จำได้ว่าตอนเด็กๆ พ่อแม่พาผมไปเยี่ยมพี่ชายที่ นครพนม ตอนนั้นอากาศจะหนาวเย็นเอามากๆ
เพราะมีงานประจำจังหวัดจัดขึ้นในช่วงปลายหนาว ก็จะมีการออกงาน ของกินของใช้ของที่ระลึก ต้นไม้ ดอกไม้ เยอะแยะมากมาย
รวมทั้งมหรสพหมอลำ แล้วก็การฉายหนังกางแปลง
สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่เด็กน้อยอย่างผมจนจำได้ติดตามาจนถึงปัจจุบัน
พี่สินพี่ชายผมแต่งงานได้หลายปี ก็มีลูกๆ ตั้งสามคน ชาย 1 หญิง 2
หลานผู้ชายก็หน้าตาดีคล้ายๆแม่ อายุไล่เลี่ยผม ส่วนผู้หญิงสองคนก็หน้าตาจิ้มลิ้มน่าเอ็นดู
จะว่าไปแล้วก็ดูคลับคล้ายคลับคลาแม่ผมเหมือนพิมพ์เดียวกัน
แต่ปีนี้พ่อกับแม่ติดธุระมาไม่ได้ เลยสั่งให้ผมไปเยี่ยมพี่ชายให้ได้
เพราะแม่กลัวว่าพี่ชายจะน้อยใจบ้านพี่ชายอยู่ติดฝั่งโขง บรรยากาศดีโคดๆ อ่ะครับ
วิวก็สวยมากๆเห็นฝั่ง สปป.ลาวอยู่ไกลลิบๆ ยังกะภาพวาดแน่ะครับ
ตอนเด็กๆตอนที่มาเที่ยวธาตุพนมครั้งแรกๆ ก็ได้ยินผู้ใหญ่เขาคุยกันถึง
เรื่องประเทศลาวเมืองเวียงจันท์ หลวงพระบาง จำปาสัก อะไรพวกนี้
ซึ่งผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องนักหรอกแต่ที่ติดหูหน่อยก็จะเป็นชื่อ “เวียงจันท์”
พอสบโอกาสผมเลยอดถามแม่ไม่ได้
“แม่ๆ เวียงจันท์อยู่ตี้ไหนคับแม่...แล้วอยู่บนดวงจันร์ใจ้ก่อคับ”
จำได้ว่าแม่ฟังแล้วก็หันไปหัวเราะกันสองคนกับพ่อ แล้วอธิบายให้ผมฟังว่า
"บ่ใจ้เน้อลูก เวียงจันท์เป็นชื่อเมืองหลวงของ ประเทศลาวก่ะลูก เหมือนกรุงเทพฯ ”
ผมถึงได้บางอ้อแต่ก็ยังอดเซ้าซี้ถามต่ออีกว่า
“แล้วจะไดเปิ้นตึงฮ้องว่าเวียงจันท์คับแม่”
“ก็...อันนี้แม่ก่อบ่ฮู้เหมือนกั๋นเน้อลูก... ปะเดี๋ยวบ่ะหล้าใหญ่ขึ้นบ่ะหล้าก่อจะฮู้เองล่ะก๊า”
แม่ผมก็ชักจะจนมุมจะตอบอ่ะครับเพราะแม่ผมก็ไม่ได้เก่งเรื่องประวัติศาสตร์ของประเทศเพื่อนบ้านซะด้วยซิ
แต่ถ้าถามเรื่องประวัติศาสตร์ล้านนาล่ะก็ เป็นได้คุยถูกคนแน่ๆ ครับ
ผมมาทีไรผมจะชอบนั่งเล่นที่ริมระเบียงบ้านของพี่ชายจนดึกดื่นบ่อยๆ
เพราะอย่างที่บอกว่าอากาศและบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติกนั่นเองยิ่งตอนค่ำๆ ด้วยแล้ว
ลมเย็นๆพัดมาเอื่อยๆ แสนจะมีความสุข แต่ขอบอก ถ้าเป็นช่วงปลายหนาว
อย่างเดือนกุมภาอย่างนี้ล่ะก็แสนจะเย็นสะท้านกันเลยครับ
เพราะนครพนมก็เป็นอีกจังหวัดนึงของภาคอิสานที่มีอากาศเย็นจัดในหน้าหนาว
จำได้ว่ามาเที่ยวบ้านพี่ชายในงานพระธาตุทีไรผมมักจะไม่อยากอาบน้ำทุกที
เป็นเหตุให้แม่ดุผมเป็นประจำ
พี่ชายกับพี่สะไภ้มีอาชีพค้าขายอย่างตอนเช้าจะขายเนื้อไก่ (เลี้ยงเอง ขายเอง)
พอตอนกลางวันแกก็จะขายขนมจีนน้ำยาลาว(ซาวเอง ขายเอง)
แล้วพอตอนค่ำๆก็จะขายกับข้าวอีก(ทำเอง ขายเอง)
นี่แหละพี่ชายผมขยันเหลือเกินจริงๆ นับเป็นข้อดีที่ผมไม่มี 5555
ขยันจนเอาชนะใจพ่อตาแม่ยายได้ในระยะเวลาสั้นๆ
พี่ชายผมหน้าตาจะเหมือนพ่อมากเป็นคนผิวคล้ำตัวล่ำและสูงใหญ่
ผมกับพี่ชายจึงไม่เหมือนกันซักกะนิดตอนแรกที่พี่ชายบอกคนอื่นว่าผมเป็นน้องชาย
ชาวบ้านแถบนี้ดูจะไม่ค่อยเชื่อซักเท่าไหร่
นั่นคงเป็นเพราะผมเหมือนแม่มากคือตัวเล็กๆ ผิวก็ขาวจั๊วะ เลยดูผิดกันกับพี่สิน
แล้วก็เรื่องอายุอีกที่ทำให้ชาวบ้านเขาไม่ค่อยเชื่อเพราะผมกับพี่สินอายุห่างกันมากตั้งเกือบยี่สิบปี (อายุห่างกัน19 ปี)
พี่สินแต่งงานตอนผมอายุประมาณ 1 ขวบเห็นจะได้
นอกเหนือจากความขยันขันแข็งแล้วแกเป็นคนใจดี และเคารพ พ่อกับแม่มาก
พ่อผมเลยค่อนข้างปลื้มพี่สินมากกว่าผมเยอะ
ผมไปถึงอำเภอก็เห็นผู้คนเดินกันให้วุ่นไปหมดหนุ่มวัยรุ่นหล่อๆ หน้าตาดีๆ
มีอยู่เยอะแยะจนผมเผลอเหล่มองด้วยความเผลอตัวอยู่บ่อยๆ
“อำเภอนี้ดีจังผู้ชายหน้าตาดีโคดเยอะอ่ะ”
ผมคิดในใจด้วยหมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องได้ซักคน
ตัวอำเภอที่เคยดูสงบในช่วงที่ไม่มีงานกลับพลุกพล่านไปด้วยผู้คนและร้านรวงและเต๊นท์ที่ออกร้านในช่วงเทศกาลงานบุญ
ตอนที่คุยกับพี่ชายครั้งล่าสุดแกก็บอกแค่ว่าเดี๋ยวมีคนไปรับ
แต่ไม่ยักกะบอกว่าเป็นใครผมก็ยืนมองซ้ายแลขวา อย่างคนตื่นที่ตื่นทางอ่ะครับ
ก็ทุกทีที่มาก็มากับพ่อกับแม่และก็มากันเป็นรถกระบะที่เหมามานี่นา
ยืนรออยู่ได้พักนึงจึงมีหนุ่มหล่อหน้าตาดีขับมอไซค์มาจอดข้างหน้าผม
เออจะว่าไปหน้าตาก็คุ้นๆแฮะ คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ปากนั่นก็อีก เอ...ใครหว่า
“ใช่วินมั๊ยเนี่ย”
ผมพยักหน้าหงึกๆอย่างงงๆ อ่ะครับ เพราะผมไม่รู้จักหมอซะหน่อย
แต่ทำไมหมอรู้จักชื่อผมได้เนี่ยมานึกๆ ดูก็เลยเดาออก
ว่าคงเป็นคนที่พี่ชายบอกว่าจะมารับมั๊ง
“เฮ้ยนี่เราเองตั้มไง จำไม่ได้เหรอ”
“ตั้ม...!!!”
ผมทำท่าคิดนิดนึงแล้วก็ร้องออกมาดังๆ ด้วยความดีใจสุดๆ
“เฮ้ย!นี่ตั้มเองเหรอ เป็นงัยบ้างเนี่ยไม่เจอกันตั้งนาน”
“ก็สบายดีได้ยินว่านายไปเรียนไกลถึงเชียงใหม่เลยนี่”
“อ้อใช่ๆ...แล้วนายล่ะเรียนที่ไหน”
“เราเรียนที่ขอนแก่นน่ะ”
“จริงเหรอไม่ไกลบ้านเท่าไหร่ เออเพื่อนเราก็เรียนที่นั่นหลายคน...”
เราสองคนพูดคุยกันอย่างถูกคอในเวลาอันรวดเร็วเพราะไม่ได้เจอกันตั้ง6 ปี
แถมตอนนี้ตั้มมันก็ดูหล่อและเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วด้วยความสูงน่าจะซัก 172 เซนต์ ได้ รูปร่างดี ล่ำ
เนื้อแน่นแบบชายไทย เพราะตั้มมันชอบเล่นกีฬาด้วยแหละ
(ถ้ายังจำกันได้นะครับตั้มเคยไปเที่ยวบ้านผมในช่วงสงกรานต์ตอนนั้นผมกับตั้มอายุ 14)
“นายจะกลับบ้านเลยหรือว่าอยากไปขับรถเที่ยวก่อนดี”
ผมก็ย่อมต้องบอกว่าขอขับรถกินลมชมวิวก่อนดิครับเพราะเผลอๆ จะได้กินใส้กรอกอิสานอีกนะนั่น 5555
ก็แหมคนเราวัวเคยขาม้าเคยขี่กันมาก่อน สะกิดนิดๆ หน่อยๆ ก็คงไม่ยากหรอกน่าว่าป่ะ
ครั้งนั้นตอนที่เราเย็ดกันจำได้ว่าแค่สองครั้ง เรายังเป็นเด็ก 14 กันอยู่เลย
ไม่ได้เก่งในเรื่องอย่างว่ากันซักเท่าไหร่
แต่ตอนนี้ล่ะก็รับรองลีลาที่ผมฝึกฝนมาจาก108 สำนัก
ผมว่าคงทำให้ตั้มเผลอใจได้ไม่ยากหรอกน่าอิอิอิอิ
คิดได้ดังนั้นผมเลยให้ตั้มพาผมขับมอไซค์เที่ยวไปเรื่อยๆเราเดินดูของที่มีขายกันอย่างมากมายที่งานอย่างเพลิดเพลิน
ทั้งของกินของใช้ ต้นไม้ดอกไม้ ล้วนสร้างความตื่นตาได้มากจริงๆ
พอเราสองคนเหนื่อยก็หาหาก๋วยเตี๋ยวกินแถวๆที่เขาจัดงานนั่นแหละครับก็มีร้านให้กินอยู่เยอะแยะไปหมด
เพราะความหิวเลยทำให้ผมกับตั้มสวาปามกันไปคนละสองชามแน่ะ
“อร่อยดีเนอะ”
“หิวอ่ะดิ๊5555”
ตั้มรู้ทันผมพอพูดเสร็จก็หัวเราะขำๆ ผมเห็นแล้วก็ยิ่งหลงหมออ่ะครับ
ก็ดูตั้มตอนนี้ดิทั้งหล่อทั้งล่ำ แถมเป็นหนุ่มเต็มตัวแบบนี้ จะไม่ให้ผมหลงได้ไงอ่ะครับ
หูตาก็ดูเป็นประกายแบบผู้ใหญ่หาใช่เด็กน้อย ม.ต้น คนเก่าไม่
“กินอิ่มแล้วนายจะกลับบ้านเลยมั๊ย”
“ยังไม่อยากกลับอ่ะเอางี้ไปหาที่นั่งเล่นก่อนดีกว่า”
ผมออกไอเดียอันบรรเจิดพร้อมกับวางแผนการณ์ไว้ในหัวเสร็จสรรพ
“ตามใจนาย”
ตั้มใจดียอมตามใจผมแต่ระหว่างที่ตั้มกำลังสตาร์ทรถ มือถือตั้มก็ดังขึ้น
“ว่าไงคร้าบ!พอดีมารับญาติน่ะเดี๋ยวตั้มก็กลับแล้ว ครับผมแล้วค่อยเจอกัน”
เห็นหน้าตาตอนที่พูดคุยแล้วผมก็เดาเกมส์ออกว่าคนที่นายตั้มคุยสายด้วยต้องเป็นแฟนสาวของหมอชัวร์!
ทันใดนั้นสมองก็เลยยิ่งคิดแผนการให้รวบรัดยิ่งขึ้นโดยการแวะเซเว่นแล้วหาซื้อเบียร์สี่กระป๋องกินเบียร์ไปคุยกันไป
รับรองนายตั้มไม่กล้าเร่งให้ผมรีบกลับบ้านแน่ๆ 5555
เราขับรถไปจอดแถวๆสะพานที่จะไปบ้านพี่ชาย มองไปตามบ้านเรือนผู้คนยังคงสว่างไสวเพราะเพิ่งจะทุ่มเศษๆ
ไอหมอกลงเอื่อยๆ ตามริมน้ำผมกับตั้มก็นั่งกินลมชมวิวพร้อมกับดื่มเบียร์กันไป
ต่างก็พูดคุยกันถึงเรื่องราวในช่วง6 ปีที่ไม่ได้เจอหน้ากันท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น ที่พัดมาจากแม่น้ำโขง
บอกได้คำเดียวว่าได้บรรยากาศมากๆเลยครับ
ยิ่งคุยไปเท่าไหร่ผมก็ยิ่งปลื้มตั้มหนักเข้าไปอีกเพราะตั้มเป็นผู้ชายต่างจังหวัดที่ดูดีแบบผู้ชายแท้ๆไม่ได้ฟุ้งเฟ้อ
หรือพยายามเสริมแต่งให้ตัวเองดูดี เป็นยังงัยก็เป็นอย่างนั้น พูดคุยตรงๆซื่อๆ และแมนๆ
และนับตั้งแต่ตอนที่เราไปเล่นน้ำกันที่แม่น้ำชีตอนสงกรานต์ครั้งนั้น
ตั้มก็ได้ช่วยผมให้รอดจากการจมน้ำครั้งนึงนับตั้งแต่ครั้งนั้นผมยังจำได้ไม่ลืม
พอคุยกันไปเลยได้รู้ว่าตั้มน่ะเป็นนักกีฬาได้โควตาของนักกีฬาเข้าเรียนมหาลัยฯ
มิน่าล่ะดูตั้มดิครับตัวสูงหุ่นแน่นน่ากินอะไรจะปาน
ยิ่งได้ใกล้ชิดเสียดสีเนื้อตัวกันไปมาอย่างนี้อารมณ์ผมก็ยิ่งกระเจิง! อ่ะ
ผมก็พยายามลูบหน้าลูบหลังหมอไปตามแผนการณ์
และเมื่อเบียร์กระป๋องที่สองเริ่มพร่องหน้าตาตั้มตอนนี้เริ่มแดงระเรื่อเห็นได้ชัดในความสลัวของแสงไฟ
ผมจึงเริ่มแผนการขั้นที่สองทันทีมือผมเริ่มลูบตามหน้าขาของตั้มไปมาตั้มเองก็ไม่ได้ว่าอะไร
เล่นเอาผมได้ใจสุดๆเลยครับ แล้วผมก็เริ่มพูดเข้าเรื่อง
“ตั้มจำตอนนั้นได้ป่าว”
ตั้มหันมาถามผมยิ้มๆหน้าตาดูปรือๆ ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอลล์
“ตอนไหนล่ะ”
“ก็ตอนที่...”
ผมไม่พูดเปล่าแต่ลูบที่ต้นขาแกร่งๆของตั้มไปมา และดูตั้มจะพอใจเสียด้วยซิ
แต่ตั้มก็ยังเป็นตั้มคือได้แต่ยิ้มเก้อๆ
“บ้า! ...จะพูดถึงมันทำมัยน่าอายจะตาย”
ตั้มยกมือขึ้นเกาหลังหูแบบอายๆดูแมนดีครับ นั่นก็แสดงว่าแผนการผมเริ่มเข้าเค้าแล้ว
มือผมจึงเลื่อนจากหัวเข่าลงไปที่เป้ากางเกงยีนส์ของตั้มหูยยย โคดตื่นเต้นอ่ะครับ
ดีหน่อยที่ๆเราอยู่กันเป็นปลายสะพานและไฟก็ไม่สว่างมากนัก จึงไม่ต้องกลัวใครเห็น
แล้วมือผมก็กำหมับเข้าให้ที่เป้ากางเกงยีนส์ของตั้มที่เริ่มจะแข็งปั๋ง! แล้ว
ผมกำได้ไม่ถึงห้าวินาทีตั้มก็จับมือผมเอาไว้ไม่ให้รบกวนน้องชายเขา
“วินอย่า...เดี๋ยวคนเห็น”
ตั้มพูดเบาๆเหมือนกับตอนที่เย็ดกันครั้งนั้นไม่ผิด เพราะความขี้อายของตั้มนี่แหละที่เป็นเสน่ห์ของผู้ชายคนนี้
ผมโน้มหน้ากระซิบที่ข้างหูของตั้ม
“แล้วขอได้ป่ะ”
ตั้มไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธแต่มองผมยิ้มๆ รอยยิ้มดูยั่วยวนยังงัยบอกไม่ถูกอ่ะครับ
โอ้ย! ใจไอ้วินแทบละลายแน่ะครับอิอิอิอิ
หล่อแมนน่าเย็ดจังโว้ย!ผมคิดในใจดังๆ
จนผ่านไปซักห้านาทีได้มั๊งตั้มก็บอกว่าปวดเยี่ยวแล้วเดินหลบลงไปใต้สะพาน
ทีแรกผมก็เริ่มใจออกแล้วครับนึกว่าจะกินแห้วซะแล้วแต่มานั่งคิดๆ ดูแล้ว
ถ้าตั้มมันไม่เล่นด้วยมันคงไม่ยอมให้ผมลูบหน้าลูบเป้ามันซะขนาดนี้หรอกว่าป่ะ
คิดได้ดังนั้นผมเลยเดินตามตั้มลงไปใต้สะพานที่มืดๆ
ก็เห็นตั้มกำลังยืนเยี่ยวอย่างสบายใจในความสลัวเห็นแก้มก้นตั้มขาวๆ ในความมืด
มือขวาตั้มจับควยฉี่เสียงดังซู่ๆ
พอตั้มเห็นผมเดินเข้ามาใกล้ตั้มก็ยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ดูมีเสน่ห์กระชากใจผมสุดๆ อ่ะ
ผมเห็นควยดุ้นใหญ่ที่แข็งจัดของตั้มฉีดน้ำเยี่ยวจนหยดสุดท้าย
“เห็นมั๊ยอยากจับควยเราดีนักมันแข็งแล้วเยี่ยวยากเลยเนี่ย”
ตั้มบ่นเบาๆ
“เหรอ”
ผมเข้าไปลูบตะโพกแกร่งๆของตั้มอย่างได้ใจ ได้อารมณ์
จนเห็นตั้มเริ่มสะบัดควยแล้วนั่นแหละผมจึงเข้าไปกอดตั้มทางด้านหลัง แสนจะได้อารมณ์โคดๆ
มือผมก็ไวรีบกำที่ควยดุ้นเขื่องของตั้มอย่างไวอ่ะครับ
บอกได้คำเดียวว่าเต็มไม้เต็มมือโคดๆถูกใจไอ้วินเป็นบ้าอ่ะ โอยเสียวใจจะขาด
เพราะตอนนี้ควยตั้มใหญ่กว่าตอนเป็นเด็ก14 ตั้งเยอะ
หนำซ้ำหมอยก็ดกปุกปุยกว่าเก่าน่ายีเล่นเป็นที่สุด
“ไม่ได้เจอตั้งนานควยตั้มใหญ่จัง”
ผมชมออกมาจากใจตั้มก็หัวเราะหึๆๆ ปล่อยให้ผมถอกควยตัวเองเล่นไป
“มีแฟนแล้วเย็ดบ่อยอ่ะดิ”
“แฟนเราไม่ค่อยให้เราเย็ดหรอกแถมดูดไม่เป็นอีกตะหาก บางทีเราก็อยากให้พวกกะเทยที่มาเหล่ๆ
แถวข้างสนามดูดควยให้ออกบ่อยไป...แต่ไม่กล้า”
ตั้มพูดไปตามอารมณ์ที่ผมกำลังก่อให้น่าจะเพราะฤทธิ์เบียร์ด้วยแหละที่ทำให้หนุ่มพูดน้อยอย่างเขาพูดมากขึ้นอย่างนี้
“งั้นเดี๋ยวเราจัดให้”
ผมกระซิบข้างๆหูตั้ม เห็นหมอหลับตาปี๋อย่างมีอารมณ์
กล้ามเนื้อตั้มแน่นน่ากอดแบบหนุ่มนักกีฬากลิ่นกายก็น่าดมแบบชายแท้
ระหว่างที่ถอกควยให้ตั้มไปผมก็ขบเบาๆที่ติ่งหูตั้มไป
เล่นเอาตั้มถึงกับเผลอครางออกมาด้วยความเสียวจัด
“อือออเสียวววๆ”
ผมไซ้ตามซอกคอตั้มจากข้างหลังจนตอนนี้ชักอยากจัดการกับควยแข็งๆ ของตั้ม
จนเต็มแก่แล้วเลยดึงให้ตั้มหันหน้ามาทางผม ก็ได้เห็นควยตั้มแบบเต็มๆ ตา
มันแข็งชูชันเต็มหว่างขาและกลางดงหมอย
แสงไฟจากบนสะพานทำให้เห็นชัดทีเดียวว่าควยตั้มยังคงสวยงามและน่ากินไม่เปลี่ยน
ควยตั้มผงกหัวหงึกๆอย่างมีอารมณ์ ขนหมอยก็ดกขึ้นตามวัย
ไข่สองใบขดเป็นก้อนกลมตามอากาศรอบกาย
หน้าท้องตั้มแบนราบน่าซบน่าดมเป็นที่สุดผมเลยนั่งคุกเข่าจูบไซ้จนตั้มเสียวจัด
กดหัวผมเข้าหาหนอกควยตัวเองแบบอัตโนมัติ
“ซี้ดดดเสียวว่ะวิน”
“แล้วนายชอบป่าวล่ะเดี๋ยวเราจะทำให้เสียวยิ่งกว่านี้อีก”
ว่าแล้วผมก็จับควยดุ้นเขื่องของตั้มเข้าปากดูดจ๊วบๆๆๆเล่นเอาตั้มถึงกับสะท้านเลยครับ
ด้วยความที่ไม่ใช่เล็กๆผมเลยต้องอ้าปากค่อนข้างกว้างเพื่อจัดการให้ควยของตั้มเข้าปากให้หมดลำ
“ซี้ดดดอู้ว! เสียวววว”
ปากบอกว่าเสียวแต่เอวกลับส่ายพั่บๆ เด้าปากผมไม่หยุด
ผมเองก็กำลังมันเลยดูดแบบไม่รืมหูรืมตาผมกลัวว่าตั้มจะน้ำแตกซะก่อน
เดี๋ยวอดสนุกกันพอดีเลยหยุดดูดควยให้ตั้ม เล่นเอาตั้มออกปากถามด้วยความแปลกใจ
“หยุดดูดทำมัยอ่ะวิน!กำลังมันเลย”
“เหอะน่า...แล้วนายจะรู้สึกมันกว่านี้อีก”
ว่าแล้วผมก็ลุกขึ้นแล้วถอดกางเกงยีนส์ลงไปกองไว้ที่ปลายขา
แล้วโก้งโค้งหันหน้าเข้าหาเสาสะพานจนตูดขาวๆของผมโด่งล่อเป้า
แล้วผมก็พยักหน้าเชิญชวนให้ตั้มตั้มเห็นแล้วก็รู้ทันว่าผมต้องการอะไร
“นายจะให้เราเย็ดตูดเหรอ”
“เร็วๆเลยตั้มเราอยากให้ตั้มเย็ดตูดเราใจจะขาดแล้ว”
“โอเค...ไม่ได้เย็ดตูดนายมานานอยากลองดูอีกเหมือนกัน”
ว่าแล้วตั้มก็ขยับหุ่นแน่นๆเข้ามาชิดตูดผมแล้วถุยน้ำลายใส่รูตูดผม
แล้วก็กดหัวควยของตัวเองเข้ามาช้าๆ
“ซี้ดดดดด!”
ผมส่งเสียงครางออกมาเหมือนทุกๆครั้ง ที่รับรู้ได้ว่ากำลังได้ของถูกใจ 5555
“อืออ...คับควยว่ะวิน...ร้องซะอย่างนั้นชอบเหรออูววว”
“อือออชอบดิก็ควยนายมันใหญ่คับตูดสัดๆ นี่หว่า”
ผมพูดไปมือก็อ้อมมากำๆขยำๆ ที่ตูดของตั้มไปอย่างได้อารมณ์
“ใกล้จะสุดโคนยังถ้าสุดแล้วเด้าแรงๆ เร็วๆ เลยนะ”
“พึ่งจะได้ครึ่งลำเองว่ะ ซี้ดดด เสียวหัวควยชิบหาย แน่นสัดๆ อ่ะหีแฟนเรายังไม่คับเท่าตูดนายเลยนะ จุ๊ๆๆ”
“พึ่งจะได้ครึ่งลำเองว่ะ ซี้ดดด เสียวหัวควยชิบหาย แน่นสัดๆ อ่ะหีแฟนเรายังไม่คับเท่าตูดนายเลยนะ จุ๊ๆๆ”
“แล้วดีมั๊ยล่ะถ้าชอบนายก็มาเย็ดเราทุกวันดิ อือออ กว่าเราจะกลับก็อีกวันสองวัน”
“ได้เลยอึ๊บๆๆ งั้นคืนนี้เราไปนอนกับนายนะ อึ๊บๆ เข้าไปหมดดุ้นแล้วว่ะ! ซี้ดดด!”
“ดีๆๆอา...อูววว อา เย็ดแรงๆ เลยตั้ม”
หลังจากนั้นตั้มมันก็ตั้งหน้าตั้งตากระเด้าตูดผมอย่างเมามันแบบรุนแรงบ้างเนิบๆ บ้าง
พอมันเผลอทำแรงก็เล่นกระแทกจนหัวผมโยกหัวผมคลอนไปมา
จนโขกกับเสาสะพานดังโป๊กๆ ก็หลายที
จนโขกกับเสาสะพานดังโป๊กๆ ก็หลายที
แม่งเอ๊ย! ทั้งเรี่ยวแรงและลีลาเด็ดขึ้นเยอะเลยครับพี่น้อง
สองแขนกำยำของตั้มกดที่เอวผมแน่นเอวก็สวนควยซอยตูดผมยิกๆๆๆ
ความรู้สึกที่โดนตั้มสวนควยเข้าตูดนั้นช่างล้ำลึกจนเกินห้ามใจอ่ะคับ
มือข้างนึงของตั้มขยำหน้าอกผมอย่างเมามันพอๆกับการตะบันเย็ดตูพดผมเลย
ขนหมอยที่ดกๆของตั้มเสียดสีที่บริเวณตูดผมจนคันยิกๆ แต่ได้อารมณ์โคดๆ
อากาศที่แสนจะเย็นด้วยลมหนาวของฤดูหนาวไม่ได้ทำให้ผมกับตั้มรู้สึกหนาวซักกะนิด
หากแต่ได้อารมณ์ไปอีกแบบ
เสียงหอบกระเส่าของตั้มยิ่งดังเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ผมมีอารมณ์ร่วมหนักเข้าไปอีก
“แฮ่กๆๆอึ๊บๆๆๆ มันควยว่ะวิน อึ๊บๆๆตูดนายดูดควยเราแทบขาดแน่ะ นี่ๆๆๆ”
ผมเสียวจนต้องยืนตัวตรงแล้วหันไปดูดปากกับตั้ม
“อา...ซี้ดดดดเราก็มันตูดโคดๆ อ่ะตั้ม นายเย็ดเก่งกว่าเก่าอีกนะเนี่ย เด้าแรงๆ แรงอีกๆ อู้ววว”
“เราใกล้จะน้ำแตกแล้วว่ะวินตูดนายเอามันชิบหายเลยว่ะ อึ๊บๆๆๆ”
“ถ้าแตกก็แตกเข้ามาในตูดเราเลยนะซี้ดดด ดีๆๆๆ”
“ได้เลยๆเราก็ชอบให้น้ำแตกในรูเหมือนกัน มันรู้สึกดีว่ะ อึ๊บๆๆ”
แล้วพอตั้มใกล้จะน้ำแตกตั้มมันก็ล็อกสองแขนผมไว้แน่น
ในขณะที่เอวก็กระแทกป้าบๆๆๆ อีกนับสิบแล้วน้ำควยตั้มก็ทะลักเข้าตูดผมนับเจ็ดถึงแปดชุดแน่ะครับ โห! สุดยอดอ่ะครับ
เราสองคนยังคงกอดกันอยู่อย่างนั้นอีกซักพักเสียงหอบกระเส่าข้างๆ หูของผม
ฟังแล้วได้ฟิวส์เหลือหลาย
“ตูดนายยังเอามันเหมือนเดิมเลยว่ะ... ฟิตกว่าหีอีก... สุดยอดไปเลยว่ะ”
ตั้มพูดไปมือก็ล้วงเข้าไปในเสื้อยืดผมแล้วขยำอกผมไปมาควยที่เริ่มอ่อนตัวของตัวหลุดออกมาจากรูผม
แล้วแต่ตั้มก็ยังคงประกบตูดผมไม่ยอมห่าง
“นายก็เย็ดเก่งขึ้นเยอะ”
ผมหันไปหอมแก้มตั้มเป็นคำขอบคุณ
แล้วเราก็จูงมือกันขึ้นไปบนสะพานแล้วคุยกันต่ออีกซักพัก ตั้มก็เปิดใจกับผมว่า
หลังจากที่ผมกับตั้มเย็ดกันครั้งนั้นเขาก็นึกอยากเย็ดตูดอยู่เรื่อยๆ
เหมือนเป็นความฝังใจแต่ไม่กล้าลองกับใครอีก
เลยได้แต่ชักว่าวแล้วจินตนาการตามไปด้วย
ผมฟังแล้วยิ่งรู้สึกผิดอ่ะครับที่ไปทำให้ผู้ชายแท้ๆคนนึง มีความผิดปกติทางอารมณ์อย่างนี้
แต่แทนที่ตั้มจะโกรธเขากลับลูบหลังผมเหมือนเป็นการปลอบแล้วหัวเราะร่าอย่างอารม์ดี
“ไม่ต้องคิดมากน่าจะว่าไปก็มันดีออก จะน่าเบื่อก็แค่เป็นพักๆ ที่ไม่มีตูดให้ล่อเท่านั้นเอง 5555”
“พูดอย่างนี้รับรองคืนนี้นายไม่ได้หลับแน่”
ผมเอานิ้วชี้หน้าตั้มเป็นคำขู่ตั้มก็หัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดี
แต่ผมไม่พูดเปล่าครับแต่เลื้อยไปกำที่เป้าของตั้มแล้วขยำเล่นจนควยตั้มแข็งเด่ขึ้นมาอีกตั้มก็หัวเราะร่าพร้อมกับพูดว่า
“ได้ดูดได้อม แถมได้กินใส้กรอกอิสานไปดุ้นนึงยังไม่เบื่ออีกเหรอ”
“ของดีอย่างนี้ใครเบื่อก็โง่แล้ว5555”
แล้วเราสองคนก็หัวเราะกันขำๆอ่ะครับ ก็พอดีกับที่พี่ชายโทรตามนั่นแหละ
ตั้มถึงได้ชวนผมกลับบ้านกันด้วยความอิ่มอกอิ่มใจ
พอไปถึงบ้านพี่ชายพี่สะไภ้ของผมก็หาข้าวหาปลาให้กิน
ทีแรกตั้มกะว่าจะกินข้าวด้วยแต่แฟนสาวโทรตามหมอเลยต้องขอกลับก่อน
ผมเลยเกิดอาการเซ็งรับประทานเลยครับ
แต่จริงๆแล้วก็เพราะว่าอิ่มอย่างอื่นมาแล้วนั่นเองครับ ทั้งก๊วยเตี๋ยว
แล้วไหนจะข้าวเหนียวถั่วดำกับใส้กรอกอิสานดุ้นโต! อีกล่ะ 5555
ปีนี้น้องสร้อยหลานคนที่สองกำลังจะขึ้นม.3 กำลังแตกเนื้อสาวสะพรั่ง
หน้าตาสะสวยทีเดียวดูๆ ไปเหมือนสาวเหนือเสียมากกว่า
ส่วนน้องแหวนหลานสาวคนเล็กก็กำลังจะขึ้นม.1 หน้าตาก็จิ้มลิ้ม
ผิวพรรณก็สะอาดตาแถมดูเเป็นคนอารมณ์ดีซะด้วย
เห็นพี่ชายเล่าให้ฟังว่าชอบทางด้านศิลปะ วาดรูป เขียนกลอนอะไรพวกนั้น
ไม่พูดเปล่าพี่ชายยังเอาโล่ห์รางวัลชนะเลิศการประกวดวาดภาพมาอวดให้ผมดูอีกด้วย
แน่ะท่าทางพี่ชายผมจะหลงลูกคนเล็กกว่าใคร
ผมไปถึงทีแรกก็สังเกตได้ว่ามีหนุ่มๆวัยรุ่น ทั้งหนุ่มน้อย หนุ่มเต็มตัวแล้ว
มาเกาะแกะอยู่แถวหน้าร้านพี่ชายอยู่บ่อยๆ ทีแรกก็นึกว่าเออบ้านพี่ชายเราก็ขายของชำเล็กๆน้อยๆ
ทำไมไอ้พวกนี้ถึงมาขลุกอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนหน้าร้านอยู่ได้ หรือว่าเป็นบรรดาเพื่อนๆไอ้เจ้าเสือมัน
ยังไม่ทันคิดไปถึงไหนก็พอดีกับที่เจ้าเสือหลานชายผมกลับมาจากข้างนอกพร้อมๆกับเพื่อนๆ อีกสี่ห้าคน
เสียงบิดรถดังกระหึ่มจนพี่ชายต้องออกมาดุ
“เดี๋ยวชาวบ้านเขาก็ด่าเอาหรอกไอ้เสือ”
หลานผมกับเพี่อนๆถึงได้หยุด แล้วพอได้คุยกับไอ้เสือผมจึงได้รู้
ว่าเพื่อนๆเจ้าเสือเองก็เหอะที่ชอบหลานสาวคนโตของผมหมือนกัน
แต่พี่ผมนั้นดุจนขึ้นชื่อเรื่องหวงลูกสาว เวลาไปไหนมาไหนก็จะกระเตงกันไปด้วยตลอด
ไอ้หนุ่มวัยรุ่นทั้งหลายจึงได้แค่มองด้วยสายตาละห้อยเพราะโอกาสใกล้ชิดพูดคุยนั้นริบหรี่
ผิดกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่ค่อนข้างเลี้ยงแบบสบายๆทำอะไรก็ตามใจมึง ว่างั้น
เจ้าเสืออายุห่างจากผม3 ปี กำลังจะขึ้น ม.5 แล้ว ตัวสูงโย่งเกือบ 175 เซ็นต์
หน้าตาก็ดูดีทีเดียวแม้จะไม่ใช่คนหล่อมากมาย แต่ก็มีสาวๆ มาติดตรึม! เลยครับ
แถมมันยังมีเพื่อนสนิทอีกหลายคนที่แต่ละคนนั้นเด็ดๆ! ทั้งนั้น
รูปร่างหน้าตา บอกได้เลยว่าเข้าตากรรมการอย่างผมแบบเต็มๆ
มีอยู่สองคนที่หน้าตาหล่อเด่นเตะตาสุดๆ ส่วนที่เหลืออีกหลายคนถึงแม้จะไม่หล่อมาก
แต่ก็หุ่นดีรูปร่างกายกำยำดูแข็งแรงแบบเด็กที่ชอบเล่นกีฬา ที่สำคัญทุกคนดูแมนๆ แบบผู้ชายแท้ๆด้วยดิ
ซึ่งผมเห็นทีแรกก็แอบเหล่และเล็งด้วยความสนใจแล้วครับ
และเชื่อมั๊ยครับว่าภายในแว่บแรกที่ได้มองหนุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้
ในหัวผมก็คิดหาวิธีที่จะกินเด็กพวกนี้ให้ได้ซักคนแล้วอิอิอิอิ
เด็กวัยรุ่นแถบนี้ผิวพรรณค่อนข้างดีค่อนข้างขาว น่าลูบ น่ากอด บางคนขนไม่ค่อยดก
แม้กระทั่งขนหน้าแข้งก็แทบจะนับเส้นได้ทำให้ผมมองเพลินไปเลย ชวนให้จินตนาการตามเหลือเกิน
ว่าขนตรงนั้นจะน้อยซักแค่ไหน5555
และถึงจะคล้ำไปบ้างแต่ก็ไม่คล้ำมากเหมือนหนุ่มๆแถวบ้านผม
อกผายไหล่ผึ่งขาแน่นเปรี้ยะ! กล้ามขาแน่นและเนียนน่ากัดโคดๆ อ่ะ
บางคนนั่งไม่ระวังเนื้อตัวก็ปล่อยให้ไข่แล่บออกมาจากกางเกงบอลก็มี
เล่นเอาไอ้วินหัวใจพองโตกันเลยครับพี่น้องถือว่าเป็นบุญตาจริงๆ อิอิอิอิ
ยิ่งเห็นอย่างนี้ด้วยแล้วผมก็ยิ่งเกิดอาการคันๆๆๆทั้งที่ปากและรูสวรร์สุดๆ
ทั้งอยากดูดเจี๊ยวเด็กและอยากให้เด็กเย็ดตูดว่างั้น5555
พยายามคิดอยูตั้งนานว่าจะหาแผนการอะไรเพื่อให้ความคิดสมดังใจหมาย
เอาวะขอให้ได้ซักคนสองคน หรือจะยกฝูงเลยไอ้วินก็บ่ยั่น 5555
ในที่สุดผมก็ปิ๊งไอเดียอันบรรเจิดออกเมื่อได้ยินพวกเพื่อนหลานเถียงกันเรื่องเงินที่จะหาซื้อเหล้าเบียร์
ก๊งกันในคืนนี้ว่ามันยังไม่พออะไรประมาณนี้
“ไอ้ไทด์มึงเอามาอีกเลยสาดเนี่ยคราวที่แล้วมึงก็ออกน้อยกว่าเพื่อน”
“เรื่องอะไร...กูกินนิดเดียวเองนะสาด”
“ว่างัยไอ้เสือขาดอยู่หลายร้อยเลยนะมึง”
เพื่อนเจ้าเสือที่มีหน้าที่เรี่ยไรเงินกับเพื่อนๆทำสีหน้าลำบากใจ
หนุ่มวัยรุ่นกำลังเถียงกันโดยหาข้อสรุปไม่ได้ผมเลยดอดเข้าไปช่วยไกล่เกลี่ยให้ซะเลย
“เอางี้พี่เลี้ยงเองไม่ต้องเถียงกัน”
พวกเพื่อนๆไอ้เสือเลยมองผมยังกะพ่อพระมาโปรดเลยครับ 5555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น