ห้องผมมีประมาณ20 คน แต่ละคนก็รูปร่างหน้าตาก็ถือว่าเป็นดาวประจำวิทยาลัยได้เลยอีกอย่างแต่ละคนก็มีความสามารถพิเศษบางคนก็เป็นนักร้องซึ่งก็มีทั้งนักร้องลูกทุ่งแนวเสียงยอดรัก สลักใจ แนวเสียงสายัญ สัญญา ส่วนสตริงก็แนวชาตรี คีรีบูน และนักคนตรี บางคนก็เป็นนักกีฬาของวิทยาลัย นักบาสบ้าง วอลเล่บอลบ้าง เดินไปตรงไหนสาวพานิชย์พากันมองตากลับ สมัยผมผู้ชายถือว่าเป็นเนื้อทองกันเลยนะ หยิ่งจองหอง ไม่ค่อยสนใจผู้หญิงกันเท่าไหร่ อาจจะเป็นแค่แผนกผมหรือเปล่าก็ไม่รู้เพราะแผนกผมอย่างที่บอกมีแต่รวมดารา ส่วนผมก็ธรรมดา รูปร่างก็เล็กกว่าเพื่อนถ้าตาก็ไทยแท้ ผิวสีแทน ผมตรง ไม่อ้วนไม่ผอม เวลายืนเรียงแถวถ้านับจากสูงไปหาเตี้ยผมก็จะอยู่ประมาณคนที่ 13-16 เตี้ยกว่าผมก็มีแต่เป็นแบบสมส่วนไม่มีใครอ้วนถ้าวัดน้ำหนักมวลกายสมัยนี้ก็คงอยู่ในเกณฑ์ดีกันทุกคน
เพื่อน ๆผมวันไหนมีซ้อมผมก็มีหน้าที่รายงานครูและจดแล็กเชอร์ให้ละเอียดเพื่อไปสอนมันต่ออีกทีนึง โดยได้รับการร้องขอจากครู และการขู่กรรโชกจากเพื่อน ๆดังนั้นเรื่องเรียนผมจึงอยู่ที่ 3-5 ของห้องตลอด ส่วนที่ 1 กับที่ 2 มีคนจองแล้วคนแรกก็ลูกครู คนที่สองก็ลูกพ่อค้าขายก๊วยเตี๋ยวในตลาด สองคนนี้แข่งขันกันเรียนเอาที่ 1 ของห้อง คนที่ได้ที่ 1 ก็จะมีอาการเยาะเย้ยถากถาง คนที่ได้ที่ 2 ก็จะออกอาการโกรธ ครั้งต่อไปมันก็พยายามเอาที่ 1 มาให้ได้ แล้วก็เยาะเย้ยกันไปเยาะเย้ยกันมา แต่ไม่เคยเห็นมันต่อยกันซักที มันจะมีอาการก็ตอนประกาศผลสอบเท่านั้น หลังจากนั้นสัก 4-5วันก็ไม่เห็นมันมีอะไรก็พูดคุยกันปกติ
ไอ้วุฒิเพื่อนที่ครองตำแหน่งที่20 ของห้องมาตลอดมันสงสัยว่าไอ้สองคนนี้มันแข่งกันไปทำอะไร พวกเรา 20 คนเรียนห้องเดียวกันตั้งแต่ปี 1จนจบปี 3
ผมไม่เป็นดาวของห้อง แต่ผมกลับเป็นที่เกรงใจของเพื่อน ๆ เพราะคอยติวคอยทำรายงาน คอยทำการบ้านให้และคอยจดแล็กเชอร์ให้ ดังนั้นเวลาผมพูดอะไรเพื่อน ๆ ในห้องค่อนข้างเชื่อฟัง
มีสาว ๆพานิชย์หลายคนแอบมาขอเบอร์บ้านเพื่อนผม หรือไม่ก็แอบมาถามว่าเขาชอบอะไร เกิดวันไหน มันเลยทำให้ผมเป็นที่รู้จักของสาว ๆ พานิชย์เกือบทุกชั้น รวมทั้งสาว ๆ บางคนที่เรียนสายช่างด้วย ก็บอกแล้วว่าเพื่อนผมมันหล่อ
ไอ้วุฒิมันไม่รู้วัตถุประสงค์ที่สาวๆ เข้ามาคุยกับผม มันคิดว่าผมเจ้าชู้จีบคนโน้นจีบคนนี้ แล้วมันเคยว่าผมว่าสารรูปอย่างผมทำไมมีสาว ๆ มาหาเยอะมากเดินไปตรงไหนวิ่งมาทักบ้าง หลิ่วตาให้บ้าง ผมก็บอกไม่มีอะไรมันก็ด่าผมหาว่าผมมีของดีแล้วไม่บอกมันมั่ง ผมจะบอกมันได้ยังไงสาว ๆที่มาหาและหลิ่วตาให้กูนะมันอยากได้เบอร์ไอ้พวกนั้นที่มันหลิ่วตานะหมายถึงรู้กัน เพราะผมมีข้อแม้ว่า ขนมถึงมือผมพวกคุณก็จะได้ตามที่ขอฮ่า ฮ่า ฮ่า
เพื่อน ๆในห้องก็แปลกใจว่าผมทำไมมีขนมมาแบ่งกันกินทุกวัน รวยมาจากไหน ผมก็ไม่บอก เป็นแบบนี้เรื่อยมา
เดือนหน้าเป็นเดือนเกิดผมกะฉลองวันเกิดสักครั้งในชีวิต เมื่อมาอยู่ที่นี่เห็นพี่ เขาจัดงานฉลองวันเกิดกันประจำ ไม่รู้เกิดจริงหรือเกิดอยากกินก็ไม่รู้ ตกเย็นมาก็ชนแก้ว ชนแก้ว เจ้าของหอก็ไม่ได้เข้มงวดมึงอยากเสียงดังมึงอยากกินก็กินกันไป เพราะในหอก็มีแต่เพื่อน ๆ กันไม่มีใครบ่นใคร รอบ ๆ หอก็เป็นทุ่งนาสลับกับบ้านล้างเลยไม่ต้องกลัวใครหนวกหู
ผมก็เลยอยากลองจัดงานวันเกิดดูสักครั้ง ผมบอกเพื่อน ๆว่าเสาร์ที่จะถึงนี้ไปที่หอนะมีเหล้าให้กิน แบบไม่อั้น ตอนนั้นมีเงินในกระเป๋าเกือบ 3000 บาทเหล้าขาวขวดล่ะ 22 มันจะหมดสักเท่าไหร่ ที่นี่เขากินเหล้าขาว 40 ดีกรีผสมน้ำแดง เหล้าขาว 1 ขวดจะใช้น้ำแดงขวด 1 ลิตร 1 ขวด มันจะไม่บาดคอแต่ก็ยังมีกลิ่นเหล้าแรงมากเหมือนกัน
บ่ายวันเสาร์ผมออกไปซื้อขนมเค้กขนาด2 ปอนด์ 150 บาท พร้อมเทียน 1 เล่ม อยากเป่าเค้กวันเกิดกับเขามั่ง แล้วก็ซื้อเหล้าขาวมา 3 ขวดและน้ำอัดลมน้ำแดงขนาด1 ลิตร 3 ขวดมาเตรียมไว้ เย็น ๆผมก็ออกไปซื้อกับข้าวที่ตลาดเย็นได้หมูทอด ไก่ทอด ไส้กรอก และต้มไก่ กะว่าประมาณ 10 คนกินกันสบาย
ประมาณ 1ทุ่มตรงไอ้ดอนกลับมาจากวิทยาลัยในสภาพที่หิวโซ มันถามว่า
“ต๊ะ....ยังไม่มีใครมาหรอ”
“ไม่เห็นมีใครมาเลย พี่ ๆเขาหายไปไหนกันหมดก็ไม่รู้แต่ละห้องปิดเงียบเลย เจ้าของหอก็ปิดบ้านไปไหนก็ไม่รู้”
“แล้วเพื่อน ๆที่ห้องมึงล่ะไม่เห็นมีใครมาเลย”
“มันบอกถ้าว่างมันจะมา แต่กูไม่หวังอยู่แล้วเพราะแต่ละคนกว่าจะขอตัวออกจากบ้านได้ พ่อแม่มันหวงกันซิบหายเลย”
“เออแล้วพี่ ๆเขาหายไปไหนกันหมด แต่ละห้องก็ปิดไฟ พี่นาวก็ไม่อยู่” ไอ้ดอนมันพูดพร้อมกับมองไปรอบ ๆ ที่เอ่ยถึงพี่นาว เพราะทั้งหอรู้สึกว่าพี่แกใจดีที่สุด และก็กล้าพูดเล่นด้วย นอกนั้นแต่ละคนขาโหดกันทั้งนั้น
“กูกินก่อนได้มั้ยกูหิวมากเลย จานใช้งานกูเชื่อมจนแสบตาไปหมดแล้ว”
“เดี๋ยวรอแปบนึง...เผื่อพี่ ๆเขามามันจะได้ไม่น่าเกียด” ผมท้วงติงไอ้ดอน
เวลาผ่านไปถึง3ทุ่มไม่มีใครมา ยุงก็กัด ผมย้ายของกินและเหล้าเข้าไปในห้องวางบนเตียงนอน แล้วปิดประตู
ผมหันไปดูเห็นไอ้ดอนก้มหน้าก้มตากินข้าวแล้วก็ขนมเค้ก โดยไม่แตะเหล้าเลย จะว่าผมสองคนดื่มเหล้ายังไม่เป็นก็อาจจะเป็นได้เลยไม่สนใจเหล้า
ผมรู้สึกน้อยใจพี่ๆ เลยอยากลองเมาดู เปิดเหล้าขาวเทใส่แก้วแล้วตามด้วยแฟนต้าน้ำแดง ครึ่งแก้ว ค่อย ๆปิดจมูกแล้วก็ดื่มรวดเดียวหมด รสชาติมันหวานๆ ซ่า ๆ และขมติดลิ้น แต่สักพักท้องมีอาการร้อนข้างในมาก ขนผมลุกซู่ สบัดหัวไปมาแบบสุด ๆ
“ดอนมึงลองดิ รู้สึกแปลก ๆ ดี กูเห็นพี่เขากินกันอร่อยดีเหมือนกันนะ
หวานด้วย” ผมหันไปทางไอ้ดอนที่กำลังป้ายขนมเค้กกินอย่างเอร็ดอร่อยไม่ต้องมีมีดตัดให้เสียเวลา อยากกินตรงไหนมันก็เอานิ้วชี้จิ้มลงไปแล้วก็งอนิ้วชี้ตักขนมเค้กขึ้นมากินพร้อมกับดูดนิ้วแล้วก็จิ้มลงไปใหม่
ผมเห็นไอ้ดอนทำก็ไม่คิดอะไรเพราะยังไงผมก็ไม่หวังจะเป่ามันแล้วเค็กวันเกิด ผมรินเหล้าให้ไอ้ดอนแล้วเทแฟนต้าน้ำแดงตามไปมันยกทีเดียวหมดแก้วเหมือนกัน
“ฮ่า.........มันหวาน ๆ ซ่า ๆขม ๆ ยังไงไม่รู้เนาะ แต่อร่อยดีว่ะต๊ะ เอาอีก เอาอีก” ได้ดอนยื่นแก้วเหล้าให้ผมพร้อมกับเอาอีกเอาอีก ผมรับแก้วมาแล้วก็รีบเทเหล้าแล้วผสมแฟนต้าน้ำแดงลงไปยื่นให้มัน แรก ๆผสมแล้วก็ประมาณครึ่งแก้ว แก้วขนาด 280ซีซี พอหลัง ๆเต็มแก้วมันก็ยกดื่มรวดเดียวหมด
“กูไม่ร้อนท้องเท่าไหร่เลย แต่ไหนมึงบอกว่ามันร้อนท้องไง” มันหันมาถามผม คงเพราะมันกินกับข้าวและขนมลงไปรองท้องแล้ว แต่ผมยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เที่ยง
“เอาอีก เอาอีก” ไอ้ดอนร้องเอาอีก เอาอีกเหมือนเด็กอยากได้ของ ส่วนผมก็ได้แต่รินให้มัน ผมกินลงไปแค่สองแก้วรู้สึกท้องมันร้อนมาก หรือจะแสบก็ไม่รู้ก็เลยรินให้แต่ไอ้ดอน เหล้าหมดไป ครึ่งขวดแต่แฟนต้าน้ำแดงหมดไป 1ขวดลิตร
ไอ้ดอนเริ่มถอดเสื้อช็อบกับกางเกงออกคงเริ่มร้อนเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ซึ่งผมก็ถอดเสื้อไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เหลือแต่กางเกงขาสั้น ผมไม่ได้ดูนาฬิกาว่ากี่โมงแต่หันไปเก็บถ้วยจานที่หมดแล้วหันกลับมาอีกทีไอ้ดอนนอนแผ่หลา โดยนุ่งแค่กางเกงในสีตุ่น ๆ เพียงตัวเดียว ผมเองก็ตาปรือ ๆ ทั้งง่วงและเมาด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น