วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เรื่องเซ็กส์ของเด็กร่าน บทที่ 52 การอำลาและชีวิตในรั้วมหาลัยฯ

พอกลับมาจากเที่ยวภูกระดึง ผม และ พวกเพื่อนๆ ก็ตั้งอกตั้งใจเรียน
และท่องหนังสือ ติวกันอย่างหนัก เพื่อเอนท์ฯ ให้ติดอย่างที่ตั้งใจกันไว้
(ซึ่งปีที่ผมเอนท์ยังไม่มีการสอบอะไรต่อมิอะไรมากมายเหมือนน้องๆ ทุกวันนี้ครับ)

และแล้วผลของความมุ่งมั่นและตั้งใจก็ทำให้พวกเราประสบความสำเร็จกันเป็นส่วนมากและเอนท์ติดกันเกือบหมด
ในกลุ่มผมเอนท์ติดกันตั้ง 7 คนแน่ะ แม้กระทั่งไอ้เข้มที่ว่าหัวทึ่มๆ ยังเอ็นท์ฯ ติดเลย 5555

แต่... ยกเว้นไอ้สินคนเดียว!!!
เหตุก็เพราะก่อนสอบมันดันป่วยเป็นอีสุกอีใสอ่ะดิครับ
เฮ้อ! เซ็งเป็ดอ่ะ พวกเราก็เสียใจเหมือนกัน เสียดายแทนมันอ่ะครับ เพราะไอ้นี่เรียนดีกว่าผมซะอีก

ก๊วนของอ้นนั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะเรียนเก่งๆ กันทั้งนั้น เลยเอนท์ติดกันทุกคน
อย่างไอ้ตี๋อ้น นายโอ นายบอล นายเป้ ติด มหาลัยฯ ดัง ที่ กทม
ส่วนสองหนุ่มหล่ออย่างนายมาร์ค กะนายต้น ก็ติด มหาลัยฯ ที่อิสาน

แม้กระทั่งนังอูเพื่อนสาวตัวแสบของผมก็เจ๋งสุด! ติด มหาลัยฯ ดังที่ภาคอิสาน อย่างที่ตั้งใจ
เพราะมันบอกไม่อยากจะไปเรียนไกลๆ บ้าน

ส่วนบรรดาเพื่อนๆ ก๊วนผมก็แตกกระจายกันไปคนละทิศทาง
คนแรกไอ้ซันก็ติด มหาลัยเดียวกับไอ้ตี๋อ้น ดีใจแทนมันที่ได้เรียนที่เดียวกันกับอ้น

ไอ้ทินติด มหาลัยฯ แถวภาคตะวันออก ไอ้เหม กับไอ้น็อตติด มหาลัยฯ แถว ภาคอิสาน
ไอ้เข้มก็ไม่ขี้เหร่อย่างที่ผมเดาไว้ เพราะมันดันติด มหาลัยฯ ที่เชียงใหม่ เฉยเลย
ไอ้สินก็อย่างที่รู้ๆ กัน ว่ามันป่วยก่อนเอนท์เลยซวยไป มันก็เลยหยุดการเรียนไว้ก่อนปีนึง

อ๊ะๆๆ!!! อย่าเพิ่งค้อนดิครับ ว่าแล้วไอ้วินคนนี้ กับไอ้อี้ ปากดี ไปอยู่ซะที่ไหน
เราสองคนเอนท์ติด มหาลัยฯ แห่งหนึ่ง ที่เชียงใหม่ ด้วยกันครับ แต่คนละคณะกัน

ซึ่งพอผมกับไอ้อี้รู้ว่าเราสองคนได้อยู่ มหาลัยฯ เดียวกัน
ต่างก็ร้องเฮกันลั่นด้วยความดีใจโคดๆ

ความรู้สึกของผมและมันต่างก็ดีใจที่มีเพื่อนซี้ตามไปเรียนเป็นเพื่อน
ไม่ต้องเหงาหัวโด่อยู่คนเดียว แต่พอดีใจเสร็จผมก็ต้องมานั่งเศร้าอ่ะครับ จนไอ้อี้มันถามด้วยความแปลกใจ

“สาดมึงไม่ดีใจเหรอวะที่มึงเอนท์ติด แถมยังได้เรียนที่เดียวกันกะกู”
ผมยิ้มแห้งๆ

“ก็ดีใจสิวะสาดแต่มันไกลว่ะ กูกลัวจะคิดถึงบ้าน”
(เป็นข้ออ้างเท่านั้นแหละครับเพราะสาเหตุที่เศร้าก็คือไม่ได้เรียนที่เดียวกันกับอ้นมากกว่า โฮๆๆๆ)

“โธ่กูก็นึกว่าเรื่องอะไรบ้านน่ะจะกลับเมื่อไหร่ก็ได้ มันมีขาวิ่งหนีมึงซะเมื่อไหร่แต่ได้ไปเรียนที่เชียงใหม่นี่ดิ
ว้าว! อย่างกะฝันแน่ะ(พูดแล้วทำหน้าตาเคลิ้มๆ)อี่น้องหน้าขาวๆ ผิวนวลๆ น่ารักทั้งนั้น อะจึ๋ยๆ”

“ฝันอีกแระๆ สาดนี่”
ผมบ่นด้วยความรำคาญสุดๆพร้อมกับส่ายหน้าไปมา

แต่ก็ว่ามันไม่ได้อ่ะครับก็มันหน้าหม้อออกปานนั้น จะไม่ให้มันกระดี๊กระด๊าก็คงจะแปลก ลางเนื้อชอบลางยานี่เนอะ
อย่างก่อนหน้าที่จะเอนท์ก็ละเมอเพ้อพกอยู่ได้เป็นวักเป็นเวรตั้งนานว่าอยากเอนท์ติดมหาลัยฯ ทางภาคเหนืออย่างนั้นอย่างนี้
แล้วก็ถามเรื่องราวต่างๆ ของเชียงใหม่จากผมจนช่วงนั้นผมรำคาญมันเอามากๆ ขอบอก

เพราะไอ้เจ้านี่มันชอบผู้หญิงหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มผิวขาวๆ อ่ะครับ คอนเซปมันจึงตรงกับสาวเหนือพอดี
ทีแรกก็หมั่นใส้ครับแต่ดูๆ ไปก็ว่ามันไม่ได้เนอะ ก็ผู้ชายแท้ๆ คนไหนก็ชอบสาวๆ สไตล์นี้กันเป็นส่วนใหญ่
พอตอนหลังๆ ผมก็พยายามปลงๆ อ่ะครับ

ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เรียนที่เดียวกันกับอ้น ผมก็ยังรักอ้นอยู่นี่นาไม่ได้เกี่ยวกับการได้เรียนหรือไม่ได้เรียนด้วยกันซักหน่อย
ที่จะทำให้ผมเลิกรักไอ้ตี๋แฟนผมจริงมะ

พอทราบผลว่าติด มหาลัยฯ ที่ตัวเองไฝ่ฝัน อ้นก็ดีใจนะ 
แต่พอรู้ข่าวว่าผมต้องไปเรียนไกลถึงเชียงใหม่
อ้นก็ถึงกับหน้าเศร้าไปเลย เห็นแล้วสงสารไอ้ตี๋เอามากๆ เลยอ่ะ แต่จริงๆ ก็สงสารตัวเองมากเหมือนกัน โฮๆๆๆ

เศร้าอ่ะ!!!

พออยู่กันตามลำพังผมก็คอยปลอบให้ไอ้ตี๋ว่าอย่าได้คิดมาก

“คิดมากน่าถึงจะเรียนไกลกันแต่ก็ใช่ว่าจะเลิกรักอ้นซะหน่อย”
ผมเข้าไปกอดข้างหลังไอ้ตี๋แน่นเพื่อไอ้ตี๋จะได้สบายใจขึ้นมาบ้าง อ้นก็ดึงแขนผมไปกอดให้แน่นกว่าเดิมแล้วหันมายิ้มเท่ห์ๆ

“รู้แล้วคร้าบ... แต่อยู่ไกลกันขนาดนั้นก็อดคิดมั่งไม่ได้”
“คิดว่าจะเลิกรักอ้นน่ะเหรอ... แล้วก็ถ้าคิดจะมีแฟนใหม่อ่ะนะ ลืมไปได้เลย”
ไอ้ตี๋ก็ยิ้มๆแม้จะเป็นยิ้มที่ดูฝืนๆ ก็ยังดีครับ

“บ้าแล้ว! อ้นตะหากที่กลัวว่าวินจะคิดอย่างนั้นวินออกจะมีเพื่อนเยอะนิสัยก็ดีใครๆ รัก”
“คิดอย่างงั้นจริงอ่ะ”
ผมทำตาเล็กตาน้อยแบบล้อๆ เหมือนไม่เชื่อคำพูดซักเท่าไหร่

“จริงดิ๊!”
ผมก็หัวเราะขำๆกับคำพูดหมอ แหมคนอย่างผมน่ะนะ กับคนอื่นๆ แม้ว่าจะหลงละเมอเพ้อพกไปบ้างก็เหอะ
แต่ที่ทั้งรักทั้งเทิดทูน(เว่อร์ไปมั๊ยมึง 5555) ล่ะก็ต้องคนนี้ คนเดียวเท่านั้น
ผมเลยหอมแก้มไอ้ตี๋ฟอดใหญ่ เหมือนกับว่าอยากให้ไอ้ตี๋เชื่อในความรู้สึกดีๆ
ที่ผมมีให้หมออ้นก็อ้อมมือมายีๆ หัวผมซึ่งผมยาวมากๆ แล้วยีเล่นไปมาอย่างที่ทำบ่อยๆ

“คิดแล้วเศร้าก็อย่าคิดถึงมันเลยดีกว่าเนอะ”
พูดไปมือผมก็เริ่มลูบไล้ไปตามเนื้อตัวที่แข็งแรงของไอ้ตี๋ เพื่อทำให้อ้นคลายความเครียด
นี่ก็เป็นอีกวิธีนึงที่ใช้ได้ผลเวลาที่ไม่ว่าจะเป็นอ้น หรือเสกเวลาที่ไม่สบายใจผมก็จะเข้าไปกอด
และลูบไล้ไปมาเป็นวิธี

"สัมผัสบำบัด" ว่างั้น

ที่จะทำให้คนที่กำลังรู้สึกแย่ๆ อารมณ์ดีขึ้นมาได้ แต่ผลที่ได้มักจะจบลงที่การโดนเย็ดเสียทุกที 5555
ก็เล่นลูบไล้ซะจนของขึ้นนี่ครับ อิอิอิอิ

แล้วก็ได้ผลเมื่ออ้นเริ่มหลับตาพริ้มด้วยท่าทีสบาย แล้วเอนตัวลงนอนบนที่นอนหงายบนเตียง
เห็นท่าทีไอ้ตี๋แบบนี้แล้วผมก็รู้ได้ทันทีว่าตอนนี้ไอ้ตี๋กำลังมีความต้องการ เพราะเป้าแข็งโป๊กเต็มกางเกงยีนส์เลยอ่ะ
มือผมก็กำหมับที่เป้ากางเกงของไอ้ตี๋ทันทีแข็งเป็นไตเลยครับ

ผมลูบจนไอ้ตี๋ครางออกมาเบาๆ ริมฝีปากที่มีไรขนอ่อนๆ เห็นแล้วโคดเซ็กส์ได้ใจ
เสียทุกที ผมประกบปากกับไอ้ตี๋ เราเลยดูดปากกันจ๊วบๆ ส่วนมือผมก็ล้วงควยอ้นออกมาชักหนับๆนอกกางเกงยีนส์
ควยขนาด 6.5 นิ้ว ก็ยังคงแข็งและอวบงามเร้าอารมณ์ผมได้ดีเสียทุกทีไป

ผมเลยละจากปากเซ็กส์ของอ้นแล้วนั่งก้มหน้าดูดควยให้ไอ้ตี๋อย่างติดลม
เพราะควยแฟนผมนั้นทั้งสะอาดและดูดอร่อยเป็นที่สุด อิอิอิอิ
แต่กำลังเพลินๆกันทั้งคู่ เสียงเคาะประตูก็ทำให้เราเด้งตัวขึ้นด้วยความตกใจ

“ก๊อกๆๆ! อ้นเอ๊ย! มีเพื่อนมาหาแน่ะลูก”
“ครับแม่ เดี๋ยวผมลงไปครับ”
ไอ้ตี๋ทั้งขานรับทั้งรีบเก็บควยแข็งๆ ที่ยังมีน้ำลายผมเยิ้มคาอยู่ที่ท่อนลำให้เข้าในกางเกงอย่างรีบร้อน
เห็นแล้วขำโคดๆอ่ะครับแฟนผม ทั้งเงี่ยนทั้งกลัวแม่จะรู้ 5555

“เฮ้อ! เซ็งอ่ะ น้ำยังไม่ออกเลย”
ไอ้ตี๋บ่นอุบอิบมือลูบอยู่ที่เป้าแข็งๆ ไปมาด้วยสีหน้าเซ็งๆ ผมหอมจุ้บปากหมอทีนึงเพื่อให้กำลังใจ

“เวลายังมีอีกเยอะน่า... ว่าแต่ใครมาหาน๊า!”
พูดเสร็จผมเลยเดินไปชะโงกดูที่หน้าต่าง เห็นรถมอไซค์ก็พอจำได้ว่าเป็นรถของเพื่อนๆ อ้น
น่าจะมากันทั้งก๊วนแน่เลย

“อ้อ! พวกโอน่ะ”
“เหรอ... งั้นวินรอเดี๋ยวนะ อ้นลงไปหาพวกมันก่อน”
“ตามสบาย” ผมพยักหน้ายิ้มๆ
แป๊บเดียวอ้นก็นำเพื่อนๆในก๊วนมาครบคน ทั้ง โอ บอล มาร์ค เป้ และต้น

“อ้าว! ว่าไงวิน เฮ้ยได้ยินว่าติด ม. ...ไม่ใช่เหรอ... ดีใจด้วยว่ะ”
นายต้นทักทายผม ผลจากการเที่ยวภูกระดึงหนนั้นทำให้ผมกับเพื่อนซี้ของอ้นซี้กันมากขึ้นเป็นพิเศษ
(บอกแล้วการไปเที่ยวได้อะไรมากกว่าที่คิด 5555)

“แต่ว่าไกลโคดๆ อ่ะเราคงคิดถึงบ้านแย่... ว่าแต่นายเหอะติด ม.ขอนแก่น ไม่ใช่เหรอเจ๋งไปเลยว่ะ... ใกล้บ้านด้วย”
ต้นมันก็เกาหัวแบบอายๆ แต่แมนๆ ดีอ่ะ เห็นบุคลิกของต้นแล้วเพลินตาดีครับ
ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่คนหล่อมากๆ เหมือน โอ บอล แล้วก็ มาร์ค ก็เหอะ

“โอ้ยกว่าจะเข้าได้ก็เกือบตายเหมือนกันว่ะ... ท่องหนังสือไม่ได้หลับไม่ได้นอน”
แล้วผมก็หันไปทักทายกับเพื่อนคนอื่นๆ ของอ้นบ้าง หน้าตาแต่ละคนก็ดูสดใส ชื่นบาน
เพราะเอนท์ติดมหาลัยที่ตัวเองหวัง มีแต่อ้นแหละครับที่ดูหน้าหมองๆ กว่าใคร

“เอาน่ากรุงเทพกับเชียงใหม่ห่างกันแค่นี้เอง”
ผมปลอบไอ้ตี๋ทั้งๆ ที่ใจก็ห่อเหี่ยวไม่แพ้กัน

“นั่นดิ... เอางี้ไว้ถึงเสาร์อาทิตย์เมื่อไหร่ อ้นจะไปหานะ”
ผมก็ยิ้มๆ แต่ก็ทำใจอ่ะครับ ไม่ได้ตั้งความหวังไว้มากมายนักหรอกว่าแฟนเราจะถ่อสังขารจากกรุงเทพ
เพื่อมาหาเราถึงภาคเหนือได้ทุกๆ อาทิตย์ เพราะแค่เรื่องเรียนของตัวอ้นเองก็ต้องมีไหนจะกิจกรรม
อะไรต่างๆ อีกล่ะสารพัด แค่เวลากลับบ้านก็หาให้ได้ก่อนเหอะน่า เผลอๆ ปิดเทอมแล้วจะได้กลับบ้านหรือป่าวก็ไม่รู้

(แต่พอถึงเวลานั้นอ้นก็จะพยายามหาเวลามาหาผมจนได้อย่างที่พูดไว้ แต่ส่วนใหญ่จะมาในช่วงติดวันหยุดยาว)

แต่ถ้าช่วงไหนมาไม่ได้ไอ้ตี๋ก็จะโทรหาแล้วออดอ้อนกับผมจนหายคิดถึงผมก็จะคอยพูดดักเรื่องผู้หญิงไว้ก่อนเสมอเช่น

“อยู่กรุงเทพอยากมีกิ๊กมั่งก็ได้นาไม่ได้ห้ามด้วย”
“บ้าแล้ว! ใครจะอยากมี แค่มีวินคนเดียวอ้นก็ปวดหัวจะแย่ 5555”
“ขอให้มันจริงเหอะ... พูดออกมาเองนะถ้าเกิดจับได้เมื่อไหร่เป็นโดนดีแน่ๆ”
“คร้าบ! กลัวแล้วคร้าบ! 5555”

แล้วเราก็จะหัวเราะกันขำๆเสียทุกทีไป จนถึงวันที่อ้นไอ้ซันและเพื่อนคนอื่นๆ ต้องเดินทางไปกรุงเทพ
พวกผมก็มาส่งที่สถานีขนส่งเพื่อนแต่ละคนก็มีสีหน้าแตกต่างกันออกไป

แต่ผมน่ะแทบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่อ่ะครับ ก็แฟนเราต้องจากเราไปเรียนไกลๆทั้งดุ้น เอ๊ย! ทั้งคนนี่นา
จะไม่ให้เศร้าได้ไงจริงมะ ฮือๆๆๆๆ

เศร้าอ่ะ!!!

อีกอย่างก็เกิดจากความกังวลเรื่องมือที่สามด้วยแหละ ก็ใช่ว่าจะไม่เคยไปอยู่กรุงเทพเสียเมื่อไหร่
สาวๆ ที่กรุงเทพ ขาว สวย หมวย เอ็กส์ หุ่นดีๆ ทั้งนั้น ที่สำคัญเร็ว แร๊ง! ติดจรวดอีกตะหาก
อันนี้เรื่องจริงที่เห็นมากับตาเลยแหละ

“โชคดีนะ”
ผมพูดยิ้มๆ ส่งไอ้ตี๋ อ้นก็เม้มปากตาเศร้าๆ ขอบตาดูแดงๆ เหมือนจะร้องไห้อ่ะครับ
เห็นแบบนั้นเลยต้องรีบหันไปกอดไอ้ซันแทนเดี๋ยวจะผิดสังเกต

“ขอให้มึงโชคดีนะโว้ยไอ้ซัน... มึงไม่อยู่กูคงคิดถึงบ้านนอกเมืองมึงเอามากๆ ว่ะ”
“เออๆๆ เอาเข้าไปกูรึก็คิดว่ามึงคิดถึงตัว กูที่ไหนได้คิดถึงแต่สถานที่สังสรรค์นี่เองสาด!”
“โอ้ย! กูก็พูดล้อเล่นไปงั้นแหละมึง ยังงัยๆก็เดินทางโดยสวัสดิภาพว่ะ กูกับไอ้อี้จะรอมึงไปเที่ยวทางเหนือ”
“สาด! พวกมึงนี่เห็นแก่ตัวชิบ!!! แล้วพวกมึงหลายๆ ตัวไม่คิดจะลงไปหากูที่กรุงเทพฯ มั่งเหรอว้า!”

มันด่าทีโดนกันเป็นแถวๆ เลยครับ 5555

“โอ้ย! ไม่ไปหรอกกรุงเทพฯ น่ะ กูเบื่อแล้ว... คนก็เอยะ รถก็แยะ ตึกก็แออัด หายใจหายคอไม่ค่อยจะออก”
อันนี้ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆครับ เพราะแค่ไปอยู่เดือนเดียวก็สะบักสะบอมโคดๆ
รถก็ติด ผู้คนก็ก็ต่างคนต่างอยู่ มีแต่ความเร่งรีบ เห็นแล้วชวนปวดหัว

(แต่หารู้ไม่ว่าผมน่ะมันดวงคู่กับกรุงเทพฯ เพราะพอเรียนจบก็ได้งานที่กรุงเทพทันที 5555)

“เอาน่าๆมึงเองก็เคยพูดๆ ไว้ไม่ใช่เหรอว้า!ว่าอยากไปเที่ยวภาคเหนือ ที่นั่นสาวๆ สวยๆ น่ารักๆ ทั้งนั้นเลยนะโว้ย!”
ผมเอาสาวๆ มาล่อ แต่โทษทีไม้นี้ใช้ไม่ได้ผลหรอกครับ
เพราะไอ้ซันมันไม่ใช่คนหม้อเหมือนไอ้อี้ซะหน่อย 5555

“พอเลยมึง กูไม่ได้ชีกอเหมือนสาดอี้ซักหน่อย... เออๆๆ แล้วว่างๆ กูกับอ้นจะไปเยี่ยมพวกมึง”
ไอ้ซันมันตัดบทด้วยความรำคาญอ่ะครับ แล้วผมกับไอ้อี้ก็หัวเราะอย่างผู้ชนะตามเคย
ก็ไอ้นี่มันคนประเภท “ใจดี” ไม่หายนี่ครับ

ผมว่านะใครได้มันเป็นแฟนน่ะโคดโชคดีเลยจะบอกให้
เพราะไม่เพียงมันจะตี๋หล่อ หุ่นดี เป็นลูกเจ้าของร้านทอง อย่างรวย แล้วยังนิสัยดีอีก มีความเป็นผู้นำเอามากๆ
และผมก็ขอภาวนาให้มันได้ผู้หญิงดีๆ ซักคนและรักมันจริงๆ ทีเถ๊อะ!

...................................................................................

พอส่งพวกอ้นเสร็จไม่กี่วันต่อมาผมกับไอ้อี้ และไอ้ถึกเข้ม ก็ออกเดินทางไปภาคเหนือมั่ง
พ่อกับแม่ผมน่ะไม่เท่าไหร่หรอกเพราะญาติๆ อยู่ทางโน้นก็เป็นโขยง
พ่อออกจะหน้าระรื่นเสียด้วยซ้ำที่ไม่มีไอ้ลูกที่ไม่ได้ดังใจของแกผมคอยขวางหูขวางตาแหะๆๆอันนี้ล้อเล่นนะครับพ่อ

ทีแรกกะว่าจะชวนไอ้อี้พักอยู่ที่บ้านน้าแก้วแล้วเทียวไป-เทียกลับ เอา
พ่อกับแม่ก็ว่าอย่างนั้นก็จะได้ไม่ต้องห่วงผมด้วยว่าไปอยู่หอแล้วจะทำตัวไม่ดี
แต่มานั่งคิดๆดู บ้านน้าแก้วก็อยู่ห่างจากตัวเมืองตั้งสิบกว่ากิโล ไปๆ กลับๆ ก็คงเพลียแย่ ไอ้อี้เลยชวนผมอยู่หอในแทน

ผมก็ไม่อยากขัดมัน เพราะรู้ว่ามันเองก็เกรงใจน้าผม เพราะอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่
และตอนนี้มีกันแค่สองคนเลยไม่ค่อยต่อล้อต่อเถียงกับมันในเรื่องที่พอยอมได้ก็ยอมๆ มันไป
แต่ดูท่ามันจะไม่ได้สนใจซักเท่าไหร่หรอกครับ เพราะวันๆเอาแต่หลีสาวไปทั่ว

และหลายวันต่อมาการรับน้องก็ผ่านไปอย่างสะบักสะบอม!!! ต่างก็อ่วมอรทัยกันเป็นแถบๆ!!!
โดนกันมาสารพัด แต่พวกผมน่ะถึงจะเป็นคนดูไม่ค่อยเอาไหนซักเท่าไหร่ แต่ก็ทนทายาดนะจะบอกให้ 5555
เลยผ่านพ้นกันไปได้ แต่รับไม่ได้ก็มีอยู่หลายๆ วิธีที่รุ่นพี่จะสรรหามาทำกับรุ่นน้อง

แต่ถือว่าปีนี้พวกผมค่อนข้างโชคดีที่เจอรุ่นพี่ไม่ค่อยซาดิสม์และบ้าอำนาจเท่าไหร่
เลยโดนกันไปแบบพอหอมปากหอมคอ พอมาคิดๆ ดู ก็สนุกดี ขำๆ ดีครับ
แถมรุ่นพี่หลายคนก็หล่อๆ หนุ่มเหนือหน้าละอ่อนๆ น่ากินทั้งนั้น

เพราะส่วนใหญ่ก็เป็นคนเมืองเพราะทาง มหาลัยฯ ให้โควต้ากับคนในพื้นที่ก่อนเป็นอันดับแรก
ก็มาจากหลายๆ จังหวัดทางภาคเหนือกัน ทั้งเชียงใหม่เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน พะเยา แม่ฮ่องสอน ฯลฯ
ที่ผมเล็งๆ ไว้อ่ะนะ ก็มีอยู่ด้วยกันหลายคน หล่อๆ ล่ำๆ เป้าตุงๆ กันทั้งนั้น 5555
อันนี้เอาไว้เล่ากันทีหลังก็แล้วกันนะครับ อิอิอิ

แต่การที่ได้มาอยู่ร่วมหอกับไอ้อี้นี่ดิครับ ทำเอาผมใจคอไม่ค่อยดีเอาซะเลย
แต่ก่อนนอนด้วยกันก็แค่วันหรือคืนเดียวเท่านั้น และอยู่กันเยอะๆ เลยไม่มีเวลามานั่งเล็งมันมากๆ
แต่พอมาอยู่ด้วยกันตามลำพังสองต่อสองอย่างนี้แล้วใจผมมันก็หวิวๆ อ่ะครับ

เพราะมันเล่นทำตัวสบายโคดๆ อยู่ในห้องด้วยกันมันจะชอบใส่แค่บ๊อกเซ่อร์ตัวเดียว
โชว์หุ่นเท่ห์ๆกล้ามกำลังงามและผิวที่เนียนสวยของมัน

ไอ้อี้ไม่ใช่คนผิวขาว แต่ผิวออกสองสีดูเนียนๆ เห็นแล้วจากที่ไม่ค่อยได้คิดอะไรกับมัน
ตอนนี้ก็เริ่มคิดแล้วอ่ะครับทีนี้  เฮ้อ! แล้วทีนี้ผมจะทำยังงัยดีเนี่ย เพราะมันดันเป็นเพื่อนซี้ผมซะด้วยจิ อิอิอิอิ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น