วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2559

เรื่องเซ็กส์ของเด็กร่าน บทที่ 23 ไอ้ตี๋อ้น เมื่อรักรีเทิร์น

อีกไม่กี่วันต่อมาผมก็ขึ้น ม.4  วันแรกก็เจอดีเลย ก็ดันนอนตื่นสายจนเป็นนิสัยนี่ครับ
กว่าจะถึงโรงเรียนก็สายแล้วลืมไปว่าไม่ได้เรียนโรงเรียนเก่าแล้ว 5555

ก็ประมาณว่าเข้าปฐมนิเทศก์เกือบจะคนสุดท้าย ว่างั้นเถอะ
โดยมีสายตาของครูหลายท่านมองด้วยสายตาตำหนิกึ่งดุๆ เล่นเอาผมเสียวสันหลังวาบๆ
บรรยากาศโคดอึมครึมและกดดันอ่ะ5555

กำลังจะเดินไปนั่งเก้าอี้ว่างๆซึ่งจะว่าไปก็เหลือแต่ด้านหน้านั่นแหละ
ก็มีคนโบกมือเหยงๆเรียกชื่อผมดังๆ โคดจะอายอ่ะ กูยิ่งมาสายอยู่ด้วยแม่งงง

“วินๆ!!! ทางนี้”

หันไปมองก็โคดดีใจสุดๆจะใครซะอีกล่ะครับก็เป็น “นังอู” เพื่อนซี้ผมตอนประถมนั่นเอง ผมยิ้มออกมาอย่างดีใจพอๆ กับมัน ที่ดูจะดีใจไม่แพ้ผม
แล้วมันก็ไล่เพื่อนที่นั่งข้างๆมันให้ไปนั่งที่อื่นโดยที่เพื่อนมันก็มีบ่นส่งท้ายก่อนลุกไปด้วย 555

“อะไรของมึงเนี่ยอีอู”

“ฉันไม่รู้เลยนะเนี่ยว่าแกจะมาเรียนที่นี่”

นังอูยิ้มแก้มปริดูมันเปลี่ยนไปเยอะ เป็นผู้ใหญ่ขึ้น ตัวโตและสูงกว่าผมซะอีก
ไม่เจอกันตั้ง3 ปีนี่ครับ
ทั้งที่ตอนอยู่ป.6 ก็ตัวเท่าๆ กัน มารู้ทีหลังว่ามันน่ะเป็นนักวอลเล่บอลของโรงเรียน
แถมกิริยาอาการจริตจะก้านก็สาวแตกเต็มที่  5555

มองที่อกมันก็น่าประหลาดใจที่มีหน้าอกหน้าใจอวบๆ แบบสาวน้อย
บวกกับผิวที่ขาวแบบคนจีนเลยดูเหมือนผู้หญิงมากกว่าเด็กผู้ชายครับ
แต่ก็ไม่ได้ถามมันในตอนนั้นเพราะดีใจมากกว่าที่เจอเพื่อนเก่า ซี้ๆ อย่างมัน

“ดีใจจังเลยว่ะที่ได้เจอแก”
“อีวินไม่เห็นแกมาหาฉันบ้างเลยตั้งแต่จบป.6 แต่ดีแล้วแหละต่อไปฉันกับแกก็จะได้เม้าท์กันแบบเต็มที่ไปเลย”

“ดูแกดิเช้งวับเชียวนะแก...สวยยังกะผู้หญิงแน่ะ”
“ก็คนมันเกิดมาสวยนิก็ช่วยไม่ได้น่ะ...ไม่เหมือนแกร๊อก! แอ็พแตกซะ...ตอนแรกฉันยังนึกว่าหนุ่มน้อยหน้าตาดีย้ายมาจากโรงเรียนไหนยังแอบเหล่อยู่เลยแก๊!!!...ที่ไหนพอสังเกตุดีๆที่แท้เป็นเพื่อนสาวนี่เอง 5555”

แล้วเราสองคนก็หัวเราะกันขำๆ หลังจากนั้นเราก็มีเรื่องคุยกันอีกยาวแข่งกับครู
แต่เสียดายไม่ได้เรียนห้องเดียวกับมันไม่งั้นผมคงไม่เหงาเท่าไหร่
พอปฐมนิเทศก์เสร็จนังอูก็พาผมเดินชมโรงเรียน
ใหญ่กว่าโรงเรียนเก่าเราอีกแฮะ ก็ว่าไม่ได้นะนี่เป็นโรงเรียนมัธยมที่ดีที่สุดในตัวจังหวัดนี่ครับอดภูมิใจไม่ได้ 555

ทุกซอกทุกมุม ดูสวยงามไปด้วย ไม้ดอก ไม้ประดับ และดูสะอาดสะอ้านตา
มีการจัดสวนหย่อมตามหน้าตึกอาคารเรียนแต่สนามกีฬาเล็กกว่าโรงเรียนเก่า
ก็ว่าไม่ได้นะโรงเรียนเก่าออกจะภูธร 5555
มีสระบัวน้ำพุ ให้ความรู้สึกเย็นสดชื่นเป็นบ้า อุ้ยชอบๆๆ

นี่คือโรงเรียนที่ผมจะต้องเรียนไปอีก3 ปีเต็มๆ จะต้องเก็บเกี่ยวผู้ชาย เอ๊ย!ประสบการณ์ให้ได้มากที่สุดเลยล่ะ 555
อาคารห้องสมุดก็ใหญ่โตส่วนอาคารเรียนก็ดูใหม่กว่าโรงเรียนเก่าเยอะ
ซักพักนึงผมก็ปวดเยี่ยวขึ้นมาตะหงิดๆ

“นังอูฉันปวดเยี่ยวอ่ะขอเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
“ให้ฉันไปเป็นเพื่อนไหมแก”
“ไม่ต้องหรอกใกล้ๆแค่นี้เอง”

แล้วระหว่างที่ผมจะเดินเข้าห้องน้ำก็เดินผ่านม้าหินอ่อนที่มีนักเรียนม.4
นั่งกันอยู่ประมาณ4-5 คน ก็ปวดฉี่มากเลยยังไม่ได้สนใจจะมอง
แค่รู้สึกๆว่ามีคนมองๆ เราอยู่เหมือนกัน
พอออกมาจากห้องน้ำนักเรียนกลุ่มนั้นก็หายไปแล้ว

นังอูก็พาผมไปโรงอาหารซึ่งกว้างและดูเป็นระเบียบดี
อาหารที่ขายก็มีเยอะแยะราคาก็ไม่แพงตามธรรมดาของร้านอาหารในโรงเรียน

ระหว่างที่ผมกำลังเดินเลือกของกินอยู่นั้นก็มีคนๆ นึง มาดึงแขนผม
ผมตกใจหันไปมองก็เห็นเด็กผู้ชายตัวสูงๆ หน้าตาตี๋นิดๆ ทั้งหล่อทั้งใสเชียว
เขายิ้มแป้นกวนๆพร้อมกับยักคิ้วให้กับผม แต่มือไม่ยอมปล่อยจากมือผม
ผมเองก็ชักใจสั่นเพิ่งจะมาใหม่ก็ไม่อยากมีเรื่อง

แต่พอสังเกตุดีๆผมก็ต้องยิ้มออกมาอย่างโคดดดดจะดีใจสุดๆ!!!
“อ้นเหรอ ..???”

“นึกว่าจำกันไม่ได้ซะแล้วเซะ...เห็นทีแรกตอนวินข้าห้องน้ำ...นึกว่าไม่ใช่ซะอีกเลยไม่กล้าทักอ่ะ”
อ้อผมจำได้ละที่ผมรู้สึกว่ามีคนมองก็คืออ้นนั่นเอง

“ก็...ก็อ้นเปลี่ยนไปเยอะนี่...ตัวใหญ่และก็สูงมากด้วย”
ผมพูดไปยิ้มไป                                             

“แต่วินดิ...(ทำเป็นใช้สายตากวนๆมองจากหัวจรดตีน)...ดูแทบไม่เปลี่ยนเลยนะ”
ผมก็เขินๆเอ๊ะ! จริงเหรอลูบหน้าตาตัวเอง แล้วก็เกาหัวงงๆ นี่ตูไม่โตขึ้นเลยเหรอเนี่ย

“จริงอ่ะ”
“ช่าย...ก็ยังน่ารักเหมือนเดิมไง 5555”
“......(หน้าแดง)..........”

พอได้ฟังเล่นเอาผมถึงกับสะเทิ้นโคดอายๆโคดจะเขินอ่ะ

“กวนนักนะ...เดี๋ยวเหอะจะโดน!!!”

ผมพูดยิ้มๆซึ่งอ้นก็หัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดีที่อำผมสำเร็จ

“ยังเหมือนเดิมจริงๆด้วย...โดนอำโคดจะง่าย รู้ตัวช้าเหมือนเดิมเลยวินอ่ะ”

“ก็เรามันคนซื่อนิหน่า...ใครจะไปอำเก่งเหมือนอ้นอ่ะ”
ผมเขินที่เจอแฟนเก่าแบบไม่ได้คาดหมาย ก็พอดีกับที่นังอูมันเดินยิ้มยียวน ถือจานอาหารมาพอดี

“อ้าว!... อีอ้นฉันมองๆ หาแกอยู่...ว่าจะบอกว่านังวินมันมาเรียนที่นี่
แต่ก็หาไม่เจอ...ที่ไหนได้เจอกันซะแล้วเหรอ...บุพเพสันนิวาสซะจริงๆ เนอะ โฮะๆๆๆ”

นังอูหัวเราะอย่างสะใจจนน่าหมั่นใส้ถ้าอยู่กันสองคนกะจะกระโดดถีบมันซักป้าบ!
อ้นก็ยิ้มๆไม่ได้พูดอะไร

มองไปอีกโต๊ะนึงที่มีเพื่อนของไอ้ตี๋อ้นนั่งอยู่ดูท่าทางจะสนใจกันใหญ่
มองมาทางพวกเราคอยืดคอยาว ดูตลกๆ ดีครับ 555

“เออยังไม่รู้เลยว่าแกเรียนห้องไหน”
นังอูหันมาถามผมด้วยคำถามที่ผมจำได้ว่าเคยบอกมันไปแล้วนี่หว่า
แต่ผมคิดว่ามันคงอยากจะบอกอ้นให้ได้รู้เป็นนัยๆมั๊งว่าผมเรียนห้องไหน
เพราะรู้ๆกันอยู่ว่านังนี่มันเจ้าความคิดอยู่แล้ว

“ห้อง 4/5 อ่ะ”
“จริงเหรอเสียดายนะที่ไม่ได้เรียนห้องเดียวกันกับอีอ้นมัน...อย่างน้อยจะได้มีคนคอยดูแล”
พูดเสร็จมันก็ทำหน้าทำตาเห็นแล้วโคดๆๆๆๆน่าหมั่นใส้สุดๆ อ่ะ 555

ผมมองอ้นก็ยังเอาแต่ยิ้มๆสังเกตุดูเขาเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก เกือบจะเป็นหนุ่มเต็มตัว
ไหล่กว้างมาดแมนหน้าใส ตาตี่ๆ ที่ดูเท่าไหร่ก็ยังมีเสน่ห์ในสายตาผม
คิ้วเข้มจมูกโด่งสวย  และปากสีแดงสดหน้าจูบกว่าเดิมซะอีก โอ้ยๆๆๆ

ยังจำได้ว่าเราเคยจูบกันตอนป.6 มันช่างเป็นอะไรที่วิเศษสุดๆ

ตั้งแต่ขึ้นม.1 อ้นเป็นนักกีฬามาตลอดทำให้ตัวโตกว่าเด็ก ม.4 โดยทั่วไป
บวกกับหน้าตาที่หล่อออกแนวตี๋ๆ ทำให้เขาดูดีสุดๆ ก็ว่าได้
ซึ่งจริงๆแล้วตอน ป.6 ผมว่าเขาก็หล่อกว่าใครในสายตาผมแล้วนะ อิอิอิ

“เออปีนี้แกอยู่ห้องไหนนะอ้น”
“ห้อง 4/2 ของครูปัทมาไง”
“อ้อๆ”
นังอูยังทำตัวเป็นประชาสัมพันธ์ต่อผมรู้นิสัยมันดี ว่ามันชอบทำตัวเป็นแม่สื่อแม่ชัก
แบบนี้มาตั้งแต่ตอนเรียนประถมแล้ว

แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้ผมกลับไม่กล้าคุยกับอ้นมากไปกว่านี้จริงๆ
จะด้วยระยะห่างของเวลาตั้ง3 ปีก็คงใช่ หรือความประหม่า ก็น่าจะใช่อีกนั่นแหละ

“เพื่อนอ้นคอยแย่แล้ว”
ผมพยายามหาทางของสถานการณ์อ้นก็หันไปมองเพื่อนๆ

“อ้อๆ... งั้นเราค่อยคุยกันใหม่นะ”

อ้นยิ้มตาตี่ให้ผมแบบเท่ห์ๆแล้วก็เดินไปหาเพื่อนเขา นังอูถึงกับตีมือผมเพี๊ยะ!
ทำหน้าตาดุๆใส่ ผมประมาณว่าทำไมแกโง่จัง อะไรประมาณนี้

แต่แล้วอ้นก็เดินกลับมาพร้อมกับยิ้มเกาหัวเก้อๆ

“เรายังไม่รู้เบอร์โทรวินเลยอ่ะ”

ผมยิ้มออกมาด้วยความดีใจสุดๆแบบไม่มีปิดบัง
“อ้อได้..ได้สิ”
ผมก็กุลีกุจอจดเบอร์โทรบ้านให้กับอ้นด้วยความดีใจ

ก็แหมนึกว่าเขาจะไม่ใส่ใจเราซะแล้วขอเบอร์แบบนี้แสดงว่ามีความหวังอ่ะ
พออ้นรับเบอร์ไปก็หันมายิ้มให้ผมเป็นยิ้มที่ทำให้ผมรู้สึกว่าเท่ห์สุดๆ
แล้วเขาก็จดเบอร์บ้านกับเบอร์เพจเจอร์ให้กับผมด้วย

“แล้วอ้นจะโทรหาวินนะ”
“อื้อ”
พร้อมๆกับเสียงแซวเบาๆ มาจากนังอู
“ว้าย! ท่าทางจะมีรักรีเทอร์นนะเนี่ย...อิอิอิ”


อ้นก็ยิ้มเท่ห์ๆ  เหมือนเคย ไม่ได้พูดอะไร แต่ผมดิ อายจะแย่
แล้วเขาก็กลับไปนั่งกับเพื่อนของเขา พอลับหลังอ้น นังอูก็ทำหน้ายียวนแซวผม

“อายใหญ่เลยเพื่อนฉัน...เฮ้อเล่นเอาฉันอดลุ้นแทนแกไม่ได้...เนี่ยถ้าอีอ้นมันไม่ขอเบอร์แกฉันก็ไม่รู้จะไปหาวิธีไหนแล้วล่ะนังวิน...แต่แบบนี้ก็ดีนะ...แสดงว่าอีอ้นมันยังไม่ลืมแก”
“พอเหอะน่าแกนังอู”

…………………………………..

วันแรกก็ไม่ได้เรียนอะไรเป็นเรื่องเป็นราวเลยได้กลับบ้านไวหน่อย
นังอูเลยชวนผมไปดูอ้นซ้อมฟุตบอล

โอ้พระเจ้า! มีแต่คนหล่อๆ ทั้งนั้น ไม่ตี๋ขาว ก็ล่ำๆแมนๆ น่ากินทุกคนเลยอ่ะ

หน้าตาดีๆทั้งนั้น ดูคนทางโน้นก็สูงสมาร์ทคิ้วโคดเข้ม

คนทางนี้ก็ตี๋อินเทรนผิวงี้ขาวเนียน ยิ่งถอดเสื้อเล่นด้วยแล้วทำเอาใจสั่น 555

นั่นก็น่ามองหล่อเข้มโคดๆจมูกอย่างโด่ง จรงี้โคดเซ็กอ่ะ

อาการผมออกอยากกินกล้วยหอมจนขนลุกซู่ๆ ตามสันดานเก่า 5555
แต่เก็บอาการไว้เก็บไว้ก่อน วินเอ๊ย วันแรกต้องมีภาพพจน์หน่อย อิอิ

ก็นี่เป็นโรงเรียนมัธยมที่ดีที่สุดของจังหวัดนี่ครับ
ก็เลยมีแต่ลูกคนมีตังค์ลูกคนจีน ลูกนายห้าง ลูกนักการเมือง ลูกข้าราชการ ฯลฯ
ดูดีหล่อขาวสะอาดสะอ้านตา มาเรียนกันให้เกร่อ

หุ่นก็ไม่ผอมกะหร่องเหมือนเด็กโรงเรียนเก่าของผมแป่ว!
ก็ว่าไม่ได้อ่ะนะก็มีแต่ลูกชาวไร่ชาวนา บางคนเรียน ม.3 แล้วยังมีขี้มูกขี้ตาแฉะๆ ก็มี 555

มองไปไม่ไกลซึ่งเป็นตำแหน่งของกองหน้า นั่นไง อ้น ของผม
ว้าว! เขาถอดเสื้อเล่นบอลด้วยอ่ะ
ทั้งๆที่เคยเย็ดกันมาตั้งหลายครั้ง ดูดควยเขามาแล้วก็หลายน้ำ ตอน ป.6
แต่ความรู้สึกมันก็แตกต่างกันมากก็ตอนนั้นเขาก็ยังตัวเล็กๆ ไม่ได้มาดแมนล่ำและตัวโตขนาดนี้นี่นะ

ดูตอนนี้สิผิวเนียนขาวไปตั้งตัว กล้ามก็สวย อกแน่น หัวนมแดงสด น่ากัดมากๆ
หน้าท้องมีกล้ามพองามหุ่นไม่ต้องพูดถึงเพอร์เฟ็คแมนจริงๆ เห็นแล้วแทบเพ้อเลยอ่ะครับ

พอเขาเห็นผมอ้นก็โบกไม้โบกมือให้ เล่นเอาผมอดปลื้มยิ้มกว้างอย่างดีใจเสียไม่ได้
ส่วนนังอูก็ทำหน้าล้อเลียนเอาไหล่มากระแทกไหล่ผม

“อิจฉาจริงจริ๊งเพื่อนเราท่าทางจะได้...ฟาด นักฟุตบอล…อิอิอิ”
ดูมันดิ แสดงอาการระริกระรี้สุดๆ
แถมยังตะโกนเรียกอ้นซะเสียงดังจนคนหันมามองที่จุดเดียว

“อ้นที่รักขา!!!”
ดูมันๆแต่ผมก็ได้แต่หัวเราะขำๆ เฮ้อไม่ได้เจอมันร่วมสามปี
มันยังสดใสและร่าเริงเป็นตัวของตัวเองไม่เปลี่ยน

แต่พอมองไปข้างๆสนามมีแต่ชะนี ๆ ๆ ๆ และก็ ชะนี!
มารุมดูเต็มไปหมดเชียร์เหย็งๆ กรี้ดกร้าด เป็นสิบคน ผมเลยหมดอารมณ์
เพราะนับวันพวกผู้หญิงก็ยิ่งแรงขึ้นทุกทีเหมือนกับว่าพวกชีจะกลัวว่าจะไม่ได้ ว่างั้นเถอะ

“ไปนังอูกลับเหอะ”
“อ้าว!...ไมรีบกลับนักล่ะแก ฉันกำลังจ้องๆพี่เต้อยู่อ่ะ” (รุ่นพี่ ม.6 ขวัญใจมัน)
“แกจะดูต่อก็ได้นะแต่ฉันกลับก่อนล่ะ”
ความรู้สึกตอนนั้นคือเกิดเบื่อๆเซ็งๆ ขึ้นมาเท่านั้นเอง

ผมเดินออกมาโดยไม่แยแสซึ่งนี่แหละเป็นเหตุผลที่ผมไม่ได้ติดต่ออ้นมานาน
ตั้งแต่เรียนจบป.6 เพราะผมไม่ใช่คนประเภทจะง้องอนใครง่ายๆ (ยกเว้นเป็นบางกรณี)
ตามประสาลูกคนสุดท้องที่เอาแต่ใจ(จริงของมึง 5555)
โดยที่อ้นก็หยุดมองตามตาปริบๆแบบงงๆ

“นังวินรอฉันด้วยเดี๋ยวฉันไปส่ง”
วันนั้นนังอูก็เลยต้องขับมอไซค์ไปส่งผมที่บ้าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น