วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เรื่องเซ็กส์ของเด็กร่าน บทที่ 47 เมื่อผมงอนไอ้ตี๋อ้น!

พอผมกลับมาจากกรุงเทพผมรู้สึกว่าอ้นจะเอาอกเอาใจผมมากเป็นพิเศษ
ถึงผมจะค่อนข้างพอใจมากที่ไอ้ตี๋เอาใจผมแบบนี้ แต่ผมก็อดอยากรู้ไม่ได้เลยถามออกไปตรงๆ
ไอ้ตี๋ก็สารภาพว่าอยากชดเชยที่ช่วงปิดเทอมไม่ค่อยมีเวลาให้ผม
ผมฟังแล้วก็ทั้งรู้สึกทั้งอึ้งทั้งมีความสุขในขณะเดียวกัน

แต่อีกใจก็รู้สึกผิดยังงัยก็ไม่รู้แต่ช่วยไม่ได้นี่ครับมันคงจะเป็น(กรรม)ของไอ้ตี๋มั๊งที่ต้องมีแฟนร่านๆ อย่างผม 5555

พอเปิดเทอมมาได้ผมก็วุ่นๆทั้งเรื่องเรียนและเรื่องการซ้อมวงโยฯ  เลยลืมคำสัญญาที่อ้นให้ไว้ซะสนิทเลย จนกระทั่งเรียนมาได้หลายวัน  
วันนึงนังอูก็วิ่งกระหืดหระหอบเข้ามาหาผมถึงในห้องซึ่งน้อยครั้งที่นังอูเพื่อนสาวตัวดีของผมจะมาหาผมถึงในห้องเรียน
เพราะส่วนมากจะเป็นผมเสียมากกว่าที่ไปหามันที่ห้องหรือไม่ก็ไปหามันที่สนามวอลเล่บอล

“นังวินเกิดเรื่องใหญ่แล้ว! เร็วๆ”

มันแหกปากเสียงดังจนพวกเพื่อนๆผมทั้งไอ้อี้ ไอ้ซันและคนอื่นๆ หันมามองด้วยความสนใจ
จนผมต้องรีบขยิบตาให้มันรู้สึกตัวว่าตอนนี้มีเพื่อนผู้ชายผมอยู่ตั้งโขยง
พอมันเห็นผมขยิบตามันจึงได้รู้สึกตัวแล้วทำหน้าตาแบบจะกินเลือดกินเนื้อผม
“เออๆๆ ฉันรู้แล้ว” มันบอก
“แกรู้มั๊ยว่าเกิดเรื่องใหญ่แล้วนัง...เอ่อวิน”
“เรื่องอะไรของแกวะอูทำเป็นตกอกตกใจไปได้”
“ถ้าแกอยากรู้ก็ตามมา”
แล้วมันก็กระชากแขนผมวิ่งตัวปลิวออกจากห้อง
“เฮ้ยๆๆสาดวินแล้วเวรทำความสะอาดห้องละว่ะ”
ไอ้อี้วิ่งออกมาตะโกนถามหน้าประตู
“กูติดไว้ก่อนโว้ย”
ผมตะโกนตอบมันไปในขณะที่แขนก็โดนนังเพื่อนตัวดีดึงแขนผมพาวิ่งไม่หยุด
“นังอูแกบอกฉันได้ยังว่าเรื่องใหญ่อะไรของแก ช้างจะออกลูกหรือไงวะถึงได้รีบขนาดนี้”
“ทำเป็นใจเย็นอยู่นั่นแหละเดี๋ยวแฟนแกก็โดนฉกไปหรอก”
ยิ่งพูดผมก็ยิ่งงงจนกระทั่งมาถึงโรงอาหาร นังอูก็ชี้ให้ผมดูนังชะนีคนนึงกำลังนั่งพูดจอ้อล้อ ฉอเลาะกับผู้ชายหน้าตาตี๋ๆ
คนนึงหน้าตาหล่อนี่หว่า เฮ้ย! นั่นมันไอ้ตี๋แฟนกูนี่หว่า!
เท่านั้นแหละครับเลือดขึ้นหน้าทันทีเลย
ฮึ่ม! ไอ้ตี๋! ผมคำรามในใจพร้อมๆ กับดูหน้านังชะนีคนนั้น
หน้าตาก็น่ารักดีนี่ถ้าคิดแบบไม่ลำเอียงนะ ถึงกับสวยเลยแหละ ขาวๆ หมวยๆ
“เห็นรึยังแกว่าแกน่ะมัวแต่ใจเย็นอยู่ได้ ฉันน่ะเห็นนังนี่เข้าหาอีอ้นหลายทีแล้ว คุยกันทีก็เป็นนานสองนาน
จนคนอื่นๆเขาลือกันให้แซ่ดว่านังชะนีน้อยนั่นเป็นแฟนกับอีอ้น แกรู้ปาว”

ผมกำลังมึนกับภาพเหตการณ์ที่กำลังได้เห็นอยู่อ่ะครับเลยฟังนังอูไม่ถนัด
“แกเห็นอ้นคุยกับผู้หญิงคนนั้นนานรึยังเห็นกี่ครั้งแล้ว”
ผมถามขึ้นมาหลังจากที่เราสองคนนั่งอยู่โต๊ะซึ่งไม่ไกลจากโต๊ะของอ้นกับนังชะนีน้อยนั่นเท่าไหร่
“เท่าที่เห็นเองนะ ก็ก่อนปิดเทอมแหละก็ประมาณสามครั้ง แต่พวกนังปิ๋มเพื่อนสาวที่
ห้องฉันน่ะเล่าให้ฟังว่าถึงขนาดไปรับไปส่งกันเลยนะแก”
นังอูเพื่อนสาวพูดด้วยความหมั่นใส้จนเสียงแหลมปรี้ด! แสบแก้วหู
พอฟังแล้วผมถึบขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความเจ็บใจจนอดมานั่งคิดไม่ได้ว่า ช่วงที่ปิดเทอมที่ไม่ค่อยเวลาให้ผมนั้น
หรือจะเป็นแค่ข้ออ้างแต่ที่ไหนได้ จะได้นัดแนะกันไปไหนมาไหนด้วยกันล่ะซิ หนอย!
ยิ่งคิดก็ยิ่งปรี้ดแตก! แทบอยากจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงขึ้นมาเลยแหละครับ 5555
ดูนังชะนีน้อยนั่นดิดูจากชุดที่ใส่ก็น่าจะแค่เด็ก ม.3 ดูดิว่าชีหน้าด้านแค่ไหนถึงขนาดดึงมือไอ้ตี๋ไปจับด้วย
โอ้ยๆๆโกรดๆๆ ท่าทางนังชะนีน้อยนั่นคงไม่อยากจะเป็นสาว
แล้วก็แก่ตายตามธรรมชาติซะแล้ว!
ผมคิดในใจขึ้นมาอย่างเหลืออด แต่นังอูมันรู้ ว่าคนอย่างผมน่ะจะให้เดินดุ่มๆออกไปแย่งผู้ชายกับชะนี
เหมือนคนไร้การศึกษานั้นเป็นไม่มีทาง
“แกอยู่เฉยๆเดี๋ยวฉันจัดการเอง”
แล้วมันก็ลุกไปซื้อน้ำอัดลมที่ร้านน้ำมาสองแก้วระหว่างนั้นผมก็คอยจ้องดูพฤติกรรมของไอ้ตี๋ตลอด
ดีหน่อยที่ไอ้ตี๋เอาแต่นั่งฟังพยักหน้ามั่ง แล้วก็ยิ้มมั่ง มีแต่ยัยหัวเห็ดโคนนั่นแหละ
ที่คอยจะฉวยโอกาสจับมือไอ้ตี๋แฟนผม
ผมรู้สึกโกรธจัดควันแทบพุ่งออกหู รู้สึกว่าหน้ามันร้อนผ่าวๆขึ้นมาไงไม่รู้
พอดีกับที่นังอูเดินผ่านโต๊ะที่อ้นกับชะนีน้อยนั่นนั่งอยู่นังอูก็แกล้งทำเป็นสะดุดล้ม
แล้วน้ำแดงทั้งแก้วก็ราดลงบนตัวแม่ชะนีน้อยนั่นจนเปียกม่อล่อกม่อแลกแดงเถือกไปทั้งตัว
“ว้าย! กรี้ดดดด! โอ้ย! เดินประสาอะไรเนี่ย!ดูสิเนี่ยเปื้อนหมดแล้ว โอ้ย!”
แล้วผมก็ได้เห็นชะนีเต้นเป็นเจ้าเข้าก็หนนั้นแหละครับ 5555
สะใจเป็นบ้าแต่ดูๆ ไปก็น่าสงสารเธอเหมือนกันเนอะ
ที่ต้องมาโดนนังอูจอมแสบเอาน้ำแดงราดตัวซะขนาดนั้น
“ตายแล้ว! โทดทีค่ะคุณน้องขา... พี่ไม่ได้ตั้งใจ”
นังอูทำสีหน้าเหมือนกับว่าไม่ได้ตั้งใจจริงๆมีจริตจะก้านจนน่าหมั่นใส้สุดๆ และยิ่งนังอูเข้าไปช่วยเช็ดและขอโทษ ก็ยิ่งไปกันใหญ่
เพราะน้ำแดงแก้วที่สองของนังอูดันหกราดเต็มตัวชะนีน้อยไปอีกรอบ

“โอ้ย! พอแล้วๆ ไม่ต้องช่วยแล้ว อีกระเทยบ้า! จำไว้เลยนะแก”
แม่ชะนีท่าทางจะโกรธจัดยืนขึ้นท้าวสะเอวชี้นิ้วเหย็งๆ อย่างอาฆาตและพอด่าเสร็จชีก็วิ่งหน้าตั้งไปทางห้องน้ำด้วยความอายสุดขีด
และตลอดทางก็มีคนมองด้วยความตกใจบ้างก็หัวเราะบ้างก็ขำกันเป็นที่สนุกสนานไป
ที่เห็นเสื้อสีขาวของชีแดงเถือกออกปานนั้น
“อูก็ไม่น่าไปแกล้งน้องเขาแบบนั้น”
ผมได้ยินอ้นบ่นกับนังอูแต่ตอนนั้นอ้นคงจะยังไม่ทันได้เห็นผม
“ไม่ต้องมาพูดเลยพ่อตัวดีไปไงมาไงถึงได้มาคบหากับชะนีได้ แล้วเพื่อนสาวฉันแกเอาไปไว้ไหน”
“5555 โอ้ย! คิดมากไปได้นี่อูก็ น้องเขาเป็นแค่น้องสาวของเพื่อนไม่ได้มีอะไรซักหน่อย”
“ไม่มีอะไรเตี่ยแกดิก็ฉันเห็นนังชะนีนั่นอยู่กับแกตั้งหลายที แล้วเพื่อนฉันก็เห็นแกไปรับไปส่งมันถึงบ้านก็หลายหน”
นังอูคาดคั้นจะเอาความจริงให้ได้ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ผมก็อยากรู้มากๆเหมือนกัน
“ไม่มีอะไรจริงๆน่าอู...จึ๋ย!”
ยังไม่ทันที่อ้นจะทันแก้ตัวเสร้จผมก็เดินมาถึงโต๊ะที่เฉอะแฉะไปด้วยน้ำหวานที่หกดเรี่ยราดจนเต็มพื้นด้วยฝีมือเพื่อนสาวตัวดีของผม
“พอเหอะอู จะไปพูดให้เปลืองน้ำลายทำมัย”
พออ้นเห็นผมก็ถึงกับหน้าเจื่อน
“วิน!”
ผมแสยะยิ้มทำหน้าล้อเลียนให้ไอ้ตี๋ไปทีนึงด้วยความหมั่นใส้หนอยไอ้ตี๋บ้ายังจะมาทำหน้าบ้องแบ๊วอยู่ได้ เชอะ!
“ไปอู”
ผมไม่ฟังเสียงใครทั้งนั้นรีบดึงแขนนังอูที่ตัวโตกว่าผมซะอีกออกมาจากโรงอาหารด้วยความรู้สึกโกรธจัด
เล่นเอานังอูมาบ่นกับผมทีหลังว่าผมเหมือนคนถูกผีเข้าเลยเพราะแรงเยอะมากๆ
ผมก็ไม่สนอะไรทั้งนั้นพอกลับถึงบ้านผมก็ปิดประตูเข้าห้องนอนเลยครับแม่เรียกกินข้าวผมก็บอกว่าไม่หิว แป๊บเดียวไอ้ตี๋ก็ตามมาหาถึงบ้าน
“ก๊อกๆๆ”
“วินเปิดประตูหน่อยสิ”
เสียงหมอฟังดูเหมือนเสียงครางซะมากกว่ามันอ่อยๆ ยังไงไม่รู้
“วิน เปิดประตูให้อ้นหน่อย”         
ผมพยายามซุกหน้ากับหมอนเพื่อไม่ให้ได้ยินเสียงของอ้น ไม่อยากรับรู้ ไม่อยากสนใจอะไรทั้งนั้นจนกระทั่งหลับไปทั้งๆชุดนักเรียนจนถึงเช้า
พอตื่นขึ้นมาแม่ก็ถามผมอย่างเป็นห่วง
“ทะเลาะกันเหรอลูกอ้นเคาะประตูตั้งนานวินก็ไม่ยอมเปิดแม่ก็ไม่รู้ว่าโกรธกันเรื่องอะไร
แต่เป็นเพื่อนกันมานานมีอะไรก็ค่อยๆ พูดกันนะลูก”
“ไม่มีอะไรหรอกแม่แค่เบื่อๆ น่ะ”
ผมพยายามเลี่ยงไม่ตอบแม่แต่สีหน้าแม่ก็ยังดูห่วงๆ ผมอยู่
พอไปถึงโรงเรียนผมก็เห็นไอ้ตี๋รออยู่ที่จอดมอไซค์ของโรงเรียนด้วยสีหน้าหมองๆ
ผมเชิดใส่ด้วยความน้อยใจแต่ไอ้ตี๋ก็ไม่พูดอะไรเอาแต่จ้องหน้าผม และทำหน้าเศร้าๆ
“พักเที่ยงกินข้าวด้วยกันนะ”
ไอ้ตี๋ทำหน้าเอาใจ
“ไม่ว่าง”  
เสียงแข็งใส่...
“งั้นตอนเลิกเรียนอ้นไปส่งนะ”
“มีรถมา ...กลับเองได้”
เอาเข้าไปไอ้นี่นิเดี๋ยวเบิ้ดกะโหลกเลยมึง
“วินฟังอ้นก่อนดี๊... อ้นไม่ได้มีอะไรกับน้องเขาจริงๆนะ…น้องเขาเป็นน้องของเพื่อนอ้นก็แค่นั้นเองอ่ะ”
“จะมาบอกทำมัยจะทำอะไรก็เชิญ”
พูดเสร็จผมก็เดินออกมารู้สึกว่าผมบึ้งตึงถึงที่สุด หน้าร้อนจนแสบคันยิบๆ ไปทั้งหน้าก็ว่าได้
“วินฟังอ้นก่อนดี๊”
ไอ้ตี๋เดินตามมาต้อยๆอย่างน่าสงสารทั้งๆ ที่ผมไม่ได้มองแต่ก็รู้สึกได้ว่าไอ้ตี๋ทำหน้าเศร้าๆ คอตก
อย่างที่ชอบทำเวลาที่ทำผมโกรธ แล้วผมก็เดินเข้าห้องเรียนโดยที่ไม่ได้หันไปมองไอ้ตี๋เลย
และตลอดวันนั้นบอกตามตรงว่าผมเองก็เรียนไม่รู้เรื่องเอาซะเลย
จนถูกครูดุตั้งสองวิชาที่ไม่ยอมฟังตอนอธิบายในชั่วโมงเรียนไอ้อี้ก็ถามผมด้วยความเป็นห่วง
“เชี่ยวินวันนี้มึงเป็นไรไปว้า!... แม่งเหม่อทั้งวัน”
“กูไม่ค่อยสบาย”
ผมตอบสั้นๆแบบอารมณ์บ่จอย ไอ้อี้ก็เอามือมาแตะที่หน้าผากผม
“เออว่ะ ตัวร้อนๆมึงเอายามั๊ยเดี๋ยวกูไปขอที่ห้องพยาบาลให้”
“เออ ช่างเหอะแค่นี้ไม่ตายหรอก”
ไอ้อี้ก็เลยเบิ้ดกะโหลกผมป้าบนึง
“เชี่ยนิ พูดบ้าๆอะไรของมึง รึว่ามึงมีปีญหาอะไรก็บอกกูดิ”
“ไม่มีอะไรหรอกน่าอย่าห่วงเลย เดี๋ยวก็ดีเอง”
คำว่า“เดี๋ยวก็ดีเอง”ของผมนั้นผมรู้สึกมันเลื่อนลอยอย่างบอกไม่ถูก
เหมือนผมพูดกับตัวเองซะมากกว่า
ไอ้อี้มันก็มองหน้าผมด้วยความงงๆพวกไอ้ซันกับคนอื่นๆ เลยพลอยเป็นห่วงผมไปด้วย
แล้วพอตอนกลับบ้านพวกมันเลยมาส่งผมทั้งก๊ก เพราะอาการเหม่อๆ ของผมแบบนั้น
พวกมันบอกว่าเป็นห่วง กลัวว่าผมจะขับไปชนรถสิบล้อ มากกว่าที่รถจะมาชนผม
พวกมันว่างั้นพวกเพื่อนปากหมา 5555
“กินข้าวแล้วนอนพักซะนะมึง”
ไอ้ซันกำชับก่อนจะลงไปจากห้องเหลือแค่ไอ้อี้ที่ยังคงเป็นกังวลในอาการของผม
“ถามจริงๆเหอะไอ้วินมึงเป็นอะไรของมึงวะ หรือว่ามึงอกหัก!”
เป็นคำถามที่แทงใจดำผมสุดๆผมเลยตะคอกมันกลับไปดังๆ
“อกหักเตี่ยมึงดิไอ้บ้า! วันๆ ก็เอาแต่เรียนกับซ้อมวงโยฯกูจะไปชอบใคร
ใครจะเหมือนมึงมีสาวๆ ในสต็อกตั้งเยอะแยะ”
“แน่นะมึง”
มันพูดแล้วก็จ้องหน้าผมเขม็งเหมือนจะคาดคั้น
“ก็บอกแล้วไงวะว่ากูไม่ได้เป็นอะไรไอ้เชี่ยนิ”
พอผมพูดอย่างนั้นไอ้อี้หน้าหล่อก็ทำสีหน้าแบบไม่ค่อยพอใจ
“เออ กูมันก็แค่คนอื่น”
แน้! ไอ้นี่ กูยิ่งไม่สบายใจอยู่ยังจะมางอนกูอีก ผมคิดในใจ
แต่ปากก็พูดกับมันดีๆนะ เพราะยังงัยมันก็เป็นห่วงผมจริงๆนี่นา
“ขอบคุณโว้ยที่เป็นห่วงกูแต่กูไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ แค่ปวดหัวเท่านั่นแหละ”
“จริงๆ นะมึง”
“เออ! ไปๆๆ มึงกลับได้แล้ว เดี๋ยวกูจะนอน”
“มึงให้กูนอนเป็นเพื่อนก็ได้นะโว้ย”
มันทำหน้ายิ้มแบบเอาใจแหมไอ้เจ้านี่ ผมเกือบจะด่ามันออกไปแล้วเชียว
นี่ถ้ากูอยู่ในอารมณ์ปกติมีรึกูจะปฏิเสธมึง แต่ตอนนี้กูกำลังเศร้าอยู่โว้ย ผมคิดในใจ
“เฮ้ย กูไม่ใช่เด็กๆนะโว้ยที่จะต้องมานอนเฝ้า บ๊องจริงๆ มึงนี่”
“กูก็แค่ห่วงกูดูออกนะว่ามึงน่ะไม่สบายใจเหมือนมึงมีอะไรในใจซักอย่างแต่ไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง”
“มึงนี่เก่งดูสีหน้าคนเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่วะวันๆ เห็นแต่ดูหนังสือโป๊”
“ป้าบ!”
มันเบิ้ดกะโหลกผมทีนึง
“โอ้ย! เชี่ยนิมึงตบหัวกูทำมัยสาด”
“เออถึงกูจะชอบดูหนังสือโป๊ก็เรียนดีกว่ามึงละกันปากดีแบบนี้กูค่อยหายห่วงหน่อย”
“หายห่วงก็ไปซะทีกูจะได้นอน”
ก่อนที่มันจะเดินออกจากห้องก็บ่นอุบอิบจนน่าขำ
“ไล่เข้าไปวันนึงถ้าขาดกูแล้วมึงจะเสียใจ”
ผมส่ายหัวด้วยความรำคาญไอ้เพื่อนตัวเป้งหน้าหล่ออย่างไอ้อี้แต่ก็อดยิ้มขำๆกับคำพูดมันไม่ได้
คิดๆไปก็คงจะเหงาน่าดูถ้าวันนึงผมกับมันจะไม่ได้เจอกัน ผมคิดอะไรเพลินๆจนหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
แต่พอกำลังเคลิ้มๆเหมือนจะหลับก็รู้สึกว่ามีใครมากอดผมไว้แน่น
พอรืมตาขึ้นมองอ้าวเป็นไอ้ตี๋อ้นตัวดีนี่เอง สงสัยไอ้อี้ตอนมันออกจากห้องไม่ยอมล็อคประตูแน่เลย
อ้นกอดผมแน่นไม่พูดไม่จาซบหน้ากับซอกคอผมลมหายใจของไอ้ตี๋พ่นลงที่ต้นคอผมมันรู้สึกอุ่นๆ
พอผมจะดึงมืออ้นออกไอ้ตี๋ก็ยิ่งกอดผมแน่นเข้าไปอีก

“หายใจไม่ออก”
ผมบ่นอุบอิบแต่ไม่เต็มปากนักคงเพราะไออุ่นจากวงแขนไอ้ตี๋มั๊ง เลยทำให้ผมเริ่มใจอ่อนขึ้นมาซะเฉยๆ แย่จัง
“อ้นขอโทษนะ”
“ไหนบอกว่าไม่ได้มีอะไร...แล้วจะขอโทษทำมัยอ่ะ”
พอผมตอบแบบนี้อ้นก็ลุกขึ้นมองหน้าผมหน้าตาไอ้ตี๋ดูหมองลงไปเยอะขอบตาดูช้ำๆ เหมือนคนอดนอน จนผมอดสงสารขึ้นมาไม่ได้ ตาตี่ๆ ของไอ้ตี๋จ้องเขม็งที่หน้าผมนิ่ง
“อ้นแคร์วินมากนะ”
ผมชักรู้สึกประหม่าๆขึ้นมาเล็กน้อยเลยไม่กล้ามองหน้าหมออีก
แต่อ้นก็จับหน้าผมให้มองหน้าเขาเหมือนจะเป็นการบังคับกรายๆ
“อ้นอยากให้วินเชื่อว่าคำที่อ้นพูดทุกคำเชื่อได้เสมอ”
“โอเคๆ ...เชื่อแล้วๆ”
ผมพูดด้วยเสียงอ่อยๆ
“ไม่ต้องเลยต้องฟังอ้นให้จบก่อนดิ!”
ไอ้ตี๋ตะคอกผมเบาๆ
“ก็ฟังอยู่นี่ไงคร้าบบ...”
ผมทำหน้ามุ่ยๆแบบขัดใจ เพราะตอนนี้ตัวอ้นทั้งตัวคล่อมผมไว้
ผมเลยไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้เลยต้องนอนฟังอ้นเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฟังจนจบ
เรื่องราวก็ประมาณว่าก่อนปิดเทอมไอ้ตี๋ก็ได้รู้จักกับชะนีน้อยที่ชื่อกิ๊ฟ ซึ่งเป็นน้องสาวของเพื่อนสนิท
ของไอ้ตี๋มัน แล้วยัยกิ๊ฟเนี่ยก็แอบชอบอ้นมานานวันนึงไอ้ตี๋ไปส่งเพื่อนคนนี้ที่บ้าน
ชีเลยสบโอกาสเลยได้คุยกันกับอ้น
หลังจากนั้นพอมีโอกาสชีก็จะเข้ามาพูดคุยกับอ้นบ่อยๆ อีกอย่างได้พี่ชายเป็นแบ็คให้แบบนี้ชีก็เลยยิ่งได้ใจ
ถึงขนาดให้ไอ้ตี๋ไปส่งที่บ้านหลายครั้ง ไอ้ตี๋ก็ลำบากใจเพราะเป็นเพื่อนสนิทด้วย
และเห็นว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญเลยไม่ได้บอกผมจนครั้งสุดท้ายที่เจอนังชะนีน้อยนั่นก็วันที่โดนนังอูเอาน้ำแดงราดตัวนั่นแหละ
นึกขึ้นมาก็อดสงสารเธอไม่ได้เนอะคงจะอายคนไปทั้งโรงเรียนแน่ๆ
“แล้วทำมัยต้องจับไม้จับมือกันด้วยอ่ะ”
“หึงอ่ะดี๊”
ไอ้ตี๋เห็นว่าผมเริ่มจะอ่อนลงไปมากแล้วเลยกระเซ้าเล่นๆ
“บ้าดิแค่เห็นว่าไม่ควรก็เท่านั้น แถมอยู่ในโรงเรียนยังจะมาจับมือถือแขนกันอยู่ได้”
“หึงก็บอกว่าหึงดี๊อ้นชอบนะตอนที่วินหึงน่ะ แต่ตอนงอนนี่ดุเอาเรื่องเหมือนกันเล่นเอาอ้นใจเสียเลยรู้ป่าว”
“รู้แบบนี้แล้วทีหลังจะทำอีกมั๊ยมีอะไรก็ต้องบอกกันดิ ไหนบอกว่ารักกันงัย”
ผมบ่นเป็นคนแก่จนไอ้ตี๋ยิ้มเท่ห์ๆ แล้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
“คร้าบคราวหลังไม่ทำอีกแล้วคร้าบ”
ผมเอามือบี้ๆที่หน้าตี๋ๆ ของไอ้ตี๋อ้นแรงๆ จนไอ้ตี๋ร้องโอดโอย
“เจ็บแล้วครับ โอ้ย!”
แต่หน้าก็ยังยิ้มๆแบบมีความสุข
“ได้ยินว่าวินไม่ค่อยสบายเป็นงัยบ้าง”
บทจะซึ้งก็ซึ้งขึ้นมาในทันทีแฮะไอ้ตี๋นี่
“ก็ไม่ได้เป็นไรมากหรอกแค่ปวดหัวนิดหน่อยเอง”
อ้นเอามือมาจับตามหน้าผมตามแก้มผม สีหน้าดูเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด
ผมมองแล้วก็ยิ้มๆในความใจดีของไอ้ตี๋
“กินข้าวแล้วก็กินยาหน่อยนะอ้นซื้อข้าวต้มที่โต้รุ่งมาให้ด้วย ไป ลงไปกินกัน”
อ้นดึงมือผมลุกจากฟูกแต่ก่อนจะก้าวออกจากห้องผมก็กอดข้างหลังอ้นแน่น
จมูกสูดได้กลิ่นตัวที่เคยคุ้นกับกลิ่นโรลออนที่ผมเป็นคนซื้อให้เองกับมือ
“ขอโทษนะ”
อ้นกุมมือผมตอบแล้วตบแปะๆ
“วินไม่ผิดหรอกและอีกอย่างถ้าอ้นโกรธวินก็บ้าแล้ว 5555”
อ้นหันมายีหัวผมแบบเอ็นดูผมเลยหอมแก้มไอ้ตี๋ไปทีนึง ไอ้ตี๋ก็หอมแก้มผมคืนมั่ง
เอากะแฟนผมดิ5555
แล้วเราสองคนก็ลงไปกินข้าวข้างล่างซึ่งอ้นซื้อข้าวต้มมาจากร้านโต้รุ่งในเมืองด้วย
พอแม่เห็นผมกับอ้นดีกันผมก็ยิ้มแป้นเลย
พอกินข้าวเสร็จผมกับอ้นก็อาบน้ำแล้วเข้านอนทันที ในตู้เสื้อผ้าผมมีเสื้อไอ้ตี๋อยู่หลายตัว
ซึ่งปกติเวลาอ้นมานอนค้างด้วยเราจะดูโทรทัศน์ดูข่าว ดูละคร เป็นประจำ
แต่วันนี้อ้นเห็นว่าผมไม่ค่อยสบายเลยไม่ยอมให้ผมนอนดึก
แหมทำยังกะว่าผมเป็นเด็กแน่ะแต่ก็รู้สึกอบอุ่นและดีใจมากๆ ที่อ้นอยู่ด้วยในตอนนี้
เรานอนคุยกันไปหยอกล้อกันไป จนช่วงนึงอ้นก้อดึงผมไปนอนซบที่อก
“คราวหลังไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรอ้นจะบอกวินทุกเรื่องเลยเลยนะอ้นสัญญา”
“จริงนะ”
“คร้าบผม....”
ผมยกหัวขึ้นมองหน้าหมอที่บัดนี้ดูสดใสขึ้นเยอะนับแต่ปรับความเข้าใจกับผมได้ มือผมเลยป้วนเปี้ยนที่ควยอ้นกำเล่นไปมาอย่างมันมือตอนนี้ผมนึกอยากเข้าไปจูบปากได้รูปของอ้นอย่างแรงเลยอ่ะ
แต่ไอ้ตี๋แกล้งหันหน้าหนีแล้วหัวเราะ
“ม่ายอาวคร้าบ ...เดี๋ยวติดไข้อ่ะ”
“คิดว่าจะหลบพ้นเหรอ ...มานี่เลย”
ผมทั้งบังคับทั้งขู่ ส่วนอ้นก้อเอาแต่หัวเราะร่า หลบผมไปมา แต่มีเรอะจะรอดปากผมไปได้
พอปากผมประกบปากอ้นได้เราก็ดูดกันจ๊วบๆคราวนี้ไอ้ตี๋นั่นแหละที่ขึ้นคล่อมผมเอง
พอผมรู้สึกว่าอ้นคงจะเริ่มติดลมแล้วก็เลคิดจะแกล้งอ้นมั่งโดยผลักอ้นออกเบาๆ
“เดี๋ยวติดไข้”
ไอ้ตี๋ก็ยิ้มเหี้ยมๆที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ผมจ้องมองไรหนวดอ่อนๆ ที่ริมฝีปากของไอ้ตี๋อย่างขำๆ
“มาทำให้อยากแล้วคิดจะจากไปง่ายๆเหรอ เลิกคิดไปได้เลย หึหึหึ”
ว่าแล้วไอ้ตี๋ก็ดึงเสื้อผ้าผมออกด้วยท่าทีหื่นๆแล้วเข้ามาดูดหัวนมผมสลับไปมาทั้งสองข้างเล่นเอาผมเสียวจนต้องจับหัวอ้นไว้แน่น
“เสียวอ่า….”
ผมโดนอ้นทั้งไซ้ทั้งดูดนม ไซ้ตามตัว ตั้งแต่หน้า คอ ลงมาตามหน้าอก และหน้าท้องอยู่นาน
จนผมที่มีอาการตัวรุมๆอยู่แล้วยิ่งรู้สึกว่าตัวร้อนมากเข้าไปอีก ตอนนี้อ้นก็คงเงี่ยนจัดแล้วมั๊งเมื่อเขาเอาควยมาคล่อมที่หน้าผม
ผมเลยจัดการดูดควยดุ้นงามของอ้นเข้าปากทันที
“ซี้ดดด ดีจังดูดแรงๆเลย ขบด้วยอู้ว อ๊ะ!”
ผมทำตามความต้องการที่แฟนผมสั่งทั้งขบทั้งดูดจนอ้นทนต่อไปไม่ไหว

“ทนไม่ไหวแล้วมาให้อ้นเย็ดเหอะ”

ผมก็ทันเกมอ้นรีบยกสองขาขึ้นพาดบ่าอ้นยังกะนักยิมนาสติกแน่ะ 5555 พอควยอ้นกับรูผมตรงกันปุ้บอ้นก็เอาควยดันเข้ารูผมช้าๆ
“ซี้ดดด อ้นเร็วๆดันเข้ามาเร็วๆ”
“คร้าบผม”
อ้นนั่งยองๆดันควยเข้ามาในตูดผมจนมิดลำ!แล้วเริ่มกระเด้าเข้าๆ ออกๆ
“ซี้ดดดตูดวินเย็ดเมื่อไหร่ก็มันควยทุกทีอึ๊บๆๆ”
“ถ้ามันก็อย่าหยุดเด้าดิแรงๆเลย อืมมม”
สองมือผมขยี้ขยำไปตามเนื้อตัวขาวเนียนแต่แน่นไปด้วยกล้ามงามๆของไอ้ตี๋
ไอ้ตี๋คงจะเห็นว่าผมมันได้ที่ก็เลยเปลี่ยนท่าเป็นวิดพื้น โดยที่ขาผมยังพาดอยู่ที่ไหล่ของอ้นไม่ยอมหลุด
เสียงควยกับไข่แฝดของอ้นกับตูดผมกระทบกันจนเกิดเสียงดัง
“ป้าบๆๆๆ”
ผมสะใจกับท่านี้ของอ้นมากเพราะนอกจากอ้นจะเย็ดไปด้วยแล้วยังสามารถดูดปากกับผมได้เราสองคนเลยมีแต่เสียงอู้อี้ๆ ในปาก
สองแขนผมกอดรอบคออ้นแน่นอย่างมีความสุขจนอ้นเปลี่ยนมาเอากันในท่าที่ให้ผมนั่งบนตัก
แล้วเราสองคนก็กระแทกกระทั้นกันในท่านั้นอีกพักนึงทั้งผมและอ้นก็ส่งเสียงซี้ดออกมาจากปากดังๆ
“ซี้ดดดด อ๊ะๆๆๆออกแล้ว ซี้ดดด”
ควยผมพ่นน้ำแรงๆเต็มหน้าท้องแกร่งของอ้น ส่วนอ้นก็ปลดปล่อยน้ำอสุจิอุ่นๆ เข้าเต็มตูดผม
เราสองคนหอบแฮ่กๆอยู่ข้างๆ หูกันและกันผมหอมแก้มอ้นฟอดใหญ่
แล้วเราสองคนก็นอนกกกันไปจนถึงเช้าทั้งที่เปลือยล่อนจ้อนอยู่อย่างนั้น
และคืนนั้นผมก็หลับฝันดีทั้งคืน 5555
วันนี้เป็นวันเสาร์ผมกับอ้นเลยตื่นค่อนข้างสายผมลุกขึ้นมาก็เห็นควยอ้นที่แข็งโด่อยู่นอกผ้าห่ม
ควยของอ้นไม่ว่าจะดูเมื่อไหร่ก็ตระการตาน่ามองเสมอเพราะควยอ้นค่อนข้างอวบอ้วนสีออกขาวเหมือนตัวหมอหัวก็บานแดงสีสดน่าดูด
ขนหมอยที่กระจุกตัวอยู่ตรงโคนก็ดกงามแต่เป็นระเบียบน่ามอง
รวมทั้งขนเซ็กส์ที่อยู่หน้าท้องก็งามเป็นไรขึ้นไปตามหน้าท้องจนถึงสะดือ
ไข่แฝดสองใบของอ้นขดเป็นก้อนกลมเพราะอากาศในตอนเช้าค่อนข้างเย็น
เพราะนี่ก็เข้าสู่เดือนตุลาคมแล้วนับว่าเข้าสู่ปลายฝนต้นหนาวแล้ว
ผมเห็นแล้วก็อดเข้าไปกำเล่นไม่ได้เพราะอ้นไม่เพียงควยสวย
แถมไข่ยังยังกลมสวยด้วยไม่มีขนซักเส้น ต้นขาก็ใหญ่และแกร่งน่าลูบ
ผมลูบไข่เล่นควยอ้นจนอยากจะดูดควยอ้นแล้วอ่ะทีนี้
เลยอ้าปากงับควยหัวบานแดงที่แข็งโป๊กของอ้นเข้าปากทันทีผมโยกหัวดูดควยอ้นขึ้นๆ ลงๆ อย่างสนุกปาก
พออ้นโดนผมดูดไม่นานก็รู้สึกตัวแต่อ้นก็ยังคงนอนดูผมดูดควยแบบสบายใจเฉิบ
“อือออ ...ซี้ดดดด!!!”
จนอ้นเริ่มมีเสียงครางออกมาจากปากมือก็จับหัวผมโยกขึ้นๆ ลงๆ ตามจังหวะการดูด
จนกระทั่งอ้นคงจะเงี่ยนสุดๆแล้วมั๊ง
เพราะตอนเช้าๆแบบนี้ผู้ชายมักจะควยแข็งอยากเอาน้ำออกทุกคน
“ขออ้นล่อตูดอีกนะ”
“ตามใจอ้นดิ”
แล้วอ้นก็เลื่อนตัวมาประกบข้างหลังผมแล้วล่อผมในท่าประกบหลังแบบนั้น
อ้นเร่งกระเด้าตูดผมป้าบๆๆๆอย่างถึงใจทั้งผู้เย็ดและผู้ถูกเย็ด
เสียงหอบหายใจของอ้นดังอยู่ข้างๆหูผมจนผมสะใจเป็นบ้าส่วนผมก็เสียวควยที่ถูไปมากับฟูกสุดๆ
ส่วนตูดก็โดนควยอ้นกระแทกกระทั้นจนวินาทีสุดท้าย
“อึ๊บๆๆๆ ออกแล้วๆๆอ๊ะ! ซี้ดดดด”
“อูยยยยย”
ทั้งอ้นและผมครางออกมาแทบจะพร้อมๆน้ำหนักตัวของอ้นทั้งหมดก็ทุ่มมาที่ตัวผมเต็มๆ
แต่ผมกลับชอบนะรู้สึกดียังไงบอกไม่ถูก อ้นนอนแผ่หลาอ้าซ่าอย่างหมดแรงที่โดนผมรีดน้ำเป็นรอบที่สอง
ผมเห็นแล้วก็หัวเราะด้วยความขำๆแล้วหอมแก้มหมอทีนึง
อ้นก็ยิ้มๆแล้วดึงผมเข้าไปกอดแน่น ผมก็กอดอ้นตอบอย่างมีความสุข

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น