วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

หลอกเย็ดเพื่อนร่วมหอ 45 ตอนติวเตอร์ข้ามแผนก

                  เด็กที่เรียนสายช่าง จะได้เรียนสาขาอื่นที่เกี่ยวข้องกันด้วยอย่างผมเรียนไฟฟ้า ก็ต้องเรียนอีเล็กทรอนิกส์ เรียนเชื่อม เรียนก่อสร้างแต่เป็นวิชาเสริม เพราะสาขาไฟฟ้าจะว่าเกี่ยวข้องกับทุกสาขาก็ไม่แปลก เวลาเราไปเรียนสาช่างอื่นก็ไปเรียนตามชอฟของสาขาหรือแผนกนั้น
                  ผมลงเรียนอีเล็กทรอนิกส์พื้นฐานเทอมละ 2คาบ เพื่อนไปเรียนทุกคน บางวันก็มีเด็กสาขาอื่นหรือสาขาอีเล็กทรอนิกส์มาแจมด้วยคนสองคน แต่ละคาบก็จะมีแปลกหน้ามาแจมด้วยเสมอดูจากเสื้อช็อฟก็พอมองออกว่ามาจากสาขาหรือแผนกไหน เช่นเสื้อชอ็ฟผมจะสีน้ำเงินอมเขียว อีเล็กทรอนิกส์จะน้ำเงินเข้ม ช่างก่อสร้างจะสีเทาช่างเชื่อมจะสีน้ำตาล ประมาณนี้
                  ขึ้นปี2 เทอมแรก พวกผมก็ลงเรียนอิเล็กทรอนิกส์พื้นฐาน 2 โดยเรียน 2 คาบ ต่อสัปดาห์ผ่านไปกลาง ๆ เทอมแต่ละแผนกเริ่มรู้จักผมมากขึ้น ไม่ใช่จากความหล่อเพราะหน้าตาแผนกไฟฟ้าถือว่าหล่อขั้นเทพแล้วแผนกอื่นก็มีประปราย แต่สิ่งที่ผมป็อบปูล่ามาจากที่ผมเรียนห้องเดียวกับดาวโรงเรียนเช่น นักกีฬา นักร้อง ผมเองก็ป็อบในเรื่องการเรียนเพราะเรื่องคำนวณผมถือว่าไม่เป็นสองรองใคร วิชาอื่นก็ถือว่าดี เพราะผ่านปี1มาด้วยเกรด 3.8 กว่า ๆ ทำให้บรรดาข้ามเส้นทั้งหลายมุ่งสายตามาที่ผมเพื่อให้ผมเป็นติวเตอร์ให้ทั้งรุ่นเดียวกัน รุ่นน้อง และรุ่นพี่
                  วันนี้ก็เช่นกันผมเข้าเรียนวิชาอีเล็กทรอนิกส์พื้นฐาน2 พอเรียนจบคาบกำลังจะก้าวออกจากห้องเรียนตามเพื่อน ๆ เพื่อไปโรงอาหาร
                  “ต๊ะ ต๊ะ” ผมหันไปตามเสียง เป็นไอ้สิทธิ์ หรือประสิทธิ์ แผนกอีเล็กทรอนิกส์ซึ่งเทอมนี้เข้าเรียนรวมวิชานี้กับแผนกผมเกือบทุกคาบ
                  “ว่าไงสิด”
                  “นายพอมีเวลามั้ยขอคุยด้วยหน่อย”
                  “ไม่ได้ทำไรกำลังจะไปกินข้าว”
                  “เรารบกวนเวลาไม่นานหรอก”
                  “เฮ้ย เจต นะพวกมึงไปกินข้าวก่อนเดี๋ยวกูตามไป” ผมหันไปทางไอ้เจตกับไอ้นะ ที่รออยู่นอกห้องเรียน
                  “เออ...เร็ว ๆนะมึง”
                  “เออไม่นานหรอก” ผมหันไปบอกเพื่อน ๆก่อนที่พวกมันจะรีบไปกินข้าวเที่ยงกัน เพราะมีคาบบ่ายต้องเรียนต่อ
                  “ว่ามามีไรหรอสิทธิ์”
                  “คือเราเรียนไม่ทัน เพราะมีปัญหาทางบ้านนิดหน่อย เลยอยากให้นายมาช่วยติวให้เพราะเห็นเพื่อน ๆ นายบอกว่านายเก่งคำนวณ และก็หลายวิชา”
                  “ในห้องเรามีเรียนเก่งกว่าเราอีกนะไม่ลองให้มันช่วยติวให้ล่ะ”
                  “เราไปคุยมาแล้วแต่เขาไม่ยอมเขาบอกว่าไม่มีเวลา ต้องช่วยบ้านทำงาน”  เออก็จริง เพราะไอ้สองคนดาวเด่นของผมมันเป็นคนในตัวจังหวัดเลิกเรียนก็รีบกลับไปอ่านหนังสือ ช่วยพ่อแม่ทำงานด้วยแล้วนิสัยไอ้สองคนนั้นก็ออกหยิ่ง ๆ เรื่องที่จะช่วยให้ใครเรียนดีเท่าทันหรือดีกว่ามันไม่มีทาง เพราะมันกลัวมาแข่งมัน
                  “ไม่ต้องกลัวนะเรามีค่าจ้างเราคุยกับแม่เราแล้ว แม่เราอนุญาต”
                  “มันไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินหรอก เพราะพวกเราก็ติวกันเป็นประจำอยู่แล้วไปติวร่วมกับพวกเราก็ได้นะ”
                  “เรามีเวลาว่างไม่ตรงกันนะดิเราเช็กแล้ว เคยเห็นพวกนายติวกันหลายครั้ง อยากเข้าไปร่วมแจมด้วยแต่เราเรียนวิชาอื่นอยู่” ก็จริงเนาะเพราะไอ้สิทธิ์กับผมเรียนคนละแผนก
                  “งั้นเดี๋ยวดูอีกทีแล้วกันว่าจะเรียนช่วงไหน”
                  “เราขอตอนเลิกเรียนได้มั้ยวันละ2-3 ชั่วโมงก็ได้ นายสะดวกที่ไหน ที่บ้านเราก็ได้นะ”
                  “เฮ้ย...แบบนั้นเป็นทางการไปเดี่ยวเราบอกอีกทีดีกว่าอาจจะที่วิทลัยหรือที่หอเรา”
                  “ได้เราจะรอคำตอบนะ ...ขอบใจมาก” พอพูดจบไอ้สิทธิ์ก็เดินออกไปจากห้องเรียนผมรีบคว้าของไปที่โรงอาหารทันที
                  “ไอ้สิทธิ์มันคุยไรกับมึงหรอต๊ะ” พอหย่อนตูดลงนั่งได้ไอ้นะก็เอ่ยปากถามทันที
                  “อ้าวไอ้เจตไปไหน”
                  “มันกินข้าวยังไม่เสร็จมันก็รีบวิ่งไปหน้าวิทยาลัยจานข้าวมันแห้งกรังอยู่นั่น”
                  “มันไปทำไร”
                  “ว่าแต่มึงเถอะ ไอ้สิทธิ์มีไรคุยกับมึง”
                  พลั๊ก!!!! ยังไม่ทันได้เล่าก็มีฝ่ามือมาตบหลังอย่างแรง ผมหันไปทางเจ้าของมือ
                  “เหี้ยเจตแม่งไปไหนมา”
                  “แก้วเอาของมาให้” แก้วคือสาวนักเรียน ม.5 โรงเรียนสตรีประจำจังหวัด เมียมันนั่นเอง
                  “เมียมึงเอาอะไรมาให้” ไอ้นะจอมสอดรู้สอดเห็นถามขึ้นมา
                  “กูยังไม่ได้แกะเลย” ไอ้เจตมันยื่นถุงกระดาษสีน้ำตาลให้ดู ไอ้นะรีบหยิบไปดูทันที
                  “กูแกะนะ” มันพูดโดยไม่ขอความเห็นไอ้เจต
                  ข้างในถุงกระดาษเป็นห่อของขวัญไม่ใหญ่มากห่อด้วยกระดาษห่อของขวัญรูปหัวใจพื้นสีขาว หัวใจสีแดง อย่างสวยงาม
                  “ห่อสวยเกินไป  มึงแกะเองดีกว่า” ไอ้นะเปลี่ยนใจยื่นกล่องคืนไอ้เจต
                  “แก้วให้เนื่องในโอกาสไรว๊ะเจต” ผมหันไปถามไอ้เจต
                  “วันนี้วันเกิดแก้ว”
                  “วันเกิดแก้วแต่เขากับเอาของขวัญมาให้มึงนี้นะ
                  “เออกูก็ไม่รู้” ไอ้เจตพูดไปทำหน้างงไป
                  “แหม.....กูอยากมีแฟนแบบนี้บ้างจังเลย” ไอ้นะโพล่งขึ้นมา
                  “ว่าแต่ไอ้สิทธิ์คุยไรกับมึงหรอต๊ะ” ไอ้เจตตักข้าวเข้าปากไปหันมาถามผมเรื่องที่ไอ้สิทธิ์ขอคุยด้วย
                  “มันจะให้กูช่วยติวให้มันมาเรียนไม่ครบเลยตามเพื่อนไม่ทัน แม่มันเลยให้หาคนมาติวให้”
                  “หรอ วิชาไรล่ะ”
                  “มอเตอร์ไฟฟ้ากับคณิตศาสตร์”
                  “สองวิชานี้มึงเก่งนี่หว่าทำไมไม่ให้มันมาติวกับพวกเราล่ะ พวกเราติวกันเวลาว่างประจำอยู่แล้วนี่”
                  “บอกมันแล้วแต่เวลาเราว่าง มันก็ไม่ว่าง เพราะเราเรียนกันคนละแผนก”
                  “เออใช่” ไอ้นะเห็นด้วยทันที
                  “แล้วมึงติวเมื่อไหร่”
                  “มันจะให้กูไปติวที่บ้านแม่มันจะจ่ายเงินให้ด้วย แต่กูไม่เอา”
                  “เหี้ยให้เงินก็เอาดิว๊ะ”
                  “ได้เงินเพราะขี้เกียดอย่างพวกมึงกูถึงจะรับแต่ไอ้สิทธิ์มันไม่ได้ขี้เกียด”
                  “ไอ้เหี้ยเห็นขี้ดีกว่าไส้” ไอ้นะพูดไปทำหน้างอไป
                  “เอาน่าถือว่าช่วยๆ กันไป กูยังไม่รับปาก ว่าจะไปติวที่บ้านมัน เพราะกูเองก็เกร็ง ๆว่าจะนัดกันที่ห้องสมุดหลังเลิกเรียนนี่แหละกูให้มันเอาตารางเรียนมาเทียบกันก่อนว่าวันไหนว่างพอมีเวลาบ้าง”
                  “จ้า ไอ้พ่อพระถ้าพวกกูอยู่ด้วยจะไปติวด้วยนะ อย่าทิ้งพวกกูล่ะ ไม่งั้นมึงโดนกระทืบแน่”
                  “เออ....ไงกูก็ไม่ทิ้งพวกมึงหรอกรีบกินอีกไม่กี่นาทีก็เข้าเรียนแล้ว”
                  กินเสร็จเราเก็บช้อนเก็บจานแล้วรีบขึ้นอาคารเรียน
***************
                  วันนี้วันศุกร์พอเลิกเรียนประมาณ5 โมงเย็นต่างคนก็ต่างรีบกลับบ้าน เพราะบางคนกลับต่างอำเภอ หลังจากลาเพื่อน ๆผมก็เดินมาหน้าประตูวิทลัย
                  “ต๊ะ ต๊ะ” ผมหันไปตามเสียง
                  “ว่าไงสิทธิ์  เราเอาตารางเรียนมาให้นายลองดูดิว่าจะติวให้เราได้วันไหนบ้าง”ผมรับตารางเรียนมันมา แล้วเดินไปนั่งโต๊ะหินอ่อนตรงป้อมยามเอาตารางเรียนผมกับตารางเรียนไอ้สิทธิ์มาเทียบกัน
                  “เวลากลางวันว่างไม่ตรงกันเลยจะมีก็วันพุธวันเดียวเราเลิกเรียนบ่าย 3 แต่นายเริ่มเรียน บ่าย 4 จนถึงทุ่มนึงแล้วก็วันจันทร์กับวันศุกร์ ที่เราเลิก 5 โมงพร้อมกัน นอกนั้นก็หลังทุ่มนึง
                  “งั้นเอางี้มั้ยวันจันทร์กับวันศุกร์ ติวกัน 5 โมงถึงทุ่มนึงวันละสองชั่วโมงที่ห้องสมุดเพราะห้องสมุดเราปิดทุ่มนึง วันพุธเราเลิกเรียนแล้วจะนั่งรอนายที่ห้องสมุดนายมาถึงบ่าย 3 ติวกันสักชั่วโมงนึง แล้วนายค่อยขึ้นห้องเรียน”
                  “อาทิตนึง 3วัน ก็ดีเหมือนกัน ว่าแต่นายจะเอาเท่าไหร่แม่เราฝากถาม”
                  “เฮ้ยเราไม่เอาค่าจ้างหรอก เราถือว่าได้ทบทวนด้วยแต่ถ้านายเห็นเราติวกันถ้านายไม่ติดเรียนก็เข้าไปแจมได้เลยนะ เราบอกเพื่อน ๆไว้แล้ว”
                  “ขอบใจมากเดี่ยวกลับไปบอกแม่วันนี้เลย ว่าแต่เริ่มเมื่อไหร่ดี อาทิตย์หน้าเลยดีมั้ย”
                  “ได้เรายังไงก็ได้”
                  พอตกลงกันเสร็จต่างคนก็ต่างแยกย้ายผมเดินกลับหอไอ้สิทธิ์ขี่มอไซต์กลับบ้านซึ่งออกไปทางฝายน้ำล้น คนละฝั่งของตัวเมืองกับผมหอผมเดินไม่กี่อึดใจก็ถึงแล้ว
                  เสาร์อาทิตย์พวกเด็กหอส่วนใหญ่ตื่นสาย ส่วนพวกอยู่กับพ่อแม่ก็ตื่นมาช่วยครอบครัวทำมาหากินปกติผมตื่นประมาณเกือบเที่ยง มาซักผ้าที่แช่ไว้ตั้งแต่เมื่อวานเดินลงไปตากผ้าสวนกับพี่จิ๋มใหญ่หอผมมีสองจิ๋ม จิ๋มใหญ่กับจิ๋มเล็กพี่ทั้งสองชื่อจิ๋มเหมือนกันแต่ไม่รู้จะเรียกจิ๋มไหนเลยหาคำสร้อยเติมซึ่งก็พิจารณาไม่ยากคือดูจากรูปร่างของพี่จิ๋มทั้งสองพี่จิ๋มอ้วนกับพี่จิ๋มผอม ซึ่งจะเรียกอย่างนั้นก็ดูไม่ดีเลยเรียกพี่จิ๋มใหญ่กับพี่จิ๋มเล็ก เรียกกันในหอก็ไม่เท่าไหร่ ไปเผลอเรียกกันพี่จิ๋มใหญ่พี่จิ๋มเล็กในตลาดหลายครั้ง พี่แกดิ่งมาตีแขนออกบ่อยเพราะคนทั้งตลาดกันมามองจิ๋มเป็นตาเดียวกัน 55555555
                  การเป็นติวเตอร์ของผมก็ผ่านพ้นด้วยดีอย่างต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ตามปกติ ทั้งติวให้เพื่อน ติวให้ไอ้สิทธิ์หลายครั้งที่อาจารย์ไอ้สิทธิ์โดดสอน มันว่างก็รีบมาแจมติวร่วมกับผมถือว่ามันขยันใช้ได้ ไม่นานมันก็เริ่มตามทัน แม่มันฝากขนมมาให้กินบ่อยครั้ง กินไปติวไปทำให้ไอ้สิทธิ์เข้ามาเป็นสมาชิกส่วนหนึ่งของกลุ่ม ผมเคยเจอแม่ไอ้สิทธิ์สองสามครั้งแม่มันขอบคุณผมเป็นการใหญ่ที่ทำให้ไอ้สิทธิ์ไม่ต้องเรียนซ้ำชั้น
                  “เฮ้ยสิทธิ์ทางนี้” ไอ้เจตเห็นไอ้สิทธ์เดินเข้ามาในโรงอาหารกวักมือเรียกเพื่อมานั่งร่วมโต๊ะกินข้าวกัน ซึ่งก็ไม่บ่อยนักเพราะไอ้สิทธิ์เองมันก็มีเพื่อนสนิทในแผนกเหมือนกัน
                  “ต๊ะแม่กูฝากมาให้” ไอ้สิทธิ์ยื่นถุงหิ้วให้ซึ่งก็เดาไม่ยากต้องเป็นขนมแน่นอนไอ้นะรับไปอย่างรวดเร็ว
                  “ลาภปากพวกกูอีกแล้วใช่มั้ยเจต”
                  “เออ 5555555” ไอ้เจตกับไอ้นะเลิกกินข้าวหันมาสนใจห่อนมทันที
                  “แม่กูไปต่างจังหวัดมาเลยซื้อขนมมาฝากพวกมึง” หลังจากสร้างความคุ้นเคยกันสองเดือนกว่าๆ จากสรรพนามที่ใช้เรา นาย ก็เปลี่ยนมาเป็นกู มึง ไอ้เหี้ย ไอ้สัส อย่างถาวร
                  “แม่มึงรู้ได้ไงว่ากูชอบขนมแบบนี้” ไอ้นะจอมตะกละ ถามไอ้สิทธิ์โดยปากยังเคี้ยวตุ้ย ๆ
                  “แม่กูไปเข้าฝันถามมึงวันก่อนไงนะ”
                  “เหี้ยล่ะ” ไอ้นะซึ่งเป็นคนที่ค่อนข้างจะหลอน ๆ เกี่ยวกับเรื่องผี ซึ่งพวกเรารู้ดีแล้วไอ้สิทธิ์ก็รู้จุดอ่อนของไอ้นะข้อนี้ดีด้วย ไอ้นะรีบวางขนม แล้วหันซ้ายหันขวา
                  “มึงหันหาใครนะ”
                  “แม่ไอ้สิทธิ์มาแถวนี้หรือเปล่า”
                  “ไอ้เหี้ยแม่กูยังไม่ตายโว้ย” ไอ้สิทธิ์ด่าไอ้นะแบบขำ ๆ
                  “กูไปล่ะแม่ฝากเอาขนมมาให้แค่นี้แหละ เพื่อนกูรอกินข้าว เดี๋ยวขึ้นเรียนไม่ทัน”
                  “ฝากกราบขอบคุณท่านด้วยนะ” ผมฝากคำพูดไปบอกแม่ไอ้สิทธิ์ด้วย
                  “เออจะบอกให้...ไปล่ะบาย” ไอ้สิทธิ์มันรีบเดินไปหากลุ่มเพื่อน ๆ มัน
***********
                  อาทิตหน้าจะมีงานประจำปีโรงเรียนเป็นการแข่งทักษะฝีมือช่าง เพื่อคัดเลือกไปแข่งระดับจังหวัด ระดับภาคและระดับประเทศ แต่ละแผนกเลยออกซุ้มแข่งขันกันอย่างสวยงามซึ่งแต่ละซุ้มมองแวบเดียวก็เดาออกว่าเป็นของแผนกไหน แผนกก่อสร้างก็จัดซุ้มในรูปแบบสถาปัตยกรรมแผนกพานิชย์ก็ออกแนวออฟฟิตสวย ๆ งาม ๆ  แผนกช่างเชื่อมเอาเศษเหล็กมาเชื่อมเป็นหุ่นยนต์แผนกอีเล็กทรอนิกส์ก็โชร์พวกไฟกระพริบจากหลอดเเอลอีดี ส่วนแผนกไฟฟ้าปีนี้มาแปลกตั้งเวทีแล้วเล่นดนตรีสด เพราะนักดนตรี นักร้อง นักกีฬา ส่วนใหญ่อยู่ที่แผนกไฟฟ้าเราเลยสร้างจุดขายเพื่อเรียกความสนใจจากสาว ๆ ซึ่งก็ได้ผลเกินคาด ไอ้พวกนักดนตรีก็ขยันซ้อมกันเรียกเสียงกรีสสร้างความหมั่นไส้ให้กับอาจารย์ฝ่ายปกครองที่ต้องออกมาปรามสาว ๆ หนักเข้าสาว ๆไม่ฟังก็หันมาปรามพวกเราแทน 55555
                  การแข่งขันทักษะผีมือช่างจะให้แต่ละแผนกแข่งกันภายในก่อน แล้วคัดเลือกแต่ละประเภทให้เหลือ 5 คนเพื่อแข่งขันหาที่ 1-3 คนที่ได้ที่ 1 จะได้ไปแข่งระดับจังหวัด
                  โดยแผนกผมแข่งเดินสายไฟฟ้าภายในพันมอเตอร์ไฟฟ้า และการเดินสายและติดตั้งชุดควบคุม ซึ่งทั้งสามอย่าง พวกผมไม่มีฝีมือทางช่างเลยมอบให้ห้องอื่นไปพวกผมก็เก่งแต่ทฤษฎี
                  “ต๊ะ ไอ้เจตไอ้นะกลับแล้วหรอ” ผมหันไปตามเสียงเป็นไอ้สิทธิ์ ขณะที่ผมกำลังจะปิดชอฟไฟฟ้าผมเป็นหัวหน้าห้องจะมีกุญแจพิเศษอีก 1 พวง เพื่อเข้าออกได้
                  “กลับไปตั้งแต่4 โมงโน่น มันจะไปเอาแอมป์ใครก็ไม่รู้
                  แอมป์คือเครื่องขยายเสียงที่จะเอามาเล่นดนตรีอาทิตย์หน้า
                  “แล้วยังไม่กลับหรอ”
                  “กำลังจะกลับเหมือนกันเอาจักรยานมาปะเดี๋ยวไปส่ง”
                  “ไม่เป็นไรใกล้แค่นี้เอง”ไอสิทธิ์ไปส่งผมหลายครั้งเวลาที่เลิกเรียนตรงกัน แต่ไม่อยากรบกวนมันมากเดินไปเรื่อย ๆ ถือเป็นการออกกำลังกายไปด้วย
                  “ไม่รบกวนไรหรอก”
                  “ว่างหรอวันนี้”
                  “ว่างไม่มีเรียน จารย์ให้แต่งซุ้ม แผนกกูไม่มีนักร้อง ไม่มีนักกีฬาเรียกสาว ๆอย่างแผนกมึง   จารย์เลยให้พวกกูแต่งซุ้มกันเต็มที่”
                  “555555555555555555” ผมหมดทางแก้ตัว เพราะถ้าดูจากซุ้มแล้ว แผนกผมตกแต่งน้อยมากแต่งบประมาณหมดไปกับสร้างเวทีแสดงดนตรี ซึ่งถ้าแผนกผมเล่นดนตรี ซุ้มอื่นแทบไม่มีคนเข้าเลย
                  “ไปก็ได้งั้นวันนี้ติวมั้ยล่ะ ติวที่หอกูก็ได้”
                  “เออดีเหมือนกัน” ผมซ้อนท้ายมอไซต์ไอ้สิทธิ์ไปที่หอผม พอทำธุระส่วนตัวเสร็จเราก็เริ่มติวกันไปเรื่อย ๆ จนถึงทุ่มนึง
                  “เฮ้ยทุ่มนึงแล้วเดี๋ยวทางบ้านรอนะ”
                  “ยังติดพันอยู่เลยอยากติวต่อว่ะกำลังเข้าใจ เดี๋ยวกูโทรบอกแม่ก่อนว่าขอกลับดึกหน่อย” ไอ้สิทธิ์ไม่รอความเห็น รีบวิ่งลงไปข้างล่างเพื่อโทรศัพท์หาแม่มันข้างล่างหอผมจะมีโทรศัพท์สำหรับหลอดเหลียน 5 บาท เป็นของเจ้าของหอ เอาไว้บริการโทรออกได้ครั้งแรก 5 บาท ไม่เกิน 3 นาที นาทีต่อไปก็หลอดเหลียนไปเรื่อย ๆ เวลามีเสียงเตือนและโทรเข้าได้ด้วย ถ้าใครโทรมาแล้วเจ้าของหอมาตามต้องจ่ายให้เจ้าของหอ 10บาทค่ามาตามไปรับโทรศัพท์
                  “แม่กูบอกตามสบายแต่ถ้าดึกมากให้นอนหอมึง ไม่ต้องกลับ กูนอนหอมึงได้เปล่าล่ะ”
                  “ได้อยู่แล้วไอ้เจต ไอ้นะ เพื่อน ๆ กูมานอนกันบ่อย เพราะหอกูใกล้วิทลัย”ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไรนอกจากนั้นจริง ๆ ให้ฟ้าผ่า เพราะเพื่อน ๆผมคนอื่นที่ผมไม่ได้เย็ดตูดมัน ก็เคยมานอนห้องผมเป็นประจำที่สามารถพาเพื่อนเข้าออกได้โดยเจ้าของหอไม่ห้ามเพราะผมช่วยดูแลระบบไฟฟ้าให้หอด้วยเวลาห้องไหนมีปัญหาเรื่องไฟฟ้าขัดข้อง ผมก็ไปดูแลให้ ทำให้ป้าเจ้าของหอไม่กล้าว่าผมอีกอย่างเพื่อน ๆ ผมมานอนค้างแต่ละคนก็ไม่เคยส่งเสียงรบกวนห้องอื่น และไม่เคยสร้างปัญหาใดๆ คนในหอก็รู้จัก เรียกใช้ผมไปดูไฟให้บ่อยครั้ง
                  เราติวกันไปเรื่อยๆ จนเริ่มล้าตา ดูนาฬิกา ประมาณ 4 ทุ่มกว่า ๆ
                  “หิวมั้ยเดี๋ยวต้มมาม่าให้กิน” ผมหันไปตามไอ้สิทธิ์
                  “นิดหน่อยว่ะดีเหมือนกัน พักสายตาแปบ” ผมไปต้มน้ำ ฉีกซองมาม่าใส่ชามต่างจังหวัดดึกขนาดนี้ไม่ต้องถามเรื่องของกิน ตลาดโต้รุ่งที่นี่ก็มี แต่ปิดสองทุ่ม และเปิดขายตี 5 ยังสงสัยว่ามันโต้รุ่งตรงไหน
                  ผมหันไปทางไอ้สิทธิ์เห็นมันนอนหงายหลับตานิ่งแต่มือมันยังถือดินสอเขียนอะไรอยู่กลางอากาศ
                  ผมเข้าไปล้างมือแล้วออกมาเทน้ำร้อนใส่ชามปิดฝาไว้เพื่อให้เส้นมันนุ่ม
                  “สิทธิ์ไปล้างมือจะได้กินมาม่า” ผมไล่ให้ไอ้สิทธิ์เข้าไปล้างมือแล้วจะได้ออกมากินมาม่า
                  เราสองคนนั่งกินไปคุยเรื่องเรียนกันไปเรื่อยๆ จนหมดชาม ผมเก็บชามเข้าไปล้างในห้องน้ำ ออกมาเห็นไอ้สิทธิ์นอนกรนเรียบร้อย
                  “เฮ้ยถ้าจะนอนก็ไปอาบน้ำก่อน” ผมใช้ตีนเขี่ยมัน มันลุกขึ้นหยิบผ้าขนหนูผมเข้าไปอาบน้ำ
ผมเก็บหนังสือไว้บนโต๊ะเตรียมที่นอนให้มันนอนข้างล่างเพราะเตียงผมเล็ก ผมจะมีหมอนสำรองเป็นหมอนขิดที่แม่ไอ้เจตให้มาหลายใบแล้วผ้าผวยขนาดใหญ่ที่แม่ไอ้เจตให้มาเหมือนกัน จริง ๆ ก็เอาไว้ห่ม แต่ถ้าเพื่อน ๆมาก็ไว้ปูเวลาที่เพื่อน ๆ มาขอนอนด้วย
                  ไอ้สิทออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดนักศึกษาชุดเดิมมีผ้าขนหนูพาดบ่าออกมา
                  “ได้อาบน้ำแล้วค่อยสดชื่นหน่อยติวต่อได้อีกนาน”
                  ผมเห็นมันใส่ชุดนักศึกษาเดิม แล้วอึดอัดแทนเลยเอากางเกงผ้าร่มกับเสื้อยืดคอกลมแบบย้วยๆ ให้มัน
                  “มึงใส่นี่ดีกว่าอาบน้ำแล้วใส่ชุดเดิมมันจะสบายตัวได้ไง”
                  “ขอบใจว่ะ” มันรับชุดไปแล้วไปนั่งที่เตียง แล้วยื่นผ้าขนหนูให้ผมผมรับผ้าขนหนูมาแล้วเข้าไปอาบน้ำต่อจากมัน
                  อากาศร้อนๆ ได้อาบน้ำเย็น ๆ มันช่างสดชื่นผมอาบเสร็จออกมาจากห้องน้ำเห็นได้สิทธิ์เปลี่ยนเป็นกางเกงผ้าร่มเสื้อยืดที่ผมให้เรียบร้อย  มันนอนหงายขวางไปบนเตียง โดยขาสองข้างมันห้อยลงพื้น
                  “สิทธิ์ สิทธิ์” ผมเรียกมันเบา ๆ พร้อมก้มหน้าลงไปใกล้ ๆ ได้ยินเสียงมันกรนแสดงว่าหลับแล้ว ผมจะลากมันลงจากเตียงก็คงไม่ไหว เลยค่อย ๆยกขามันขึ้นไปนอนบนเตียง แล้วผมก็ปิดไฟล้มตัวลงนอนข้างล่างแทน
                  ผมสดุ้งตื่นมากลางดึกไม่รู้ว่ากี่โมงกี่ยาม เพราะรู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออก และจุกที่ท้อง ผมค่อย ๆ ลืมตาขึ้นพอสายตาชินกับความมืดไอ้สิทธิ์มันนอนกอดผมโดยมันเอาหัวเข่ามาวางที่ท้องผมเต็ม ๆ
                  “ไอ้เหี้ยสิทธิ์เอาขามึงออกกูหนัก อึดอัด”
                  นอกจากมันไม่เอาขาออกแล้วมันยังกอดแน่นกว่าเก่า ผมปลุกยังไงก็ไม่ตื่นเลยทุบไปที่ต้นขามันอย่างแรง
                  พลั๊ก!!!! ไอ้สิทธิ์ถึงกับสดุ้งตื่น
                  “เหี้ยต๊ะมึงทุบกูทำไม”
                  “กูอึดอัดเอาขาออกไปมึงนอนบนเตียงไม่ใช่หรอ แล้วมึงลงมานอนข้างล่างได้ไง”
                  “กูนอนไม่หลับถ้ากูไม่ได้นอนกอดหมอนข้าง”
                  “ไม่หลับเหี้ยไรกูปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น   ออกไปกูใช่หมอนข้างที่ไหนกูหนัก เอาออกไป”
                  ไอ้สิทธิ์มันยังคงกอดแน่นเลยเลยคิดจะแกล้งมัน เองมือล้วงลงไปข้างล่าง แล้วตะปบเข้ากับพวงไข่มัน ซึ่งไม่ยากเพราะมันไม่ได้นุ่งกางเกงในนอนเพราะผมเห็นมันตากไว้ในห้องน้ำ พอตะปบมือได้ผมก็ค่อย ๆ บีบ
                  “มึงจะเอาขาออกหรือไม่เอาออกไม่งั้นกูบีบไข่มึงแตกแน่”
                  “โอ้ย....เหี้ยต๊ะเล่นอะไรไม่รู้กูจุกหมดแล้ว” มันเอามือมากุมมือผมอีก ทำให้ผมบีบแน่นลงไปอีก
                  “มึงเอาขาออกเดี๋ยวนี้กูอึดอัดกูหนัก” แทนที่มันจะเอาขาออกมันดันกดเป้าใส่มือผมหนักขึ้นส่วนมือมันก็เลื่อนขึ้นมากอดผมแน่น
                  “มึงทำเหี้ยไรสิทธิ์” ปากมันไม่พูด สายตามันผมไม่เห็นเพราะมันมืด แต่ที่แน่ ๆควยมันเริ่มแข็งขึ้นมาเรื่อย ๆ หลังจากที่โดนมือผมกุมไว้
                  ผมรีบปล่อยมือจากควยมันแต่มันดันกดเป้าแนบสะโพกผมแน่น ควยมันแข็งขึ้นเรื่อย ๆ
                  “กอดกูแค่นี้เงี่ยนหรอมึง”
                  “เชี้ยมึงแหละมากำควยกูทำให้ควยกูแข็ง”
                  “ไปชักว่าวเลยไป” ผมผลักมันออก แล้วไล่ให้มันไปชักว่าว
                  “ขี้เกียดลุก” มันพูดแค่นั้น แต่เอาขาออกจากการก่ายผม แล้วนอนหงายลงข้างๆ  ผมเห็นควยมันตุงในกางเกงบอลลาง ๆท่ามกลางความมืดที่พอมีแสงไฟจากด้านนอกสาดส่องเข้ามา
                  ไอ้สิทธิ์มันรูดควยช้าๆ ในกางเกงบอล พร้อมกับครางเบา ๆ ผมเห็นอย่างนั้นถึงกับควยรุกตาม แต่ยังไม่ทำอะไร ยังคงดูมันไปเรื่อย ๆ มันเอามือนึงขึ้นมาลูบหัวนมอีกมือนึงก็รูดควยที่อยู่ในกางเกงบอลมันไปเรื่อย ๆ มันหลับตาพริ้ม  คงลืมไปมั้งว่าผมนอนอยู่ข้าง ๆ  ผมพลิกตัวนอนตะแคงดูมันไปเรื่อย ๆจนมันรู้สึกตัวว่าผมจ้องมัน
                  “เหี้ยต๊ะจ้องอยู่ได้ กูเขิลนะมึงก็ทำของมึงดิ”
                  “กูไม่เงี่ยนกูจะดูลีลามึงว่าเด็ดแค่ไหนจะได้เอาเป็นแบบอย่าง”
                  “เหี้ย มาจ้องแบบนี้กูควยหดหมด”
                  “555555555มากูช่วย”
                  “เฮ้ย มึงจะทำอะไร” มันตกใจพร้อมกับทำท่าจะขยับตัวหนีผมเอามือล้วงเข้าไปในเสื้อมัน แล้วใช้มือค่อย ๆ ลูบไปตามแผงอกมันไอ้สิทธิ์ถึงกับขนลุกซู่ ผมเอานิ้วมือไปบี้หัวนมมันที่แข็งเป็นไต บีบเบา ๆไอ้สิทธิ์ถึงกับแอ่นอกสู้
                  “ต๊ะ กูเสียวนม”
                  “เดี๋ยวมึงจะเสียวมากกว่านี้อีก”
                  “มึงจะทำอะไร”
                  “เฉย ๆ เถอะน่า” ผมเลิกเสื้อมันขึ้น แล้วขยับไปใกล้ ๆ ไอ้สิทธิ์เกร็งตัว นิ่ง เงยหน้าขึ้นมาดูผมผมโน้มคอลงไปเอาลิ้นแตะที่หัวนมมัน
                  “อ้า......” ไอ้สิทธิ์ครางหนักกว่าเก่า
                  ผมค่อยๆ เลียหัวนมมันช้า ๆ สลับกับดูดเบา ๆ ส่วนหัวนมอีกข้างผมใช้นิ้วบี้คลึงเน้น ๆมือขวาไอ้สิทธิ์รูดควยเร็วขึ้นส่วนมือซ้ายมันอ้อมมากดหัวผมให้แนบไปกับแผงอกมันแน่น มันถอดกางเกงตอนไหนไม่รู้มือผมว่างอีกข้างค่อย ๆ คลึงพวงไข่มันพร้อมกับคลึงวนเหนือปากรูตูดมัน ไอ้สิทธ์ทั้งยกตูดแอ่นอกสลับกันไปเป็นระยะ ผมบ้วนน้ำลายใส่นิ้วแล้วเอาไปวนใต้พวงไข่มัน เหนือรูตูดไอ้สิทธิ์ถึงกับเสียวสะท้าน พอมันเสียวเต็มที่ผมก็หยุด เพราะกลัวมันแตกงานนี้คิดว่ามีได้มีเสียแน่ ๆ โทษฐานที่มึงมาเล่นกับไฟ
                  ผมดูดนมสลับซ้ายขวา มือก็ยังคงทำหน้าที่คลึงใต้พวงใข่มันไปเรื่อย ๆจนปลายนิ้วผมสัมผัสได้กับรูตูดไอ้สิทธิ์ที่ขมิบเกร็ง ผมทั้งคลึงทั้งวนเพื่อสร้างความคุ้นเลย โดยที่ไอ้สิทธิ์ขมิบบ้าง ผ่อนบ้างเวลามันผ่อนผมก็จิกปลายนิ้วเน้น ๆ เพื่อแทรกนิ้วเข้ารูตูดมันไอ้สิทธิ์ยังคงชักว่าวไปต่อเนื่อง ผมคลึงได้สักระยะก็บ้วนน้ำลายอีกล็อดใหญ่ใส่นิ้วชี้ แล้วไปป้ายที่ตูดไอ้สิทธิ์เต็ม ๆ ผมดูดนมมันแรงขึ้นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ส่วนนิ้วชี้ผมค่อย ๆ แทรกเข้าตูดมันไปจนได้สองข้อ ตูดมันตอดนิ้วผมรุนแรงมาก ผมควงนิ้วชี้เพื่อให้รูตูดมันขยาย  สักพักพอได้ที่ผมเปลี่ยนจากนิ้วชี้เป็นนิ้วกลางพอนิ้วกลางแทรกเข้าไปเกือบสุด ผมเกี่ยวรูตูดมันรั้งขึ้นแล้วเอาหัวนิ้วโป้งข้างเดียวกันมาคลึงใต้พวงไข่มันไปด้วย
                  ไอ้สิทธิ์ครางดังขึ้นชักว่าวแรงขึ้น มันเหยียดขาตรง เกร็ง ขมิบตูดที่มีนิ้วกลางผมฝังแน่น ตูดมันบีบรัดนิ้วผมแน่นมากแถมลำไส้มันตอดริ้วผมอย่างรุนแรง
                  “อ้า...........เสียว.....อ้า.......” มันพูดแค่นั้นก่อนที่จะเกร็งตัวแล้วกระตุกอย่างรุนแรงน้ำไอ้สิทธิ์พุ่งขึ้นไม่รู้สูงเท่าไหร่ แต่มันกระเด็นลงมาใส่ทั้งหน้าและหัวผมที่ยังซุกอยู่บนแผงอกมัน ตูดมันตอดนิ้วผมรุนแรงมาก
                  พออารมย์มันสงบผมค่อยๆ ดึงนิ้วออกมา
                  “เบา ๆ เจ็บว่ะ” มันเอามือมาจับข้อมือผมแน่น ผมนึกอยู่ในใจไอ้เหี้ยตอนแทงเข้าไม่เห็นบ่นว่าเจ็บพอจะเอาออกมาทำเป็นเจ็บ
                  พอน้ำแตกเรานอนหงายข้าง ๆ กันกลับสู่สภาพปกติ ควยผมเองก็อ่อนตัวลงไปด้วย ต่างคนต่างเงียบจนเผลอหลับไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น