหรสพหมอลำ แล้วก็การฉายหนังกางแปลง
สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่เด็กน้อยอย่างผมจนจำได้ติดตามาจนถึงปัจจุบัน
พี่สินพี่ชายผมแต่งงานได้หลายปี ก็มีลูกๆ ตั้งสามคน ชาย 1 หญิง 2
หลานผู้ชายก็หน้าตาดีคล้ายๆแม่ อายุไล่เลี่ยผม ส่วนผู้หญิงสองคนก็หน้าตาจิ้มลิ้มน่าเอ็นดู
จะว่าไปแล้วก็ดูคลับคล้ายคลับคลาแม่ผมเหมือนพิมพ์เดียวกัน
แต่ปีนี้พ่อกับแม่ติดธุระมาไม่ได้ เลยสั่งให้ผมไปเยี่ยมพี่ชายให้ได้
เพราะแม่กลัวว่าพี่ชายจะน้อยใจบ้านพี่ชายอยู่ติดฝั่งโขง บรรยากาศดีโคดๆ อ่ะครับ
วิวก็สวยมากๆเห็นฝั่ง สปป.ลาวอยู่ไกลลิบๆ ยังกะภาพวาดแน่ะครับ
ตอนเด็กๆตอนที่มาเที่ยวธาตุพนมครั้งแรกๆ ก็ได้ยินผู้ใหญ่เขาคุยกันถึง
เรื่องประเทศลาวเมืองเวียงจันท์ หลวงพระบาง จำปาสัก อะไรพวกนี้
ซึ่งผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องนักหรอกแต่ที่ติดหูหน่อยก็จะเป็นชื่อ “เวียงจันท์”
พอสบโอกาสผมเลยอดถามแม่ไม่ได้

“แม่ๆ เวียงจันท์อยู่ตี้ไหนคับแม่...แล้วอยู่บนดวงจันร์ใจ้ก่อคับ”
จำได้ว่าแม่ฟังแล้วก็หันไปหัวเราะกันสองคนกับพ่อ แล้วอธิบายให้ผมฟังว่า

"บ่ใจ้เน้อลูก เวียงจันท์เป็นชื่อเมืองหลวงของ ประเทศลาวก่ะลูก เหมือนกรุงเทพฯ ”
ผมถึงได้บางอ้อแต่ก็ยังอดเซ้าซี้ถามต่ออีกว่า

“แล้วจะไดเปิ้นตึงฮ้องว่าเวียงจันท์คับแม่”
“ก็...อันนี้แม่ก่อบ่ฮู้เหมือนกั๋นเน้อลูก... ปะเดี๋ยวบ่ะหล้าใหญ่ขึ้นบ่ะหล้าก่อจะฮู้เองล่ะก๊า”

แม่ผมก็ชักจะจนมุมจะตอบอ่ะครับเพราะแม่ผมก็ไม่ได้เก่งเรื่องประวัติศาสตร์ของประเทศเพื่อนบ้านซะด้วยซิ
แต่ถ้าถามเรื่องประวัติศาสตร์ล้านนาล่ะก็ เป็นได้คุยถูกคนแน่ๆ ครับ
ผมมาทีไรผมจะชอบนั่งเล่นที่ริมระเบียงบ้านของพี่ชายจนดึกดื่นบ่อยๆ
เพราะอย่างที่บอกว่าอากาศและบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติกนั่นเองยิ่งตอนค่ำๆ ด้วยแล้ว
ลมเย็นๆพัดมาเอื่อยๆ แสนจะมีความสุข แต่ขอบอก ถ้าเป็นช่วงปลายหนาว
อย่างเดือนกุมภาอย่างนี้ล่ะก็แสนจะเย็นสะท้านกันเลยครับ
เพราะนครพนมก็เป็นอีกจังหวัดนึงของภาคอิสานที่มีอากาศเย็นจัดในหน้าหนาว
จำได้ว่ามาเที่ยวบ้านพี่ชายในงานพระธาตุทีไรผมมักจะไม่อยากอาบน้ำทุกที
เป็นเหตุให้แม่ดุผมเป็นประจำ
พี่ชายกับพี่สะไภ้มีอาชีพค้าขายอย่างตอนเช้าจะขายเนื้อไก่ (เลี้ยงเอง ขายเอง)
พอตอนกลางวันแกก็จะขายขนมจีนน้ำยาลาว(ซาวเอง ขายเอง)
แล้วพอตอนค่ำๆก็จะขายกับข้าวอีก(ทำเอง ขายเอง)
นี่แหละพี่ชายผมขยันเหลือเกินจริงๆ นับเป็นข้อดีที่ผมไม่มี 5555
ขยันจนเอาชนะใจพ่อตาแม่ยายได้ในระยะเวลาสั้นๆ
พี่ชายผมหน้าตาจะเหมือนพ่อมากเป็นคนผิวคล้ำตัวล่ำและสูงใหญ่
ผมกับพี่ชายจึงไม่เหมือนกันซักกะนิดตอนแรกที่พี่ชายบอกคนอื่นว่าผมเป็นน้องชาย
ชาวบ้านแถบนี้ดูจะไม่ค่อยเชื่อซักเท่าไหร่
นั่นคงเป็นเพราะผมเหมือนแม่มากคือตัวเล็กๆ ผิวก็ขาวจั๊วะ เลยดูผิดกันกับพี่สิน
แล้วก็เรื่องอายุอีกที่ทำให้ชาวบ้านเขาไม่ค่อยเชื่อเพราะผมกับพี่สินอายุห่างกันมากตั้งเกือบยี่สิบปี (อายุห่างกัน19 ปี)
พี่สินแต่งงานตอนผมอายุประมาณ 1 ขวบเห็นจะได้
นอกเหนือจากความขยันขันแข็งแล้วแกเป็นคนใจดี และเคารพ พ่อกับแม่มาก
พ่อผมเลยค่อนข้างปลื้มพี่สินมากกว่าผมเยอะ
ผมไปถึงอำเภอก็เห็นผู้คนเดินกันให้วุ่นไปหมดหนุ่มวัยรุ่นหล่อๆ หน้าตาดีๆ
มีอยู่เยอะแยะจนผมเผลอเหล่มองด้วยความเผลอตัวอยู่บ่อยๆ
“อำเภอนี้ดีจังผู้ชายหน้าตาดีโคดเยอะอ่ะ”
ผมคิดในใจด้วยหมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องได้ซักคน
ตัวอำเภอที่เคยดูสงบในช่วงที่ไม่มีงานกลับพลุกพล่านไปด้วยผู้คนและร้านรวงและเต๊นท์ที่ออกร้านในช่วงเทศกาลงานบุญ
ตอนที่คุยกับพี่ชายครั้งล่าสุดแกก็บอกแค่ว่าเดี๋ยวมีคนไปรับ
แต่ไม่ยักกะบอกว่าเป็นใครผมก็ยืนมองซ้ายแลขวา อย่างคนตื่นที่ตื่นทางอ่ะครับ
ก็ทุกทีที่มาก็มากับพ่อกับแม่และก็มากันเป็นรถกระบะที่เหมามานี่นา
ยืนรออยู่ได้พักนึงจึงมีหนุ่มหล่อหน้าตาดีขับมอไซค์มาจอดข้างหน้าผม
เออจะว่าไปหน้าตาก็คุ้นๆแฮะ คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ปากนั่นก็อีก เอ...ใครหว่า
“ใช่วินมั๊ยเนี่ย”
ผมพยักหน้าหงึกๆอย่างงงๆ อ่ะครับ เพราะผมไม่รู้จักหมอซะหน่อย
แต่ทำไมหมอรู้จักชื่อผมได้เนี่ยมานึกๆ ดูก็เลยเดาออก
ว่าคงเป็นคนที่พี่ชายบอกว่าจะมารับมั๊ง
“เฮ้ยนี่เราเองตั้มไง จำไม่ได้เหรอ”
“ตั้ม...!!!”
ผมทำท่าคิดนิดนึงแล้วก็ร้องออกมาดังๆ ด้วยความดีใจสุดๆ
“เฮ้ย!นี่ตั้มเองเหรอ เป็นงัยบ้างเนี่ยไม่เจอกันตั้งนาน”
“ก็สบายดีได้ยินว่านายไปเรียนไกลถึงเชียงใหม่เลยนี่”
“อ้อใช่ๆ...แล้วนายล่ะเรียนที่ไหน”
“เราเรียนที่ขอนแก่นน่ะ”
“จริงเหรอไม่ไกลบ้านเท่าไหร่ เออเพื่อนเราก็เรียนที่นั่นหลายคน...”
เราสองคนพูดคุยกันอย่างถูกคอในเวลาอันรวดเร็วเพราะไม่ได้เจอกันตั้ง6 ปี
แถมตอนนี้ตั้มมันก็ดูหล่อและเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วด้วยความสูงน่าจะซัก 172 เซนต์ ได้ รูปร่างดี ล่ำ
เนื้อแน่นแบบชายไทย เพราะตั้มมันชอบเล่นกีฬาด้วยแหละ
(ถ้ายังจำกันได้นะครับตั้มเคยไปเที่ยวบ้านผมในช่วงสงกรานต์ตอนนั้นผมกับตั้มอายุ 14)
“นายจะกลับบ้านเลยหรือว่าอยากไปขับรถเที่ยวก่อนดี”
ผมก็ย่อมต้องบอกว่าขอขับรถกินลมชมวิวก่อนดิครับเพราะเผลอๆ จะได้กินใส้กรอกอิสานอีกนะนั่น 5555
ก็แหมคนเราวัวเคยขาม้าเคยขี่กันมาก่อน สะกิดนิดๆ หน่อยๆ ก็คงไม่ยากหรอกน่าว่าป่ะ
ครั้งนั้นตอนที่เราเย็ดกันจำได้ว่าแค่สองครั้ง เรายังเป็นเด็ก 14 กันอยู่เลย
ไม่ได้เก่งในเรื่องอย่างว่ากันซักเท่าไหร่
แต่ตอนนี้ล่ะก็รับรองลีลาที่ผมฝึกฝนมาจาก108 สำนัก
ผมว่าคงทำให้ตั้มเผลอใจได้ไม่ยากหรอกน่าอิอิอิอิ
คิดได้ดังนั้นผมเลยให้ตั้มพาผมขับมอไซค์เที่ยวไปเรื่อยๆเราเดินดูของที่มีขายกันอย่างมากมายที่งานอย่างเพลิดเพลิน
ทั้งของกินของใช้ ต้นไม้ดอกไม้ ล้วนสร้างความตื่นตาได้มากจริงๆ  
พอเราสองคนเหนื่อยก็หาหาก๋วยเตี๋ยวกินแถวๆที่เขาจัดงานนั่นแหละครับก็มีร้านให้กินอยู่เยอะแยะไปหมด
เพราะความหิวเลยทำให้ผมกับตั้มสวาปามกันไปคนละสองชามแน่ะ
“อร่อยดีเนอะ”
“หิวอ่ะดิ๊5555”
ตั้มรู้ทันผมพอพูดเสร็จก็หัวเราะขำๆ ผมเห็นแล้วก็ยิ่งหลงหมออ่ะครับ
ก็ดูตั้มตอนนี้ดิทั้งหล่อทั้งล่ำ แถมเป็นหนุ่มเต็มตัวแบบนี้ จะไม่ให้ผมหลงได้ไงอ่ะครับ
หูตาก็ดูเป็นประกายแบบผู้ใหญ่หาใช่เด็กน้อย ม.ต้น คนเก่าไม่

“กินอิ่มแล้วนายจะกลับบ้านเลยมั๊ย”
“ยังไม่อยากกลับอ่ะเอางี้ไปหาที่นั่งเล่นก่อนดีกว่า”
ผมออกไอเดียอันบรรเจิดพร้อมกับวางแผนการณ์ไว้ในหัวเสร็จสรรพ

“ตามใจนาย”
ตั้มใจดียอมตามใจผมแต่ระหว่างที่ตั้มกำลังสตาร์ทรถ มือถือตั้มก็ดังขึ้น
“ว่าไงคร้าบ!พอดีมารับญาติน่ะเดี๋ยวตั้มก็กลับแล้ว ครับผมแล้วค่อยเจอกัน”
เห็นหน้าตาตอนที่พูดคุยแล้วผมก็เดาเกมส์ออกว่าคนที่นายตั้มคุยสายด้วยต้องเป็นแฟนสาวของหมอชัวร์!
ทันใดนั้นสมองก็เลยยิ่งคิดแผนการให้รวบรัดยิ่งขึ้นโดยการแวะเซเว่นแล้วหาซื้อเบียร์สี่กระป๋องกินเบียร์ไปคุยกันไป
รับรองนายตั้มไม่กล้าเร่งให้ผมรีบกลับบ้านแน่ๆ 5555

เราขับรถไปจอดแถวๆสะพานที่จะไปบ้านพี่ชาย มองไปตามบ้านเรือนผู้คนยังคงสว่างไสวเพราะเพิ่งจะทุ่มเศษๆ
ไอหมอกลงเอื่อยๆ ตามริมน้ำผมกับตั้มก็นั่งกินลมชมวิวพร้อมกับดื่มเบียร์กันไป
ต่างก็พูดคุยกันถึงเรื่องราวในช่วง6 ปีที่ไม่ได้เจอหน้ากันท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น ที่พัดมาจากแม่น้ำโขง
บอกได้คำเดียวว่าได้บรรยากาศมากๆเลยครับ
ยิ่งคุยไปเท่าไหร่ผมก็ยิ่งปลื้มตั้มหนักเข้าไปอีกเพราะตั้มเป็นผู้ชายต่างจังหวัดที่ดูดีแบบผู้ชายแท้ๆไม่ได้ฟุ้งเฟ้อ
หรือพยายามเสริมแต่งให้ตัวเองดูดี เป็นยังงัยก็เป็นอย่างนั้น พูดคุยตรงๆซื่อๆ และแมนๆ
และนับตั้งแต่ตอนที่เราไปเล่นน้ำกันที่แม่น้ำชีตอนสงกรานต์ครั้งนั้น
ตั้มก็ได้ช่วยผมให้รอดจากการจมน้ำครั้งนึงนับตั้งแต่ครั้งนั้นผมยังจำได้ไม่ลืม
พอคุยกันไปเลยได้รู้ว่าตั้มน่ะเป็นนักกีฬาได้โควตาของนักกีฬาเข้าเรียนมหาลัยฯ
มิน่าล่ะดูตั้มดิครับตัวสูงหุ่นแน่นน่ากินอะไรจะปาน
ยิ่งได้ใกล้ชิดเสียดสีเนื้อตัวกันไปมาอย่างนี้อารมณ์ผมก็ยิ่งกระเจิง! อ่ะ
ผมก็พยายามลูบหน้าลูบหลังหมอไปตามแผนการณ์
และเมื่อเบียร์กระป๋องที่สองเริ่มพร่องหน้าตาตั้มตอนนี้เริ่มแดงระเรื่อเห็นได้ชัดในความสลัวของแสงไฟ
ผมจึงเริ่มแผนการขั้นที่สองทันทีมือผมเริ่มลูบตามหน้าขาของตั้มไปมาตั้มเองก็ไม่ได้ว่าอะไร
เล่นเอาผมได้ใจสุดๆเลยครับ แล้วผมก็เริ่มพูดเข้าเรื่อง

“ตั้มจำตอนนั้นได้ป่าว”
ตั้มหันมาถามผมยิ้มๆหน้าตาดูปรือๆ ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอลล์
“ตอนไหนล่ะ”
“ก็ตอนที่...”
ผมไม่พูดเปล่าแต่ลูบที่ต้นขาแกร่งๆของตั้มไปมา และดูตั้มจะพอใจเสียด้วยซิ
แต่ตั้มก็ยังเป็นตั้มคือได้แต่ยิ้มเก้อๆ
“บ้า! ...จะพูดถึงมันทำมัยน่าอายจะตาย”
ตั้มยกมือขึ้นเกาหลังหูแบบอายๆดูแมนดีครับ นั่นก็แสดงว่าแผนการผมเริ่มเข้าเค้าแล้ว
มือผมจึงเลื่อนจากหัวเข่าลงไปที่เป้ากางเกงยีนส์ของตั้มหูยยย โคดตื่นเต้นอ่ะครับ
ดีหน่อยที่ๆเราอยู่กันเป็นปลายสะพานและไฟก็ไม่สว่างมากนัก จึงไม่ต้องกลัวใครเห็น
แล้วมือผมก็กำหมับเข้าให้ที่เป้ากางเกงยีนส์ของตั้มที่เริ่มจะแข็งปั๋ง! แล้ว
ผมกำได้ไม่ถึงห้าวินาทีตั้มก็จับมือผมเอาไว้ไม่ให้รบกวนน้องชายเขา
“วินอย่า...เดี๋ยวคนเห็น”
ตั้มพูดเบาๆเหมือนกับตอนที่เย็ดกันครั้งนั้นไม่ผิด เพราะความขี้อายของตั้มนี่แหละที่เป็นเสน่ห์ของผู้ชายคนนี้
ผมโน้มหน้ากระซิบที่ข้างหูของตั้ม

“แล้วขอได้ป่ะ”
ตั้มไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธแต่มองผมยิ้มๆ รอยยิ้มดูยั่วยวนยังงัยบอกไม่ถูกอ่ะครับ
โอ้ย! ใจไอ้วินแทบละลายแน่ะครับอิอิอิอิ
หล่อแมนน่าเย็ดจังโว้ย!ผมคิดในใจดังๆ
จนผ่านไปซักห้านาทีได้มั๊งตั้มก็บอกว่าปวดเยี่ยวแล้วเดินหลบลงไปใต้สะพาน
ทีแรกผมก็เริ่มใจออกแล้วครับนึกว่าจะกินแห้วซะแล้วแต่มานั่งคิดๆ ดูแล้ว
ถ้าตั้มมันไม่เล่นด้วยมันคงไม่ยอมให้ผมลูบหน้าลูบเป้ามันซะขนาดนี้หรอกว่าป่ะ
คิดได้ดังนั้นผมเลยเดินตามตั้มลงไปใต้สะพานที่มืดๆ
ก็เห็นตั้มกำลังยืนเยี่ยวอย่างสบายใจในความสลัวเห็นแก้มก้นตั้มขาวๆ ในความมืด
มือขวาตั้มจับควยฉี่เสียงดังซู่ๆ
พอตั้มเห็นผมเดินเข้ามาใกล้ตั้มก็ยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ดูมีเสน่ห์กระชากใจผมสุดๆ อ่ะ
ผมเห็นควยดุ้นใหญ่ที่แข็งจัดของตั้มฉีดน้ำเยี่ยวจนหยดสุดท้าย
“เห็นมั๊ยอยากจับควยเราดีนักมันแข็งแล้วเยี่ยวยากเลยเนี่ย”
ตั้มบ่นเบาๆ
“เหรอ”
ผมเข้าไปลูบตะโพกแกร่งๆของตั้มอย่างได้ใจ ได้อารมณ์
จนเห็นตั้มเริ่มสะบัดควยแล้วนั่นแหละผมจึงเข้าไปกอดตั้มทางด้านหลัง แสนจะได้อารมณ์โคดๆ
มือผมก็ไวรีบกำที่ควยดุ้นเขื่องของตั้มอย่างไวอ่ะครับ
บอกได้คำเดียวว่าเต็มไม้เต็มมือโคดๆถูกใจไอ้วินเป็นบ้าอ่ะ  โอยเสียวใจจะขาด
เพราะตอนนี้ควยตั้มใหญ่กว่าตอนเป็นเด็ก14 ตั้งเยอะ
หนำซ้ำหมอยก็ดกปุกปุยกว่าเก่าน่ายีเล่นเป็นที่สุด
“ไม่ได้เจอตั้งนานควยตั้มใหญ่จัง”
ผมชมออกมาจากใจตั้มก็หัวเราะหึๆๆ ปล่อยให้ผมถอกควยตัวเองเล่นไป
“มีแฟนแล้วเย็ดบ่อยอ่ะดิ”

“แฟนเราไม่ค่อยให้เราเย็ดหรอกแถมดูดไม่เป็นอีกตะหาก บางทีเราก็อยากให้พวกกะเทยที่มาเหล่ๆ
แถวข้างสนามดูดควยให้ออกบ่อยไป...แต่ไม่กล้า”

ตั้มพูดไปตามอารมณ์ที่ผมกำลังก่อให้น่าจะเพราะฤทธิ์เบียร์ด้วยแหละที่ทำให้หนุ่มพูดน้อยอย่างเขาพูดมากขึ้นอย่างนี้
“งั้นเดี๋ยวเราจัดให้”
ผมกระซิบข้างๆหูตั้ม เห็นหมอหลับตาปี๋อย่างมีอารมณ์
กล้ามเนื้อตั้มแน่นน่ากอดแบบหนุ่มนักกีฬากลิ่นกายก็น่าดมแบบชายแท้
ระหว่างที่ถอกควยให้ตั้มไปผมก็ขบเบาๆที่ติ่งหูตั้มไป
เล่นเอาตั้มถึงกับเผลอครางออกมาด้วยความเสียวจัด
“อือออเสียวววๆ”
ผมไซ้ตามซอกคอตั้มจากข้างหลังจนตอนนี้ชักอยากจัดการกับควยแข็งๆ ของตั้ม
จนเต็มแก่แล้วเลยดึงให้ตั้มหันหน้ามาทางผม ก็ได้เห็นควยตั้มแบบเต็มๆ ตา
มันแข็งชูชันเต็มหว่างขาและกลางดงหมอย
แสงไฟจากบนสะพานทำให้เห็นชัดทีเดียวว่าควยตั้มยังคงสวยงามและน่ากินไม่เปลี่ยน
ควยตั้มผงกหัวหงึกๆอย่างมีอารมณ์ ขนหมอยก็ดกขึ้นตามวัย
ไข่สองใบขดเป็นก้อนกลมตามอากาศรอบกาย
หน้าท้องตั้มแบนราบน่าซบน่าดมเป็นที่สุดผมเลยนั่งคุกเข่าจูบไซ้จนตั้มเสียวจัด
กดหัวผมเข้าหาหนอกควยตัวเองแบบอัตโนมัติ
“ซี้ดดดเสียวว่ะวิน”
“แล้วนายชอบป่าวล่ะเดี๋ยวเราจะทำให้เสียวยิ่งกว่านี้อีก”
ว่าแล้วผมก็จับควยดุ้นเขื่องของตั้มเข้าปากดูดจ๊วบๆๆๆเล่นเอาตั้มถึงกับสะท้านเลยครับ
ด้วยความที่ไม่ใช่เล็กๆผมเลยต้องอ้าปากค่อนข้างกว้างเพื่อจัดการให้ควยของตั้มเข้าปากให้หมดลำ
“ซี้ดดดอู้ว! เสียวววว”
ปากบอกว่าเสียวแต่เอวกลับส่ายพั่บๆ เด้าปากผมไม่หยุด
ผมเองก็กำลังมันเลยดูดแบบไม่รืมหูรืมตาผมกลัวว่าตั้มจะน้ำแตกซะก่อน
เดี๋ยวอดสนุกกันพอดีเลยหยุดดูดควยให้ตั้ม เล่นเอาตั้มออกปากถามด้วยความแปลกใจ
“หยุดดูดทำมัยอ่ะวิน!กำลังมันเลย”
“เหอะน่า...แล้วนายจะรู้สึกมันกว่านี้อีก”
ว่าแล้วผมก็ลุกขึ้นแล้วถอดกางเกงยีนส์ลงไปกองไว้ที่ปลายขา
แล้วโก้งโค้งหันหน้าเข้าหาเสาสะพานจนตูดขาวๆของผมโด่งล่อเป้า
แล้วผมก็พยักหน้าเชิญชวนให้ตั้มตั้มเห็นแล้วก็รู้ทันว่าผมต้องการอะไร
“นายจะให้เราเย็ดตูดเหรอ”
“เร็วๆเลยตั้มเราอยากให้ตั้มเย็ดตูดเราใจจะขาดแล้ว”
“โอเค...ไม่ได้เย็ดตูดนายมานานอยากลองดูอีกเหมือนกัน”
ว่าแล้วตั้มก็ขยับหุ่นแน่นๆเข้ามาชิดตูดผมแล้วถุยน้ำลายใส่รูตูดผม
แล้วก็กดหัวควยของตัวเองเข้ามาช้าๆ
“ซี้ดดดดด!”
ผมส่งเสียงครางออกมาเหมือนทุกๆครั้ง ที่รับรู้ได้ว่ากำลังได้ของถูกใจ 5555
“อืออ...คับควยว่ะวิน...ร้องซะอย่างนั้นชอบเหรออูววว”
“อือออชอบดิก็ควยนายมันใหญ่คับตูดสัดๆ นี่หว่า”
ผมพูดไปมือก็อ้อมมากำๆขยำๆ ที่ตูดของตั้มไปอย่างได้อารมณ์
“ใกล้จะสุดโคนยังถ้าสุดแล้วเด้าแรงๆ เร็วๆ เลยนะ”
“พึ่งจะได้ครึ่งลำเองว่ะ ซี้ดดด เสียวหัวควยชิบหาย แน่นสัดๆ อ่ะหีแฟนเรายังไม่คับเท่าตูดนายเลยนะ จุ๊ๆๆ”
“แล้วดีมั๊ยล่ะถ้าชอบนายก็มาเย็ดเราทุกวันดิ อือออ กว่าเราจะกลับก็อีกวันสองวัน”
“ได้เลยอึ๊บๆๆ งั้นคืนนี้เราไปนอนกับนายนะ อึ๊บๆ เข้าไปหมดดุ้นแล้วว่ะ! ซี้ดดด!”
“ดีๆๆอา...อูววว อา เย็ดแรงๆ เลยตั้ม”
หลังจากนั้นตั้มมันก็ตั้งหน้าตั้งตากระเด้าตูดผมอย่างเมามันแบบรุนแรงบ้างเนิบๆ บ้าง
พอมันเผลอทำแรงก็เล่นกระแทกจนหัวผมโยกหัวผมคลอนไปมา
จนโขกกับเสาสะพานดังโป๊กๆ ก็หลายที
แม่งเอ๊ย! ทั้งเรี่ยวแรงและลีลาเด็ดขึ้นเยอะเลยครับพี่น้อง
สองแขนกำยำของตั้มกดที่เอวผมแน่นเอวก็สวนควยซอยตูดผมยิกๆๆๆ
ความรู้สึกที่โดนตั้มสวนควยเข้าตูดนั้นช่างล้ำลึกจนเกินห้ามใจอ่ะคับ
มือข้างนึงของตั้มขยำหน้าอกผมอย่างเมามันพอๆกับการตะบันเย็ดตูพดผมเลย
ขนหมอยที่ดกๆของตั้มเสียดสีที่บริเวณตูดผมจนคันยิกๆ แต่ได้อารมณ์โคดๆ
อากาศที่แสนจะเย็นด้วยลมหนาวของฤดูหนาวไม่ได้ทำให้ผมกับตั้มรู้สึกหนาวซักกะนิด
หากแต่ได้อารมณ์ไปอีกแบบ
เสียงหอบกระเส่าของตั้มยิ่งดังเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ผมมีอารมณ์ร่วมหนักเข้าไปอีก
“แฮ่กๆๆอึ๊บๆๆๆ  มันควยว่ะวิน อึ๊บๆๆตูดนายดูดควยเราแทบขาดแน่ะ นี่ๆๆๆ”
ผมเสียวจนต้องยืนตัวตรงแล้วหันไปดูดปากกับตั้ม
“อา...ซี้ดดดดเราก็มันตูดโคดๆ อ่ะตั้ม นายเย็ดเก่งกว่าเก่าอีกนะเนี่ย เด้าแรงๆ แรงอีกๆ อู้ววว”
“เราใกล้จะน้ำแตกแล้วว่ะวินตูดนายเอามันชิบหายเลยว่ะ อึ๊บๆๆๆ”
“ถ้าแตกก็แตกเข้ามาในตูดเราเลยนะซี้ดดด ดีๆๆๆ”
“ได้เลยๆเราก็ชอบให้น้ำแตกในรูเหมือนกัน มันรู้สึกดีว่ะ อึ๊บๆๆ”
แล้วพอตั้มใกล้จะน้ำแตกตั้มมันก็ล็อกสองแขนผมไว้แน่น
ในขณะที่เอวก็กระแทกป้าบๆๆๆ  อีกนับสิบแล้วน้ำควยตั้มก็ทะลักเข้าตูดผมนับเจ็ดถึงแปดชุดแน่ะครับ โห! สุดยอดอ่ะครับ
เราสองคนยังคงกอดกันอยู่อย่างนั้นอีกซักพักเสียงหอบกระเส่าข้างๆ หูของผม
ฟังแล้วได้ฟิวส์เหลือหลาย

“ตูดนายยังเอามันเหมือนเดิมเลยว่ะ... ฟิตกว่าหีอีก... สุดยอดไปเลยว่ะ”
ตั้มพูดไปมือก็ล้วงเข้าไปในเสื้อยืดผมแล้วขยำอกผมไปมาควยที่เริ่มอ่อนตัวของตัวหลุดออกมาจากรูผม
แล้วแต่ตั้มก็ยังคงประกบตูดผมไม่ยอมห่าง

“นายก็เย็ดเก่งขึ้นเยอะ”

ผมหันไปหอมแก้มตั้มเป็นคำขอบคุณ
แล้วเราก็จูงมือกันขึ้นไปบนสะพานแล้วคุยกันต่ออีกซักพัก ตั้มก็เปิดใจกับผมว่า
หลังจากที่ผมกับตั้มเย็ดกันครั้งนั้นเขาก็นึกอยากเย็ดตูดอยู่เรื่อยๆ
เหมือนเป็นความฝังใจแต่ไม่กล้าลองกับใครอีก
เลยได้แต่ชักว่าวแล้วจินตนาการตามไปด้วย
ผมฟังแล้วยิ่งรู้สึกผิดอ่ะครับที่ไปทำให้ผู้ชายแท้ๆคนนึง มีความผิดปกติทางอารมณ์อย่างนี้
แต่แทนที่ตั้มจะโกรธเขากลับลูบหลังผมเหมือนเป็นการปลอบแล้วหัวเราะร่าอย่างอารม์ดี
“ไม่ต้องคิดมากน่าจะว่าไปก็มันดีออก จะน่าเบื่อก็แค่เป็นพักๆ ที่ไม่มีตูดให้ล่อเท่านั้นเอง 5555”
“พูดอย่างนี้รับรองคืนนี้นายไม่ได้หลับแน่”
ผมเอานิ้วชี้หน้าตั้มเป็นคำขู่ตั้มก็หัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดี
แต่ผมไม่พูดเปล่าครับแต่เลื้อยไปกำที่เป้าของตั้มแล้วขยำเล่นจนควยตั้มแข็งเด่ขึ้นมาอีกตั้มก็หัวเราะร่าพร้อมกับพูดว่า
“ได้ดูดได้อม แถมได้กินใส้กรอกอิสานไปดุ้นนึงยังไม่เบื่ออีกเหรอ”
“ของดีอย่างนี้ใครเบื่อก็โง่แล้ว5555”
แล้วเราสองคนก็หัวเราะกันขำๆอ่ะครับ ก็พอดีกับที่พี่ชายโทรตามนั่นแหละ
ตั้มถึงได้ชวนผมกลับบ้านกันด้วยความอิ่มอกอิ่มใจ
พอไปถึงบ้านพี่ชายพี่สะไภ้ของผมก็หาข้าวหาปลาให้กิน
ทีแรกตั้มกะว่าจะกินข้าวด้วยแต่แฟนสาวโทรตามหมอเลยต้องขอกลับก่อน
ผมเลยเกิดอาการเซ็งรับประทานเลยครับ
แต่จริงๆแล้วก็เพราะว่าอิ่มอย่างอื่นมาแล้วนั่นเองครับ ทั้งก๊วยเตี๋ยว
แล้วไหนจะข้าวเหนียวถั่วดำกับใส้กรอกอิสานดุ้นโต! อีกล่ะ 5555
ปีนี้น้องสร้อยหลานคนที่สองกำลังจะขึ้นม.3 กำลังแตกเนื้อสาวสะพรั่ง
หน้าตาสะสวยทีเดียวดูๆ ไปเหมือนสาวเหนือเสียมากกว่า
ส่วนน้องแหวนหลานสาวคนเล็กก็กำลังจะขึ้นม.1 หน้าตาก็จิ้มลิ้ม
ผิวพรรณก็สะอาดตาแถมดูเเป็นคนอารมณ์ดีซะด้วย
เห็นพี่ชายเล่าให้ฟังว่าชอบทางด้านศิลปะ วาดรูป เขียนกลอนอะไรพวกนั้น
ไม่พูดเปล่าพี่ชายยังเอาโล่ห์รางวัลชนะเลิศการประกวดวาดภาพมาอวดให้ผมดูอีกด้วย
แน่ะท่าทางพี่ชายผมจะหลงลูกคนเล็กกว่าใคร
ผมไปถึงทีแรกก็สังเกตได้ว่ามีหนุ่มๆวัยรุ่น ทั้งหนุ่มน้อย หนุ่มเต็มตัวแล้ว
มาเกาะแกะอยู่แถวหน้าร้านพี่ชายอยู่บ่อยๆ ทีแรกก็นึกว่าเออบ้านพี่ชายเราก็ขายของชำเล็กๆน้อยๆ
ทำไมไอ้พวกนี้ถึงมาขลุกอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนหน้าร้านอยู่ได้ หรือว่าเป็นบรรดาเพื่อนๆไอ้เจ้าเสือมัน
ยังไม่ทันคิดไปถึงไหนก็พอดีกับที่เจ้าเสือหลานชายผมกลับมาจากข้างนอกพร้อมๆกับเพื่อนๆ อีกสี่ห้าคน
เสียงบิดรถดังกระหึ่มจนพี่ชายต้องออกมาดุ
“เดี๋ยวชาวบ้านเขาก็ด่าเอาหรอกไอ้เสือ”
หลานผมกับเพี่อนๆถึงได้หยุด แล้วพอได้คุยกับไอ้เสือผมจึงได้รู้
ว่าเพื่อนๆเจ้าเสือเองก็เหอะที่ชอบหลานสาวคนโตของผมหมือนกัน
แต่พี่ผมนั้นดุจนขึ้นชื่อเรื่องหวงลูกสาว เวลาไปไหนมาไหนก็จะกระเตงกันไปด้วยตลอด
ไอ้หนุ่มวัยรุ่นทั้งหลายจึงได้แค่มองด้วยสายตาละห้อยเพราะโอกาสใกล้ชิดพูดคุยนั้นริบหรี่
ผิดกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่ค่อนข้างเลี้ยงแบบสบายๆทำอะไรก็ตามใจมึง ว่างั้น
เจ้าเสืออายุห่างจากผม3 ปี กำลังจะขึ้น ม.5 แล้ว ตัวสูงโย่งเกือบ 175 เซ็นต์
หน้าตาก็ดูดีทีเดียวแม้จะไม่ใช่คนหล่อมากมาย แต่ก็มีสาวๆ มาติดตรึม! เลยครับ
แถมมันยังมีเพื่อนสนิทอีกหลายคนที่แต่ละคนนั้นเด็ดๆ! ทั้งนั้น
รูปร่างหน้าตา บอกได้เลยว่าเข้าตากรรมการอย่างผมแบบเต็มๆ
มีอยู่สองคนที่หน้าตาหล่อเด่นเตะตาสุดๆ ส่วนที่เหลืออีกหลายคนถึงแม้จะไม่หล่อมาก
แต่ก็หุ่นดีรูปร่างกายกำยำดูแข็งแรงแบบเด็กที่ชอบเล่นกีฬา ที่สำคัญทุกคนดูแมนๆ แบบผู้ชายแท้ๆด้วยดิ
ซึ่งผมเห็นทีแรกก็แอบเหล่และเล็งด้วยความสนใจแล้วครับ
และเชื่อมั๊ยครับว่าภายในแว่บแรกที่ได้มองหนุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้
ในหัวผมก็คิดหาวิธีที่จะกินเด็กพวกนี้ให้ได้ซักคนแล้วอิอิอิอิ
เด็กวัยรุ่นแถบนี้ผิวพรรณค่อนข้างดีค่อนข้างขาว น่าลูบ น่ากอด บางคนขนไม่ค่อยดก
แม้กระทั่งขนหน้าแข้งก็แทบจะนับเส้นได้ทำให้ผมมองเพลินไปเลย ชวนให้จินตนาการตามเหลือเกิน
ว่าขนตรงนั้นจะน้อยซักแค่ไหน5555
และถึงจะคล้ำไปบ้างแต่ก็ไม่คล้ำมากเหมือนหนุ่มๆแถวบ้านผม
อกผายไหล่ผึ่งขาแน่นเปรี้ยะ! กล้ามขาแน่นและเนียนน่ากัดโคดๆ อ่ะ
บางคนนั่งไม่ระวังเนื้อตัวก็ปล่อยให้ไข่แล่บออกมาจากกางเกงบอลก็มี
เล่นเอาไอ้วินหัวใจพองโตกันเลยครับพี่น้องถือว่าเป็นบุญตาจริงๆ อิอิอิอิ
ยิ่งเห็นอย่างนี้ด้วยแล้วผมก็ยิ่งเกิดอาการคันๆๆๆทั้งที่ปากและรูสวรร์สุดๆ
ทั้งอยากดูดเจี๊ยวเด็กและอยากให้เด็กเย็ดตูดว่างั้น5555
พยายามคิดอยูตั้งนานว่าจะหาแผนการอะไรเพื่อให้ความคิดสมดังใจหมาย
เอาวะขอให้ได้ซักคนสองคน หรือจะยกฝูงเลยไอ้วินก็บ่ยั่น 5555

ในที่สุดผมก็ปิ๊งไอเดียอันบรรเจิดออกเมื่อได้ยินพวกเพื่อนหลานเถียงกันเรื่องเงินที่จะหาซื้อเหล้าเบียร์
ก๊งกันในคืนนี้ว่ามันยังไม่พออะไรประมาณนี้
“ไอ้ไทด์มึงเอามาอีกเลยสาดเนี่ยคราวที่แล้วมึงก็ออกน้อยกว่าเพื่อน”
“เรื่องอะไร...กูกินนิดเดียวเองนะสาด”
“ว่างัยไอ้เสือขาดอยู่หลายร้อยเลยนะมึง”
เพื่อนเจ้าเสือที่มีหน้าที่เรี่ยไรเงินกับเพื่อนๆทำสีหน้าลำบากใจ
หนุ่มวัยรุ่นกำลังเถียงกันโดยหาข้อสรุปไม่ได้ผมเลยดอดเข้าไปช่วยไกล่เกลี่ยให้ซะเลย
“เอางี้พี่เลี้ยงเองไม่ต้องเถียงกัน”
พวกเพื่อนๆไอ้เสือเลยมองผมยังกะพ่อพระมาโปรดเลยครับ 5555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น