วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เรื่องเซ็กส์ของเด็กร่าน บทที่ 41 สุขสันต์วันเกิด

พอถึงเดือนมิถุนายนก็เป็นอีกเดือนที่ผมรู้สึกว่าอะไรดีๆ ได้เข้ามาในชีวิตผม
เพราะอะไรน่ะเหรอก็เพราะเดือนนี้เป็นเดือนเกิดของผมน่ะซิครับ อิอิอิอิ
เรื่องแรกที่ทำให้ดีใจก็เป็นเรื่องที่ไอ้ตี๋ชินจิส่งของขวัญวันเกิดมาให้นั่นเอง
แถมยังส่งมาก่อนวันเกิดตั้งหลายวัน

ของขวัญที่ชินจิส่งมาให้ก็เป็นวอล์คแมนยี่ห้อ โซนี่ รุ่นใหม่ล่าสุด
เพราะไอ้ตี๋ชินจิรู้ว่าผมเป็นคนชอบฟังเพลงนั่นเอง
แหมช่างเป็นกิ๊กที่น่ารักน่าปลื้มอะไรขนาดนี้จริงป่ะครับ
แถมในกล่องยังมีโน้ตน่ารักๆเป็นภาษาอังกฤษ ประมาณว่า

“สุขสันต์วันเกิดนาย win สบายดีไหม...ปีนี้ก็อายุครบ 17 แล้วนะ...ก็ขอให้นายมีความสุขมากๆนะ...ขอให้มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตของนาย...ซ้อมวงโยฯ ก็เพลาๆ บ้างก็ได้เดี๋ยวจะไม่มีเวลาเรียน...ที่สำคัญคิดถึงคนทางนี้บ้างนะครับ...ชินจิ”
ก็ประมาณนี้แหละครับอ่านโน๊ตทีไรก็ยิ้มด้วยความรู้สึกซึ้งทุกที
อดนึกถึงหน้าตี๋หล่อๆหุ่นล่ำๆ ของไอ้ตี๋ชินจิไม่ได้และอาการปลื้มใจครั้งนั้นก็ยังมีมาอีกหลายวัน


**********************************


ก่อนวันเกิดสองสามวันเสกก็มีเซอร์ไพรซ์พาผมไปเลี้ยงฉลองที่ร้านอาหาร
ก็เป็นร้านเดิมที่เคยมากินเลี้ยงในตอนเลี้ยงส่งพวกพี่ชาตินั่นแหละครับ
แต่อย่าเพิ่งอมยิ้มนะครับเพราะไม่ได้มากันแค่สองคน5555
เพราะนอกจากเราแล้วยังมีพวกไอ้เข้ไอ้จอม และไอ้เขตมาด้วย
วันนั้นเลยสนุกสนานเฮฮากันไปตามประสาคนซี้กันมากกว่าจะสวีท
ของขวัญที่ได้รับจากเสกก็เป็นเสื้อยืดเท่ๆตัวนึง ถึงแม้ไม่ได้มีค่ามากมายอะไรแต่ก็ทำให้ผมรู้สึกดีไม่น้อย
และวันนั้นก็ไม่ได้มีอะไรตื่นเต้นและระทึกใจเกินกว่านี้นะครับ
เพราะพอกินเลี้ยงกันเสร็จเสกก็ไปส่งผมที่บ้านและนอนค้างที่บ้านผมเลย
แล้วจะเหลือเหรอครับว่ามะอิอิอิ ก็เสกออกจะน่าเย็ด และน่าให้เย็ดซะขนาดนี้
ตอนขากลับผมซ้อนมอไซค์เสกระหว่างทางเราก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย
ซึ่งตอนแรกเสกนัดกับพวกไอ้เข้เอาไว้ว่าจะไปต่อกันที่เทค
แต่คงเป็นห่วงผมที่ต้องเรียนแต่เช้า เสกเลยต้องมาส่งแล้วเลยอยู่ค้างด้วยเลย
“นี่ถ้าไม่ต้องมาส่งมึงนะกูคงไปต่อกับพวกไอ้เข้แล้ว”
ผมก็ทำหน้าอ้อล้อโน้มหน้าไปมองเสกด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณคร้าบ”
“แต่จะว่าไปที่ทำแบบนี้กูก็มีจุดประสงค์อีกอย่างโว้ย”
ผมหัวเราะออกมาอย่างรู้ทันแล้วกำที่เป้ากางเกงยีนส์ของเสกแบบเต็มๆมือ
ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่เคยหวงห้ามอะไรแต่ต้องทำในที่ปลอดสายตาผู้คนหน่อยนะ

“เงี่ยนล่ะซี้...5555”
“ช่ายกูเงี่ยนและอยากเย็ดตูดมึงโคดๆ เลยตอนนี้”
ก็ด้วยนิสัยแบบนี้ไงที่ทำให้ผมชอบเสก เพราะเขามีเสน่ห์ตรงที่ชอบพูดตรงๆนี่แหละ
คืนนั้นผมกับเสกก็เลยเย็ดกันจนน้ำแตกไปถึงสามรอบอิอิอิ
***********************************
ก่อนจะถึงวันเกิดผมวันนึงขณะที่ผมไอ้เหม แล้วก็ไอ้เข้ม กำลังนั่งลอกการบ้านของไอ้ซันด้วยความตั้งอกตั้งใจอยู่นั้น
ไอ้อี้ มันก็หันมาถามผมยิ้มๆ

“สาดวิน...คืนนี้มึงมีนัดยัง”
“มึงถามทำมัย”
ผมตอบมันทั้งๆ ที่กำลังก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ลอกการบ้านไป
(เรียนๆลอกๆ เดี๋ยวก็จบ 5555)

“มีหรือไม่มีก็ตอบมาซิวะ...เชี่ยนิ”
มันตะคอกผมซ้ำยังเบิ้ดกะโหลกผมอีกหนึ่งที

“สาดนิ...มึงมีอะไรก็พูดไปซิวะกูกำลังทำการบ้านอยู่มึงไม่เห็นเรอะ”
“ทำการบ้านเตี่ยมึงดิ...อย่างนี้บ้านกูเขาเรียกว่าลอกโว้ย!”
มันจับหัวผมโยกไปโยกมาอย่างที่มันชอบเล่นและชอบแกล้ง

“โอ้ย!...ไอ้สาดอี้นิเดี๋ยวๆๆ เดี๋ยวมึงเจอกู”
ผมทนความขี้แกล้งของมันไม่ไหวแล้วครับคนยิ่งรีบๆ อยู่ด้วยเลยลุกจากเก้าอี้
แล้วกระโดดขึ้นคอมันแล้วขย่มๆแรงๆ จนมันกับผมล้มลงไปกองกับพื้น
ในสภาพที่ผมคล่อมอยู่บนตัวไอ้อี้จนหน้าผมกับมันแทบจะติดกันอยู่แล้วนะนั่น
แถมหัวไอ้อี้ยังไปกระแทกกับขาโต๊ะดังโป๊ก!

“โอ๊ย!...เชี่ยวินนิ...เห็นมั๊ยหัวกูเจ็บเลยมึงอูยยย...เจ็บๆๆๆ...อูยยแตกมั๊ยเนี่ย”
มันลูบหัวเกรียนๆที่มีผมค่อนข้างยาวเฉพาะด้านหน้าตามประสาเด็ก ม. ปลาย
ท่าทางจะเจ็บน่าดูผมเลยหัวเราะด้วยความขำสุดๆ

พอๆกับพวกไอ้อี้ ไอ้เข้ม ไอ้เหม ไอ้สิน ไอ้น็อต และไอ้ทิน
ดีหน่อยที่ตอนนี้เพื่อนคนอื่นๆในห้องเริ่มทยอยกลับบ้านกันหมดแล้ว
เหลือก็แค่เพียงกลุ่มเรามันเลยไม่ต้องขายหน้ามากนัก
ผมคงจะเผลอตัวหัวเราะนานไปหน่อยเลยลืมลุกออกมาจากตัวไอ้อี้
จนกระทั่งพวกไอ้ซันมันยิ้มๆ แล้วมองผมกับไอ้อี้ด้วยสายตาแปลกๆ

“เฮ้ยๆๆๆๆ...ยังงัยๆอยู่นาไอ้คู่นี้... อิอิอิอิ”
ไอ้น็อตมันเป็นฝ่ายเปิดปากก่อนใครตามประสาหน้าตาแย่แล้วยังปากหมา
ไอ้เพื่อนๆคนอื่นเห็นเป็นโอกาสที่จะแกล้งผมกับไอ้อี้ก็เลยยิ่งแซวกันใหญ่
จนผมต้องรีบลุกออกจากออกจากตัวไอ้อี้อย่างว่องไว

“มองไรวะพวกมึง!”
ผมขู่พวกมันฟ่อๆ พร้อมกับแผ่รังสีอำมหิตไปทั่ว คนนะไม่ใช่หมา 5555
ไอ้อี้ก็ค่อยๆลุกขึ้นมาแต่มือยังลูบหัวโนๆ ไปมา ท่าทางาจะเจ็บจริงๆ

“เป็นเพราะมึงแหละสาดอี้...อยากมาแกล้งกูดีนัก”
ด้วยความอับอายผมพาลเอากะมันเฉยเลยเล่นเอาไอ้หน้าหล่อถึงกับร้องอ้าว!
“ไรวะเนี่ยกูหัวโนขนาดนี้แล้ว...นี่กูยังผิดอีกเหรอวะสาด”

แล้วผมกับพวกไอ้ซันเลยตะโกนออกมาแทบจะพร้อมๆกัน

“เออ...มึงนั่นแหละผิด!”
ทำให้ไอ้หน้าหล่อปากดีถึงกับทำหน้าเซ็งๆ   
“เออผิดก็ผิดโว้ย!...งั้นกูไม่ถามแล้วโว้ยพวกมึงก็ถามมันเอาเองก็แล้วกัน”

ไอ้อี้งอนตุ้บป่องเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวถัดไปสองสามตัวผมงงโคดๆอ่ะ ก็เลยมองไอ้พวกตัวดีเป็นเชิงถาม

“อะไรของพวกมึงวะ”
ไอ้ซันมันคงรำคาญมันเลยหันหน้ามาตอบคำถามผม

“ก็ไม่มีไรหรอก...พวกกูกะว่าจะชวนมึงไปกินเลี้ยงกันที่บ้านไอ้ซัน...ก็เลี้ยงวันเกิดมึงงัย”
พวกบ้าเอ๊ยแค่จะชวนผมไปกินเลี้ยงทำเป็นเรื่องลึกลับซะ ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าหล่อตี๋ของไอ้ซันนิดนึง
“แค่เนี้ย!”
“เออ...ก็แค่นั้นแหละมึง”
ผมเลยมองไปที่ไอ้อี้ที่ยังดูงอนไม่หายพอดีกับที่มันหันหน้ามาทางผม
แล้วไอ้อี้ปากหมามันก็ยักคิ้วให้ผมยิกๆแบบกวนๆ
ไอ้บ้าเอ๊ย! นึกว่าหล่อตายแหละมึง แฟนกูหล่อกว่ามึงอีกผมคิดในใจแบบหมั่นใส้มัน 5555
“แล้วตกลงมึงว่างมั๊ย”
“ว่างๆๆแต่กูนัดกับอ้นไว้ด้วยซิ...ว่าแต่ให้อ้นไปด้วยได้มั๊ยวะ”
“ถามโง่ๆ ไอ้อ้นมันก็เพื่อนกู...จะมาก็มาซิวะสาด”
ไอ้ซันตบไหล่ผมด้วยความใจกว้างหน้าตาดูขำๆ
เออนี่ถ้าผมไม่ไปกินเลี้ยงกับพวกมันหนนี้ดิเป็นได้มีเรื่องแน่ๆ
เพราะหลายงานแล้วที่ผมเบี้ยวพวกมัน
(แล้วไปสวีทกับอ้น5555)
ซึ่งคนอื่นๆก็ไม่เท่าไหร่หรอกครับ แต่ไอ้เจ้าอี้นี่ดิ แม่งเป็นไรของมันไม่รู้
เล่นน้อยใจแล้วไม่ยอมพูดกับผมเป็นวันๆเลยอ่ะ
จนผมต้องตามง้อมันยังกะมันเป็นแฟนผมแน่ะ
จนไอ้เหมแซวว่ามันหึงผมไอ้อี้ได้ยินก็จะไล่เตะไอ้เหมจนเป็นที่พอใจของมันนั่นแหละ
มันถึงได้หยุดงอนผมแล้วกลับมาเป็นไอ้อี้ปากหมาหน้าหล่อคนเดิม
พอได้รับคำตอบผมไอ้อี้ก็ดูจะมีสีหน้าที่ค่อนข้างพอใจถ้าผมไม่คิดไปเองนะ
“เออมันต้องอย่างนี้สิมึง...เดี๋ยวนี้มึงยิ่งชอบทำตัวเหินห่างอยู่ด้วย”
ดูมันๆยังจะมีหน้ามาแขวะผมอีก
จนผมแยกเขี้ยวให้มันด้วยความหมั่นใส้แล้วเร่ง(ลอก)ทำการบ้านต่อจนเสร็จ
ก่อนกลับผมแวะไปที่สนามฟุตบอลที่อ้นซ้อมบอลเป็นประจำ
แต่มองแล้วเหล่อีกก็ไม่เจออ้น จนพีทที่เป็นเพื่อนของอ้นเห็นผมมาด้อมๆ มองๆคงจะรู้ว่าผมมาหาอ้น
“วันนี้ไอ้อ้นไม่ได้ซ้อมบอลหรอก”
“อ้าว!...แล้วไปไหนอ่ะนายรู้มั๊ย”
“เห็นพอเลิกเรียนก็ขับรถกลับบ้านเลยนะ”
หนุ่มหน้าหล่อหุ่นดีขาวและสูงเพื่อนของอ้นบอกผม
“อ๋องั้นเหรอ...ขอบใจนะ”
พีทก็พยักหน้าให้ผมแล้วกลับไปซ้อมบอลต่อด้วยอิริยาบถเท่ห์ๆ  
แหมนี่ถ้าไม่รีบไปตามอ้น ผมคงจะอยู่ดูเขาซ้อมบอลต่อแน่ๆ เลย
เอไปไหนของเค้านะผมเลยหาตู้โทรศัพท์แล้วโทรไปที่บ้านของอ้น
แต่พอโทรไปแม่ของอ้นก็บอกว่ายังไม่กลับ
ผมนึกฉุนอยู่ในใจกำลังจะออกมาจากตู้โทรศัพท์เพจเจอร์ก็ดังขึ้น
“ตี๊ดๆๆๆๆ”
พอเปิดดูที่แท้ก็เป็นข้อความจากอ้นนั่นเอง
“ตอนนี้รออยู่บ้าน...รีบกลับด่วน”
อ้าว! ไม่กลับบ้านตัวเองแต่ไปบ้านผมซะนี่อะไรของเค้านะ
แต่ผมก็ไม่ได้รอช้ารีบบึ่งรถกลับบ้านทันที
อากาศเย็นก็เข้ามาอีกแล้วนะครับพี่น้องพอกลับไปถึงบ้านไอ้ตี๋ก็นั่งดูทีวีอยู่ที่บ้านผมสบายใจเฉิบ
ยังกะบ้านตัวเองแน่ะ พออ้นเห็นผมก็ยิ้มกว้างตาหยี ตามแบบฉบับของหมอ
“มาแล้วเหรอ”
“ไม่ต้องมาถามเลยปล่อยให้เราหาซะทั่วโรงเรียน”
ผมนั่งลงที่พื้นพร้อมกระเป๋านักเรียนหน้าตาบอกบุญไม่รับซักเท่าไหร่
“ขอโทษคร้าบ...อ้นก็แค่อยากจะเซอร์ไพรซ์วินเท่านั้นเองอ่า”
แล้วไอ้ตี๋แฟนผมก็ลากผมขึ้นห้องอ่ะๆๆ อย่าคิดมากนะครับซีนนี้ไม่มีเย็ด 5555
ก่อนเปิดประตูเข้าไปอ้นก็ให้ผมหลับตา
ผมทำหน้าชักรำคาญตามนิสัยคนเอาแต่ใจแต่อ้นก็ออดอ้อนให้ผมทำจนผมต้องจำยอม
พอเปิดประตูเข้าไปปุ้บก็เซอร์ไพรซ์สุดๆ เลยอ่ะครับ
อ้นยืมยิ้มถือกล่องของขวัญกล่องใหญ่ยื่นให้ผม
“สุขสันต์วันเกิดคร้าบผม!”
“.....”
ผมเองก็ชักเขินที่โดนเซอร์ไพรซ์เข้าแบบนี้
แต่จะว่าไปภายในใจก็รู้สึกดีใจเป็นที่สุดเลยครับ
ผมรับกล่องของขวัญกล่องใหญ่ด้วยความปลื้มใจพร้อมๆ กับคำอวยพรจากแฟนตัวเอง
“ขอให้วินมีสุขภาพที่แข็งแรงเป็นแฟนที่น่ารักของอ้นแบบนี้ไปนานๆนะครับ”
น้ำเสียงเท่ห์ๆ ของอ้นที่อวยพรให้กับผมฟังดูแล้วรู้สึกดีจังเลยครับ
เล่นเอาผมซึ้งจนน้ำซึมเกือบไหลเลยอ่ะอิอิอิ
ผมเข้าไปกอดอ้นแน่นแล้วหอมแก้มเขาฟอดใหญ่
“ขอบคุณนะ...”
ผมพูดอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้วอ่ะเพราะเดี๋ยวน้ำตาจะพาลไหลซะเปล่าๆ
จนอดนึกถึงวันคืนเก่าๆสมัยตั้งแต่เราสองคนยังเป็นแค่เด็กประถมไม่ได้
เพราะรักครั้งแรกของผมเกิดขึ้นตอนอยู่ป.4 และก็คืออ้น ผมได้พบ ได้มอง และได้เฝ้าคิดถึง
แต่แค่ได้แอบมองอย่างเดียววันดีๆแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นแน่ๆ
ถ้าเราไม่ได้เรียนห้องเดียวกันไม่ได้ใกล้ชิดกัน
จนเราสองคนได้มีอะไรกันในวันเข้าค่ายลูกเสือในครั้งนั้น
นั่นจึงเป็นเสมือนประตูสู่ความรักครั้งแรกของผมกับอ้น
เพราะครั้งนั้นอ้นก็ได้รู้ว่าผมรู้สึกและคิดยังงัยกับเขา
แต่เมื่อจบป.6  เราก็ห่างหายกันไปถึงสามปีเพราะอ้นเรียนต่อมัธยมในตัวจังหวัด
แต่ท้ายที่สุดเราสองคนก็ได้มาพบและรักกันอีกครั้ง
แม้หลายๆครั้งผมอาจจะเป็นคนไม่ค่อยดีเอากะใคร สนุกกะไปทั่ว
แต่สาบานได้...ว่าผู้ชายที่ผมรักและเกือบจะพูดได้ว่าเทิดทูนที่สุด(5555 เว่อร์ไปมั๊ย)
ก็คืออ้นไอ้ตี๋คนนี้นี่แหละตัวจริง!
เราสองคนอยู่ในอ้อมกอดกันและกันอย่างมีความสุข
อ้นก็หอมแก้มผมคืนหนึ่งทีแล้วมองหน้าผมยิ้มๆเป็นยิ้มที่จริงใจที่สุดก็ว่าได้
“นี่...ก็เป็นของขวัญอีกชิ้นที่อ้นอยากให้วินทุกๆวันเลยนะ...ถ้าวินไม่เบื่อซะก่อน”
ผมมองหน้าอ้นยิ้มๆ สองแขนกอดรอบเอวแน่นๆของไอ้ตี๋อย่างแสนรัก
“ใครเบื่อก็โง่แล้ว...ถ้ามีแฟนดีๆอย่างอ้น”
“จริงอ่ะ”
ผมไม่ตอบแต่ดึงหน้าอ้นมาจูบปากด้วยความรู้ลึกซาบซึ้ง
เราสองคนยืนกอดกันอยู่แบบนั้นอีกพักใหญ่ๆโดยไม่ได้พูดอะไรกันมากไปกว่านั้น
ความรู้สึกในตอนนั้นแค่เพียงได้อยู่ในอ้อมกอดของคนที่เรารัก
นช่วงเวลาดีๆแบบนี้ผมก็มีความสุขที่สุดแล้วครับ
แล้วผมก็เปิดห่อของขวัญกล่องโต
แต่พอเริ่มแกะผมก็เริ่มงงเพราะพอแกะกล่องแรก ก็ดันมีกล่องที่สองอยู่ข้างในอีก
พอมีกล่องที่สองก็ยังมีกล่องที่สามสามแล้วก็กล่องที่สี่ ที่ห้า ลดขนาดลงไปเรื่อยๆ
“เล่นอารายเนี่ย”
ผมหันไปถามไอ้ตี๋ที่นั่งมองผมยิ้มๆแบบอารมณ์ดีปากก็บอกว่า
“แกะต่อดิ”
ผมขมวดคิ้วงงกับการกระทำของอ้นแต่ก็ยังตั้งใจแกะกล่องของขวัญต่อไป
ผมแกะจนกระทั่งเหลือกล่องใบที่เล็กที่สุด
จนมาเจอกล่องพลาสติกกลมๆเล็กๆ สีแดง
เอ...หน้าตาคุ้นๆ แฮะกล่องแบบนี้เคยเห็นทีไหนหว่า
ไอ้ตี๋ก็พยักหน้าให้เปิดอะไรประมาณนั้น ผมก็อยากรู้จะตายเลยแกะดู
พอผมเปิดปุ้บ! ผมก็ถึงกับขนลุกเลยอ่ะครับ
เพราะภายในกล่องสีแดงเป็นแหวนทองเกลี้ยงๆวงนึง น่าจะประมาณหนึ่งสลึง
ผมหยิบขึ้นมาด้วยความรู้สึกใจสั่นๆ
“รวยใหญ่แล้วนะ...นี่เล่นแจกทองเลยเหรอท่าน”
“ก็อยากจะให้...และมันก็...ไม่ได้แพงมากมายอะไรนี่...ว่าแต่ชอบป่าวอ่ะ”
(หลายปีก่อนทองสลึงนึงก็ไม่เกินสามพัน)
“อ๊ะๆๆ...นี่จิ๊กเงินม้ามารึป่าว”
ผมมองไอ้ตี๋ด้วยสายตาจับผิดนี่ถ้าอ้นทำจริงผมโกรธตายเลยอ่ะ
แต่ก็ได้เห็นแต่สีหน้าขึงขังจริงจังของอ้น
“บ้าแล้ว...รู้ป่าวว่าอ้นต้องช่วยงานที่ร้านเป็นเดือนๆแน่ะ...โด่คนเรา...ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ”
ไอ้ตี๋นั่งหันหลังกอดเข่าด้วยท่าทางงอนๆ
ผมเห็นแบบนั้นก็รู้สึกอยากด่าตัวเองจังเลยที่ปากเสียไปสบประมาทอ้น
เพราะตั้งแต่รู้จักกันมาอ้นเป็นคนที่ รู้ อะไรควรไม่ควร
เกินกว่าเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันเพราะด้วยความที่ต้องช่วยแม่ทำงานตั้งแต่ยังเด็ก
ในขณะที่พ่อต้องไปรับราชการอยู่ต่างจังหวัด
เห็นไอ้ตี๋นั่งกอดเข่าหันหลังให้แล้วใจก็อ่อนลงไปอย่างแรง
อีกทั้งด้วยความสำนึกผิดเลยเข้าไปกอดข้างหลังอ้นแน่น
“พูดเล่นหรอกน่า...น่านะอย่าโกรธนะ”
แล้วหอมแก้มหล่อๆของอ้นฟอดใหญ่ จนเจ้าตัวหันมามองนิดๆ แต่ริมฝีปากที่มีไรขนอ่อนๆยังเม้มสนิท
และคิ้วหนาๆ ก็ยังคงขมวดเข้าหากันเป็นเลขแปด
ผมล่ะขำโคดๆเลยอ่ะ 5555 น่ารักดีออก อิอิอิอิ
“เอ...ให้แหวนแล้ว...คนให้แหวนก็ต้องสวมให้ด้วยสิเนอะ”

ผมยื่นมือซ้ายให้อ้นไอ้ตี๋เลยยิ้มออกมาได้เสียทีเฮ้อ! แฟนผมเนี่ยเวลายิ้มแล้วหล่อขึ้นมาเป็นกองเลย อิอิอิ
อ้นก็จับมือผมแล้วสวมแหวนเข้าที่นิ้วนางข้างซ้าย
“ขอให้วินมีความสุขมากๆนะ...แล้วก็เป็นแฟนที่น่ารักของอ้นแบบนี้ไปนานๆ”
“สาธุ!...5555”

ผมต่อให้อีกจนผมกับอ้นหัวเราะออกมาพร้อมๆ กันผมยกนิ้วนางขึ้นมองแหวนทองเกลี้ยงๆ วงน้อย กับนนิ้วมือยาวๆ
มันทำให้รู้สึกแปลกๆแล้วก็รู้สึกดี ไปพร้อมๆ กัน


******************************************


แล้วพอตอนค่ำๆผมกับอ้นก็อาบน้ำแต่งตัวออกไปฉลองที่บ้านนอกเมืองของไอ้ซัน
ซึ่งพวกไอ้ซันไอ้อี้ก็จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้ว
ทั้งอาหารการกินและเหล้าเบียร์โดยที่ผมไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยมารู้ทีหลังว่าพวกมันทุกคนออกเงินกันเอง
จะว่าไปมันก็เหมือนการเลี้ยงวันเกิดทั่วๆไปนั่นแหละครับแต่สิ่งที่พิเศษมากกว่าก็คือ
ไฮไลค์ของงานครั้งนี้นั่นก็คือมีการแสดงจากพวกไอ้อี้ ให้ชมอีกด้วย
ยังกะเป็นโปรโมชั่นเสริมแน่ะ 5555

โดยคนที่แสดงก็มีไอ้อี้ไอ้เหม แล้วก็ไอ้เข้ม ตอนที่ผมกับคนอื่นๆเห็นชุดพวกมันแล้วก็ถึงกับฮาก๊าก!
แบบว่าขำกันท้องคัดท้องแข็งไปเลยบอกได้คำเดียวว่าฮาโคดๆ อ่ะครับ
เพราะแม้กระทั่งอ้นก็ยังขำไม่หยุดจนน้ำตาเล็ดน้ำตาไหล
เรื่องที่แสดงก็ประมาณว่าไอ้อี้มันแสดงเป็นผมโดยเพื่อให้คนอื่นๆ เข้าใจมันก็จะใช้กระดาษแผ่นใหญ่
แล้วเขียนชื่อผมแขวนไว้ที่อกว่า “กูคือไอ้วิน”
ส่วนไอ้เหมกับไอ้เข้มก็แสดงเป็นสาวสวยสองคนที่เข้ามาชอบผมแล้วแย่งผมอะไรประมาณนี้
สาวสวยสองคนก็จะแย่งผมกันไปด่ากันมา แล้วตบตีกันเหมือนในละครน้ำเน่ายังงัยยังงั้นจริตจก้าน
แต่ละนางนั้นโหยอย่าให้เล่าเลยครับ กะเทยควายยังยอม 5555

แต่ละกิริยาที่พวกมันแสดงเรียกเสียงฮาชนิดที่ว่าถ้าคณะตลกมาเห็นคงแทบจะต้องเลิกอาชีพนี้เป็นแน่ 5555
เพราะพวกมันเล่นกันซะสมจริง จนผมกับคนอื่นๆ นั่งดูไปหัวเราะกันไปจนท้องแข็งไอ้อี้กับไอ้เหม
ว่าไอ้สองตัวนี่มันทะลึ่งทะเล้นทั้งคู่จึงไม่ได้แปลกใจเสียเท่าไหร่
แต่ขำสุดก็ตรงไอ้ถึกเข้มนี่ดิครับถึกๆ ทึ่มๆ  ออกอย่างนั้น
ว่าพอมาใส่ชุดผู้หญิงสายเดี่ยวเอวลอย แล้วมันจะฮาแค่ไหน5555
ขนาดผมเขียนอยู่นี่ผมยังอดนึกถึงงานเลี้ยงวันนั้นไม่ได้เพราะนึกถึงทีไรก็อดขำกับตัวเองไม่ได้ทุกที
ที่มีเพื่อนบ๊องๆและช่างทำไปได้ขนาดนี้
และพอพวกมันแสดงจบก็ได้รับเสียงปรบมือกันเกรียวกราว พร้อมกับเสียงเป่าปากวี้ดวิ้ว

“น้องสาวขอพี่เอาซักทีได้มั๊ยจ้ะ...แต่เอาเท้าถีบนะจ้ะ5555”

ไอ้น็อตปากดีแซวซะเรียกเสียงฮากันลั่น ก็เป็นที่เฮฮากันไป
พอพวกมันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมานั่งค่อยดูได้หน่อยแต่พอมองหน้าไอ้ถึกเข้มแล้วผมก็เกือบจะสำลักเบียร์
เพราะเก็บอาการอยากหัวเราะไว้ไม่ได้

ไอ้เข้มมันเห็นเข้ามันก็เข้ามาล็อคคอผม
“นี่แน่ะมึง...ก็เพราะมึงนั่นแหละที่ทำให้กูต้องยอมทำอะไรบ๊องๆแบบนี้...ยังจะมาหัวเราะกูอีก”
“อ๊อกๆๆ...เบาๆ...กูหายจายม่ายออก...แค๊กๆๆ”
ผมพยายามดึงแขนล่ำๆของมันออกจากคอผม เพื่อนๆคนอื่นๆ กับอ้นก็หัวเราะกันเป็นที่สนุกสนาน
“กูก็แค่ล้อเล่นเท่านั้นเองแหละ...แต่ก็...ขอบใจมากนะโว้ย!”
ผมกอดไหล่มันแน่นแล้วหันไปมองหน้าเพื่อนทุกๆ คน
“กูขอบใจพวกมึงทุกๆคนนะโว้ย!”
เพื่อนที่ทำให้งานเลี้ยงวันเกิดของผมปีนี้มีแต่เสียงหัวเราะและสนุกสนานเฮฮา
จนถึงไอ้อี้มันก็ยิ้มๆ ยักคิ้วกวนๆ ยังทำเป็นเท่ห์เหมือนเคย
ก็แหงแซะไม่ได้แต่งเป็นหญิงนี่หว่าสาด5555
ลองแต่งเป็นหญิงกูก็อยากจะรู้ว่ามึงจะเอาหน้าไปไว้ไหน ผมคิดในใจ อิอิอิ

“เป็นงัยอ้นละครห้องเราเจ๋งป่ะ...คัดมาแต่หัวกะทิทั้งนั้นเลยนะโว้ย”
ไอ้ซันหันมาถามอ้นด้วยสีหน้ายิ้มๆขำๆ
“สุดยอดว่ะ!...มืออาชีพยังยอมเลยว่ะซัน”
“ก็แหงเซะคนหน้าตาดีทำอะไรก็ดีไปหมดแหละ”

ไอ้อี้ยังไม่ได้เลิกนิสัยหลงตัวเองเหมือนเคยจนผมอดหมั่นใส้มันขึ้นมาไม่ได้

“หล่อจางไรใช่ป่าววะสาด...5555”
“สาดวินมึง!!!”

พอพูดเสร็จไอ้อี้มันก็วิ่งไล่ผมไปทั่วห้องโดยมีเสียงหัวเราะของเพื่อนๆ คนอื่นๆ เป็นเสียงเชียร์
แล้วคืนนั้นงานวันเกิดครบรอบ 17 ปีของผมก็เริ่มด้วยเสียงหัวเราะ
แล้วก็จบด้วยเสียงหัวเราะอีกเช่นกันผมรู้สึกประทับใจกับน้ำใจดีๆ
ที่พวกมันได้มอบให้กับผมทำให้ผมได้รู้ว่าเพื่อนแท้เป็นยังงัย

คืนนั้นผมกับอ้นเลยต้องนอนค้างที่บ้านไอ้ซันจนถึงเช้าเพราะเมาแอ๋กันทั้งคู่
สำหรับบทนี้ไม่ได้มีบทเอ็กส์กันก็ขอให้คิดซะว่าเริ่มศักราชใหม่กับเรื่องราวน่ารักๆ
อ่านง่ายๆคลายเครียดก็แล้วกันนะครับ เพราะตอนนี้ก็เครียดกันมากมายอยู่แล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น