วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2563

หลอกเย็ดเพื่อนร่วมหอ 62 ตอนในใจอยากได้สอง

              ผมกับไอ้นะได้รับมอบหมายให้มาร่วมงานทักษะฝีมือช่างที่วิทลัยเทคนิคขอนแก่นร่วมกับอาจารย์หัวหน้าแผนกไฟฟ้างานมี 5 วัน วันศุกร์เปิดงาน
              งานมีถึงวันอังคารแต่เรามาแค่ 3 วัน กลับวันอาทิตย์ 
              รูปแบบการจัดงานก็ไม่ต่างจากวิทลัยเราจัดวันแรกของการเปิดงานก็เหมือนทั่ว ๆ ไป มีพิธีเปิดงาน แสดงผลงานนักศึกษา มีการแสดงออกร้านต่าง ๆ พอเปิดงานเสร็จเราก็เดินดูตามซุ้มต่าง ๆโดยเฉพาะไฟฟ้าว่ามีอะไรที่ต่างจากเราบ้าง ซึ่งก็ดูเหมือนไม่แตกต่าง ผลงานประดิษย์ก็ไม่ต่างกัน
อาจารย์ปล่อยให้เราเดินดูงานเต็มที่แล้วอาจารก็ไปอยู่ในกลุ่มของอาจาร
              เราเปิดโรงแรมไว้แถวหลังตลาดโต้รุ่งคืนละ 150 บาท อยู่ชั้น 2 ห้องพัดลม อย่าเรียกว่าโรงแรมเลยครับน่าจะเป็นหอพักมากกว่า มีเตียงที่นอนให้พัดลมเพดานเวลาเปิดเสียงเหมือนโรงสีกำลังสีข้าวเพราะเสียงดังมาก ผ้าห่ม 1 ผืนใหญ่ผ้าเข็ดตัวสีน้ำตาลอ่อน 2 ผืน ห้องน้ำในตัว กลินอับ ๆ เล็กน้อย แต่นั่งสักพักก็ชิน
              บ่ายแก่ๆ ผมกับไอ้นะดูแล้วในงานไม่มีอะไร เราสองคนเลยขออาจารย์กลับมาที่โรงแรมเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไปเดินเล่นในเมืองดูความเจริญเนื่องจากขอนแก่นเป็นเมืองใหญ่ มีอะไรให้ดูมากมายกว่าจังหวัดผม
              เรามายืนอยู่หน้าห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองพอเบื่อก็เลยนั่งรถสองแถวไปริมบึงแก่นนคร
              บึงแก่นเป็นบึงขนาดใหญ่กลางเมืองมีถนนลาดยางมะตอยรอบบึง มีต้นไม้ใหญ่อยู่ริมบึงประปราย บริเวณโดยรอบมีทั้งร้านค้าวัด และบ้านเรือนปลูกรอบบึง มีร้านอาหารขนาดใหญ่ที่ปลูกอยู่กลางบึงถัดมาเป็นสถานีวิทยุโทรทัศน์ ช่อง 11 ขอนแก่น แล้วบริเวณใกล้กันมีสวนเล็ก ๆที่เรียกว่าสวนเจซี มีแม่ค้าขายอาหารโดยเฉพาะส้มตำ ไก่ย่างอยู่หลายเจ้า โดยใครซื้อร้านไหนก็จะให้เสื่อ1 ผืน ไปปูนั่ง เลือกนั่งไอ้ตามอัถยาศัย
              เราสองคนสั่งข้าวเหนียวส้มตำ ไก่ย่าง มานั่งกินริมบึงสองคน ดูวัยรุ่นหนุ่มสาวถีบจักรยานน้ำอยู่กลางบึงข้าง ๆ เสื่อที่ผมสองคนนั่งมีนักเรียนชาย ม.ปลาย 2 คนนั่งคุยกัน กางเกงขาสั้นสีฟ้าตัดกับต้นขาขาวๆ รองเท้าดำ ผิวหน้าขาวเกลี้ยงเกลา หน้าตาออกตี๋ ๆ ทั้งคู่ ตัดผมรองทรงสูง
              “กินด้วยกันมั้ยครับ” ผมหันไปเชิญชวน เด็กหนุ่มสองคนหันมายิ้มให้ เป็นการขอบคุณแล้วลุกขึ้นเดินออกไป
              เราสองคนนั่งกินกันต่อมีคนมายืนข้าง ๆ ผมเงยหน้าไปดูเป็นเด็กหนุ่มสองคนเมื่อกี้ คนนึงถือน้ำอัดลมอีกคนนึงถือแก้วใส่น้ำแข็ง
              “เห็นยังไม่มีน้ำเลยซื้อน้ำมาให้ครับ” เด็กหนุ่มสองคนยื่นน้ำแข็งกับน้ำอัดลมให้ผม
              “นั่งกินด้วยกันศิครับ” ผมกับไอ้นะขยับเพื่อให้เด็กหนุ่มสองคนนั่นเขามานั่งบนเสื่อ
              “ผมต๊ะและนี่นะ มาจากวิทลัย........”
              “ผมหนุ่มแล้วนี่ตาลผมเรียนอยู่โรงเรียน....... ม.5”
              “อ๋อ  อยู่ถนนกลางเมือง”
              “ใช่ครับ”
              “พี่มาเที่ยวหรือครับ” ไอ้หนุ่มเอ่ยขึ้นมาหลังจากที่นั่งลงเรียบร้อย
              “มาดูงานแข่งทักษะฝีมือช่างที่เทคนิก”
              “อ๋อผมกับเพื่อนก็เพิ่งกลับมาจากที่นั่นเหมือนกัน อาจารให้ไปทำรายงาน ขี้เกียดกลับเข้าโรงเรียนเลยเดินมานั่งที่นี่”
              “อาจารให้ทำรายงานเรื่องไรครับ”
              “กลุ่มเราจับไอ้แผนกไฟฟ้าไปดูแล้วยังคิดไม่ออกว่าจะเขียนยังไง”ผมสองคนกับไอ้นะหันไปมองหน้ากัน
              “จุดไต้ตำตอเลย”  ไอ้นะพูดขึ้นมาเสียงดัง
              “อะไรครับ”
              “นี่ครับถ้าเรื่องไฟฟ้าต้องคนนี้เลยครับ หัวหน้าห้องคนเก่งของผม”
              ไอ้นะพูดพร้อมกับชี้มือมาทางผม
              “มึงก็ว่าเกินไป”
              “จริงหรือพี่” ไอ้ตาลพูดด้วยความตื่นเต้น
              “อย่าเรียกพี่เลยครับเรารุ่นเดียวกัน ผม ปวช.2 ก็เท่ากับ ม.5 นั่นแหละ”
              “งั้นดีเลยช่วยแนะนำเราหน่อยว่าจะเขียนยังไง”ไอ้หนุ่มแสดงออกถึงความดีใจอย่างมาก
              ไอ้หนุ่มหยิบสมุดปกอ่อนออกจากระเป๋า ไอ้หนุ่มกับไอ้ตาลช่วยกันอธิบายว่าต้องการแบบไหนมีเนื้อหา และประเด็นอะไรบ้าง
              ผมเริ่มร่างโครงรายงานคร่าวๆ แล้วแทรกเนื้อหาลงไปเท่าที่จะนึกได้จากการดูงานที่แผนกไฟฟ้าเมื่อเช้าบวกกับวิชาการที่อยู่ในสมอง ไอ้นะนั่งดูอยู่ห่าง ๆ ผมเขียนโครงร่างไปได้ประมาณ 5หน้า โดยเนื้อหาบางอย่างเว้นไว้แล้วให้ไอ้หนุ่มกับไอ้ตาลไปค้นต่อที่ห้องสมุดซึ่งถ้าใส่รายละเอียดครบถ้วนตามที่ผมได้ร่างไว้ ก็จะได้รายงานที่สมบูรณ์ประมาณ 20หน้า ตรงกับหัวข้อที่ครูไอ้หนุ่มกับไอ้ตาลกำหนด
              ปากผมอธิบายไปแต่สายตาผมจดจ้องกับต้นขาขาวๆ ของไอ้หนุ่ม มันนั่งขัดตะหมาดแล้วโน้มเอียงมาทางผมส่วนไอ้ตาลนั่งเท้าแขนข้างนึงดูผมอธิบายห่าง ๆ ส่วนไอ้นะแทะไก่ไปนั่งดูไป
              “เออต๊ะแล้วมีชื่อหนังสือมั้ย เราจะได้ไปค้นต่อได้”
              ผมเขียนชื่อหนังสือให้สามสี่เล่ม
              “เวลาเขียนก็อย่าลอกไปทั้งดุ้นล่ะอ่านแบบทำความเข้าใจแล้วแทรกเนื้อหาที่นายไปดูมาเพราะถ้าลอกทั้งดุ้นเชื่อว่าอาจารรู้ทันทีว่าลอกจากหนังสือ”
              “ไหวมั้ยตาล” ไอ้หนุ่มหันไปถามเพื่อน
              “กูดูแล้วไม่ยากว่ะหนุ่มเดี๋ยวมึงเอาไปพิมพ์ ส่วนกูกับเพื่อนในกลุ่มจะไปห้องสมุดค้นหนังสือเอง” เท่าที่ดูก็น่าจะเป็นเช่นนั้นเพราะไอ้หนุ่มดูท่าจะรู้เรื่องกว่าแต่ไอ้ตาลเอาแต่พยักหน้าไม่รู้เข้าใจจริงหรือเปล่า
              เราสี่คนเพิ่งรู้จักกันแต่พอได้พูดคุยกันสักพักเหมือนรู้จักกันมาเป็นแรมปี ไอ้ตาลกับไอ้นะหันไปคุยกันมากขึ้น แย่งกันแทะน่องไก่ ส่วนผมกับไอ้หนุ่มก็ก้มหน้าอธิบายพร้อมจดให้ประมาณเกือบ 4 โมงเย็น ไอ้ตาลขอตัว
              “กลับเถอะ 4โมงแล้ว กูต้องไปรับแม่กูหลังเลิกงานอีก” ไอ้ตาลสะกิดไอ้หนุ่ม
              “ได้ งั้นเรากลับก่อนนะว่าแต่ต๊ะอยู่กี่วัน”
              “เรากลับวันอาทิตย์เย็น ๆ นอนที่นี่สองคืน”
              “พักที่ไหนล่ะ”
              “โรงแรมคิงส์ตลาดโต้รุ่ง”
              “อ๋อ”
              “รู้จักหรอมึง” ไอ้ตาลถามไอ้หนุ่ม
              “ไม่รู้จักโรงแรมแต่กูเคยไปตลาดโต้รุ่ง”
              “อ๋อ” ไอ้ตาลลากเสียงยาว
              “งั้นเรากลับก่อนนะต๊ะ ขอบใจมาก”ไอ้หนุ่มกับไอ้ตาลเก็บของใส่กระเป๋าแล้วลุกเดินไป
              พอไอ้หนุ่มกับไอ้ตาลลุกเดินออกไปผมมองดูก้นแน่น ๆ ตามหลังด้วยความเสียดาย
              “เชี้ยต๊ะ  มองตามตาละห้อยเชียวมึง  กูรู้ว่ามึงคิดอะไรอยู่”ผมหันกลับมามองหน้าไอ้นะด้วยความเขิลอาย
              “คิดอะไร..ไม่มี้” ผมปฏิเสธเสียงสูง
              “เดี๋ยวกูถีบตกบึงไปโน่นแค่มึงอ้าปากกูก็เห็นถึงไส้ตึ่งมึงแล้ว”
              “อะไรมึงคิดอะไร” ผมเถียงมันข้าง ๆ คู ๆ
              “มึงอยากเย็ดตูดไอ้สองคนนั่นใช่ปะกูดูออกนะ” ไอ้นะขยับเข้ามากระซิบข้าง ๆ หูผม
              “ว่าแต่อยากเย็ดใครล่ะ ไอ้หนุ่มหรือไอ้ตาล”
              “ไอ้ทั้งสองคนจะดีมาก”
              “แล้วมึงล่ะไม่อยากเย็ดตูดไอ้สองคนนั่นหรอ” ผมหันไปกระซิบตอบไอ้นะ
              “ไม่เอา......กูชอบเย็ดหีมันกว่าว่ะ”ไอ้นะส่ายหน้า
              “ชอบเย็ดหีไม่ชอบเย็ดตูดแต่ชอบโดนเย็ดตูดมากกว่าว่างั้นเถอะ” ผมกระซิบเบา ๆ กลับไป
              “ไอ้เชี้ยต๊ะ” มันพูดพร้อมกับยกตีนถีบผม ผมกระโดดหลบ ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนห่าง ๆรัศมีตีนไอ้นะ
              พูดถึงผมกับไอ้นะก็นานๆ ที่มันจะมาให้ผมเย็ดตูดทีนอกจากมันมีท่าเย็ดแปลก ๆ หรือหนังสือใหม่ ๆถ้าไม่มีอะไรมันก็เย็ดหีเด็กสาวของมันไปเรื่อย ๆ มันให้ผมเป็นหนูทดลองท่าใหม่ ๆของมันมากกว่าที่จะเป็นผัวมัน ถ้าไม่มีอะไรใหม่ ๆมันก็ทำตัวเหมือนเราสองคนไม่มีอะไรกัน ผมเคยถามมันว่าไม่คิดจะลองเย็ดตูดหรอมันบอกว่าถ้าเป็นตูดผมมันจะลองหัดเย็ดแต่ถ้าเป็นตูดคนอื่นมันไม่เอา ไม่มีอารมณ์
ผมนึกในใจ ว่ามึงฝันไปเถอะว่าจะได้เย็ดตูดกู

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น