วันศุกร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2560

เรื่องเซ็กส์ของเด็กร่าน บทที่ 103 LOVE ME LOVE MY DOG

วันนึงขณะที่ผมกำลังนั่งฟังอาจารย์บรรยายในห้องเรียนอยู่ๆ ไอ้ตี๋อ้นมันก็โทรมาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ

“วิน.....”
“ตอนนี้เรียนอยู่ครับ...อ้นมีไรเป่า... เดี๋ยวแป้บนึงนะครับ”

ผมพูดเบาที่สุดจนแทบจะกระซิบเพราะกลัวจะเสียมารยาทกลัวไปรบกวนคนอื่น
คงเพราะน้ำเสียงไอ้ตี๋อ้นฟังดูนิ่งๆ ค่อนข้างซีเรียสไม่เหมือนปกติ
ทีแรกก็คิดว่าไอ้ตี๋จะแกล้งอำผมเหมือนที่ทำประจำหรือป่าว

แต่มาคิดๆดู ไอ้ตี๋อ้นหมอจะไม่เคยโทรหาเวลาในเวลาเรียนมาก่อน
ถ้าจะโทรหาก็เป็นตอนเย็นๆหลังเลิกเรียน แล้วผมก็ขออนุญาตอาจารย์ออกไปคุยโทรศัพท์นอกห้อง

“เฮ้ยมึงจะไปไหนอ่ะ”
ไอ้นิวเห็นแม่งมองตามด้วยความสงสัยเลย
พอผมมานอกห้องไอ้ตี๋อ้นก็ทำเอาผมหน้าซีด ตกใจ

“วิน...ฟังแล้ววินอย่าตกใจนะ... พ่อวินประสบอุบัติเหตุตอนนี้อยู่โรงบาลที่อุบลฯ...
แต่ไม่ต้องห่วงนะอ้นกับแม่วินรอฟังอาการจากหมออยู่...”
ไอ้ตี๋รีบออกตัวให้ผมที่นิ่งฟังรู้สึกสบายใจ แต่ผมก็ยัง.... ตกใจอยู่ดี

“...............!!!”

พอผมรู้ข่าวพ่อปุ้บผมงี้ใจสั่นเลยครับ!!!เป็นห่วงพ่อ...เพราะตอนผมเด็กๆ พ่อก็เคยขาหักมาครั้งนึงแล้ว
ตั้งแต่เด็กคงเพราะเป็นลูกหลงเป็นลูกคนเล็ก แม่ผมเลยหวงมาก
พ่อจะใช้อะไรผมถ้าผมไม่ทำแม่ก็จะห้าม เลยเป็นชนวนให้พ่อเขม่นผม
และชอบบ่นผมตลอดที่ชอบทำตัวขี้เกียจ ดื้อด้าน

ไม่เหมือนพี่น้องคนอื่นที่พอโตมาหน่อยก็เรียนจบแค่ ป.6 ม.3 บ้าง ม.6 บ้าง ก็ต้องไปทำงานกรุงเทพ
เพื่อส่งเสียพ่อแม่ในขณะที่ผมเกิดมาในช่วงที่ครอบครัวเริ่มสบายพี่ๆ น้องๆ ส่งเสียพ่อแม่จนสบาย
ทำให้ไม่ต้องดิ้นรนเหมือนพี่น้องคนอื่นๆ

แต่ถึงอย่างนั้นผมก็รู้ว่าพ่อก็รักเป็นห่วงผมมาก อย่างตอนเกณฑ์ทหารถึงปากพ่อจะบอกว่าอยากให้ผมติดทหารใจจะขาด
ปู่ กับ พี่สิน (พี่ชายคนเดียว) เคยเป็นทหารเกณฑ์มาก่อน พ่อเลยตั้งความหวังเล็กๆ ว่าผมจะเจริญรอยตาม

แม่มาเล่าให้ฟังทีหลังว่าพอใกล้ถึงวันเกณฑ์ทหาร พ่อนอนไม่หลับเลย
แกบ่นๆ ให้แม่ฟังว่า "ห่วงผม" ว่าถ้าผมติดทหารจริงๆ ผมจะทนการฝึกไหวไหม
เพราะถึงผมจะไม่ใช่คนขี้โรค แต่ก็ตัวเล็กๆ บางๆ ไม่ใช่คนตัวใหญ่บึกบึน เหมือนปู่ กับพี่ชาย
แกกลัวว่าผมจะทนทานการฝึกที่ทรหดขนาดนั้นไม่ได้

ผมฟังแม่เล่าแล้วก็นึกรักพ่อมากขึ้นมาอย่างมหาศาล!!!
เพราะถึงพ่อจะชอบบ่นผม ชอบว่าผม แต่เท่าที่จำความได้พ่อก็ไม่เคยตีผมเลยซักครั้ง  
เป็นแม่ซะอีกที่ตีผม ถ้าหากผม ดื้อ ซน หรือทำอะไรผิด

แล้วก็ตอนที่ผมต้องมาเรียนที่เชียงใหม่ ถึงพ่อจะทำเหมือนว่าดีใจที่ผมพ้นอกไปได้
แต่แม่เล่าให้ฟังว่า พ่อแกดูเหงาๆ ซึมๆ ไป
พอแม่ซื้อกับข้าว ซื้อผลไม้ที่ผมชอบมา ก็จะหลุดปากพูดถึงผมบ่อยๆ ว่า

“คิดถึงไอ้วิน... มันชอบกิน”
ผมยืนเหม่อลอยมองไปที่สนามหญ้าและท้องฟ้าสีครามหน้าตึกเรียน ใจก็โบยบินกลับไปที่อิสานเรียบร้อยแล้วครับ
ใจนึงรู้สึกโกรธตัวเองนักหนาทำไมถึงดิ้นรนมาเรียนไกลบ้านถึงเชียงใหม่
เวลาที่พ่อแม่เจ็บป่วยหาคนดูแลก็ไม่มี

จนกระทั่งหมดคาบเรียน พอดีไอ้นิวเดินตามออกมา พอมันเห็นผมยืนซึมตาแดงๆ มันก็ถามด้วยความตกใจ

“วิน!!! คิงเป็นอะหยังก๊า!”

ผมก็เล่าให้มันฟังว่าพ่อผมเข้าโรงบาล ยังดีที่มีแม่กับญาติดูอยู่
เมื่อเจอที่ๆ สามารถระบายความทุกข์ใจได้ผมพูดไปน้ำตาไหลเลยครับ
ทั้งๆ ที่เมื่อกี้ไอ้ตี๋อ้น ก็ปลอบผมมาพักใหญ่แล้ว ไอ้นิวจ้องหน้าผมแล้วจับไหล่บีบเบาๆ

“อย่าไห้(อย่าร้องไห้)...ถึงมือหมอแล้วป้อคิงบ่เป๋นหยังหรอก”

มันพูดพร้อมให้กำลังใจผม หน้าหล่อๆ ใสๆ ของหมอ จ้องมองผมเหมือนต้องการส่งพลังใจออกมาทางแววตาและสีหน้า
ตาตี่นิดๆ ที่มองผมดูลึกซึ้ง วงหน้าหล่อใสที่ผมชอบสัมผัสเวลาที่เราอยู่ด้วยกันตามลำพัง ดูจริงจังเสมอ
พอเพื่อนคนอื่นรู้ข่าวก็เข้ามาปลอบผมกันใหญ่กลัวผมจะคิดมาก

“เฮ้ย! เดี๋ยวนี้หมอเค้าเก่ง... กูเชื่อว่าพ่อมึงต้องปลอดภัยแน่นอน!”
ไอ้โด้พยายามพูดให้ผมสบายใจ สลับไปมากับไอ้นาย ไอ้ท็อป และก็เพื่อนคนอื่นๆ

“ขอบใจพวกมึงมากๆ นะโว้ย... กูไม่เป็นไร แต่ตอนนี้กูอยากกลับไปดูพ่อเท่านั้นแหละ”

สมองตอนนั้นคิดแค่อย่างเดียวว่าจะต้องกลับบ้านไปดูพ่อให้ได้
ไอ้นิวเห็นผมอาการแบบนั้นมันเลยรีบจัดการจองตั๋วเครื่องบินให้ผมทันที
ออกเงินให้เสร็จสรรพแม่งใจป้ำสัด!!!

ก่อนขึ้นเครื่องผมก็โทรไปบอกไอ้อี้ให้มันรู้ มันก็ตกใจแล้วก็ปลอบใจผมใหญ่

“อย่าคิดมากนะมึง...โรงบาลที่อุบลฯ หมอเก่งๆ เยอะแยะ เครื่องมือก็ทันสมัย...
พ่อมึงไม่เป็นอะไรแน่นอน... ว่าแต่... ทำไมรีบกลับจังวะไม่งั้นกูจะได้ไปเป็นเพื่อน”

ไอ้อี้อาสาด้วยความเป็นห่วงผม ไอ้อี้คงเห็นว่าผมเงียบๆ มันก็เข้าใจ
ว่าผมกำลังเป็นห่วงพ่อ มันเลยไม่เซ้าซี้ต่อล้อต่อเถียงอีก และยังทิ้งประโยคซึ้งๆ ไว้ด้วยว่า

“วิน...เป็นห่วงเมิงนะ”
“อื้อ...ขอบใจนะ”
ผมรับคำไอ้อี้เบาๆ มันก็เข้าใจครับ เพราะถ้าเป็นเวลาปกติก็จะต่อปากต่อคำกันชุลมุลไม่จบสิ้น

ก่อนขึ้นเครื่องไอ้นิว ได้โด้ ไอ้นาย และไอ้ท็อป ก็มาส่งด้วยความเป็นห่วง
และอวยพรให้พ่อผมไม่เป็นอะไรมากและหายไวไว

ดูจากอาการไอ้นิวมันดูจะเป็นห่วงผมมากกว่าใคร เพราะมันสื่อออกมาทางสีหน้าและแววตาอย่างเห็นได้ชัด
แต่ด้วยสถานการณ์ไม่อำนวย เพราะมีเพื่อนคนอื่นอยู่กันพร้อมหน้า
และโดยพื้นฐานของไอ้นิว ที่เป็นคนไม่เก่งเรื่องการสื่อความรู้สึกออกมาเป็นคำพูด เหมือนไอ้อี้ หรือไอ้ตี๋อ้น

ผมรู้ดีเพราะก่อนจะมาคบกันอย่างลึกซึ้งอย่างทุกวันนี้ ก็รู้นิสัยใจคอมันมาแล้ว
และยิ่งมาเป็นแฟนกันเลยยิ่งได้รู้ว่าไอ้นิวมันคน “ขี้อาย” ที่จะต้องแสดงความรู้สึกออกมาให้ผมหรือคนอื่นรับรู้
จนป่านนี้ผมยังไม่ได้ยินคำว่า “รัก” จากปากมันเลย ทั้งที่หลังๆ ควงกันไปไหนมาไหนบ่อยกว่าไอ้อี้ซะอีก

ผมเห็นในแววตาของมันมีคำพูดอยู่ 108 แต่สิ่งที่ไอ้นิวทำได้ก็แค่ บีบไหล่ผม
ทีแรกหมอกะจะกลับบ้านเป็นเพื่อนผม แต่ผมอ้างเรื่องต้องช่วยแม่ดูแลเกสท์เฮ้าส์และร้านอาหาร
ไอ้นิวมันเลยเข้าใจ ไม่งั้นคงจะตอบคำถามแม่ยาว แต่พอเครื่องจะออกมันถึงค่อยกล้าที่จะพูด

“มีอะหยังก่อโทรหาได้ตลอดเน้อ... ฮาสแตนด์บายรอคิง... ฮาห่วงคิงนักๆ เน้อ ฮู้ก่อ”
มันกระซิบและบีบแขนจากต้นแขนไล่ลงมาจนถึงข้อมือ และกุมมือผมเอาไว้
ความอบอุ่นแผ่ซ่าน!!! มาตามฝ่ามือของไอ้นิวจนผมรู้สึกได้

เอาเข้าไป...ทั้ง ไอ้อี้ ไอ้นิว พวกมึงอย่ามาทำดีกับกูมากขนาดนี้นักจะได้ไหม!!!
อารมณ์ตอนนั้นบอกเลยว่า "ละอาย" แก่ใจสัดๆ ว่ะ!!!
เพราะสถานะของพวกมันทั้ง 3 คน ทั้งไอ้ตี๋อ้น ไอ้อี้ และไอ้นิว ผมก็รักเท่าๆ กันทั้งนั้นแหละ

ไอ้ตี๋อ้นหลังๆ เราสื่อกันด้วยใจ ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว
ไอ้อี้ผมไม่ค่อยห่วงมันนักเพราะเราสนิทกันมาแต่ไหนแต่ไร ทั้งเล่นหัวกันจนชิน
ทุกสิ่งมันเลยสามารถแสดงออกมาด้วยการกระทำและคำพูดได้อย่างที่ต้องการ

แต่คนที่ผมห่วงที่สุดกลับเป็น “ไอ้นิว” เพราะหมอออกจะเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง!!!
เรื่องที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกแม้แต่ กับแม่ กับพ่อ มันก็จะไม่ค่อยพูด
แต่พอเห็นจากสายตาผมก็รู้เลยว่ามันห่วงผมมากมายแค่ไหน

“คิงก่อดูแลตัวเองดีๆ เน้ออย่าเอาแต่อ่านการ์ตูนดึก... ขอบใจนักๆ ที่จัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินหื้อฮา”
เรายิ้มให้กันต่างฝ่ายต่างส่งกำลังใจถึงกันและกันผ่านสายตา

สำหรับผมนั้น ผมรู้สึกว่าครอบครัวผมนั้นโชคดีมากที่มีไอ้ตี๋อ้นอคอยยู่ดูแลในตอนที่ผมอยู่ไกล
ทำให้ผมรู้สึกสบายใจ อุ่นใจ รู้สึกขอบคุณไอ้ตี๋อ้นสุดหัวใจ!

ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ไอ้ตี๋อ้นก็ยังคงน่ารักกับครอบครัวผมเสมอ
ตอนที่พ่อเข้าโรงบาลฯ ที่อุบลฯ พอดีไอ้ตี๋อ้นลามาทำธุระของครอบครัว และกำลังอยู่ที่บ้านพ่อมันที่อุบลฯ พอดี

(พ่อไอ้ตี๋อ้นเป็นตำรวจประจำอยู่ที่อุบลฯ สนิทกับพ่อผมตั้งแต่ผมยังไม่เกิด
พ่อของไอ้ตี๋เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกับพ่อผมแต่ไปแต่งงานกับแม่ไอ้ตี๋อ้นซึ่งเป็นคนจีน
เลยโยกย้ายพากันเข้าไปอยู่ในเมืองแต่ก็ยังคบหากันมาเรื่อยๆ ตอนเด็กๆ ไอ้ตี๋เลยมาเรียนที่โรงเรียนเดียวกันกับผม)

พอพ่อเข้าโรงบาลฯ แม่ก็นึกถึงพ่อของอ้นที่เป็นตำรวจทันที แม่บอกว่าใกล้ตำรวจถือว่าอุ่นใจสุด
พอไอ้ตี๋อ้นรู้ก็รีบมาดูพ่อผมและรอฟังอาการอยู่กับแม่ผม จนพี่พิณพี่สาวที่อยู่อุบลฯ มาถึง

ผมรู้ว่ามีไอ้ตี๋อยู่กับแม่ก็สบายใจขึ้นเยอะ เพราะตั้งแต่เด็กที่เราคบกัน ไอ้ตี๋เคารพพ่อแม่ผมมาก
พ่อแม่ผมก็เอ็นดูไอ้ตี๋มากเพราะเป็นลูกชายของเพื่อน แถมยังเป็นเพื่อนของลูกด้วย
และสิ่งที่ทำให้ใครๆ ก็รักไอ้ตี๋อ้นก็คือ ไอ้ตี๋มันหน้ารับแขก หน้าตายิ้มแย้มอยู่เสมอ
พูดเพราะแบบคนได้รับการอบรม มีสัมมาคารวะ และเข้ากับคนง่าย ใครเห็นก็นึกชอบ อยู่ด้วยแล้วสบายใจ

ผมนั่งเครื่องไปลงที่อุบลราชธานี โดยที่ไอ้ตี๋อ้นมารอรับที่สนามบิน
พอเจอหน้าแฟนผมก็เข้าไปกอด อ้นมันก็กอดตอบ ความอบอุ่นที่ได้รับ
ทำเอาผมขอบตาเริ่มอุ่นๆ เหมือนจะร้องไห้ ทั้งสงสารพ่อ เป็นห่วงแม่ และก็ตื้นตันที่มีแฟนดีๆ อย่างนี้

“พ่อไม่เป็นอะไรแล้ว...นอนพักที่โรงบาลอีกไม่กี่วันก็กลับบ้านได้แล้ว”
ไอ้ตี๋ลูบหัวยุ่งๆ ของผมอย่างสงสาร คงเห็นสภาพผมที่ดูโทรมๆ หน้าตาหมองๆ
อาการที่อ้นทำมันกลับทำให้ผมน้ำตาไหลพรากๆ เลย (อุ้ยเขิน 55555)

“โตแล้วยังขี้แยอ่ะคนเรา 555”
ไอ้ตี๋ก็หัวเราะชอบใจมองหน้าผมยิ้มกว้าง ทำตาโต ล้อเลียนผม ผมเลยยิ้มออกมาได้
แฟนผมถึงได้เลิกแกล้งน่ารักอ่ะไอ้ตี๋ 555

ผมไม่ได้เจอไอ้ตี๋เป็นเดือนๆ หน้าหล่อๆ ตาตี่นิดๆ ยังคงมีรอยยิ้มกว้างที่ดูอบอุ่นและจริงใจให้ผมเสมอ
ไรหนวดอ่อนๆ เหนือริมฝีปากที่ผมประทับใจยังดูน่ามองเห็นแล้วชื่นใจ
ไอ้ตี๋แฟนของผมดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากๆ ทั้งๆ ที่พวกเราอายุเท่ากัน แต่อ้นกลับดูสุขุมและเป็นผู้ใหญ่กว่าผมเยอะ

ตาที่ตี่นิดๆ ไม่ได้ตี่จนจีนจ๋า! ของอ้น ดูอบอุ่นและใจดีไม่เคยเปลี่ยน
น้ำเสียงอ่อนโยนเพราะๆ และน่าฟัง พูดแต่คำพูดในทางบวก ผมได้ฟังทีไรก็รู้สึกสบายใจทุกที
ช่วงไหล่กว้างผึ่งผาย บุคลิกสมาร์ทน่ามอง แอบแฝงความขี้เล่นนิดๆ ทำให้ผมรู้สึกมีสบายใจและมีความสุขทุกครั้งที่ได้เจอไอ้ตี๋อ้น

อ้นมีกลิ่นตัวหอมเหมือนกลิ่นหญ้าแห้งดมแล้วชื่นใจทำให้ผมอยากกอดแฟนอย่างนี้ตลอดไปเลยครับอิอิอิ

“ขอบคุณมากๆ นะ”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก... พ่อแม่ของวินก็เป็นพ่อแม่ของอ้นด้วย”
ไอ้ตี๋พูดง่ายๆ แต่ฟังแล้วโคดซึ้งอ่ะ!!!

แฟนผมน่ารักขนาดนี้ แต่ผมกลับทำเรื่องไม่ดีไว้ตั้งมากมาย
นอกใจอยู่เป็นนิจ บ้าผู้ชายว่าเลวแล้ว นี่ยังแอบปันใจไปให้ไอ้อี้ กับ ไอ้นิว อีก
ในขณะที่อ้นไม่เคยทิ้งผมเลย ไม่เคยทิ้งครอบครัวผมด้วย

ระหว่างนั่งรถไปโรงบาล หมอก็เอามือซ้ายมากุมมือผมตลอดทาง ผมก็จะจับมือไอ้ตี๋อ้นขึ้นมาดม
ไอ้ตี๋ก็จะมองมาด้วยหน้ายิ้มๆ และใจดี

จนไปถึงโรงบาลก็เจอแม่กับพี่พิณพี่สาวคนที่ 3 ของผม
แม่ดูแก่ลงไปถนัดตา ผมเริ่มหงอกขาว แต่ก็ดูแข็งแรง และเข้มแข็ง ผมไหว้แม่กับพี่สาวก่อนจะเข้าไปกอดแม่
แม่ก็ปลอบใจผมให้สบายใจ

“พ่อบ่เป็นหยังแล้วลูก... อย่าไห้เน้อ”
(แม่ผมถ้าพูดกับลูกๆ แกจะอู้เหนือแต่ถ้าพูดกับคนแถวบ้านแม่จะพูดอิสานหรือกลาง)

ผมก็กอดแม่น้ำตาซึมเพราะทั้งสงสารพ่อและคิดถึงแม่ ผมรู้สึกว่าตัวเองผิด และเห็นแก่ตัว
ที่ไปเรียนไกลๆ จนไม่สามารถดูแลพ่อแม่ยามท่านต้องการคนดูแลได้
พอได้อยู่ในอ้อมกอดแม่แล้วมันยิ่งกว่าความสุขความอบอุ่นไหนๆ เลยครับ

“โชคดีมากเลยที่ได้อ้นมาช่วยดูแล... ไม่งั้นพ่อกับแม่ล่ะแย่เลย...ใจดีเหมือนพ่อเลยพ่อคุ๊ณ!!!”
แม่ดึงมือไอ้ตี๋อ้นไปกุมไว้ขอบคุณเป็นไอ้ตี๋เป็นภาษาอิสาน อ้นก็หน้าบานยิ้มแก้มปริที่ได้รับคำชม

“ไม่เป็นไรครับแม่... พ่อกับแม่ก็เป็นพ่อแม่ผมเหมือนกัน... ไม่ใช่คนอื่นคนไกล”
แหม่ๆๆๆ นึกว่าตัวเองเป็น สส. ที่กำลังหาเสียงอยู่หรือไงครับท่าน ผมอดนึกขำไอ้ตี๋อ้นไม่ได้ 5555

ระหว่างนั่งรอผมก็หาวหวอดๆ เพราะเพลียๆ แม่คงเห็นผมดูจะเหนื่อยๆ
เลยให้อ้นพาไปอาบน้ำอาบท่าแล้วค่อยมาโรงบาลใหม่
ผมกับไอ้ตี๋อ้นก็เลยกลับไปบ้านพ่อของไอ้ตี๋ที่ซื้อไว้ในตัวเมืองอุบลฯ

บ้าน 2 ชั้น หลังกำลังเหมาะ ผมเคยมานอนหลายครั้งตอนที่อ้นพามาเที่ยวเมืองอุบลฯ
อย่างตอนงานแห่เทียนพรรษา หรือเวลาที่ต้องมาอุบลฯ
หน้าบ้านมีสนามหญ้า มีที่จอดรถ ไอ้ตี๋อ้นบอกว่าพ่อยกให้มันเรียบร้อยแล้ว
ส่วนเมียน้อยของพ่อกลับไปอยู่บ้านของตัวเองตั้งแต่เคลียร์กันได้เมื่อหลายปีก่อน

ตอนนี้ไอ้ตี๋คงทำใจเรื่องมีแม่อีกคนได้เยอะ เพราะเมียน้อยของพ่อก็ทำตัวดี ไม่วุ่นวาย
ไม่เหมือนในละครที่เราดูๆ กันว่าเมียหลวง เมียน้อย ชอบตบตี แย่งชิงสามีกัน
พอเข้าห้องได้ผมก็ถอดเสื้อผ้าใส่แต่ผ้าขนหนูเพื่อเตรียมไปอาบน้ำให้สบาย

“เหนื่อยไหม”
ไอ้ตี๋อ้นเข้ามาช่วยถอดเสื้อเชิ้ตนักศึกษาที่ผมยังไม่ได้เปลี่ยนเพราะไม่มีเวลาผมก็ปล่อยให้เขาทำไป

“นิดนึงครับผม”
เรามองตากันนิ่ง ตาตี่นิดๆ แต่ดูซึ้ง ของไอ้ตี๋อ้นทอประกายวิบวับจนผมอดหน้าแดงไม่ได้
พอกระดุมเม็ดสุดท้ายหลุดหมอก็ดึงผมเข้าไปกอดผมซะแน่น!!!

“คิดถึง... คิดถึงมากๆ เลยรู้ไหมคร้าบ!!!”
ไออุ่นที่ได้รับทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นรู้สึกสบาย และปลอดภัยอย่างหาที่สุดไม่ได้
ผมกอดตอบคนตัวสูงอย่างแนบแน่น อยากจะสูดเอากลิ่นกายและความรักของอีกฝ่ายเข้าปอดให้ชุ่มชื่นใจ

“คิดถึงอ้นที่สุดเลยคร้าบ!!!”
ไอ้ตี๋อ้นคลายวงแขนแล้วมองหน้าผมนิ่งแววตาอ่อนโยนที่ผมเห็นมาตั้งแต่เด็กมองผมแล้วยิ้มกว้าง
เอาหลังมือลูบหน้าผมแล้วสัมผัสไปมา

“วินรู้ตัวป่าว... ว่าวินน่ารักขึ้นมากแค่ไหน”
“หือ... บ้าแล้ว อยูดีๆ ก็มาชมกันเองแบบเนี้ยะ 555”
ว่าแล้วผมก็ถอดเสื้อผ้าออกจนหมดแล้วเดินเข้าห้องน้ำแต่พอกำลังจะปิดประตูไอ้ตี๋ก็ตามเข้ามาด้วย

“จะทำอารายคร้าบท่าน”
หมอก็ยิ้มยั่วๆ เหมือนเด็กๆ กำลังจะอ้อนเอาของ

“ก็... จะอาบด้วยอ่ะ”
พูดแค่นี้ผมก็รู้แล้วครับว่าหมอต้องการอะไร อิอิอิ
ก็ไมได้เจอกันเป็นเดือน แฟนเราก็อยากเย็ดมันก็เป็นเรื่องธรรมดา

ถึงแม้ไอ้ตี๋จะมีอารมณ์ตามธรรมชาติแบบคนทั่วไป
แต่ก็เป็นไปแบบปกติ คือ ไม่ได้มีความต้องการเกือบทุกวันอย่างผม
แต่การที่ห่างกันนานๆ พอมาเจอกันมันเลยเหมือนมีประกายไฟแล่บแปล๊บปล๊าบ!!!
ที่ดึงดูดเราสองคนเข้าหากัน

พอไอ้ตี๋อ้นถอดเสื้อผ้าออกหมด หุ่นแกร่งงามที่โตตามวัย ก็อวดตาผม
หมอมีหน้าตี๋นิดๆ เพราะเป็นจีนผสมอิสานเลยทำให้หมอไม่ได้จีนจ๋า และตัวก็ไม่ได้ขาวซีด
หุ่นสูง แกร่งสมชายเหมือนพ่อไอ้ตี๋ที่เป็นตำรวจ ควยไอ้ตี๋เริ่มตั้งชันจนผมขำกิ๊ก!!!

“อิอิอิ”
“อารายๆๆ มาขำอ้นอ่า...”
“อยากเหรอ!”
“รู้แล้วยังจะถามอีกอ่ะ...อยู่กับวินก็ต้องอยากดิ...แล้ว...ได้ป่าวล่ะ”

ไอ้ตี๋เข้ามากอดไซ้ผมจนผมเสียวซ่านขึ้นมากอดคอหมอแน่น
ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่โตตามวัย ทำให้ผมถึงกับสะท้าน!!!

“แฟนทั้งคนเคยไม่ให้ด้วยเหรอ...แต่อาบน้ำก่อนได้ป่าว”
“เดี๋ยวอ้นอาบให้”
ดูหมอดิ 555

รีบจัดจนต้องมาอาบให้เลยครับ น่ารักอ่ะ ไอ้ตี๋ก็เอาฝักบัวฉีดน้ำให้ผมก็แปรงฟันไป ทีแรกรู้สึกสบายๆ ครับ
แต่พอไอ้ตี๋อ้นถูสบู่ให้ผมไปทุกสัมผัสที่อ้นลูบไล้ผมถึงกับครางออกมาจากลำคอ

“อืออออ!!!”

อ้นเอานิ้ววนๆ ที่ประตูหลังผมจนผมเข่าแทบอ่อน เพราะเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ
แล้วก็ตามด้วยกอดผมทางด้านหลังฟันก็ขบกัดติ่งหู จุดยุทธศาสตร์อีกหนึ่งจุด
ส่วนมือก็สะกิดที่หัวนมจนผมครางหนักขึ้นกว่าเก่าเพราะเป็นจุดอ่อนจุดที่สาม
แล้วก็ซอกคอที่เป็น จุดที่สี่จนกระทั่งมาถึงน้องชายผมซึ่งเป็นจุดสำคัญ!!!

ไอ้ตี๋อ้นจับควยผมชักหนับๆ จนผมครางซี้ดดด!!!แล้วเอาควยตัวเองมาดันถูร่องก้นผมไปมา
ตอนนี้ผมเสียวจนฉุดไม่อยู่แล้วอ้นเองก็รู้เพราะเรารู้ทางกันดีว่าผมชอบให้สะกิดทั้ง 6 จุดที่ว่ามา
คือปาก หู คอ ตูด และควย เป็นจุดที่ผมโดนสะกิดเมื่อไหร่เป็นต้องร้องครางทุกที 5555

อ้นถูไถร่องก้นผมไปมาจนความอยากมาถึงขีดสุด!!! ไอ้ตี๋ก็ดันควยดุ้นกำลังสวยขนาด 6.5 นิ้ว
เข้ามาในตูดผมทั้งๆ ที่ยังมีสบู่เกาะตามตัวฟูฟ่อง

“ซี้ดดด!!!... อ๊า!!!...”
เมื่อส่วนหัวของอ้นเข้าได้แต่ไอ้ตี๋ยังไม่กดจนมิดแต่ค่อยๆ ซอยเข้าๆ ออกๆ
บางทีกำเหมือนจะถอนออกจนผมเสียวจนน้ำแทบแตกคามือไอ้ตี๋อ้น

“เสียวววว!!!”
ผมร้องแบบมีอารมณ์เต็มที่ ไอ้ตี๋อ้นครางซู้ดดด!!!แล้วกดเข้ามาช้าๆ จนมิด!!!

“ซี้ดดดดด!!!อา...อึมมม!!!”
จนผมทนทานต่อไปไม่ไหวจึงดึงหน้าไอ้ตี๋อ้นมาจูบปากแลกลิ้นกัน
ทั้งๆที่อ้นยังประกบหลังควยคาตูดผมอยู่ ตอนนี้เราไม่พูดกันแล้วครับเพราะอ้นดูจะเงี่ยนอย่างมากมายจนผมสัมผัสได้
ไอ้ตี๋อ้นจับเอวผมไว้แล้วซอยยิกๆๆๆๆ!!!  เร็วเป็นจังหวะจะโคน ลีลาไม่ตกไม่สะดุดหรือชะงัก

จนผมได้แต่ร้อง

“อ้ะๆๆๆ!!!”

ไอ้ตี๋อ้นกอดผมแน่นทั้งไซ้คอไปขบติ่งหูไป เอวก็กระหน่ำควยเข้าตูดผมอย่างเมามัน
ขนหมอยสากๆที่ตูดจผมเสียวซ่านสะท้านทรวง ความแข็งแรงแต่เนียนละเอียดของผิวหนังของอ้น
กระทบแผ่นหลังผมจนรู้สึกฟินสุดๆ จนผมทนความเสียวต่อไปไม่ไหว น้ำแตกทะลักออกมาหลายชุด!!!

“ซี้ดดดด!!!”

พอผมน้ำแตกอ้นก็เร่งกระแทกซอยกระหน่ำตั้บๆๆๆๆ!!!แบบไม่ยั้ง!!! ไม่ปราณีอีกต่อไป
จนเสียงกระแทกตูดกัน ดังสนั่นห้องน้ำ

“ตั้บๆๆๆๆ!!!!!”

“อ้ะๆๆๆๆ!!!”

ส่วนผมก็ได้แต่ร้องแค่คำเดียวแอ่นตูดให้แฟนกระแทกอย่างเมามัน เสียวร่องรูอย่างที่สุด
จนกระทั่งไอ้ตี๋อ้นหอบกระเส่าหนักๆ

“ฮึ่มมมม!!!”
พร้อมกัดปากแน่นและเร่งรัวกระแทกอีกนับสิบๆ ที

“ซี้ดดดด!!!จะแตกแล้วๆ อ๊า!!! ซี้ดดดด!!!”
อ้นกระฉูดน้ำอุ่นๆ เข้าในตัวผมจนหมดตัวแล้วเราก็จูบปากแลกลิ้นกันกันซาบซ่า
อ้นกับผมหอบแฮ่กๆๆๆ อย่างอ่อนเพลียแล้วเราก็ยิ้มให้กันอย่างขำๆ

“คนทะลึ่ง”
ผมแกล้งว่าแฟนตัวเอง ไอ้ตี๋ก็จุ้บผมทีนึง

“แล้ววินรักคนทะลึ่งคนนี้ป่ะล่า”
“ไม่รัก...”
“ว้า!!!... เรารึอุตส่าห์รอเจอเป็นเดือนๆ”
ไอ้ตี๋อ้นทำหน้าน้อยใจ ผมเลยหัวเราะขำ

“ไม่รักน้อยๆ... แต่รักมากๆ ไง 5555”
หมอถึงได้ยิ้มร่า ตาเยิ้ม

“น่ารักแบบนี้ต้องขออีกรอบซะแล้ว”
อ้นว่าแล้วทำท่าจะไซ้ผมอีกแต่ผมดิ้นหนี หมอก็ดึงเข้ามากอดแล้วจ้องตาเยิ้ม!
ผมหลับตาปี๋รอให้ไอ้ตี๋จูบผมอย่างที่สเต็ปที่มันควรจะเป็น แต่พอผมเผลอก็เอาฝักบัวมารดหัวผมดังซู่!!!

“เฮ้ย!!! อ้นบ้า!!!”
“5555555”
ความเย็นของน้ำทำเอาผมเย็นซู่!!! ซ่า!!! ไปเลยครับ 555

“กวนอ่ะ!!!”
“นึกว่าเค้าจะเอาตัวเองอีกรอบอ่ะดี้!!! 555”
“จำไว้เลยคนเรา”

ผมเอาคำที่หมอชอบพูดเวลางอนมาใช้จนไอ้ตี๋หัวเราะขำที่อำผมได้อีกครั้ง
ผมเช็ดตัวให้หมอหมอก็ยืนนิ่งให้ผมเช็ดตัวให้

หุ่นไอ้ตี๋อ้นเฟิร์ม!!! สวยสูง แข็งแรง ได้สัดส่วน แบบนักกีฬา ผิวขาว เนียนละเอียด น่าจับไปทุกจุด
เช็ดตัวไปก็หยอกกันไปอ่ะครับ บางทีมันก็แกล้งหอม แกล้งจุ้บผม จนแทบจะเช็ดตัวเช็ดหัวให้ไม่เสร็จ
ก็ไม่ได้เจอกันนานนี่เนอะขอสวีทกันหน่อยนะ 5555

พอเช็ดตัวเสร็จผมเกิดเพลียๆ จึงของีบซักแป้บ ไอ้ตี๋ก็มานอนกอดผม
เรานอนจับมือกันแน่นเหมือนกลัวจะถูกแยกจากกันก็ไม่ปาน ผมก็เลยหลับในอ้อมกอดอุ่นๆ ของไอ้ตี๋
ผมก็เผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้แต่ไอ้ตี๋อ้นหลับสนิทนอนกอดผมอยู่ในท่าเดิม
ผมมองหน้าหมอก็เห็นหลับสบาย ลมหายใจอุ่นๆ พ่นออกมาเบาๆ คิ้วเข้มๆ จมูกโด่งรับกันน่ามอง

ผมลูบผมดำตรงนุ่มน่าสัมผัสของแฟนแล้วเสยขึ้นไป แล้วกอดไอ้ตี๋อ้นแน่นกว่าเก่า
รู้สึกว่าสงสารไอ้ตี๋อ้นนะ นานๆ ทีถึงได้เจอกับผมซักที ความต้องการตามธรรมชาติจึงถูกระงับไว้

ไม่เหมือนไอ้อี้ กับไอ้นิว ที่หลังๆ เหมือนถูกแบ่งเวลากันไปในตัว
ผมเป็นรูมเมทกับไอ้อี้ จันทร์-ผฤหัส 4 วัน ไอ้อี้จึงได้เอาผมทุกวัน
ส่วนไอ้นิว จะเป็น ศุกร์-อาทิตย์ ได้ไป 3 วัน เพราะหลังจากที่เราได้เสียกันคืนนั้น ที่ร้านมันไม่ว่าลูกค้าเยอะหรือน้อย
มันก็จะหอบผมให้ไปค้างด้วยทุกอาทิตย์ จนผมไม่มีเวลาเอาตูดไปให้ใครซอยเลย

แต่บอกก่อนว่าไอ้นิวมันก็ไม่ใช่คนมักมากในกามเหมือนผมนะ
ตั้งแต่ผมกับมันได้กัน วันละครั้งเท่านั้นแหละครับทั้งๆ ที่ใจผมนั้นอยากเอากับมันบ่อยๆ จะตาย 555
ก็ไอ้นี่มัน ตี๋หล่อ ผิวขาว หน้าใส หุ่นดี แถมบุคลิกก็เท่ห์สุดๆๆๆ!!!

ผมถึงไม่เคยปฏิเสธมันเลย ถ้ามันจะลากผมไปไหนด้วย จนพักหลังๆ ไอ้อี้เริ่มจะงอแงแล้วครับ
และทุกครั้งจะเป็นผมเริ่มเข้าไปกอด ไปจับ ไปหอมแก้ม ไปกวนสร้างอารมณ์ให้มันก่อนครับ
ก็มันหุ่นดี ผิวขาวน่ากอด น่าจับ น่าลูบไปหมดนี่ครับ
พอมันมีอารมณ์ได้ที่คราวนี้มันก็จะจัดการผมเองเลย โดยไม่ให้ผมควบคุมเกมส์จนน้ำแตก!!!

เห็นไอ้นิวหน้าตาใสๆ ออกตี๋ แบบนี้ก็เหอะ แต่เวลามันเย็ดผมนี่

ซาดิสม์มาก!!! ขอบอก

เย็ดทีทำเอาผมแทบคลานเลยครับ!!! 55555

แบบว่าเอาครั้งเดียวก็สุขสมอิ่มเอมไปเลยครับ เพราะมันเย็ดแรง!!! หนักหน่วง!!!
ออกแนวเด้าไวไม่คิดชีวิต และบางทีเหมือนมันลืมตัว จนบางทีก็ทำผมเจ็บ ผมรู้สึกว่ามันเก็บกด
เวลาได้ปลดปล่อยเลยใส่ผมไม่ยั้ง!!!

และพอเวลาน้ำแตก มันจะชอบเอามาแตกใส่หน้าผมเหมือนหนังเอ็กส์เลยครับ 5555
แต่ถามว่าชอบไหม ผมชอบนะ สะใจดี 5555

พอพักผ่อน นอนพักพอสมควรแล้วเราก็ไปเยี่ยมพ่อกันครับ
สภาพพ่อไม่ได้แย่นักพอยาชาหมดแกก็มีครางบ้าง แต่พอถามว่าปวดมากไหมแกก็ส่ายหัว
ผมก็กุมมือพ่อบอกให้พ่อหายไวไวนะพ่อก็ยิ้มๆ พอพี่ๆ คนอื่นรู้ว่าพ่อเข้าโรงบาลก็บอกจะมาเยี่ยม
พอไปบอกพ่อๆ ก็ยิ้มๆ แต่ปากก็พูดว่า

“จะมาให้ลำบากทำไมก็ไม่รู้”

ผมกับแม่เลยได้แต่ยิ้มให้กันแล้วส่ายหน้าความดื้อ ปากแข็งของพ่อ ที่ปากกับใจไม่ตรงกัน 5555
ไอ้ตี๋อ้นก็คอยรับคอยส่งผมกับแม่และพี่สาวผมไปมาที่บ้านพี่สาวและที่โรงบาลตลอดหลายวัน ผมนี่ซึ้งสุดๆ ไปเลยอ่ะ

.........................................................................................................

ก่อนหมอกลับไปเรียนที่กรุงเทพ เรานอนคลอเคลียกอดกันแน่นผมก็นอนหนุนใต้วงแขนอุ่นของไอ้ตี๋
ผมสัมผัสไรขนอ่อนๆ เหนือรีมฝีปากของอ้นอย่างเคยชิน หมอก็ยอมให้จับจนพอใจแล้วยิ้มขำๆ
ผมบีมคลำตามแผ่นอกแกร่งที่ขาวสะอาดแบบคนที่ผิวขาวสะอาดหัวนมสีแดงสดถูกผมเขี่ยเล่นไปมา
จนอ้นขำกิ๊ก!

“55555 เสียววว อ่ะ”

ผมก็ยักคิ้วยิกๆ แบบกวนๆ เพราะรู้ว่าคนที่ผมกอดไม่เคยไม่ชอบสิ่งที่ผมทำ
ตอนนี้ผมเลยทั้งหอม ทั้งกอด ทั้งจูบทั้งลูบคลำ ไปทั่วตัวไอ้ตี๋อ้น ตามซอกหลืบ
ด้านข้างตัวที่แสนเซ็กซี่ หน้าท้องมีซิกแพ็คและไรขนน่าซบ ผมซบหน้าลงไปดม
ฟอนเฟ้นจนไอ้ตี๋อ้นทนไม่ไหว หัวเราะก๊ากก!!!

“ทำอะรายอ่ะคร้าบบ!!! 5555”

ไอ้ตี๋หัวเราะขำๆ เมื่อผมจูบหอมไปทั่วตัวของหมอ

“ก็อยากจะเก็บอ้นไว้ทั้งตัวไง..อิอิ”

ผมพูดยิ้มๆ ทะเล้นๆ ไอ้ตี๋อ้นก็ลูบหัวผมไปมาแล้วปล่อยให้ผมหอมจูบไปทั่วตัวอย่างที่ต้องการ
แต่ก็บางจุดที่เซ้นท์ซิทีฟหมอก็ถึงกับสะดุ้ง!!! จนหัวเราะก๊าก!!! ดังลั่น เพราะจั๊กกะจี้ครับ 55555

“5555555!!!”

ไอ้ตี๋อ้นหลับตาด้วยความเสียวกัดปากเม้นปากแน่น
และแล้ว!!! เกมส์รักของผมกับไอ้ตี๋อ้นก็ปะทุขึ้นอีกครั้งหนึ่งก่อนที่เราจะจากกัน
ผมสนองความต้องการทางเซ็กส์ให้กับอ้นแบบถึงใจให้สมกับที่อ้นต้องรอมานาน....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น