วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2563

หลอกเย็ดเพื่อนร่วมหอ 64 ตอนความรู้สึกของการมีแฟนครั้งแรก

              ผมตื่นนอนขึ้นมาเห็นไอ้นะแต่งตัวเรียบร้อย พร้อมไปที่งานแข่งฝีมือช่าง
              “ตื่นแล้วหรอมึง”
              “อืม”
              “กูตามหาจนทั่วไม่เห็นมึงกูเลยกลับมาก่อน แล้วมึงมาถึงตอนไหน”
              “สี่ทุ่มกว่า ๆเห็นมึงกรนเสียงดังเลยไม่อยากปลุก”
              “ถึงปลุกกูคงตื่นหรอก” ไอ้นะถ้ามันได้หลับลึกถึงขนาดกรนแล้วละก็ เอาช้างมาถีบมันก็ไม่ตื่น
              “ว่าแต่เมื่อคืนมึงไปไหนมา”
              “กูก็เดินดูอะไรไปเรื่อยเปื่อยมึงกลับมาตอนไหน”
              “กูกลับมาถึงสองทุ่มกว่า ๆ “
              “จะไปแล้วหรอ นี่เพิ่ง8 โมงเอง งานยังไม่เปิดหรอก”
              “จารย์ชวนกูไปบ้านเพื่อนแกก่อนแล้วค่อยเข้างานมึงไม่ต้องไปหรอก ไปเจอกันที่งานเลย”
              “ไปทำไรบ้านเพื่อนจารย์”
              “เพื่อนแกจะขุดบ่อเลี้ยงปลากูเลยขอไปดูด้วย”
              “อ๋อ  งั้นมึงไปเถอะ งานจะเปิดก็ประมาณ 4 โมงเดี๋ยวเจอกันที่งาน”
              “งั้นกูไปล่ะ” ไอ้นะออกไปไปผมก็เข้าห้องน้ำอาบน้ำทันที
              อาบน้ำไปนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนนี้อดกลัวย้อนหลังไม่ได้ว่ามีใครเห็นหรือเปล่า ปล่อยอารมณ์เงี่ยนทำไปได้ไงเย็ดกันกลางถนนริมบึงแก่นนครถึงแม้จะมืดก็ตาม แถมยังขี่มอเตอร์ไซต์เย็ดกันต่ออีก นึกแล้วก็อดใจหายไม่ได้ความเงี่ยนไม่เคยปราณีใครจริง ๆ
              ผมอาบน้ำเสร็จแต่งตัวสบาย ๆ เป็นกางเกงยีนส์ตัวเก่ง ใส่เสื้อยืดสีขาวแล้วทับด้วยเสื้อลายสก๊อตแขนยาวสีน้ำตาลอ่อน ๆผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จประมาณแปดโมงครึ่ง ลงมาที่ร๊อบบี้โรงแรม
              “ต๊ะ ต๊ะ” ผมหันไปตามเสียง
              “อ้าวหนุ่มไปไหนมา”
              “มารอนายนั่นแหละ” วันนี้ไอ้หนุ่มใส่เสื้อแขนยาวสีเขียวอ่อน ๆนุ่งกางเกงยีนส์ขากระบอกใส่ผ้าใบเรียบร้อย ในมือถือหมวกแก็บ 1 ใบ
              “แล้วนี่แต่งตัวไปไหนไม่เรียนหรอวันนี้”
              “เรียนไรวันนี้วันเสาร์”
              เออผมลืมไปจริง ๆ ว่าวันนี้วันเสาร์ เพราะคิดว่าไปงาน เพราะที่วิทลัยผมจัดงานวันธรรมดาแต่ที่นี่จัดงานคล่อมเสาร์-อาทิตย์
              “แล้วนี่จะไปไหน”
              “มารับนาย”
              “มารับเรา”
              “ใช่”
              “มารับเราไปไหน”
              “ก็ไปงานไง”อ้าวนึกว่ามาให้กูเย็ดต่อเสียอีก ผมเลยอยากจะแกล้งไอ้หนุ่ม
หลังจากที่ขึ้นซ้อนท้ายมอเตอร์ไซต์มันได้ก็โน้มหน้าไปกระซิบที่ข้างหูไอ้หนุ่มเบาๆ
              “นึกว่าจะมารับไปริมบึงเสียอีก”
              “ไอ้บ้า” ไอ้หนุ่มมีอาการตัวสั่นขึ้นมาทันทีแล้วเร่งเครื่องมอไซต์เร็วขึ้นผมรีบเอามือเกาะเอวมันอย่างรวดเร็วเพราะกลัวตก
              มันขี่รถออกมานอกเมืองคนละทางกับที่จะไปงาน
              “จะไปไหนหนุ่ม”
              “ไปหาไรกินก่อนงานเปิด 4 โมงเช้าไม่ใช่หรอ”
              “กินไร”
              “เราจะพาไปกินต้มเส้นร้านดัง”
              ต้มเส้นหรือเรียกอีกชื่อคือแกงเส้นเป็นการต้มโครงไก่ หรือตีนไก่จนเปื่อยแล้วปรุงรสชาติแล้วแต่สูตรของแต่ละร้าน  ก่อนจะกินก็ลวกวุ้นเส้นใส่ลงไปแล้วโรยหน้าด้วยเนื้อไก่ฉีกหรือไก่สับบางร้านก็จะต้มไก่กับเส้นรวมกันแต่ต้องรีบขายไม่อย่างนั้นเส้นจะอืดเต็มหม้อ  น้ำจะสีน้ำตาลรสชาติเค็ม ๆ เปรี้ยว ๆหรือปรุงรสตามใจชอบ จริง ๆ ก็เหมือนก๊วยเตี๋ยวนั่นแหละครับ
              หนุ่มขี่มอเตอร์ไซต์มาไม่ถึง20 นาที ก็เลี้ยวเข้าซอยเล็ก ๆ จากถนนใหญ่ประมาณ 100 กว่าเมตรมาถึงร้านต้มเส้นร้านดังที่หนุ่มคุยไว้ เป็นบ้านไม้สองชั้น แล้วข้าง ๆปลูกเป็นเพิงมุงแฝก มีโต๊ะนั่งเกือบ 20 โต๊ะมีคนนั่งเกือบเต็มทุกโต๊ะแสดงว่าอร่อยจริง ๆ บางคนสั่งใส่ถุงกลับบ้าน แม่ค้าเป็นหญิงวัยกลางคนรูปร่างท้วมเด็กเสิร์ฟ 2-3 คนน่าจะเป็นลูกหลานเพราะอยู่ในวัยเรียนทั้งสิ้น
              เราได้โต๊ะนั่งเกือบในสุด  สั่งต้มเส้นคนละชามไม่นานเด็กก็เอาต้มเส้นมาเสิร์ฟด้วยถ้วยตราไก่ขนาดใหญ่ ที่บรรจุต้มเส้นมาเต็มถ้วย
              “ทำไมมันเยอะขนาดนี้ชามเท่าไหร่หนุ่ม” ผมไม่เคยกินต้มเส้นที่ชามใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลยอดที่จะถามหนุ่มไม่ได้
              “5 บาท” ที่บ้านผมก็ขาย 5 บาท แต่ชามไม่ใหญ่ขนาดนี้
              “โห..แล้วป้าแกได้กำไรหรอให้เยอะขนาดนี้”
              “ป้าแกขายมาเป็น10 ปีแล้วนะ แต่ก่อนแกขาย 3 บาทเอง”
              ผมลองชิมน้ำต้มเส้นอร่อยสมกับคำที่หนุ่มว่าจริง ๆ โดยไม่ต้องปรุง มันครบรสสุด ๆ
              “อร่อยมั้ย” หนุ่มถามผมหลังจากที่ผมกินไปได้สองคำ
              “อืม  อร่อยอย่างที่หนุ่มว่าจริงๆ” เราสองคนนั่งกินต้มเส้นไปมองหน้ากันไป
              ผมเป็นฝ่ายจ้องหน้าหนุ่มส่วนหนุ่มจะหลบสายตาผมมากกว่า เรากินเสร็จหนุ่มยื่นกุญแจมอไซต์ให้ผม
              “นายเป็นคนขี่นะ”
              “เราไม่รู้ทาง”
              “เดี๋ยวเราบอกทาง” ผมสตาร์สรถได้ก็ขี่ออกไป พอเข้าถนนใหญ่ หนุ่มบอกทางไปเรื่อย ๆ มือหนุ่มข้างนึงกอดเอวผมอีกข้างนึงชี้บอกทางให้ผมขับไปตามทาง คางหนุ่มเริ่มมาเกยที่บ่าผมเรื่อย ๆจนหนุ่มขยับเข้ามาแนบแผ่นหลังผม
              ผมขี่มอเตอร์ไซต์เลี้ยวเข้าซอยโน้นออกซอยนี้ลัดเลาะไปเรื่อย ๆ ตามที่หนุ่มบอก แต่ไม่มีวี่แววว่าจะถึง ผมดูนาฬิกาเพิ่ง 9 โมงนิด ๆ ยังมีเวลาอีกมากกว่างานจะเปิด อีกอย่างผมไม่รู้เส้นทางด้วยเลยเก็บความสงสัยไว้
              ผมขี่มาเรื่อย ๆ จนมาถึงหมู่บ้านนึงเป็นทาวเฮ้าสองชั้น ดูเงียบสงบหนุ่มให้ผมจอดรถหน้าบ้าน
              “บ้านใครหนุ่ม”
              “บ้านเราเอง”
              “มาเอาไรหรอ”
              “เข้ามาก่อนดิ” ผมจูงรถเข้าไปในรั้ว ตั้งรถได้ก็เดินตามหนุ่มเข้าไปในบ้าน
              ผมเดินไปนั่งที่โซฟาส่วนหนุ่มเดินเข้าไปในห้องน้ำ คิดว่าหนุ่มคงปวดเยี่ยวเลยแวะ
              ผมมองดูรอบ ๆ มีตู้ไม้ แล้วมีของจัดเรียงอยู่ในตู้ส่วนใหญ่เป็นหุ่นยนต์ข้างหลังเป็นครัวมีเตาแก็ส แล้วโต๊ะอาหาร ถัดไปเป็นบันไดขึ้นชั้นสอง พื้นบ้านปูด้วยปาเก้สีน้ำตาล
              หนุ่มออกมาจากห้องน้ำแล้วมาจูงมือผมขึ้นไปชั้นสอง
              “ไปไหน”
              “ตามมาเถอะน่า” ผมเดินตามหนุ่มขึ้นไปอย่างว่าง่าย ข้างบนมีห้องสองห้อง  ห้องด้านหน้ากับห้องด้านหลังหนุ่มจูงผมไปห้องด้านหน้า พอเปิดประตูเข้าไปเป็นห้องนอน มีตู้เสื้อผ้า ไม่มีเตียงแต่มีที่นอนหนาขนาด 5 ฟุตวางที่พื้น ห้องเต็มไปด้วยหนังสือ
              หนุ่มผลักผมลงนอนหงายลงบนที่นอนแล้วขึ้นมาคล่อมร่างผมไว้
              “ต๊ะเป็นแฟนกับเรานะ” หนุ่มนั่งทับสะโพกผมพร้อมเอามือสองข้างจับข้อมือผมกางออก
              “เฮ้ย....” ผมตกใจนิ่ง ไม่ตอบ เพราะไม่คิดว่าหนุ่มจะจู่โจมผมแบบนี้
              ผมไม่ตอบแต่จ้องหน้าหนุ่มนิ่งหนุ่มค่อย ๆ ก้มลงมาจูบปากผมอย่างแผ่วเบา ผมอ้าปากแลกลิ้นกับหนุ่มโดยลืมไปว่าเพิ่งกินต้มเส้นมาแต่ไม่ทันแล้ว เราดูดปากแลกลิ้นกันนาน หนุ่มค่อย ๆเลิกเสื้อยืดผมขึ้นแล้วก้มลงดูดดุนนมผม ทำให้ผมเสียวจนต้องแอ่นอกขึ้นรับปากหนุ่ม
              ผมได้สติกับมาแล้วเอามือประคองหน้าหนุ่มขึ้น แล้วจ้องเข้าไปในดวงตาของหนุ่ม
              “หนุ่มแน่ใจนะว่าจะเป็นแฟนกับเรา”
              “แน่ใจ” หนุ่มพนักหน้าเพื่อเป็นการยืนยัน
              “แต่เราคงจะให้ในสิ่งที่หนุ่มต้องการไม่ได้” ผมหมายถึงยอมให้หนุ่มเย็ดตูด เพราะหนุ่มเองก็ยังต้องการเย็ดเหมือนกัน
              “หมายถึงอะไรที่ให้เราไม่ได้”หนุ่มเริ่มหน้าเสียขึ้นมาทันที
              “คือ” ผมพูดได้แค่นั้น แต่มือไปขยำตูดหนุ่มเป็นการบอกกล่าวแทน
              “หมายถึงเย็ดตูดนะหรอ” ผมพยักหน้าเบา ๆ หนุ่มยิ้มหวานขึ้นมาทันทีพร้อมกับก้มลงมากระซิบที่ข้างหู
              “เราจะยอมเป็นเมียต๊ะฝ่ายเดียวและเป็นเมียต๊ะคนเดียว”ผมยกหน้าหนุ่มขึ้นแล้วจ้องเข้าไปในดวงตากลมใสของหนุ่มแววตาหนุ่มหวานจนเยิ้มที่สุดเท่าที่ผมเคยจ้องตาใครมา ผมพลิกตัวหนุ่มลงแล้วขึ้นคล่อมร่างหนุ่ม ค่อย ๆ ปลดเสื้อตัวเองหนุ่มเองก็ปลดเสื้อผ้าตัวเองเหมือนกัน จนร่างกายเราสองคนเปลือยเปล่าทั้งคู่
              ผมแนบร่างทาบทับไปบนร่างหนุ่มเอาควยบดขยี้ควยปากก็จูบแลกลิ้นกันไปอย่างดุเดือด หนุ่มสนองตอบอย่างรุนแรงเช่นกัน
              หนุ่มจับผมพลิกลงนอนหงาย แล้วก้มลงดูดควยผม ผมกลัวเอาเปรียบเลยจับก้นหนุ่มขึ้นมาคล่อมหน้าผมอยู่ในท่า69  ผมจับควยหนุ่มดูดเบา ๆหนุ่มเผลอกระแทกควยกดใส่ปากผม จนผมต้องประคองไว้ หลัวหนุ่มกระแทกควยลงมาอีกผมเอามือคลำที่ตูดหนุ่มไม่มีการบวมแสดงว่าเมื่อคืนไม่เกิดการปลิผมเอานิ้วมือดูดน้ำลายชนชุ่มแล้วค่อย ๆ แทรกเข้าไปในรูตูดหนุ่มหนุ่มมีอาการเกร็งกระตุกอย่างเห็นได้ชัด ผมเพิ่มจาก 1 นิ้วเป็นสองนิ้วจนรูตูดหนุ่มขยายกว้าง หนุ่มเปลี่ยนท่ามานั่งยอง ๆคล่อมสะโพกผมแล้วจับควยผมตั้งตรง ก่อนที่จะค่อย ๆ หย่อนตูดลงใส่ควยผมผมมองดูควยผมค่อย ๆ ไหลเข้าตูดหนุ่ม หนุ่มแหงนหน้าหลับตา กัดฟันจนแก้มปูดโปน
              “ไหวมั้ย”
              หนุ่มไม่ตอบแต่กดตูดลงมาเรื่อยๆ จนควยผมเข้าไปตุงในตูดหนุ่มทั้งดุ้น หนุ่มนั่งนิ่ง ก้มหน้ามามองผมเมือบี้หัวนมผมเบา ๆ นมผมแข็งเป็นไต
              หนุ่มก้มลงมาจูบปากผมอีกครั้งโดยที่ตูดเริ่มขมิบตอดเป็นระยะ ซึ่งผมก็กระดกควยใส่ตูดหนุ่มเช่นกันหนุ่มเริ่มโยกเอวบดตูดใส่ควยผมเบา ๆพร้อมกับลุกขุ้นนั่งเพื่อโยกตูดใส่ควยผมเต็มที่ ควยหนุ่มแข็งฟาดหน้าท้องผมผมกำควยหนุ่มแน่นพร้อมกับกดไว้ที่หน้าท้องหนุ่มกระเด้าเย็ดมือผมโดยที่ตูดหนุ่มบดยขี้ควยผมพร้อมตอดรุนแรงขึ้น
              หนุ่มชันเข่าขึ้นเพื่อให้อยู่ในท่าที่ถนัดก่อนที่จะกระเด้าเย็ดมือผมพร้อมขมิบตูดตอดควยผม เร็วขึ้น แรงขึ้น
              “อ้า...........เสียวมากเลยต๊ะ”
              “เราเองก็เสียวแรง ๆ เลย”
              “ต๊ะเราไม่ไหวแล้ว”
              “เราจะแตกแล้วหนุ่มแรงอีก”
              ผมเสียวสุดๆ เพราะรูตูดหนุ่มตอดรุนแรงมาก จนผมพ่ายต้องกระดกควยปล่อยน้ำใส่ตูดหนุ่มหนุ่มคงรับรู้ได้ว่าผมน้ำแตกเร่งจังหวะแล้วกระตุกเกร็ง ปล่อยน้ำใส่มือผมท่วมท้น
              พอหนุ่มน้ำแตกหนุ่มซบลงที่อกผม หายใจหอบโยน ผมกอดหนุ่มไว้แน่นนานเนิ่นนานจนควยผมหดแล้วลื่นไหลหลุดออกจากตูดหนุ่ม
              พอเราสองคนน้ำแตกพายุกามก็สงบเรานอนกอดกันแน่นโดยหนุ่มลงมานอนซบที่อกผม
              “บ้านเงียบดีเนาะ”ผมพูดขึ้นทำลายความเงียบ
              “เราอยู่คนเดียวพ่อแม่อยู่ต่างอำเถอ มาเช่าที่นี่ให้เรียน” ถึงว่าบ้านมันดูโล่งๆ     
              “แล้วไม่ชวนเพื่อนมาอยู่ด้วยล่ะ”
              “แม่พ่อกับแม่จะเข้ามาจังหวัดเดือนละครั้งสองครั้งแล้วจะมาพักด้วยห้องข้างหลัง เลยไม่อยากให้ใครมาอยู่ด้วย
              “แล้วถ้าเรามาอยู่ด้วยล่ะ”
              “อย่ามาทำเป็นปากดีเลย”ผมก็พูดไปงั้นแหละครับ เพราะผมก็ยังติดเรียนที่จังหวัดผม
              “จริงถ้าเรามาอยู่ด้วยจะให้อยู่ในฐานะอะไร”
              “นายอยากอยู่ในฐานะอะไรล่ะ”
              “แล้วเมื่อกี้เราอยู่ในฐานะอะไรก็อยู่ในฐานะนั้นแหละ” หนุ่มอายเอามือบิดหัวนมผมเล่น
              “โอ้ย...เจ็บ” ผมกำมือหนุ่มแน่น หนุ่มเงยหน้าขึ้นมาสบตาผมนิ่ง
              “นายจะเป็นผัวคนแรกและเป็นผัวคนสุดท้ายของเรา”
              เราสองคนนอนพักหายเหนื่อยแล้วลุกไปอาบน้ำแต่งตัวไปงาน
              เราไปถึงงานประมาณ5 โมงเช้า เจอไอ้นะมันมองหน้าเราสองคนแล้วอมยิ้ม ไอ้หนุ่มไม่รู้ความหมายแต่ผมรู้ความหายที่ไอ้นะมันยิ้มเต็ม ๆ
              “จัดไปกี่ดอกละมึง” ไอ้นะมีโอกาสหันมาแอบกระซิบ
              “ดอกเดิกอะไร.......ไม่มี้”ผมเสียงสูงขึ้นมาทันที
              “เดี๋ยวกูถีบไปโน่น.....”ไอ้นะไม่พูดเปล่ามันยกตีนจะถีบผม ผมรีบเดินไปหาหนุ่มทันที แต่ไม่วายที่จะหันมายักคิ้วใส่ไอ้นะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น